รีโนเวทห้องทำงาน ห้องเวิร์คช็อปงานคราฟต์และสตูดิโอถ่ายภาพด้วยตัวเอง ฉบับงานเร่งด่วน งบน้อย [EP1 : คิด รื้อ เละ]

สวัสดีครับ พบกันอีกครั้งกับพวกเราหมีสร้างบ้าน

นับจากกกระทู้ล่าสุดก็ผ่านมาแล้วหนึ่งปีพอดีกับการแชร์ประสบการณ์การแต่งบ้านด้วยตัวเอง วันนี้กลับมาอีกครั้งกับซีรี่ย์การรีโนเวทห้องทำงาน ห้องเวิร์คช็อปสำหรับงานคราฟต์ที่พวกเราหลงรัก และวางแผนที่จะให้เป็นห้องสตูดิโอถ่ายภาพอีกด้วย แต่ยังต้องคงความเป็นพื้นทีส่วนกลางของบ้านสำหรับทุกๆคนอยู่ เนื่องจากบ้านของเราเป็นทาวเฮาส์เล็กๆ ไม่มีพื้นที่มากพอให้แยกออกไปเป็นห้องทำงาน

พอเงื่อนไขและความต้องการเยอะกว่าห้องทั่วไป การออกแบบและการทำงานก็ค่อนข้างที่จะติดเงื่อนไขค่อนข้างเยอะพอสมควร ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้างระหว่างการทำงาน เนื่องจากเราตั้งใจว่าจะทำไปด้วย แชร์ข้อมูลไปด้วย แบ่งเป็น EP ไปเพื่อให้เห็นการเติบโตเป็นระยะๆ ซึ่งคงต้องมาลุ้นไปด้วยกันแหละว่าผลสุดท้ายแล้วจะเป็นยังไง

สำหรับรีวิวนี้เราจะยังคงคอนเซ็ปท์เดิมของหมีสร้างบ้านที่ต้องการเล่าเรื่องราวให้ละเอียดที่สุดเพื่อหวังว่าเรื่องราวเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครหลายๆคนที่อยากจะลงมือทำ ลงมือแต่งบ้านของตัวเองให้สวยและน่าอยู่ตามชอบของพวกเขา

ขออนุญาตฝาก Fanpage ของหมีสร้างบ้านด้วยครับ
เนื่องจากไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าไหร่ เผื่อท่านใดมีความถาม หรือ อยากพูดคุยกับเรา สามารถแชทมาหาเราได้ตลอดเลยนะครับ

https://www.facebook.com/bearbuilder



เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาเริ่มกันที่ EP 1 : คิด รื้อ เละ 

ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาเรามีโปรเจคให้ทำหลายอย่าง ซึ่งหมายถึงเราก็มีเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ที่หลงเหลือจากการทำงานเยอะแยะไปหมด ซึ่งเริ่มเป็นปัญหาใหญ่ของบ้านแล้วเนื่องจากว่าอุปกรณ์เหล่านี้รบกวนพื้นที่ใช้สอยส่วนอื่นๆเป็นอย่างมาก และที่สำคัญ การที่เก็บของไม่เป็นระเบียบมักจะทำให้สมาชิกในบ้านเจออุบัติเหตุเสมอๆ

นอกจากเรื่องพื้นที่ ก็น่าจะเป็นเรื่องของสภาพจิตใจของผู้อยู่อาศัย เรารู้สึกว่าการที่บ้านรกมันทำให้จิตใจของเราไม่สดใสเอาซะเลย มองไปทางไหนก็ไม่รู้สึกถึงความอบอุ่น ความสบายใจของการอยู่บ้าน ยิ่งตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่บ้านมากขึ้นความรู้สึกเหล่านี้ยิ่งชัดเจน
“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราเลือกที่จะลงมือทำอะไรซักอย่างแล้ว…”


"แผนที่ดีเป็นเรื่องสำคัญ…"

ก่อนอื่นเราเริ่มต้นจากการวางแผนซึ่งเป็นรูปแบบของการทำงานที่เราคุ้นเคยมากสุด รอบนี้เรามีโปรแกรมใหม่มานำเสนอ นั่นคือ Autodesk Fusion 360 (โปรแกรม SketchUP online ใช้ยากเกินไป) ที่ให้ลงทะเบียนใช้ได้ฟรี https://www.autodesk.com/products/fusion-360/overview (ของดีและฟรีมีอยู่จริง อันนี้ยืนยันจากการใช้งานจริง ถ้ายังไงอยากให้ไปลองใช้ดู)
เราเริ่มต้นทำงานด้วยการ Sketch ความต้องการของเราลงบนโปรแกรมและกำหนดขนาดให้ตรงกับความจริงมากที่สุด (Scale 1:1) เพื่อให้เราได้เห็นสัดส่วนพื้นที่จริงๆและออกแบบสิ่งต่างๆให้ถูกต้องมากที่สุด วิธีนี้อาจจะต้องใช้เวลามากนิดหน่อยในการวัดพื้นที่จริงๆและนำมาเขียนในโปรแกรมออกแบบ 3D 

แน่นอนว่าคุ้มค่าเวลาที่เสียไปอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเราจะรู้ได้ทันทีว่าเราต้องใช้วัสดุอุปกรณ์อะไร จำนวนเท่าไหร่และที่สำคัญคือเรื่องงบประมาณที่เราสามารถประเมินได้คร่าวๆเลยว่าต้องใช้เท่าไหร่ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นปัญหาของใครหลายๆคนรวมถึงตัวเราเองในภาวะที่อะไรก็ไม่ค่อยแน่นอนแบบนี้ จะทำอะไรต้องประหยัดเข้าไว้



พื้นที่ส่วนที่ 1 : Modular Shelf (ชั้นวางของโครงสร้างเหล็ก)

ชั้นวางของโครงสร้างเหล็ก ได้รับแรงบัลดาลใจจากร้านกาแฟ หรือ คาเฟ่ ที่เราเคยไปสัมผัสมา โดยส่วนตัวรู้สึกชอบกับการออกแบบลักษณะนี้เป็นพิเศษ เหตุผล คือ เราสามารถปรับเปลี่ยนชั้นต่างๆด้วยตัวเราเองได้ตลอด พื้นที่ว่างๆ สามารถวางตอนไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับห้องและโครงสร้างเหล็กนั้นมีความแข็งแรงกว่าไม้ทำให้สามารถรับน้ำหนักได้ตามความต้องการของเรา แน่นอนว่าตอบโจทย์ของเราค่อนข้างครบ

เรื่องของราคาวัสดุก็น่าคบหา ไม่แรงจนเกินไป เหล็กกล่องขนาด ½ X ½ นิ้ว 1 เส้น ราคาเริ่มต้นที่ 80 บาท และการออกแบบของเราเมื่อคิดแบบหยาบๆแล้ว น่าจะใช้ไม่เกิน 10 เส้น เมื่อคิดรวมค่าลวดเชื่อม สีนำมันและอื่นๆ น่าจะไม่เกิน 3500 บาท ซึ่งถือว่ารับได้

หมายเหตุ : ราคาจริงจะลงให้ตอนซื้อของอีกครั้ง 




พื้นที่ส่วนที่ 2 : French Cleat (ชั้นแขวนอุปกรณ์ DIY)

ชั้นแขวนอุปกรณ์สามารถทำได้หลายวิธี ที่คุ้นตามากก็คงจะหนีไม่พ้น Pegboard (แผ่นไม้หรือเหล็กเจาะรู ใช้แขวนเครื่องมือ) ไม่ก็เป็นชั้นวางของหรือตู้เหล็กวางเครื่องมือไปเลย สำหรับงานนนี้เราเลือกใช้ชั้นแขวนที่เรียกว่า French Cleat

ทำไมต้อง French Cleat?

French Cleat เป็นชั้นแขวนของที่ตอบโจทย์เรื่องการรับน้ำหนัก (จะอธิบายเพิ่มใน EP ต่อๆไป) และเราสามารถนำเศษไม้เหลือใช้ที่สะสมไว้มาใช้ได้ ประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายได้พอสมควร โดยเราตั้งใจจะติดตัวแขนไปบนผนังตรงๆ โดยไม่มีไม้พื้นหลังและต้องแลกกับการเจาะผนังที่มากกว่ากว่าปรกติ (บ้านเราติดทุ่งนาและที่นี่ปลวกดุมากๆ ดุขนาดที่ว่าต้องฉีดปลวกกันทุกๆ 4 เดือน ซึ่งแปลว่าต้องลดส่วนที่ไม้สัมผัสกับผนังตรงๆ) 

ข้อดีของการเก็บของด้วยการแขวน คือ เราจะสามารถมองเห็นอุปกรณ์ต่างๆได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถหยิบใช้ได้ง่าย เมื่อของชิ้นใดหายไปจะสามารถรู้ได้เลยทันที ซึ่งทำให้ลดระยะเวลาในการทำงาน หาของและเก็บอุปกรณ์ได้ง่ายมากๆ


พื้นที่ส่วนที่ 3 : Storage Mobile Unit (ตู้เก็บอุปกรณ์แบบล้อเลื่อน)

สิ่งที่เป็นปัญหามากๆในบ้านเรา คือ อุปกรณ์บางชิ้นมีน้ำหนักที่มากจนเกินไป ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำงานการเคลื่อนย้าย การจัดเก็บและการทำความสะอาด การที่เราไม่สามารถเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ได้ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกตามจุดอับ ซอกมุมต่างๆของเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆของเรา 

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาทำให้เราได้รู้ว่าการใส่ล้ออุปกรณ์ต่างๆในบ้านเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่งสำหรับเวิร์คช็อปเรา เพราะ นอกจากจะช่วยในเรื่องของการเคลื่อนย้าย ความสะดวกในการใช้งานแล้ว มันยังช่วยเรื่องของสุขภาพ การยกของหนักบ่อยๆด้วยท่าทางที่ไม่ถูกต้องจะส่งผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพกระดูกและหลังของผู้ทำงาน สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องระวังเป็นพิเศษ 
Storage Mobile Unit ของเราจะถูกออกแบบมาเพื่อเก็บอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมาก ลดภาระของผนัง และที่สำคัญคือเราไม่ต้องการที่จะ Built In ตู้ไม้ให้ติดไปกับผนังบ้านด้วยเหตุผลที่กล่าวมาก่อนหน้านี้คือปัญหาเรื่องปลวก วิธีนี้อาจจะต้องใช้งบประมาณค่าวัสดุอุปกรณ์มากกว่าปกติเกือบๆ 1 เท่าตัว แต่เมื่อคิดๆดูแล้วบางครั้งการจ่ายเงินแก้ปัญหาก็เป็นเรื่องที่ควรทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของสุขภาพและน้องปลวกที่เราไม่สามารถจัดการได้เอง


พื้นที่ส่วนที่ 4 : Wall Paint (ทาสีผนังใหม่ เปลี่ยนอารมณ์กันนิดหน่อย)

จะว่าไปในส่วนนี้เป็นส่วนที่ไม่สำคัญสุดๆเลยก็ว่าได้ในเรื่องของฟังก์ชันที่เราต้องการใช้งาน แต่ถ้าเป็นเรื่องของใจ การทำสีใหม่ถือว่าตอบโจทย์

เรามีความฝันที่อยากจะทำบ้างโทนมืดมานานแล้วแต่ยังไม่กล้าที่จะลงมือสักที หลายคนบอกว่าบ้านโทนมืดจะทำให้พื้นที่ใช้สอยดูแคบลงกว่าปรกติ ทำให้ดูอัด ซึ่งตรงจุดนี้ก็เป็นหนึ่งในหัวข้อที่หลายๆคนต้องพิจารณาเป็นพิเศษ สำหรับเรานั้นถือว่าโอเค เพราะที่ผ่านมามันก็แทบจะไม่มีพื้นที่สำหรับให้เราเดินอยู่แล้วจึงทำให้เรื่องสีไม่ใช่ปัญหาสำหรับเราอีกต่อไป

โจทย์ของเราอีกข้อหนึ่งก็คือ อยากให้ห้องนี้เป็นสตูดิโอสำหรับถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ การทำงานคราฟต์ต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงอุปกรณ์แต่งบ้านชิ้นเล็กๆ ที่เราได้ลงมือทำ ซึ่งเราตั้งใจว่าอยากจะบอกเล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้กับคนอื่นที่อาจจะมีความชอบหรือความสนใจแบบเราได้ลองทำดูบ้าง ซึ่งเรามองว่าโทนสีเข้มจะช่วยเราในเรื่องของการแต่งภาพได้ดีกว่าโทนสว่างที่เราไม่ค่อยถนัดแต่งภาพคนนั้นมากมายนะ

เราเลือกใช้สีที่มีชื่อว่า “Deep Amazon” เพราะโทนสีนี้มีความใกล้เคียงกับพื้นหลังของโลโก้ของเรา และเราคิดว่าโทนสีนี้น่าจะเหมาะกับงานไม้ที่เราชอบ ซึ่งจะเป็นยังไงนั้นต้องมาลองดูกันอีกทีนึง 


"วางแผนมานานแล้ว ได้เวลาลงมือสักที…"

ก็อย่างที่เล่าให้ฟังตอนต้น ผ่านมาปีกว่าของที่สะสมไว้ก็เยอะไปหมดเยอะจนไม่รู้จะเก็บอะไรไว้ตรงไหน ทั้งเศษวัสดุเหลือใช้ อุปกรณ์ใหม่ที่นำเข้ามาประจำการ หลายๆครั้งอุปกรณ์ที่วางไม่เรียบร้อยเหล่านี้เป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุภายในบ้าน ที่เจอเป็นประจำ คือ การสะดุดกลองอุปกรณ์ที่ไม่เป็นระเบียบ

ท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ความยากของการทำงานนี้ไม่ใช่เรื่องของการวางแผนหรืองบประมาณ สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้คือเรื่องของใจ เรารู้สึกท้อตั้งแต่ยังไม่เริ่มเก็บ มันเป็นความรู้สึกประมาณว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ เราจะเอาของเหล่านี้ไปไว้ที่ไหน และโดยส่วนใหญ่แล้วสิ่งของเหล่านี้เป็นอุปกรณ์ที่ไม่ถูกโรคกับความชื้น ดังนั้นในขั้นตอนเริ่มต้นมันไม่ใช่การเก็บของ แต่มันเป็นการย้ายของจากมุมหนึ่งไปไว้อีกมุมหนึ่ง แน่นอนว่ามันทำให้ของที่เห็นในภาพที่เดิมกระจุกกันอยู่โซนด้านหลังกระจายไปอยู่ส่วนที่เป็นโซฟาและพื้นที่รับแขก

เรานั่งทำใจอยู่นานกว่าจะลงมือหยิบชิ้นแรก การต่อสู้กับใจเป็นเรื่องใหญ่ แต่น่าแปลกใจมากเมื่อเราหยิบชิ้นแรกเสร็จแล้ว การหยิบชิ้นที่ 2 เป็นเรื่องง่ายกว่าครั้งแรกมากๆ เหมือนเราอาบน้ำขันแรกในเช้าหน้าหนาวของวันที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศา เมื่อเราก้าวข้ามความท้อแท้ในใจไปได้หนึ่งก้าว  ก้าวที่สอง สาม สี่  จะตามมาได้อย่างง่ายๆ

น่าแปลกใจที่วันนั้นเราสนุกกับการเก็บของเป็นอย่างมาก เปิดเพลง ร้องเพลง เดินเก็บของพร้อมออกจังหวะเต้นตามเสียงเพลงเพลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน การเก็บของมันทำให้เราได้เห็นของที่เราเคยลืมไปแล้วว่าเคยซื้อมาเก็บไว้ หลายครั้งเราต้องหยุดเก็บของ แล้วหันมาคุยกันถึงเรื่องราวของของบางชิ้นที่มีเรื่องราวซ่อนอยู่ ที่มันถูกเก็บไว้มานานซึ่งวันนี้ของชิ้นนั้นได้กลับมาเล่าเรื่องราวให้เราได้นึกถึงมันอีกครั้ง
สำหรับ EP นี้ขอจบที่ความก้าวหน้า 10%  เรามีพื้นที่ทางเดินเพิ่มขึ้น เรามีผนังที่พร้อมและรอให้เรามาทาสีใหม่ เรามีชั้นวางของที่เป็นระเบียบขึ้น เรามีป้ายระบุขนาดของน๊อตแต่ละตัว แม้จะเป็นความสำเร็จเพียง 10%  แต่เราคิดว่ามันค่อนข้าง เกินกว่าที่เราคาดหวังไว้ในตอนแรก
สำหรับแผนต่อไป เราจะทำสีผนังใหม่ และเมื่อสีแห้งสนิท เราจะติดตั้งชั้นแขวนของ (French Cleat) วางแผนซื้อเหล็ก และซื้อไม้สำหรับทำตู้เก็บอุปกรณ์




คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



ถ้าชื่นชอบซีรีย์เรื่องยาวนี้ อย่าลืมกดติดตามหรือแวะไปทักทายกันได้ที่ที่แฟนเพจ เพื่อให้กำลังใจและพูดคุยกับเราได้ตลอด
ขอขอบคุณทุกๆคนมากครับที่ให้ความสนใจมาจนถึงบรรทัดนี้
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีประโยชน์กับใครหลายๆคน
สวัสดีครับ

หมีสร้างบ้าน
“You are what your craft…”
18-May-2020
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่