หลังจากดูสดแล้วปล่อยอารมณ์ตามซีรี่ส์รู้สึกตื้อไปหมดหาเหตุผลของตัวละครไม่ได้ว่าทำไมทำแบบนี้วะ กว่าจะทำใจดูย้อนเก็บรายละเอียดได้ก็ปาไปวันหนึ่ง
คือซีนนี้ที่ไบร์ทแสดงออกมาผมว่าโอเคเลย ให้ความรู้สึกที่สารวัตรทั้งกำลังเสียใจทั้งโมโหตัวเองที่ดูแลคนที่ตัวเองรักไม่ได้
เพลงก็พาบิ๊วไปอีก แบบเออคงรู้สึกผิดจริงๆจนแทบจะไม่มีหน้าไปหาเลยมั้งเพราะสิ่งที่พี่มิลพูดมามันจริงอะ

ซีนในโรงพยาบาลที่วินฝัน นี่ก็เดาไว้อยู่แล้วว่าฝัน จริงๆอะถ้าอยากให้นักแสดงโชว์ศักยภาพ สามารถใช้ซีนนี้เป็นซีนจริงและให้วินระบายความรู้สึกในใจออกมาแล้วให้สารวัตรปลอบได้ เชื่อว่ามันจะสามารถเรียกน้ำตาจากคนดูได้พอๆกับตอนที่วินร้องไห้กับพี่มิล แต่จะคนละฟิลกันเท่านั้นเอง จริงๆต้องชมวินอย่างมากเลยที่พาตัวละครไทน์มาได้ไกลขนาดนี้ ไกลจนถึงขั้นว่าคนดูพร้อมจะอินไปกับตัวละครไทน์ เมื่อไทน์ร้องไห้คนดูก็สงสารจับใจจนหน้ามืดตามัวเอาตัวเองเข้าไปแทนไทน์แล้วจินตนาการต่อว่าทำไมสารวัตรมันไม่คิดจะทำอะไรซักอย่างเลย ไทน์มันเสียใจมากนะเว้ย อะไรประมาณนี้ แล้ววินคือเล่นดีมากซีนร้องไห้ ซีนสะอื้นนี่อื้อหือมันปวดใจตามเลยอะ ยอมจริงๆ นักแสดงรุ่นนี้น้อยคนนะที่จะร้องไห้แล้วส่งออกมาถึงคนดูเยอะขนาดนี้ จะว่าอวยก็อวยเถอะ

ซีนนี้คงอารมณ์เดียวกับตอนที่ไทน์ไล่ให้สารวัตรเลิกยุ่งกับตัวเองใน EP.7 ก็คือเข้าใจตัวละครสารวัตรในระดับหนึ่งแหละแต่มันไม่ชัดเจน เรื่องนี้ต้องโทษคนเขียนบทกับผู้กำกับ คืออย่างซีน EP.7 ที่หายไปมันยังมีแฟลชแบ็คให้ดูว่าสารวัตรทำอะไรบ้างใน EP.11 ตอนที่หายไปแล้ววุ่นวายใจแค่ไหน แต่นี่คือไม่มีเลย มันทำให้เกิดความรู้สึกสงสัยในตัวสารวัตรไง คนเลยคิดไปในทางเดียวกัน

ชอบซีนที่ไทน์อยู่กับฟ่งนะ คือฟ่ง

โคตรรู้ใจไทน์สุดละมั้ง คือเป็นเพื่อนที่ดีไม่ตัดสินอะไรให้เพื่อน คอยปลอบ คอยให้กำลังใจ ในวันที่เพื่อนตัวเองรู้สึกแย่อะ

ซีนบอกความในใจเหมือนจะทำให้ตัวละครแพมดูดีขึ้นอีกสเต็ป ตอนดูก็คิดนะว่า ไม่เลยยิ่งพูดแบบนี้ยิ่งทำให้ตัวละครแย่ลง
แต่มันก็มีเหตุของการกระทำหนะแหละ มันอาจจะเป็นสิ่งที่ติดค้างในใจแพมมานานแล้วเหมือนกันว่า ทำไมตอนสารวัตรชอบตัวเองทำไมถึงไม่ลงมือทำอะไรซักที ทั้งๆที่ตัวเองก็รออยู่ แต่เหตุผลก็คือ สารวัตรรู้สึกกับแพมไม่เหมือนรู้สึกกับไทน์ ซึ่งเหตุผลนี้มีเพียงไทน์ที่รู้เพราะสารวัตรบอกเอาไว้ใน EP.12 แพมเลยคิดว่า สารวัตรอาจจะยังมีความรู้สึกดีๆกับตัวเองอยู่จึงตั้งใจมาหาเหตุผลนั่นแหละ อาจจะไม่ได้ตั้งใจมาแย่งแค่อยากมาถามให้มันหายข้องใจ เพราะตัวเองยังมูฟออนไม่ได้และยังมีความหวังอยู่เพราะว่าเห็นสารวัตรกล้าบอกรักไทน์ก็คงคิดว่าคงกล้าบอกรักตัวเองแล้ว ซึ่งคิดผิด

ซีนเตะบอลต่างๆ คือเข้าใจนะว่าละครต้องการจะสื่อว่า สารวัตรคงไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแล้วจริงๆ ดนตรีก็เล่นไม่ออก การเตะบอลออกกำลังกายอาจจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่จะทำให้ความหงุดหงิดใจของตัวเองลดลง ไอ้อยากง้อก็อยากแหละแต่น่าจะยังรู้สึกผิดอยู่ คือตัวละครสารวัตรจีบเป็นอย่างเดียวแต่ง้อไม่เป็น เห็นตั้งแต่ EP.7 ละ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่พี่มิลมาเรียกสติสารวัตร จึงทำให้สารวัตรกลับไปซ้อมดนตรีเพื่อไม่ให้มิลได้ที่ 1 จะได้ไม่ต้องขอไทน์เป็นแฟน คือถ้านี่เป็นเพื่อนในวงสารวัตรนะจะขอด่า ซัก 1 ชุดเลย 5555555 ไม่รู้หายไปกี่วันไทม์ไลน์ไม่ชัดเจน
ซีนขอกีต้านี่ก็ดีนะ จริงๆจะเห็นว่าตัวละครสารวัตรมันแสดงออกไม่เก่งแต่ไบร์ทใช้สายตาเก่งพอสมควรเลย จริงๆคืออยากง้ออะแหละ อยากเป็นลูกแมวพูดให้ไทน์ไปดูคอนเสิร์ตที่ตัวเองเล่น แต่ก็ไม่อยากไปเซ้าซี้อะไรกับไทน์มากเพราะไม่รู้ว่าไทน์ยังรู้สึกกับตัวเองเหมือนเดิมรึเปล่า วินเล่นซีนนี้ดีเหมือนกันจังหวะการหายใจตอนเดินไปหยิบกีต้าร์แบบมีกระตุกหน่อยๆ เหมือนคนฮึบอะไรไว้ข้างในแบบใจหายหนะ

ซีนที่คุยกับเพื่อน มีแค่ฟ่งคนเดียวหละมั้งที่รู้ว่ายังไงไทน์มันก็ต้องไปแน่ๆ แต่แค่ไม่อยากพูดอะไรเยอะให้ไทน์อยู่กับตัวเองจนกว่าจะคิดได้ดีกว่า
ซีนจัดของในห้องมันคืออารมณ์คนฟุ้งซ่านต้องหาอะไรทำอะ เออผมชอบฉากนี้ที่เค้าดีไซด์ออกมานะ ลองมานั่งดูย้อนแล้วมันเป็นซีนที่บ่งบอกว่า ตัวละครกำลังตัดสินใจ จะหักห้ามใจไม่ให้ตัวเองไป ให้ตัวเองใจแข็ง แต่ก็ยังอยากที่จะลองให้โอกาสอีกครั้งดู เลยตัดสินใจเลือกที่จะเปิดแฟลชไดรฟ์ที่แพมให้มาฟัง เพราะไม่อยากคาใจ
ซีนหลังเวทีที่สารวัตรพูดถึงไทน์ถึงแม้คำพูดจะดูไม่ค่อยง้อก็เถอะแต่สายตากับ body language ก็แสดงถึงความกังวลและกลัวว่าไทน์จะไม่มาจริงๆแต่อย่างน้อยก็ต้องเล่นเต็มที่เพื่อไม่ให้วงมิลได้ที่ 1

ตอนแรกโมโหและสงสัยเรื่องเพลงมากว่าทำไมถึงใช้เพลงนี้มาง้อไทน์หละ มันเป็นเพลงเศร้า เป็นเพลงอกหักมันไม่ใช่เพลงรักหนิ แต่ลองมาคิดดูไทม์ไลน์แล้ว เพลงนี้น่าจะถูกแต่งไว้นานแล้ว ตั้งแต่สมัย EP แรกๆ ซึ่งมันไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ไง ทำให้คนดูต้องมามโนเอา ต้องโทษคนเขียนบทว่าทำไมไม่เขียนขยายมาหน่อยตอนสารวัตรเล่นดนตรี แล้วแฟลชแบ็คกลับไปว่า เออไอ้เพลงนี้มันแต่งมาตอนไหน แล้วก็แฟลชแบ็คว่า ระหว่างที่ห่างกันสารวัตรมันทรมานแค่ไหน มันจะทำให้คนดูเข้าใจสารวัตรมากขึ้น แล้วมันจะส่งผลให้เราลุ้นให้ไทน์ยอมให้โอกาสมากกว่านี้ ไม่รู้ไอเดียคนเขียนบทคืออะไรแต่ไอเดียผมประมาณนี้ จริงๆผมดูซีรี่ส์มาเยอะ อะไรที่คนดูคิดไปในทางเดียวกันเนี่ย แล้วตรงกันข้าวกับสิ่งที่บทกำลังจะนำเสนอเนี่ย แสดงว่าเรื่องนั้นมันไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้คนดูคิดไปในทางเดียวกันได้ คือมันไม่ใช่ซีรี่ส์ปลายเปิดที่จะต้องมานั่งคิดนั่งโยงว่าอะไรยังไงไง มันคือซีรี่ส์เบาสมองตั้งแต่แรก

สุดท้ายหลังจากที่ตั้งสติดูย้อนแล้ว เข้าใจตัวละครแล้ว มันก็ทำให้รู้สึกว่าตอนตบอิ่มขึ้นมากว่าตอนดูสดมากขึ้น จริงๆนะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทำตอน Special มาอีกซักหน่อย เสนอในมุมของสารวัตรในช่วงของการแต่งเพลงนี้ อารมณ์ตอนห่างกับไทน์ไป ก็คงจะดีไม่น้อย คาดหวังว่าจะมีตอนพิเศษอยู่นะ เพราะถ้าเป็นไปได้ ถ้าไม่ติดโควิทและสามารถถ่ายซ่อมได้ เชื่อแหละว่า ต้องมีการถ่ายซ่อมแน่นอน
ให้คะแนนรวมซีรี่ส์อยู่ที่ 7 ละกัน หัก 3 คะแนนจาก 2 ตอนสุดท้ายที่ทำบทไม่ชัดเจนทำให้คนดูต้องมานั่งคิดเองออกเองว่าตัวละครรู้สึกอะไร ดีที่นักแสดงเล่นค่อนข้างชัดถึงมานั่งเก็บรายละเอียดแล้วรู้ว่าอะไรเป็นยังไง เรื่องนี้ถือซีรี่ส์ Y เรื่องแรกที่ได้ดูเต็มๆ ขอมอบความดีความชอบให้กับ เพลง Scrubb ก่อนเลยแล้วกัน ไม่รู้ว่าถ้าเรื่องนี้ไม่มีเพลง Scrubb จะพาผมให้ดูเรื่องนี้จนจบได้รึเปล่า อาจจะเทไปตั้งแต่สามสี่ตอนแรก เพราะเพลงมันดึงให้ Mood ของซีรี่ส์ดีขึ้นมาอีกระดับและมันพาผมเดินทางไปกับซีรี่ส์ด้วยอะ มันเลยทำให้ยิ่งอินเข้าไปอีก อย่างเพลง หนี นี่คือไม่เคยฟังเลย พอได้มาฟังในซีรี่ส์แล้วติดเพลงนี้เลยถึงมันจะหน่วงก็เถอะ แต่ฟังแล้วมันพาอารมณ์ไปไหนต่อไหนได้จริงๆ แล้วก็ขอบคุณพล๊อตเรื่องที่นำเพลงนี้มาใช้เป็นพล๊อต แล้วก็นักแสดงนำสองคน ที่ไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนอื่น มาเล่นเรื่องนี้จะให้ความรู้สึกแบบนี้รึเปล่า ในหลายๆซีนโดยเฉพาะตอนหลังๆ ถ้านักแสดงเอาไม่อยู่คือจบเลยนะ

เพลงนี้น่าจะเหมาะกับฟิลซีรี่ส์ตอนสุดท้ายสุดๆละ
[Recap คั่นกู EP.13] ไม่คาดหวังก็ยังผิดหวัง แต่ก็ขอบคุณ...
คือซีนนี้ที่ไบร์ทแสดงออกมาผมว่าโอเคเลย ให้ความรู้สึกที่สารวัตรทั้งกำลังเสียใจทั้งโมโหตัวเองที่ดูแลคนที่ตัวเองรักไม่ได้
เพลงก็พาบิ๊วไปอีก แบบเออคงรู้สึกผิดจริงๆจนแทบจะไม่มีหน้าไปหาเลยมั้งเพราะสิ่งที่พี่มิลพูดมามันจริงอะ
ซีนในโรงพยาบาลที่วินฝัน นี่ก็เดาไว้อยู่แล้วว่าฝัน จริงๆอะถ้าอยากให้นักแสดงโชว์ศักยภาพ สามารถใช้ซีนนี้เป็นซีนจริงและให้วินระบายความรู้สึกในใจออกมาแล้วให้สารวัตรปลอบได้ เชื่อว่ามันจะสามารถเรียกน้ำตาจากคนดูได้พอๆกับตอนที่วินร้องไห้กับพี่มิล แต่จะคนละฟิลกันเท่านั้นเอง จริงๆต้องชมวินอย่างมากเลยที่พาตัวละครไทน์มาได้ไกลขนาดนี้ ไกลจนถึงขั้นว่าคนดูพร้อมจะอินไปกับตัวละครไทน์ เมื่อไทน์ร้องไห้คนดูก็สงสารจับใจจนหน้ามืดตามัวเอาตัวเองเข้าไปแทนไทน์แล้วจินตนาการต่อว่าทำไมสารวัตรมันไม่คิดจะทำอะไรซักอย่างเลย ไทน์มันเสียใจมากนะเว้ย อะไรประมาณนี้ แล้ววินคือเล่นดีมากซีนร้องไห้ ซีนสะอื้นนี่อื้อหือมันปวดใจตามเลยอะ ยอมจริงๆ นักแสดงรุ่นนี้น้อยคนนะที่จะร้องไห้แล้วส่งออกมาถึงคนดูเยอะขนาดนี้ จะว่าอวยก็อวยเถอะ
ซีนนี้คงอารมณ์เดียวกับตอนที่ไทน์ไล่ให้สารวัตรเลิกยุ่งกับตัวเองใน EP.7 ก็คือเข้าใจตัวละครสารวัตรในระดับหนึ่งแหละแต่มันไม่ชัดเจน เรื่องนี้ต้องโทษคนเขียนบทกับผู้กำกับ คืออย่างซีน EP.7 ที่หายไปมันยังมีแฟลชแบ็คให้ดูว่าสารวัตรทำอะไรบ้างใน EP.11 ตอนที่หายไปแล้ววุ่นวายใจแค่ไหน แต่นี่คือไม่มีเลย มันทำให้เกิดความรู้สึกสงสัยในตัวสารวัตรไง คนเลยคิดไปในทางเดียวกัน
ชอบซีนที่ไทน์อยู่กับฟ่งนะ คือฟ่ง
ซีนบอกความในใจเหมือนจะทำให้ตัวละครแพมดูดีขึ้นอีกสเต็ป ตอนดูก็คิดนะว่า ไม่เลยยิ่งพูดแบบนี้ยิ่งทำให้ตัวละครแย่ลง
แต่มันก็มีเหตุของการกระทำหนะแหละ มันอาจจะเป็นสิ่งที่ติดค้างในใจแพมมานานแล้วเหมือนกันว่า ทำไมตอนสารวัตรชอบตัวเองทำไมถึงไม่ลงมือทำอะไรซักที ทั้งๆที่ตัวเองก็รออยู่ แต่เหตุผลก็คือ สารวัตรรู้สึกกับแพมไม่เหมือนรู้สึกกับไทน์ ซึ่งเหตุผลนี้มีเพียงไทน์ที่รู้เพราะสารวัตรบอกเอาไว้ใน EP.12 แพมเลยคิดว่า สารวัตรอาจจะยังมีความรู้สึกดีๆกับตัวเองอยู่จึงตั้งใจมาหาเหตุผลนั่นแหละ อาจจะไม่ได้ตั้งใจมาแย่งแค่อยากมาถามให้มันหายข้องใจ เพราะตัวเองยังมูฟออนไม่ได้และยังมีความหวังอยู่เพราะว่าเห็นสารวัตรกล้าบอกรักไทน์ก็คงคิดว่าคงกล้าบอกรักตัวเองแล้ว ซึ่งคิดผิด
ซีนเตะบอลต่างๆ คือเข้าใจนะว่าละครต้องการจะสื่อว่า สารวัตรคงไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแล้วจริงๆ ดนตรีก็เล่นไม่ออก การเตะบอลออกกำลังกายอาจจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่จะทำให้ความหงุดหงิดใจของตัวเองลดลง ไอ้อยากง้อก็อยากแหละแต่น่าจะยังรู้สึกผิดอยู่ คือตัวละครสารวัตรจีบเป็นอย่างเดียวแต่ง้อไม่เป็น เห็นตั้งแต่ EP.7 ละ และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งครั้งที่พี่มิลมาเรียกสติสารวัตร จึงทำให้สารวัตรกลับไปซ้อมดนตรีเพื่อไม่ให้มิลได้ที่ 1 จะได้ไม่ต้องขอไทน์เป็นแฟน คือถ้านี่เป็นเพื่อนในวงสารวัตรนะจะขอด่า ซัก 1 ชุดเลย 5555555 ไม่รู้หายไปกี่วันไทม์ไลน์ไม่ชัดเจน
ซีนขอกีต้านี่ก็ดีนะ จริงๆจะเห็นว่าตัวละครสารวัตรมันแสดงออกไม่เก่งแต่ไบร์ทใช้สายตาเก่งพอสมควรเลย จริงๆคืออยากง้ออะแหละ อยากเป็นลูกแมวพูดให้ไทน์ไปดูคอนเสิร์ตที่ตัวเองเล่น แต่ก็ไม่อยากไปเซ้าซี้อะไรกับไทน์มากเพราะไม่รู้ว่าไทน์ยังรู้สึกกับตัวเองเหมือนเดิมรึเปล่า วินเล่นซีนนี้ดีเหมือนกันจังหวะการหายใจตอนเดินไปหยิบกีต้าร์แบบมีกระตุกหน่อยๆ เหมือนคนฮึบอะไรไว้ข้างในแบบใจหายหนะ
ซีนที่คุยกับเพื่อน มีแค่ฟ่งคนเดียวหละมั้งที่รู้ว่ายังไงไทน์มันก็ต้องไปแน่ๆ แต่แค่ไม่อยากพูดอะไรเยอะให้ไทน์อยู่กับตัวเองจนกว่าจะคิดได้ดีกว่า
ซีนจัดของในห้องมันคืออารมณ์คนฟุ้งซ่านต้องหาอะไรทำอะ เออผมชอบฉากนี้ที่เค้าดีไซด์ออกมานะ ลองมานั่งดูย้อนแล้วมันเป็นซีนที่บ่งบอกว่า ตัวละครกำลังตัดสินใจ จะหักห้ามใจไม่ให้ตัวเองไป ให้ตัวเองใจแข็ง แต่ก็ยังอยากที่จะลองให้โอกาสอีกครั้งดู เลยตัดสินใจเลือกที่จะเปิดแฟลชไดรฟ์ที่แพมให้มาฟัง เพราะไม่อยากคาใจ
ซีนหลังเวทีที่สารวัตรพูดถึงไทน์ถึงแม้คำพูดจะดูไม่ค่อยง้อก็เถอะแต่สายตากับ body language ก็แสดงถึงความกังวลและกลัวว่าไทน์จะไม่มาจริงๆแต่อย่างน้อยก็ต้องเล่นเต็มที่เพื่อไม่ให้วงมิลได้ที่ 1
ตอนแรกโมโหและสงสัยเรื่องเพลงมากว่าทำไมถึงใช้เพลงนี้มาง้อไทน์หละ มันเป็นเพลงเศร้า เป็นเพลงอกหักมันไม่ใช่เพลงรักหนิ แต่ลองมาคิดดูไทม์ไลน์แล้ว เพลงนี้น่าจะถูกแต่งไว้นานแล้ว ตั้งแต่สมัย EP แรกๆ ซึ่งมันไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ไง ทำให้คนดูต้องมามโนเอา ต้องโทษคนเขียนบทว่าทำไมไม่เขียนขยายมาหน่อยตอนสารวัตรเล่นดนตรี แล้วแฟลชแบ็คกลับไปว่า เออไอ้เพลงนี้มันแต่งมาตอนไหน แล้วก็แฟลชแบ็คว่า ระหว่างที่ห่างกันสารวัตรมันทรมานแค่ไหน มันจะทำให้คนดูเข้าใจสารวัตรมากขึ้น แล้วมันจะส่งผลให้เราลุ้นให้ไทน์ยอมให้โอกาสมากกว่านี้ ไม่รู้ไอเดียคนเขียนบทคืออะไรแต่ไอเดียผมประมาณนี้ จริงๆผมดูซีรี่ส์มาเยอะ อะไรที่คนดูคิดไปในทางเดียวกันเนี่ย แล้วตรงกันข้าวกับสิ่งที่บทกำลังจะนำเสนอเนี่ย แสดงว่าเรื่องนั้นมันไม่ชัดเจนพอที่จะทำให้คนดูคิดไปในทางเดียวกันได้ คือมันไม่ใช่ซีรี่ส์ปลายเปิดที่จะต้องมานั่งคิดนั่งโยงว่าอะไรยังไงไง มันคือซีรี่ส์เบาสมองตั้งแต่แรก
สุดท้ายหลังจากที่ตั้งสติดูย้อนแล้ว เข้าใจตัวละครแล้ว มันก็ทำให้รู้สึกว่าตอนตบอิ่มขึ้นมากว่าตอนดูสดมากขึ้น จริงๆนะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทำตอน Special มาอีกซักหน่อย เสนอในมุมของสารวัตรในช่วงของการแต่งเพลงนี้ อารมณ์ตอนห่างกับไทน์ไป ก็คงจะดีไม่น้อย คาดหวังว่าจะมีตอนพิเศษอยู่นะ เพราะถ้าเป็นไปได้ ถ้าไม่ติดโควิทและสามารถถ่ายซ่อมได้ เชื่อแหละว่า ต้องมีการถ่ายซ่อมแน่นอน
ให้คะแนนรวมซีรี่ส์อยู่ที่ 7 ละกัน หัก 3 คะแนนจาก 2 ตอนสุดท้ายที่ทำบทไม่ชัดเจนทำให้คนดูต้องมานั่งคิดเองออกเองว่าตัวละครรู้สึกอะไร ดีที่นักแสดงเล่นค่อนข้างชัดถึงมานั่งเก็บรายละเอียดแล้วรู้ว่าอะไรเป็นยังไง เรื่องนี้ถือซีรี่ส์ Y เรื่องแรกที่ได้ดูเต็มๆ ขอมอบความดีความชอบให้กับ เพลง Scrubb ก่อนเลยแล้วกัน ไม่รู้ว่าถ้าเรื่องนี้ไม่มีเพลง Scrubb จะพาผมให้ดูเรื่องนี้จนจบได้รึเปล่า อาจจะเทไปตั้งแต่สามสี่ตอนแรก เพราะเพลงมันดึงให้ Mood ของซีรี่ส์ดีขึ้นมาอีกระดับและมันพาผมเดินทางไปกับซีรี่ส์ด้วยอะ มันเลยทำให้ยิ่งอินเข้าไปอีก อย่างเพลง หนี นี่คือไม่เคยฟังเลย พอได้มาฟังในซีรี่ส์แล้วติดเพลงนี้เลยถึงมันจะหน่วงก็เถอะ แต่ฟังแล้วมันพาอารมณ์ไปไหนต่อไหนได้จริงๆ แล้วก็ขอบคุณพล๊อตเรื่องที่นำเพลงนี้มาใช้เป็นพล๊อต แล้วก็นักแสดงนำสองคน ที่ไม่รู้ว่าถ้าเป็นคนอื่น มาเล่นเรื่องนี้จะให้ความรู้สึกแบบนี้รึเปล่า ในหลายๆซีนโดยเฉพาะตอนหลังๆ ถ้านักแสดงเอาไม่อยู่คือจบเลยนะ
เพลงนี้น่าจะเหมาะกับฟิลซีรี่ส์ตอนสุดท้ายสุดๆละ