เคล็ดลับสร้างความมั่งคั่งฉบับง่ายด้วย 6 Jars แถมเทคนิคดี ๆ ที่ใช้งานได้จริง

เคล็ดลับสร้างความมั่งคั่งฉบับง่ายด้วย 6 Jars แถมเทคนิคดี ๆ ที่ใช้งานได้จริง ฝึกไว้แม้ช่วง Covid-19 

มาถึงยุคที่วิกฤติการเงินถาโถมแบบเร่งด่วน ที่กระทบทุกระดับไม่ว่าจะเป็นประชาชนทั่วไปหรือแม้แต่รัฐบาล นั่นแปลว่า การระบาดของโรคโควิด 19 นี้เป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาทางการเงินตั้งแต่ระดับจุลภาคจนถึงมหภาค อ่านตามบทความหรือข้อความที่ปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Blockdit, หรือแม้แต่วีดีโอคลิปที่ออกในช่องทางชื่อดังอย่าง YouTube ต่างเห็นเป็นทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ถดทอย ซบเซาจะยังอยู่กับโลกนี้ไปอีกสักระยะ ซึ่งเป็นระยะที่ยาวระดับกลางนั่นคือ ประมาณ 12 เดือนขึ้นไป กล่าวง่าย ๆ ว่าการที่ประชาชนจะกลับมาใช้ชีวิตกันแบบปกตินั้น น่าจะยังคงต้องใช้เวลาจนกว่าการนำมาซึ่ง ยารักษารวมถึงวัคซีนโรค Covid-19 ได้นำมาใช้และได้ประสิทธิภาพจริง

จนถึงตอนนี้ หลายคนเริ่มที่จะสามารถตั้งตัวได้ แต่อีกหลายคนก็ยังอาการน่าเป็นห่วง การที่จะมองเห็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับทุกคนนั้น เป็นไปได้ยาก เราอยากที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแบ่งปันความรู้ดี ๆ ที่ใช้ได้จริง เพื่อที่จะนำความรู้ไปใช้แบบคู่ขนานทั้งการมองหาโอกาสและการจัดการกับระบบการเงินของตัวเอง บอกได้เลยว่า เคล็ดลับที่หลายคนไม่เคยสนใจ สามารถพลิกให้บางคนที่เป็นหนี้สามารถหมดหนี้และกลับมาตั้งตัวได้ หรือบางคนที่ไม่เคยมีเงินเก็บสามารถที่จะเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำ

เทคนิคที่เราอยากนำกลับมาเสนอพร้อมวิธีการที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ชื่อว่า 6 Jars ของกูรูด้านการเงินระดับโลกอย่าง T. Harv Eker หลายคนที่เราแนะนำเทคนิคบอกว่า เคยได้ยินผ่าน ๆ แต่ไม่สนใจ บางคนก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่พอได้รับคำแนะนำ กลับทำให้เห็นวิธีการที่สามารถทำให้เกิดเงินออมเพื่อการต่อยอดไปสู่อิสระภาพทางการเงินได้  เมื่อเห็นว่าผลลัพธ์นี้เป็นสิ่งที่น่าลองและง่ายสำหรับการลงมือทำ ถึงเวลาที่จะมาเรียนรู้หลักการ 6 Jars หรือ โถทั้ง 6 ใบกัน ส่วนการปรับนำไปใช้จะอยู่ส่วนท้าย เนื่องจากต้องเข้าใจหลักการก่อนแล้วจึงนำไปปรับใช้ตามความต้องการของแต่ละท่านได้

หลักการ 6 Jars จะประกอบด้วย โถทั้ง 6 ใบ ดังนี้
Jar ที่ 1 Necessity Account 55% ใช้จ่ายตามความจำเป็น ตัวอย่างรายการมีดังนี้ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ค่าเดินทาง
Jar ที่ 2 Financial Freedom Account 10% เพื่ออิสรภาพการเงิน ตัวอย่างรายการมีดังนี้ ใช้เงินทำงาน การลงทุน ซื้อกองทุน พันธบัตร ประกัน ทองคำ
Jar ที่ 3 Long Term Saving For Spending Account 10% เพื่อใช้จ่ายระยะยาว ตัวอย่างรายการมีดังนี้ ซื้อบ้าน การซื้อรถ ค่าเรียนลูก
Jar ที่ 4 Education Account 10% เพื่อการศึกษา ตัวอย่างรายการมีดังนี้  ต่อยอดความรู้ คอร์สเรียน คอร์สเรียนออนไลน์ ซื้อหนังสือ เพิ่มทักษะใหม่ พัฒนาตัวเอง
Jar ที่ 5 Play Account 10% เพื่อให้รางวัลตัวเอง ตัวอย่างรายการมีดังนี้ รับประทานอาหารในร้านหรู สั่งอาหารดี ๆ มารับประทานที่บ้าน ซื้อของที่อยากได้ ดูหนัง ซื้อเครื่องประดับ
Jar ที่ 6 Give Account 5% เพื่อส่วนรวม ตัวอย่างรายการมีดังนี้ การให้ผู้อื่น การกุศล บริจาค การทำอาหารแจก ของขวัญ

เมื่อรู้หลักการสำหรับการบริหารการเงินแบบ 6 Jars แล้วก็มาสู่ภาคปฎิบัติกัน 
เพราะหลายคนน่าจะนึกในใจว่า ตอนนี้ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน หรือบางคนอาจจะต้องหารายได้กันรายวัน แบบนี้จะมั่งคั่งได้อย่างไร ในกรณีผู้ที่ยังได้รับเงินเดือนก็สามารถที่จะนำหลักการนี้มาใช้ได้เลย โดยการกำหนดระยะเวลาที่สะดวก เช่น ทำรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน แต่ไม่ควรเกินจากรายเดือนเพราะต้องอาศัยวินัย ความสม่ำเสมอในการสร้างนิสัย ในกรณีที่เป็น Freelance สามารถที่จะกำหนดเป็นระยะเวลาที่สะดวก หรือเมื่อได้รับเงินก้อนจากผลงานการว่าจ้างได้ 

ตัวอย่างเช่น ผู้ที่มีรายได้ประจำเดือนละ 10,000 บาท เมื่อได้รับเงินเดือนให้ทำการแบ่งเงินเป็น 6 ส่วนใส่ในบัญชีหรือใส่ในโถ แก้ว หรือ กล่องแล้วแต่สะดวก เงินก้อนใหญ่ที่สุดคือ ความจำเป็นแบ่งออกมา 5,500 บาทให้ใช้เงินนี้สำหรับการดำรงชีวิต เงินบริจาค 500 บาท และอีก 4 ประเภทให้แยกไว้ที่ 1,000 บาท ในกรณีที่เงินจำเป็นไม่เพียงพอและมีความต้องการใช้เพิ่ม สามารถนำเงินจากกองอื่นมาใช้ก่อน แต่ต้องสัญญากับตัวเองว่า เมื่อได้เงินก้อนใหม่มาจะต้องเติมกลับคืนกองนั้น ๆ 

สำหรับอัตรส่วนที่มากเกินไป สามารถที่จะปรับได้ เช่น กรณีที่เงินไม่เพียงพอหรือยังคงมีหนี้สินอยู่ สามารถที่จะกำหนดเป็นเลขคงตัว เช่น เงินทำบุญเดือนละ 100 บาท เงินออมระยะยาวเดือน 500 บาทตามแต่ความสะดวกของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม เมื่อกำหนดแล้วต้องพยายามทำให้ได้เพื่อเป็นการสร้างวินัยให้กับตัวถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

หลายคนอาจมองว่าเป็นเงินเล็กน้อย เราขอนำเสนอตัวอย่างให้เห็นภาพกัน หลายคนอาจจะมีความฝันในการไปเที่ยวต่างประเทศ แต่เก็บเงินเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถทำได้สักที แต่ถ้าเก็บเงินเดือนละ 1,000 บาท เพียงปีเดียวก็ได้เงินจำนวน 12,000 บาทซึ่งสามารถเที่ยวได้ในประเทศเพื่อนบ้านไกลถึงสิงคโปร์ หรือเวียดนามได้แล้ว หรือถ้าเงินนี้ยังมากเกินไป อาจจะปรับเป็น สัปดาห์ละ 200 บาท เพราะเมื่อแบ่งเป็นก้อนที่เล็กลงแต่ความถี่มากขึ้น จะสามารถทำให้การเก็บเงินนั้นมากขึ้น เมื่อเก็บเงินสัปดาห์ละ 200 บาท ในหนึ่งปีก็มีเงินเก็บถึง 10,200 บาท เงินก้อนนี้สามารถนำไปลงทุนซื้อกองทุนรวมหรือทองคำได้อย่างสบายและทำให้รู้สึกไม่หนักมากในการเก็บเงินเพื่อใช้เงินต่อเงิน

และสำหรับท่านที่ต้องใช้เงินตัวเองล่วงหน้าสำหรับการทำงานในบริษัท เรามีข้อแนะนำคือ การจดว่ารายการแต่ละรายการเป็นค่าใช้จ่ายบริษัท เมื่อเบิกเงินจากบริษัทคืนมาได้แล้ว ให้นำกลับมาคืนโถที่เราได้นำเงินมาใช้ เพียงเท่านี้การจัดการเงินเพื่อความมั่งคั่งก็สามารถทำได้ในยุควิกฤติโควิด 19 แล้ว และ

ถ้ายังเห็นว่าเป็นเงินที่มากอยู่แนะนำว่า ลองหยอดธนบัตรขนาด 20 บาท หรือเก็บเหรียญใส่แต่ละกล่องทุกวันดู เพียงไม่นาน คุณจะต้องประหลาดใจกับจำนวนเงินที่คุณไม่คิดว่าจะเก็บได้เป็นแน่ เพราะหลายคนสามารถเก็บเศษเงินได้เป็นหลักหมื่นเลยทีเดียว ลองนำเคล็ดลับ 6 Jars นี้ไปใช้ดูนะคะ สนใจแหล่งความรู้อ่านต่อใน Link นี้ได้ค่ะ แหล่งความรู้ สำหรับเทคนิคนี้ใครอยากดูแบบคลิปวีดิโอดูต่อได้ตามสะดวกค่ะ 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่