การรบระดับตำนาน ที่ฝ่ายชนะมีจำนวนคนในกองทัพน้อยกว่าฝ่ายแพ้มากมายหลายเท่า มีเหตุการณ์ใดบ้าง

เนื่องจาก  ถ้าตามศึกษาพื้นฐานตำนานมหากาพย์มหาภารตะ  ไปจนสุดยุคแรกที่แต่ง  เรื่องที่เล่าขานที่เกิดขึ้นช่วงเมื่อ  3000 ปี - 4000 ปี  มาแล้ว  คือ 
ฝ่ายเการพซึ่งมีคนในกองทัพเป็นจำนวนมากเกือบสองเท่าของฝ่ายปาณฑพ  แต่แพ้เนื่องจากถูกฝ่ายปาณฑพโกงหรือใช้เล่ห์เหลี่ยม  ซึ่งที่ประเด็นที่จับได้  ผมว่า  ไม่ใช่เรื่องกติกา  ตามที่คนอินเดียยุคนั้นเล่าลือกัน  เป็นหลัก  แต่เป็นการที่รถศึกฝ่ายเการพติดหล่มโคลนเลนเสียมากกว่า  ซึ่งบอกว่าเป็นโชคร้ายของฝ่ายเการพหรือคำสาปนั้น  แต่ผมว่า  นี่มันกลยุทธ์ชัดเจนมากกว่า  น่าจะเป็นการวางทัพแล้วบีบให้อีกฝ่ายเผลอไปติดหล่ม  ทำนอง  แกล้งแพ้แต่หนีไปอีกทาง  (ประพันธ์ออกมาว่า  กรรณะยิงโจมตีอรชุนจนลูกธนูถูกมงกุฏของอรชุน  สักพักรถกรรณะก็ติดหล่มโคลนเลน)
ดูๆ  แล้วคนอินเดียยุคนั้น  ค่อนข้างเชื่อว่า  ฝ่ายเการพที่มีกำลังรบมากกว่าไม่น่าจะแพ้  ฝ่ายปาณฑพที่มีกำลังน้อยกว่าต้องโกง

ที่ผมพอรู้  คือ 
1.  โอดะ  โนบุนากะ  ของญี่ปุ่นใช้กำลังพลเพียง  2000  กว่าคน  ทำลายทัพอีกฝ่ายที่มีกำลังพลรบกว่า  20000 กว่าคน  โดยใช้โคลนเลนและฝนและที่ราบสูงโจมตี  (น่าจะตีตอนกลางคืนด้วยรึป่าว)

2.  เลโอนิดัส  (สปาตา 300)  ที่ใช้กำลังรบไม่เกิน 500 - 1000 คน  (มีทีมแค้วนอื่นมาช่วยหน่อยนึง)  หยุดกองทัพเปอร์เซียและทำลายกำลังรบของเปอร์เซียไปกว่า 10000 นาย  โดยอาศัยช่องแคบและที่ลาดชันของสมรภูมิที่ตั้งรับ

ใครพอจะบอกเล่ากรณีอื่นได้อีก

ปล.  กรณีโอดะ  ผมว่ามันต่างกันมาก  แต่กรณีมหากาพย์มหาภารตะผมว่า  จำนวนต่างกันแค่เท่าตัวเกือบสองเท่าตัวเท่านั้น  อาศัยแค่ฝ่ายน้อยมีนักรบแบบอรชุน  (หรือแนวๆ  กวนอู  จูล่ง แล้วอีกฝ่ายไม่มี  กำลังใจรบของอีกฝ่ายที่ไม่มีต้องดาวน์แน่นอน  จนส่งผลต่อรูปกระบวนรบ  ส่งผลให้พ่ายได้เลย  ไม่ต้องใช้กลยุทธ์แบบล่อให้ติดหล่มโคลนเลน  ซึ่งนักรบวรรณะกษัตริย์โบราณมักรบโดยรถศึกอยู่แล้ว  ถึงตีชนพื้นเมืองลงไปได้  การรบบนรถศึกแทบสืบสายเลือดกันมาตั้งแต่ยุคที่อารยันไล่ตีจนมาถึงตอนเหนืออินเดีย  การจะไม่รู้เรื่องล้อศึกอาจติดหล่มนี่  ไม่น่าเป็นไปได้  ก่อนการศึกจะไม่สำรวจพื้นที่เสี่ยงสำหรับรถเลย  ยิ่งแสดงถึงความประมาทเกินไปมากๆ  ดังนั้น  ผมว่า  จุดตัดของสงคราม  คือ  ฝ่ายปาณฑพ  ต้องมีนักรบที่เก่งกาจกว่าฝ่ายเการพอย่างแน่นอน  เพราะว่าการรบเป็นการรบของพี่น้องวรรณะกษัตรย์ที่เป็นน่าจะรู้ฝีมือกันดี  แต่ว่า  ตอนอ่านประวัติพระพุทธเจ้า  ตอนท่านเป็นกษัตรย์ชาวอารยันท่านก็แกล้งเป็นที่สอง  ที่สาม  ในการฝึกประลองตลอดเลย  ดังนั้น  ต้องมีคนที่คิดแบบเดียวกับเจ้าชายสิทธัตถะอย่างแน่นอน  คือ เก็บงำฝีมือ  นั้นแหละ  ดังนั้น  ที่ชาวบ้านหรือคนอื่นเห็นว่า  ในหมู่พี่น้องฝีมือมันก็พอๆ  กัน  พวกมากย่อมชนะ  แต่พอพวกน้อยชนะ  ก็งง  จนทำใจกันไม่ค่อยได้  ถึงขั้นเล่าขานว่าโกงกันเลย  (ในมโนของผมนะ)  แต่คนอื่นอาจจะเห็นว่า เรื่องเล่าพื้นฐานมันตรง  คือ  ฝ่ายปาณฑพ  ไม่ได้เก่งกว่า  แต่โกง  โดยโกงกติกา)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่