▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เดินป่า
เที่ยวภูเขา
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
Hiking
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ปีนเขาที่สวิตเซอร์แลนด์ ไปดูทะเลสาบสีฟ้าบนภูเขา ไปดูธารน้ำแข็งแสนปีที่กำลังจะละลายหมด เส้นทางไม่ยาก เดินแล้วได้รูปเยอะ!!
(แนะนำให้เตรียมโค้กและป๊อปคอร์น เพราะกระทู้ยาวและรูปเยอะค่ะ ถ้ารูปใหญ่ไปต้องขออภัยด้วยนะคะ)
อยู่สวิตเซอร์แลนด์ไม่ขึ้นเขาก็เหมือนไปเที่ยวเมืองไทยแล้วไม่ได้กินอาหารไทยค่ะ ยิ่งใครมีสามีเป็นคนสวิสนี่แทบจะไปทุกสัปดาห์ #hiking #trekking กันเป็นปกติเหมือนคนไทยไปเดินห้างยังไงยังงั้นเลยค่ะ
เราเลยอยากจะพาเพื่อนๆในพันทิปไปปีนเขากับเราด้วยค่ะ ยอดแรกนี้ที่เราจะพิชิตไปด้วยกันคือ ยอดเขา Sidelhorn (ซีเดลฮอร์น) ค่ะ ก่อนจะไปก็ต้องศึกษาเส้นทางและดูแผนที่ก่อน คนสวิสเค้าจริงจังกับการเข้าป่าขึ้นดอยมาก จนทางการมีการออกตีพิมพ์แผนที่สำหรับ เส้นทางการเดิน เส้นทางปีนเขา เส้นทางขี่จักรยาน เส้นทางจักรยานเสือภูเขา เส้นทางโรลเลอร์สเก็ต เส้นทางเดินสำหรับเดินกับสุนัข เส้นทางสำหรับล่องเรือแคนู ... ทั้งประเทศ มาให้เราเลือก ศึกษา และเตรียมตัวก่อนไปค่ะ ไม่ว่าจะไปเดินย่อยอาหารในบ่ายวันอาทิตย์แถวบ้าน หรือไปเดินป่าจริงจัง 7 วัน สวิตฯจัดให้ค่ะ เค้าจริงจังมากจริงๆค่ะ
ยอดเขา Sidelhorn ตามแผนที่บอกว่าใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที ⬅ แต่ต้องระวังไว้ เพราะนี่คือความเร็วในการเดินของคนสวิสค่ะ แน่นอนคนไทยบวกเพิ่มไปเลยอย่างน้อย 1 ชั่วโมงเพราะไหนจะพักเหนื่อย ไหนจะถ่ายรูป แวะกินขนม แวะฉี่ในพุ่มไม้ บวกเงลาเผื่อไว้เลยค่ะ เนื่องจากเส้นทางเป็นลักษณะแบบแอลไพน์ (เส้นทางเดินบนเทอกเขาแอลป์ที่ต้องมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมและสภาพร่างกายที่แข็งแรง) เราเลยต้องเตรียมอุปกรณ์ค่ะ ซึ่งก็มีรองเท้าเดินเขาสำหรับเทือกเขาแอล์ป (คือจะเป็นรองเท้าหนาสูงเกินข้อเท้าและมีเหล็กแข็งอยู่ในส้นรองเท้า) ไม้เดินเขา และกระเป๋าสำหรับเดินเขาที่มีอาหาร ขนมให้พลังงาน น้ำ และเสื้อเอาไว้เปลี่ยนระหว่างทาง (ถ้าเสื้อชุ่มเหงื่อและโดนลมบนภูเขาจะหนาวและไม่สบายได้ค่ะ)
ยอดเขา Sidelhorn อยู่ในใจกลางเทือกเขาแอล์ปของจังหวัดเบิร์นค่ะ บริเวณนี้เป็นเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดเบิร์นและจังหวัดวาลิสอันเต็มไปด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนที่ชื่อว่า Grimsel region ที่นี่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,164 เมตร ระหว่างทางเราจะนั่งรถบัสผ่านถนนบนภูเขาที่สวยที่สุดเส้นหนึ่งในสวิตฯ เพราะถนนถูกตัดขึ้นมาแบบหักศอกพับซ้ายพับขวาไปมาเพื่อขึ้นภูเขาสูงชัน
เรานั่งรถขึ้นไปถึงจุดสูงสุดซึ่งเป็นจุดพักของ Grimsel region ที่เป็นที่ตั้งของทะเลสาบน้ำสีน้ำเงินเข้มบนภูเขา ชื่อ Totensee จุดนี้เป็นทั้งจุดพัก จุดชมวิว และมีโรงแรมที่สามารถมาพักก่อนจะเที่ยวชมความสวยงามของแถบนี้ และจุดนี้แหล่ะที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินของเราค่ะ
เราเริ่มเดินตรงนี้ค่ะ
เส้นทางการเดินนี้เป็นทางเดินที่เป็นดินสลับกับก้อนหิน ความยากระดับปานกลาง ระยะทาง 9 กิโลเมตร มีสามีเป็นผู้วางแผน เป็นไกด์นำทาง และเป็นเชอร์ปาทำหน้าที่แบกกระเป๋า รวมทั้งแบกเราตอนเราเหนื่อยด้วยค่ะ
ริมทะเลสาบข้างล่างคือสถานีรถบัส และเป็นที่ที่เราเริ่มเดินค่ะ เดินมาได้เยอะแล้วเหมือนกันนะคะเนี่ย
เส้นทางการเดินบางช่วงก็จะต้องไต่บันไดหินขึ้นไปค่ะ เค้าเอามาเรียงไว้สวยมากทีเดียวค่ะ
หลังจากเดินมาสักพักก็เจอจุดจอดค่ะ เรานี่ตรงดิ่งไปนั่งพักโลด สามียิ้มอ่อนถามเหนื่อยแล้วเหรอ เราเลยบอกไปว่า อ๋อเรามาดูวิว 555
นี่ไง วิวสวยอย่างงี้ไม่ดูได้ไง สามียังคงยิ้มอ่อนค่ะ
เดินมาได้เกือบ 3 ชั่วโมง เกือบถึงยอดแล้วค่ะ ทางเดินก็จะง่ายๆแบบนี้เลย
หน้าร้อนแล้วก็ยังมีหิมะบางส่วนที่ยังละลายไม่หมดค่ะ เวลาเดินต้องระวังอย่าไปเดินบนหิมะนะคะ เพราะเราไม่รู้ว่าข้างใต้มีอะไรบ้างค่ะ อาจจะเป็นหิมะพาดหุบเหวหรือโพรงลึก อันตรายค่ะ
เริ่มเห็นแล้วค่ะ ร่องรอยธารน้ำแข็งที่ละลายไปแล้ว เห็นอย่างงี้ใหญ่มากๆๆๆๆๆๆนะคะ
เส้นทางเดินก่อนถึงยอดค่ะ ชันอีกแล้ว
เดินขึ้นเขามา 3 ชั่วโมงกว่าก็ถึงยอดเขาสักทีค่ะ ยอดเขา Sidelhorn นี้สูงถึงเกือบ 2,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้ถึงแม้จะเป็นหน้าร้อน พอถึงยอดก็มีลมเย็นๆพัดมาให้หายเหนื่อยตลอดค่ะ มาถึงแล้วยังมีทางเดินไปดูวิวได้อีก ขอเดินเข้าไปใกล้ๆค่ะ
นี่ค่ะ จุดชมวิวของเรา สวยคุ้มค่ากับการเดินมากค่ะ
จุดชมวิวนี้เป็นจุดที่ที่มองเห็นธารน้ำแข็งถึง2ธารน้ำแข็งด้วยกันค่ะ ธารน้ำแข็งเล็กกว่าที่อยู่ไกลๆทางด้านซ้ายชื่อ Oberaargletscher ส่วนธารน้ำแข็งใหญ่ด้านขวาชื่อ Unteraargletscher อันเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำ Aare (อาเร่) ที่ไหลผ่านเมืองหลวงของสวิตฯหรือจังหวัดเบิร์นนั่นเองค่ะ ส่วนทะเลสาบเล็กๆที่มองเห็นอยู่ข้างหน้าธารน้ำแข็งทั้งสองชื่อ Triebtenseewli เล็กแค่ไหนก็ยังมีคนมาตั้งชื่อให้ น่ารักจริงๆเนอะ
ธารน้ำแข็งนั้นมีการก่อตัวตั้งแต่สมัยยุคน้ำแข็งหรือ ice age เมื่อประมาณแสนกว่าปีที่ผ่านมาค่ะ จากรูปที่เราถ่ายมา จะเห็นร่องรอยของดินหินที่เกิดจากการก่อตัวของธารน้ำแข็งก่อเกิดเป็นรูปร่างคล้ายรูปลำธาร สาเหตุที่เรามองเห็นเป็นเพราะธารน้ำแข็งละลายไปเกือบหมดแล้วทั้งสองธารค่ะ เหลือส่วนที่เป็นสีขาวๆอยู่นิดเดียวด้านบน สาเหตุก็เนื่องมาจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้ธารน้ำแข็งทั่วโลกละลาย รวมทั้งธารน้ำแข็งหลายๆแห่งในสวิตฯด้วยค่ะ
เป็นปกติของสวิตเซอร์แลนด์นะคะที่จะมีไม้กางเขนไม้หรือเหล็กใหญ่ๆเป็นสัญลักษณ์ที่บนยอดเขา สำหรับบางที่ก็มีกล่องไม้ที่ข้างในที่มีสมุดไว้ให้ผู้มาพิชิตได้เซ็นชื่อเป็นที่ระทึก เอ้ย ระลึกด้วยค่ะ เราเลยจัดภาษาไทยตัวใหญ่ไปเลยค่ะ
เมื่อเราหยุดดูวิวและทานอาหารกลางวันที่ห่อมาจนอิ่มทั้งอาหารอิ่มทั้งวิวเรียบร้อยแล้ว (ของสามีเป็นชีสกับขนมปัง ส่วนของเราข้าวผัดกุนเชียงค่ะ (จงบอกความเข้ากัน) ก็ถึงเวลาเดินลงแล้วค่ะ
ดูวิว 360 องศาอีกรอบก่อนลงค่ะ
การเดินลง ครั้นจะเดินตามทางที่แผนที่บอก นั่นไม่ใช่สามีของดิฉันค่ะ จากบนยอดเขา สามีเห็นทางชันตรงไหนไปทางนั้นค่ะ เราโวยวายว่าทางชันนะยู เรากลัว แต่เค้าก็บอกว่า เดินมากับเค้าไม่ต้องกลัว เดี๋ยวเค้าช่วยดูแลเอง การห้ามของเราไม่เกิดผลจึงต้องไปตามเขาไปอย่างเงียบๆค่ะ ถามว่าทางชันมั้ย ตอบไม่ได้เพราะไม่ได้เดินบนทางค่ะ มันไม่มีทางเดิน เราเลยต้องปีนลง ทางลงชันมากกกกกกจนเรางอนสามีไปหลายยกเลยค่ะ สุดท้ายก็เดินลงไปเจอทางในแผนที่จนได้ ก่อให้เกิดเป็นชื่อของทริปนี้ว่า ทริปสาพาหลง ค่ะ
แต่ทางลงทางนี้ใช่ว่าจะไม่สวยนะคะ เราบอกในเพจเราเสมอว่า #สวิตเซอร์แลนด์เดินหลงไปทางไหนก็สวย เดินมาทางนี้เป็นทางที่เดินผ่านทุ่งหญ้าเขียวๆ ที่มีทางเดินจิ๋วๆ ผ่านลำธารเล็กๆที่เกิดจากการละลายของหิมะหลายๆสาย บางครั้งต้องเดินลุยข้ามลำธารใสๆ เป็นเส้นทางที่เดินเพลินมาค่ะ เราเดินไปเรื่อยๆแล้วมาจบการเดินเขาหลายชั่วโมงที่อีกด้านของทะเลสาบที่เป็นจุดเริ่มต้น วิวสวยจนหายงอนสามีเลยค่ะ
รูปนี้เป็นรูปโปรดของเราค่ะ ชอบเดินตามหลัง ดูเค้านำไปเรื่อยๆค่ะ Swiss boy ของเรา
วันนั้นเราเดินถึงจุดหมายปลายทางและขึ้นรถกลับบ้านที่ซูริคอย่างปลอดภัย พร้อมกับความประทับใจและรูปเต็มกล้องเลยค่ะ
ถ้าใครชอบ อยากไป มีข้อสงสัย ถามเรามาในเพจได้นะคะ ส่วนใครไม่ชอบใจตรงไหนในกระทู้นี้ต้องขออภัยอีกครั้งด้วยค่ะ
https://www.facebook.com/perdswiss/
ถ้าเพื่อนๆชอบกัน วันหลังจะพาไปเที่ยวที่อันซีนในสวิตฯอีกนะคะ