Code : RX-78 NT-1
Weapons : 60mm Vulcan Gun x 2
90mm Gatling Gun x 2
BOWA.Norfolk XBR-L Type 2 Beam Rifle x 1
Blash.XB-B-09 Beam Saber x 2
Hyper Bazooka x 1
RX.C-Sh-05 UBC/S-003 Shield x 1
Chobham Armor Set x 1
Magnetic Coating x 1
Pilot : Christina Mackenzie
กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ล้มเหลวจากการรีวิว Gunner Zaku Warrior จากกระทู้ก่อนหน้า ก็ขอมีรีวิวกันต่อ ในช่วงที่จะรวิว ก็ยังเป็นช่วงที่ไวรัส COVID-19 ยังระบาดอยู่ แม้ว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่เริ่มดีขึ้นแล้ว ร้านค้าต่างๆ เริ่มดำเนินกิจการต่อไป ก็มาที่ Gunpla จาก OVA เรื่องเก่าที่ได้รับการพัฒนาใหม่จาก Ver. 1.0 ที่ออกเมื่อช่วงปี 1999 (นับว่านานอยู่) เอาล่ะ ลุยกันได้ ไม่พล่ามนานล่ะ
Box Art เหมือนมีนัยยะแอบแฝงอยู่นะว่าต้องจัด Zaku II Kai (RE/100) มาด้วยถึงจะรวมฉากศึกตัดสินได้
สนนราคาก็อยู่ที่ 5,800 Yen (ราคาสูงอยู่)
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 1,766 บาท (ไม่รวมค่าหิ้วและภาษี)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,800- 2,000 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : เดือน 6 ปี 2019
ด้านข้าง มีความหนาเอาเรื่องอยู่
เปิดกล่องปุ๊บ รู้สึกได้ว่าเต็มกล่องเลย
ซองห่อแผงรันเนอร์ที่ให้มา มีทั้งหมด 11 ซอง
จำนวนแผงที่ให้มาทั้งหมด มีอยู่ 22 แผง โดยมีแผง N เป็นแผงเคลือบเงินมาให้เลย
ส่วนแผง K ก็เอามาจากของ RX-78-2 ตั้งแต่ Ver. 2.0 แล้ว แต่ใช้แค่ไม่กี่ชิ้นเอง
สติกเกอร์ที่ให้มา มี 2 แบบ ดังนี้
1. สติกเกอร์ฟอยล์ และ
2. Marking Seal อย่างละ 1 แผ่น
ส่วนที่อยู่ในถุงเหลืองๆ ถ้าใครเคยประกอบ Full Armor Gundam [Gundam Thunderbolt] (MG Ver. Ka) ก็น่าจะคุ้นเคย เพราะเป็นถุงขยะใช้หุ้มข้อต่อนี่แหละ แต่รายนี้ใช้แค่ข้อต่อช่วงไหล่เท่านั้นเอง
ใบต่อ เอา Box Art มาใช้
อาวุธมาตรฐานก่อนเลย
ตัว Beam Rifle ถอดแมกกาซีนออกได้
Bazooka ไม่มีอะไรพิเศษ
และโล่ก็เปิดข้างหน้าขึ้นได้ แต่ไม่รู้ว่าจะเปิดมากขนาดนั้นไปเพื่อ...!?
มาที่ช่วงลำตัวท่อนบนกันหน่อย คือที่กังวล คือส่วนที่เป็นชิ้นส่วนกลมๆ ที่ไหล่ ซึ่งชิ้นส่วนจะเล็กมาก ต้องระวังไม่ให้หล่นเข้าหลุมดำ ที่ปาก็ทำร่องมาให้ด้วยนะ และส่วนเขา ก็ให้มา 2 แบบ แต่ใช้ได้จริงแค่แบบเดียวเท่านั้น
ด้านหน้า
ด้านซ้าย ถุงขยะที่ใช้หุ้มข้อต่อส่วนไหล่
ด้านขวา
ด้านหลัง
จุดขยับที่ไหล่ก็กางได้มาก
ส่วนจุดขยับที่ข้อศอกก็พับได้มา ส่วนข้อต่อที่ข้อมือ มีหลายคนเคยเล่าไว้ว่าเคยทำหักมาแล้ว ลองขัดที่ข้อต่อก่อนประกอบดู เผื่อจะช่วยได้ แต่ว่าอย่าขัดนานไป ไม่งั้นมันจะหลวมเกินไป
อาวุธประจำตัวอย่าง Gatling Gun ที่แขนก็ทำสีเงินสวยเช้งเลย
วิธีเปิดคอกพิทแบบแรก คือเลื่อนฝาขึ้นไปด้านบน ซึ่งก็ต้องใช้แหนบช่วยเขี่ยขึ้นไปหน่อย
วิธีการเปิดคอกพิทอีกแบบนึง คือยกทั้งฝาเลย ซึ่งง่ายกว่าแบบแรก
ตามมาด้วยลำตัวช่วงล่างกันบ้าง เราคิดว่าดูเพรียวกว่าแบบ MG Ver. 1.0 น
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง เห็นโครงในสีเทาอ่อนแบบนี้ ทำให้นึกถึง Gunpla รุ่นเก่าที่ใช้โครงในสีแบบนี้เลย
จุดขยับที่เป้าก็กางได้สุดๆ
ส่วนที่เข่าก็พับได้สุดๆ
แ่เวลานั่งคุกเข่า กลับดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไรนัก
ที่กระโปรงหน้า เลื่อนลงไว้ใส่เกราะ Chobham
ทีนี้ก็เป็นตัวกันซะที ดูแล้วมันช่างหล่อกว่าแบบ MG Ver. 1.0 ล่ะนะ
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ให้มาท้ังหมด มีดังนี้
1. 60mm Vulcan Gun x 2 ea
2. 90mm Gatling Gun x 2 ea (อยู่ในแขน)
3. Beam Rifle x 1 ea
4. Beam Saber x 2 ea
5. Shield x 1 ea
6. Bazooka x 1 ea
7. ชิ้นส่วนเขาแบบปกติกับเขาหัก อย่างละ x 1 ea
8. ชิ้นส่วนหน้ากาก x 1 ชุด (ของแถม)
9. ชิ้นส่วนมือกำมิด x 1 คู่
10. ชิ้นส่วนมือกำ Beam Saber x 1 คู่
11. มือกำ Beam Rifle x 1 คู่
12. มือแบ x 1 คู่
13. ฟิกนาง Christina Mackenzie x 1 ea (อยู่ในคอกพิท)
14. ฟิกนาย Bernard (Bernie) WIseman x 1 ea และ
15. ฟิก Alfred x 1 ea
กองนี้เป็นชิ้นส่วนผนังภายในของเกราะ Chobham ซึ่ง MG Ver. 1.0 ไม่มีสิ่งนี้
และกองนี้ก็เป็นชิ้นส่วนเกราะ Chobham ซึ่งเดี๋ยวจะมีให้ชมกันต่อไป
Action กันได้
เริ่มสวมเกราะกันได้ แต่ต้องเริ่มขึ้นโครง Inner Walls ก่อน ก็ให้อารมณ์เหมือนสิ่งก่อสร้างที่กำลังก่อตัว
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
สวมเกราะ Chobham โดยสมบูรณ์แล้ว คือส่วนมากจะประกบชิ้นส่วนเกราะเข้าไป ยกเว้นส่วนอกที่ต้องถอดชิ้นส่วนผนังออกเพื่อใส่ชิ้นส่วนเกราะเข้าไป
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
ลองเปิด Open Hatch บ้าง บางจุดก็เปิดง่ายหน่อย คือมีที่งัดขึ้น
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
Action ต่ออีก
[CR] Review : บทสรุปของศึกชี้ชะตาแห่งโศกนาฏกรรม RX-78 NT-1 [Alex] Gundam (MG 1:100 Ver. 2.0)
Weapons : 60mm Vulcan Gun x 2
90mm Gatling Gun x 2
BOWA.Norfolk XBR-L Type 2 Beam Rifle x 1
Blash.XB-B-09 Beam Saber x 2
Hyper Bazooka x 1
RX.C-Sh-05 UBC/S-003 Shield x 1
Chobham Armor Set x 1
Magnetic Coating x 1
Pilot : Christina Mackenzie
กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ล้มเหลวจากการรีวิว Gunner Zaku Warrior จากกระทู้ก่อนหน้า ก็ขอมีรีวิวกันต่อ ในช่วงที่จะรวิว ก็ยังเป็นช่วงที่ไวรัส COVID-19 ยังระบาดอยู่ แม้ว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่เริ่มดีขึ้นแล้ว ร้านค้าต่างๆ เริ่มดำเนินกิจการต่อไป ก็มาที่ Gunpla จาก OVA เรื่องเก่าที่ได้รับการพัฒนาใหม่จาก Ver. 1.0 ที่ออกเมื่อช่วงปี 1999 (นับว่านานอยู่) เอาล่ะ ลุยกันได้ ไม่พล่ามนานล่ะ
Box Art เหมือนมีนัยยะแอบแฝงอยู่นะว่าต้องจัด Zaku II Kai (RE/100) มาด้วยถึงจะรวมฉากศึกตัดสินได้
สนนราคาก็อยู่ที่ 5,800 Yen (ราคาสูงอยู่)
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 1,766 บาท (ไม่รวมค่าหิ้วและภาษี)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,800- 2,000 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : เดือน 6 ปี 2019
ด้านข้าง มีความหนาเอาเรื่องอยู่
เปิดกล่องปุ๊บ รู้สึกได้ว่าเต็มกล่องเลย
ซองห่อแผงรันเนอร์ที่ให้มา มีทั้งหมด 11 ซอง
จำนวนแผงที่ให้มาทั้งหมด มีอยู่ 22 แผง โดยมีแผง N เป็นแผงเคลือบเงินมาให้เลย
ส่วนแผง K ก็เอามาจากของ RX-78-2 ตั้งแต่ Ver. 2.0 แล้ว แต่ใช้แค่ไม่กี่ชิ้นเอง
สติกเกอร์ที่ให้มา มี 2 แบบ ดังนี้
1. สติกเกอร์ฟอยล์ และ
2. Marking Seal อย่างละ 1 แผ่น
ส่วนที่อยู่ในถุงเหลืองๆ ถ้าใครเคยประกอบ Full Armor Gundam [Gundam Thunderbolt] (MG Ver. Ka) ก็น่าจะคุ้นเคย เพราะเป็นถุงขยะใช้หุ้มข้อต่อนี่แหละ แต่รายนี้ใช้แค่ข้อต่อช่วงไหล่เท่านั้นเอง
ใบต่อ เอา Box Art มาใช้
อาวุธมาตรฐานก่อนเลย
ตัว Beam Rifle ถอดแมกกาซีนออกได้
Bazooka ไม่มีอะไรพิเศษ
และโล่ก็เปิดข้างหน้าขึ้นได้ แต่ไม่รู้ว่าจะเปิดมากขนาดนั้นไปเพื่อ...!?
มาที่ช่วงลำตัวท่อนบนกันหน่อย คือที่กังวล คือส่วนที่เป็นชิ้นส่วนกลมๆ ที่ไหล่ ซึ่งชิ้นส่วนจะเล็กมาก ต้องระวังไม่ให้หล่นเข้าหลุมดำ ที่ปาก็ทำร่องมาให้ด้วยนะ และส่วนเขา ก็ให้มา 2 แบบ แต่ใช้ได้จริงแค่แบบเดียวเท่านั้น
ด้านหน้า
ด้านซ้าย ถุงขยะที่ใช้หุ้มข้อต่อส่วนไหล่
ด้านขวา
ด้านหลัง
จุดขยับที่ไหล่ก็กางได้มาก
ส่วนจุดขยับที่ข้อศอกก็พับได้มา ส่วนข้อต่อที่ข้อมือ มีหลายคนเคยเล่าไว้ว่าเคยทำหักมาแล้ว ลองขัดที่ข้อต่อก่อนประกอบดู เผื่อจะช่วยได้ แต่ว่าอย่าขัดนานไป ไม่งั้นมันจะหลวมเกินไป
อาวุธประจำตัวอย่าง Gatling Gun ที่แขนก็ทำสีเงินสวยเช้งเลย
วิธีเปิดคอกพิทแบบแรก คือเลื่อนฝาขึ้นไปด้านบน ซึ่งก็ต้องใช้แหนบช่วยเขี่ยขึ้นไปหน่อย
วิธีการเปิดคอกพิทอีกแบบนึง คือยกทั้งฝาเลย ซึ่งง่ายกว่าแบบแรก
ตามมาด้วยลำตัวช่วงล่างกันบ้าง เราคิดว่าดูเพรียวกว่าแบบ MG Ver. 1.0 น
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง เห็นโครงในสีเทาอ่อนแบบนี้ ทำให้นึกถึง Gunpla รุ่นเก่าที่ใช้โครงในสีแบบนี้เลย
จุดขยับที่เป้าก็กางได้สุดๆ
ส่วนที่เข่าก็พับได้สุดๆ
แ่เวลานั่งคุกเข่า กลับดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไรนัก
ที่กระโปรงหน้า เลื่อนลงไว้ใส่เกราะ Chobham
ทีนี้ก็เป็นตัวกันซะที ดูแล้วมันช่างหล่อกว่าแบบ MG Ver. 1.0 ล่ะนะ
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ให้มาท้ังหมด มีดังนี้
1. 60mm Vulcan Gun x 2 ea
2. 90mm Gatling Gun x 2 ea (อยู่ในแขน)
3. Beam Rifle x 1 ea
4. Beam Saber x 2 ea
5. Shield x 1 ea
6. Bazooka x 1 ea
7. ชิ้นส่วนเขาแบบปกติกับเขาหัก อย่างละ x 1 ea
8. ชิ้นส่วนหน้ากาก x 1 ชุด (ของแถม)
9. ชิ้นส่วนมือกำมิด x 1 คู่
10. ชิ้นส่วนมือกำ Beam Saber x 1 คู่
11. มือกำ Beam Rifle x 1 คู่
12. มือแบ x 1 คู่
13. ฟิกนาง Christina Mackenzie x 1 ea (อยู่ในคอกพิท)
14. ฟิกนาย Bernard (Bernie) WIseman x 1 ea และ
15. ฟิก Alfred x 1 ea
กองนี้เป็นชิ้นส่วนผนังภายในของเกราะ Chobham ซึ่ง MG Ver. 1.0 ไม่มีสิ่งนี้
และกองนี้ก็เป็นชิ้นส่วนเกราะ Chobham ซึ่งเดี๋ยวจะมีให้ชมกันต่อไป
Action กันได้
เริ่มสวมเกราะกันได้ แต่ต้องเริ่มขึ้นโครง Inner Walls ก่อน ก็ให้อารมณ์เหมือนสิ่งก่อสร้างที่กำลังก่อตัว
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
สวมเกราะ Chobham โดยสมบูรณ์แล้ว คือส่วนมากจะประกบชิ้นส่วนเกราะเข้าไป ยกเว้นส่วนอกที่ต้องถอดชิ้นส่วนผนังออกเพื่อใส่ชิ้นส่วนเกราะเข้าไป
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
ลองเปิด Open Hatch บ้าง บางจุดก็เปิดง่ายหน่อย คือมีที่งัดขึ้น
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
Action ต่ออีก
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้