เนื่องจากผมได้ติดต่อขอกู้เงินกับ ธนาคาร โดยกู้เป็นสัญญาที่ 3 ด้วยวงเงิน 1,000,000 บาท เพื่อซื้อบ้าน โดยมี Time Line ดังนี้
วันที่ 27/03/2563
1. ได้ยื่นเอกสาร ทั้งขอสินเชื่อกับทางธนาคาร ที่สำนักงานใหญ่ โดยเอกสารขาดสัญญาจะซื้อจะขายซึ่งผู้เกี่ยวข้องเซ็นครบทั้งหมด อีก 1 ฉบับ ( แต่ส่งฉบับเซ็นฝั่งเดียวไปให้แล้ว )
2. ระหว่างการยื่นเอกสารได้มีการพูดคุยถึงรายละเอียดบ้านว่าเป็น บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ซึ่งถูกปล่อยร้างมาเป็นเวลา 30 ปี พร้อมทั้งแสดงภาพถ่ายสภาพบ้านให้ดู เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ให้ผมเข้าซ่อมเพื่อให้พร้อมอยู่อาศัยก่อนที่พนักงานประเมินจะเข้าประเมิน ธนาคาร จึงจะปล่อยให้กู้
3. สอบถามระยะเวลาในการดำเนินการ พนักงานแจ้งว่า ประมาณ 3 สัปดาห์หลังจากยื่นเอกสารครบก็สำเร็จแล้วค่ะ
4. พนักงานของเลขหมายโทรศัพท์เอาไว้ 3 เลขหมาย (ผม,ภรรยา,พี่ชาย) เผื่อติดต่อใครไม่ได้
วันที่ 28/03/2563 => ผมเริ่มเข้าซ่อมแซมบ้าน
วันที่ 04/04/2563
พนักงาน ธนาคาร : โทรหาเพื่อแจ้งว่า อาจจะต้องขอ Slip เงินเดือนเพิ่มเพราะยื่นเรื่องให้ได้ในเดือนเมษา ( ตอนส่งเอกสารผมส่งเดือนมีนา ซึ่ง Slip ครบ 3 เดือนแล้ว 12/2562,01/2563,02/2563)
ผม : รับทราบและบอกให้แจ้งด้วยว่าจะเอาเพิ่มหรือไม่กันแน่
( พนักงานไม่ติดกลับมาบอกอะไรเลยครับ )
วันที่ 08/04/2563
ผม: ส่งเอกสารสัญญาจะซื้อจะขาย ฉบับเต็มให้พนักงาน พร้อมโทรไปแจ้งว่าได้ส่งเอกสารให้แล้ว
พนักงาน: รับทราบแจ้งว่าได้รับเอกสาร
วันที่ 12/04/2563
พนักงาน : โทรมาแจ้งว่าได้ยื่นเรื่องขอสินเชื่อไปยังหัวหน้า ไม่สามารถยกเลิกได้แล้ว หากยกเลิกจะต้องมีค่าใช้จ่าย
( จุดสังเกตุข้อแรก เอกสารของลูกค้าส่งครบตั้งแต่วันที่ 08/04 พนักงานพึ่งยื่นในวันที่ 12/04 )
วันที่ 15/04/2563
ผม : โทรไปติดต่อพนักงาน เพื่อติดตามการประเมิน
พนักงาน : พนักงานแจ้งให้รอก่อน
วันที่ 20/04/2563
ผม : โทรไปติดต่อพนักงาน เพื่อติดตามการประเมิน
พนักงาน : พนักงานแจ้งให้รอก่อนเนื่องจากติดสถานการณ์ Covid คนน้อย และพนักงานก็ Work From Home ด้วย
วันที่ 24/04/2563
ผม : ติดต่อไปยัง Sale ขายบ้าน เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ผมไม่แน่ใจระยะเวลา ที่กำหนดในสัญญาคือต้องซื้อขายก่อน 1 มิถุนา 2563 นั้นจะเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากทาง ธนาคาร ยังไม่ส่งคนประเมินเข้ามาเลย
Sale : ขอเบอร์พนักงาน ธนาคาร เพื่อคุยในรายละเอียดว่าไม่ทันจริงหรือไม่ ถ้าจริงจะทำเรื่องขยายเวลาให้
วันที่ 27/04/2563
Sale : โทรไปหา พนักงาน ธนาคาร เพื่อสอบถามระยะเวลา
พนักงาน : แจ้งว่าทันแน่นอนยังไงก็ทัน
( ที่ผมสงสัยคือ ทุกครั้งที่ผมโทรไปติดตาม ทางพนักงาน บอกว่าต้องใช้เวลาเนื่องจากติดสถานการณ์ และ ต้องทำงานที่บ้าน แต่พอให้ Sale โทรไปเพื่อที่เขาจะได้ขยายเวลาให้ลูกค้าได้ทำไมจึงไปรับปากเขาว่าทัน ควรจะเห็นประโยชน์ของลูกค้าไว้ก่อนหรือไม่ )
วันที่ 27/04/2563
พนักงาน : โทรหาภรรยาผม แจ้งว่า เบอร์ที่ส่งให้ทางทีมประเมินผิด จึงทำให้ติดต่อผมไม่ได้ ทำให้เอกสารตีกลับไปกลับมา
ภรรยา : จึงให้เบอร์ผมไปใหม่
(ที่ผมสงสัยคือ ไม่ใช่ครั้งแรกที่พนักงานโทรหาผม คุยกันมาไม่รู้กี่ครั้ง วันนี้อยู่ดีๆ บอกว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ให้มาติดต่อผมไม่ได้ จึงทำให้ประเมินเข้าช้า)
วันที่ 27/04/2563 => คนประเมิน : โทรหาผมจากเบอร์ที่ได้รับใหม่ แจ้งว่าจะเข้าประเมินพรุ่งนี้ ( 28/04/2563 )
วันที่ 28/04/2563 => คนประเมิน : เข้าประเมินทรัพย์สิน
วันที่ 30/04/2563
ผม : โทรไปสอบถามพนักงาน ว่าผลการประเมินนานหรือไม่กว่าจะออก
พนักงาน : แจ้งว่าประมาณ 3 วันผลการประเมินก็ออกค่ะ
วันที่ 07/05/2563
ผม : โทรไปสอบถามพนักงาน ว่าผลการประเมินออกหรือยัง
พนักงาน : ยังไม่ออก ค่ะพี่ต้องรอหน่อยสิค่ะเนื่องจากติดสถานการณ์ Covid คนน้อย และพนักงานก็ Work From Home ด้วย
ผม : อ่าวก็ผมโทรมาถามคุณแล้วว่า นานไหม คุณบอกว่า 3 วัน เข้าประเมินตั้งแต่ 28/04 นี่วันที่ 07/05 ถ้าหักวันหยุดออกก็ 4-5 วันแล้ว
พนักงาน : แจ้งให้ผมใจเย็นก่อนสิค่ะยังไงก็ต้องรอ
( ตั้งแต่วันนั้น ทำให้ผมรู้สึกว่า พนักงาน ธนาคาร แค่รับปากไป เรื่อยๆ นี่นา สิ่งที่พูดมีอะไรเชื่อถือได้ไหม แล้วสรุป Time Line ที่เขาบอกผมอยู่ตลอดนี่มันจริงหรือไม่ เพราะถ้าไม่จริงผมจะเสียทั้งเงิน มัดจำซื้อบ้าน และ เงินค่าซ่อมบ้านในชื่อของเจ้าของเดิม ประมาณ 700,000 บาทแล้ว มันเป็นเงินเก็บทั้งหมดของผม )
วันที่ 09/05/2563
พนักงาน : โทรมาแจ้งผมว่า การกู้ของผมอนุมัติแล้ว แต่จากการประเมินบ้าน ส่งผลให้ผมมีปัญหา เนื่องจากในพื้นที่บ้าน มีบ้านอีกหลัง ( หลังที่ 2 ) ซึ่งไม่ได้อยู่ในบ้านเลขที่ที่แจ้ง และจะขอเบอร์ Sale เพื่อโทรไปคุยเกี่ยวกับบ้าน
ผม : ให้เบอร์ไป พร้อมทั้งต่อว่าไปว่า คุณแนะนำให้ผมเข้าซ่อมบ้านที่จะซื้อก่อน วันนี้ผมซ่อมแล้ว แต่คราวนี้คุณจะขอเบอร์เจ้าของเพื่อที่จะคุย เกี่ยวกับพื้นที่บ้านที่ผมซ่อม อยู่ทั้งๆที่ ในสัญญาจะซื้อจะขายก็มีเขียนอยู่ว่ามีบ้าน 2 หลัง และผมก็กู้แค่ 1 ล้านเท่านั้น คุณจะสร้างเรื่องให้ผมเพื่ออะไร
( - ผมยอมรับนะครับว่า ผมไม่อยากให้เจ้าของบ้านเดิมรู้ เพราะตอนนี้บ้านมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเงินที่ผมลงทุนซ่อมแซมไป เดิมทีบ้านดังกล่าวถูกทิ้งร้างและปลวกกินเกือบทั้งหลัง ผมโกรธมาก และพนักงานไม่มีรู้เลยว่า อะไรสำคัญ อะไรส่งผลให้ลูกค้าเสียหาย
- จากนั้นพนักงานก็แจ้งผมว่าจะส่งเรื่องให้หัวหน้าพิจารณา ว่ามีทางอื่นไหม แต่เรื่องจะเดินอีกทีวันที่ 11/05/2563 เพราะหัวหน้ามาทำงานวันจันทร์ )
วันที่ 11/5/2563
พนักงาน : โทรมาแจ้งผมว่า จะทำเรื่องให้บ้านหลังที่ 2 อยู่ในสถานะกำลังรื้อถอน โดยต้องตีเรื่องกลับไปที่ทางทีม ประเมิน ต้องใช้เวลา อีก 3 วัน ( ซึ่งก็คือวันที่ 15/05/2563 )
ผม : ได้แต่รับฟัง และบอกพนักงานท่านนี้ไปว่า Sale ที่ขายบ้านบอกผม ถ้าจะนัดโอนวันไหนต้องแจ้งเขาก่อน 10 ทำการแค่รู้ผลการทำงานของทาง ธนาคาร ก็วันที่ 15/05 แล้ว กว่าจะไปเซ็นต์สัญญากู้อีก แปลว่าผมต้องนัดหลังวันที่ 1/06 หรือครับ ซึ่งมันเลยกำหนดแล้ว
พนักงาน : แจ้งให้นัดทาง Sale โอนบ้านในวันที่ 29/05/2563 ไปก่อนต่อให้ยังไม่ได้เซ็นสัญญากู้
ผม : ได้แต่รับฟัง และโทรไปนัดโอนบ้าน ในวันสุดท้ายของสัญญา ซึ่งแปลห้ามผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้น โดยผมได้บอกพนักงานท่านนี้ไปตรงเลยว่า ผมไม่รู้จะเชื่อในสิ่งที่คุณพูดได้หรือไม่เลย และนี่คุณให้ผมนัดวันสุดท้ายของสัญญา แปลว่าถ้าผิดพลาดผมจะไม่มีเวลาหาทางแก้ไขเลย
พนักงาน : แจ้งผมว่า มันไม่ใช่เป็นความล่าช้าของธนาคารนะคะ เป็นเพราะบ้านที่ลูกค้าจะซื้อน่ะค่ะที่มีปัญหา
( ต้องยอมรับว่าผมไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่า จะ 3 วัน เพราะพนักงานท่านนี้ รับปากไปเรื่อยมาโดนตลอด )
วันนี้ วันที่ 18/05/2563
ณ.วันนี้เวลา 11:00 น. ยังไม่มีใครติดต่อ อะไรมาอีกเลยครับ
( ณ.ตอนนี้ผมไม่รู้ต้องทำอย่างไรดี ผมเครียดมากครับ เพราะผมลงเงินเก็บทั้งหมดของผมไปแล้ว
วิธีที่ผมพยายาม เบื้องต้นไปก่อนคือ
1. ผมเปลี่ยนวันนัดโอนจากวันที่ 29/05/2563 เป็นวันที่ 27/05/2563 เพื่อป้องกัน ทาง ธนาคาร ผิดคำพูดกับผม จะได้มีเวลาแก้ไขทัน
2. ผมพยายามหายืมเงินคนที่รู้จัก เผื่อให้มีเงินสดเอาไว้ซื้อกรณี ธนาคาร ผิดคำพูด ( ซึ่งในสถานการณ์ช่วงนี้แทบไม่มีใครให้ยืมแล้วครับ )
3. ผมมาโพสใน pantip เพื่อคาดหวังให้ ธนาคาร ได้รับทราบ และดำเนินการให้ผมได้ทันการณ์
4. สาเหตุที่ผมไม่เลือก ร้องเรียนผ่านทางธนาคาร เพราะผมไม่ทราบว่ากระบวนการ จะอีกนานเท่าไร กว่าจะส่งเรื่องจาก Call Center
ไปแก้ไขให้ผม ซึ่งยอมรับจริงๆ ว่าผมขาดความเชื่อมั่นจริงๆครับ )
และผมสงสัยนะครับ
1. คำว่า Work From Home พนักงานอ้างกับผมตลอดเวลา นี่คือทำงานจริงหรือป่าว หรือว่าแค่อยู่บ้านเฉยๆ การดำเนินการต่างๆของผมมันถึงได้ช้า
2. ตอนส่งเอกสารต่างๆให้ ทางธนาคารได้อ่านจริงๆ หรือไม่ครับ ซึ่งในสัญญาจะซื้อจะขายก็เขียนชัดเจนว่า มีบ้านหลัก กับเรือนคนงาน ถ้าอ่านก็ควรจะปรึกษาหรือหาทางแก้ไขได้ตั้งแต่ต้นแล้ว
3. ในกรณีของผมนั้นล่าช้าตั้งแต่ ส่งคนประเมิน ที่บอกว่าติดต่อผมไม่ได้ ทั้งๆที่ตอนยื่นเอกสาร ผมเขียนเบอร์ให้ 3 เบอร์จะให้เขียนทำไม และก่อนส่งเรื่องให้ทีมประเมิน พนักงานมีการตรวจสอบหรือไม่ )
แต่อย่างไรก็อยากให้เพื่อนๆ อย่าพึ่งตัดสินว่า ธนาคาร จะเป็นเช่นนี้ทั้งหมดนะครับ อาจจะแค่ผิดพลาดในกระบวนการทำงานหรืออย่างไร ให้โอกาสทางธนาคารได้แก้ไขนะครับ เพราะผมไม่ได้กู้กับ ธนาคารนี้ ครั้งแรกครับ ที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าเขาก็ O.K. นะครับ แต่ครั้งนี้เครียดจริงๆครับ
ผมควรต้องทำอย่างไรกับ ธนาคาร ธ.อ.ส. ครับ ( ผมลงเงินเก็บทั้งหมดของผมไปหมดแล้ว )
วันที่ 27/03/2563
1. ได้ยื่นเอกสาร ทั้งขอสินเชื่อกับทางธนาคาร ที่สำนักงานใหญ่ โดยเอกสารขาดสัญญาจะซื้อจะขายซึ่งผู้เกี่ยวข้องเซ็นครบทั้งหมด อีก 1 ฉบับ ( แต่ส่งฉบับเซ็นฝั่งเดียวไปให้แล้ว )
2. ระหว่างการยื่นเอกสารได้มีการพูดคุยถึงรายละเอียดบ้านว่าเป็น บ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ซึ่งถูกปล่อยร้างมาเป็นเวลา 30 ปี พร้อมทั้งแสดงภาพถ่ายสภาพบ้านให้ดู เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ให้ผมเข้าซ่อมเพื่อให้พร้อมอยู่อาศัยก่อนที่พนักงานประเมินจะเข้าประเมิน ธนาคาร จึงจะปล่อยให้กู้
3. สอบถามระยะเวลาในการดำเนินการ พนักงานแจ้งว่า ประมาณ 3 สัปดาห์หลังจากยื่นเอกสารครบก็สำเร็จแล้วค่ะ
4. พนักงานของเลขหมายโทรศัพท์เอาไว้ 3 เลขหมาย (ผม,ภรรยา,พี่ชาย) เผื่อติดต่อใครไม่ได้
วันที่ 28/03/2563 => ผมเริ่มเข้าซ่อมแซมบ้าน
วันที่ 04/04/2563
พนักงาน ธนาคาร : โทรหาเพื่อแจ้งว่า อาจจะต้องขอ Slip เงินเดือนเพิ่มเพราะยื่นเรื่องให้ได้ในเดือนเมษา ( ตอนส่งเอกสารผมส่งเดือนมีนา ซึ่ง Slip ครบ 3 เดือนแล้ว 12/2562,01/2563,02/2563)
ผม : รับทราบและบอกให้แจ้งด้วยว่าจะเอาเพิ่มหรือไม่กันแน่
( พนักงานไม่ติดกลับมาบอกอะไรเลยครับ )
วันที่ 08/04/2563
ผม: ส่งเอกสารสัญญาจะซื้อจะขาย ฉบับเต็มให้พนักงาน พร้อมโทรไปแจ้งว่าได้ส่งเอกสารให้แล้ว
พนักงาน: รับทราบแจ้งว่าได้รับเอกสาร
วันที่ 12/04/2563
พนักงาน : โทรมาแจ้งว่าได้ยื่นเรื่องขอสินเชื่อไปยังหัวหน้า ไม่สามารถยกเลิกได้แล้ว หากยกเลิกจะต้องมีค่าใช้จ่าย
( จุดสังเกตุข้อแรก เอกสารของลูกค้าส่งครบตั้งแต่วันที่ 08/04 พนักงานพึ่งยื่นในวันที่ 12/04 )
วันที่ 15/04/2563
ผม : โทรไปติดต่อพนักงาน เพื่อติดตามการประเมิน
พนักงาน : พนักงานแจ้งให้รอก่อน
วันที่ 20/04/2563
ผม : โทรไปติดต่อพนักงาน เพื่อติดตามการประเมิน
พนักงาน : พนักงานแจ้งให้รอก่อนเนื่องจากติดสถานการณ์ Covid คนน้อย และพนักงานก็ Work From Home ด้วย
วันที่ 24/04/2563
ผม : ติดต่อไปยัง Sale ขายบ้าน เพื่อแจ้งให้ทราบว่า ผมไม่แน่ใจระยะเวลา ที่กำหนดในสัญญาคือต้องซื้อขายก่อน 1 มิถุนา 2563 นั้นจะเพียงพอหรือไม่ เนื่องจากทาง ธนาคาร ยังไม่ส่งคนประเมินเข้ามาเลย
Sale : ขอเบอร์พนักงาน ธนาคาร เพื่อคุยในรายละเอียดว่าไม่ทันจริงหรือไม่ ถ้าจริงจะทำเรื่องขยายเวลาให้
วันที่ 27/04/2563
Sale : โทรไปหา พนักงาน ธนาคาร เพื่อสอบถามระยะเวลา
พนักงาน : แจ้งว่าทันแน่นอนยังไงก็ทัน
( ที่ผมสงสัยคือ ทุกครั้งที่ผมโทรไปติดตาม ทางพนักงาน บอกว่าต้องใช้เวลาเนื่องจากติดสถานการณ์ และ ต้องทำงานที่บ้าน แต่พอให้ Sale โทรไปเพื่อที่เขาจะได้ขยายเวลาให้ลูกค้าได้ทำไมจึงไปรับปากเขาว่าทัน ควรจะเห็นประโยชน์ของลูกค้าไว้ก่อนหรือไม่ )
วันที่ 27/04/2563
พนักงาน : โทรหาภรรยาผม แจ้งว่า เบอร์ที่ส่งให้ทางทีมประเมินผิด จึงทำให้ติดต่อผมไม่ได้ ทำให้เอกสารตีกลับไปกลับมา
ภรรยา : จึงให้เบอร์ผมไปใหม่
(ที่ผมสงสัยคือ ไม่ใช่ครั้งแรกที่พนักงานโทรหาผม คุยกันมาไม่รู้กี่ครั้ง วันนี้อยู่ดีๆ บอกว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ให้มาติดต่อผมไม่ได้ จึงทำให้ประเมินเข้าช้า)
วันที่ 27/04/2563 => คนประเมิน : โทรหาผมจากเบอร์ที่ได้รับใหม่ แจ้งว่าจะเข้าประเมินพรุ่งนี้ ( 28/04/2563 )
วันที่ 28/04/2563 => คนประเมิน : เข้าประเมินทรัพย์สิน
วันที่ 30/04/2563
ผม : โทรไปสอบถามพนักงาน ว่าผลการประเมินนานหรือไม่กว่าจะออก
พนักงาน : แจ้งว่าประมาณ 3 วันผลการประเมินก็ออกค่ะ
วันที่ 07/05/2563
ผม : โทรไปสอบถามพนักงาน ว่าผลการประเมินออกหรือยัง
พนักงาน : ยังไม่ออก ค่ะพี่ต้องรอหน่อยสิค่ะเนื่องจากติดสถานการณ์ Covid คนน้อย และพนักงานก็ Work From Home ด้วย
ผม : อ่าวก็ผมโทรมาถามคุณแล้วว่า นานไหม คุณบอกว่า 3 วัน เข้าประเมินตั้งแต่ 28/04 นี่วันที่ 07/05 ถ้าหักวันหยุดออกก็ 4-5 วันแล้ว
พนักงาน : แจ้งให้ผมใจเย็นก่อนสิค่ะยังไงก็ต้องรอ
( ตั้งแต่วันนั้น ทำให้ผมรู้สึกว่า พนักงาน ธนาคาร แค่รับปากไป เรื่อยๆ นี่นา สิ่งที่พูดมีอะไรเชื่อถือได้ไหม แล้วสรุป Time Line ที่เขาบอกผมอยู่ตลอดนี่มันจริงหรือไม่ เพราะถ้าไม่จริงผมจะเสียทั้งเงิน มัดจำซื้อบ้าน และ เงินค่าซ่อมบ้านในชื่อของเจ้าของเดิม ประมาณ 700,000 บาทแล้ว มันเป็นเงินเก็บทั้งหมดของผม )
วันที่ 09/05/2563
พนักงาน : โทรมาแจ้งผมว่า การกู้ของผมอนุมัติแล้ว แต่จากการประเมินบ้าน ส่งผลให้ผมมีปัญหา เนื่องจากในพื้นที่บ้าน มีบ้านอีกหลัง ( หลังที่ 2 ) ซึ่งไม่ได้อยู่ในบ้านเลขที่ที่แจ้ง และจะขอเบอร์ Sale เพื่อโทรไปคุยเกี่ยวกับบ้าน
ผม : ให้เบอร์ไป พร้อมทั้งต่อว่าไปว่า คุณแนะนำให้ผมเข้าซ่อมบ้านที่จะซื้อก่อน วันนี้ผมซ่อมแล้ว แต่คราวนี้คุณจะขอเบอร์เจ้าของเพื่อที่จะคุย เกี่ยวกับพื้นที่บ้านที่ผมซ่อม อยู่ทั้งๆที่ ในสัญญาจะซื้อจะขายก็มีเขียนอยู่ว่ามีบ้าน 2 หลัง และผมก็กู้แค่ 1 ล้านเท่านั้น คุณจะสร้างเรื่องให้ผมเพื่ออะไร
( - ผมยอมรับนะครับว่า ผมไม่อยากให้เจ้าของบ้านเดิมรู้ เพราะตอนนี้บ้านมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเงินที่ผมลงทุนซ่อมแซมไป เดิมทีบ้านดังกล่าวถูกทิ้งร้างและปลวกกินเกือบทั้งหลัง ผมโกรธมาก และพนักงานไม่มีรู้เลยว่า อะไรสำคัญ อะไรส่งผลให้ลูกค้าเสียหาย
- จากนั้นพนักงานก็แจ้งผมว่าจะส่งเรื่องให้หัวหน้าพิจารณา ว่ามีทางอื่นไหม แต่เรื่องจะเดินอีกทีวันที่ 11/05/2563 เพราะหัวหน้ามาทำงานวันจันทร์ )
วันที่ 11/5/2563
พนักงาน : โทรมาแจ้งผมว่า จะทำเรื่องให้บ้านหลังที่ 2 อยู่ในสถานะกำลังรื้อถอน โดยต้องตีเรื่องกลับไปที่ทางทีม ประเมิน ต้องใช้เวลา อีก 3 วัน ( ซึ่งก็คือวันที่ 15/05/2563 )
ผม : ได้แต่รับฟัง และบอกพนักงานท่านนี้ไปว่า Sale ที่ขายบ้านบอกผม ถ้าจะนัดโอนวันไหนต้องแจ้งเขาก่อน 10 ทำการแค่รู้ผลการทำงานของทาง ธนาคาร ก็วันที่ 15/05 แล้ว กว่าจะไปเซ็นต์สัญญากู้อีก แปลว่าผมต้องนัดหลังวันที่ 1/06 หรือครับ ซึ่งมันเลยกำหนดแล้ว
พนักงาน : แจ้งให้นัดทาง Sale โอนบ้านในวันที่ 29/05/2563 ไปก่อนต่อให้ยังไม่ได้เซ็นสัญญากู้
ผม : ได้แต่รับฟัง และโทรไปนัดโอนบ้าน ในวันสุดท้ายของสัญญา ซึ่งแปลห้ามผิดพลาดใดๆ ทั้งสิ้น โดยผมได้บอกพนักงานท่านนี้ไปตรงเลยว่า ผมไม่รู้จะเชื่อในสิ่งที่คุณพูดได้หรือไม่เลย และนี่คุณให้ผมนัดวันสุดท้ายของสัญญา แปลว่าถ้าผิดพลาดผมจะไม่มีเวลาหาทางแก้ไขเลย
พนักงาน : แจ้งผมว่า มันไม่ใช่เป็นความล่าช้าของธนาคารนะคะ เป็นเพราะบ้านที่ลูกค้าจะซื้อน่ะค่ะที่มีปัญหา
( ต้องยอมรับว่าผมไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่า จะ 3 วัน เพราะพนักงานท่านนี้ รับปากไปเรื่อยมาโดนตลอด )
วันนี้ วันที่ 18/05/2563
ณ.วันนี้เวลา 11:00 น. ยังไม่มีใครติดต่อ อะไรมาอีกเลยครับ
( ณ.ตอนนี้ผมไม่รู้ต้องทำอย่างไรดี ผมเครียดมากครับ เพราะผมลงเงินเก็บทั้งหมดของผมไปแล้ว
วิธีที่ผมพยายาม เบื้องต้นไปก่อนคือ
1. ผมเปลี่ยนวันนัดโอนจากวันที่ 29/05/2563 เป็นวันที่ 27/05/2563 เพื่อป้องกัน ทาง ธนาคาร ผิดคำพูดกับผม จะได้มีเวลาแก้ไขทัน
2. ผมพยายามหายืมเงินคนที่รู้จัก เผื่อให้มีเงินสดเอาไว้ซื้อกรณี ธนาคาร ผิดคำพูด ( ซึ่งในสถานการณ์ช่วงนี้แทบไม่มีใครให้ยืมแล้วครับ )
3. ผมมาโพสใน pantip เพื่อคาดหวังให้ ธนาคาร ได้รับทราบ และดำเนินการให้ผมได้ทันการณ์
4. สาเหตุที่ผมไม่เลือก ร้องเรียนผ่านทางธนาคาร เพราะผมไม่ทราบว่ากระบวนการ จะอีกนานเท่าไร กว่าจะส่งเรื่องจาก Call Center
ไปแก้ไขให้ผม ซึ่งยอมรับจริงๆ ว่าผมขาดความเชื่อมั่นจริงๆครับ )
และผมสงสัยนะครับ
1. คำว่า Work From Home พนักงานอ้างกับผมตลอดเวลา นี่คือทำงานจริงหรือป่าว หรือว่าแค่อยู่บ้านเฉยๆ การดำเนินการต่างๆของผมมันถึงได้ช้า
2. ตอนส่งเอกสารต่างๆให้ ทางธนาคารได้อ่านจริงๆ หรือไม่ครับ ซึ่งในสัญญาจะซื้อจะขายก็เขียนชัดเจนว่า มีบ้านหลัก กับเรือนคนงาน ถ้าอ่านก็ควรจะปรึกษาหรือหาทางแก้ไขได้ตั้งแต่ต้นแล้ว
3. ในกรณีของผมนั้นล่าช้าตั้งแต่ ส่งคนประเมิน ที่บอกว่าติดต่อผมไม่ได้ ทั้งๆที่ตอนยื่นเอกสาร ผมเขียนเบอร์ให้ 3 เบอร์จะให้เขียนทำไม และก่อนส่งเรื่องให้ทีมประเมิน พนักงานมีการตรวจสอบหรือไม่ )
แต่อย่างไรก็อยากให้เพื่อนๆ อย่าพึ่งตัดสินว่า ธนาคาร จะเป็นเช่นนี้ทั้งหมดนะครับ อาจจะแค่ผิดพลาดในกระบวนการทำงานหรืออย่างไร ให้โอกาสทางธนาคารได้แก้ไขนะครับ เพราะผมไม่ได้กู้กับ ธนาคารนี้ ครั้งแรกครับ ที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าเขาก็ O.K. นะครับ แต่ครั้งนี้เครียดจริงๆครับ