มาแชร์ประสบการ์ณพาพี่ชายไปรักษาบำบัดยาเสพติด ที่ธัญญารักษ์ ปทุม กับ ไปรักษาจิตเวชต่อที่สถาบันกัลยาราชนครินทร์ สาย4

วันนี้เรามาแชร์ประสบการ์ณ การพาพี่ชายติดยาเสพติด(ยาไอซ์) ไปบำบัดที่ รพ ธัญญารักษ์ ปทุมธานี โดยใช้สิทธิ30 บาท เข้ารักษาวันแรก วันที่ 22 เมษายน 2563
พี่เรามีอาการที่ผิดสังเกตอย่างรุนแรง เมื่อต้นเดือนเมษายน 2563 ตอนนี้อายุ 26 ใช้ยาเสพติดมา 3ปีกว่าได้(เขาบอกจนท ตอนแจ้งรายละเอียดเอง) แต่อาการของพี่ขั้นรุนแรงมาก เป็นช่วงโควิด จนท ที่นี่ก็บ่นว่าอาจให้แอดมิทไม่ได้ แต่มันขึ้นอยู่กับหมอ สุดท้ายก็ได้อยู่ เพราะพี่มีอาการหูแว่ว ได้ยินเสียงคนคุยกัน และหลอน ทำร้ายร่างกายเรา(แต่ไม่ได้มาก)  แต่เพราะตอนนั้นยึดอุปกรณ์และยา เพราะพ่อไปเห็บกับตาตอนเสพ เราด้วย ตกใจมาก
- มาตรงนี้ขออธิายเรื่องโควิด19 คือช่วงก่อนต้นเดือนเมษา 2563 ที่รู้ว่าพี่มีอาการแปลกๆเพราะยาเสพติด เราพยายามหารพ ในจังหวัด ศูนย์ต่างๆตอนนี้มันปิด และสถานที่ที่พาคนติดยา แบบโดนตำรวจจับไปฝึก อันนั้นก็ปิด และเสียประวัตื ซึ่งตอนนั้นเครียดกันมากเพราะหาข้อมุลที่ที่จะส่งไปอาการมันรุนแรงขึ้นทุกวัน จะมีอาการ 1.พูดจาไม่รู้เรื่อง 2. อารมณ์เสียง่าย 3. อาละวาดเสียงดัง และต้องเงินเพื่อไปซื้อยา 
ในหลังจากที่พ่อจับได้คาตา ก็ยึดของ แล้วหลังจากนั้นแหละ จะมีอาการต้องการยาเป็นช่วงๆคือ ตอนบ่าย และกลางคืน จนอาละวาดต้องเรียกตำรวจมาช่วยแต่ตำรวจในที่นี้เขาดันรู้จักกับพ่อและเห็นเห็นพี่เป็นหลานสงสาร เพราะจะให้ไปขังคุก ตอนนั้นคิดว่าพี่คงคิดได้ แต่สมองพี่เรามันโดนฤทธิ์ยาควบคุมไปแล้ว ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่ามันเกินจะมีความคิด เพราะพี่เรามันยอมไปอยู่คุก ไปแบบง่ายๆ ซึ่งการขัง มันต้องมีอาการรุนแรง หรือคนที่มีความผิดที่ต้องโทษมีการขังจริงๆ แต่ตอนตำรวจมาพี่เราไม่มีอาการก้าวร้าวเหมือนตอนอยู่กับคนในบ้าน เขาจึงขังไม่ได้ และปล่อยตัวมา จนสุดท้ายได้ส่งตัว ทำเรื่องให้รพ จังหวัดส่งไปตัว ธัญญารักษ์ 
จะบอกเลยว่า เวลาชวนพี่ไปรพ มันไปง่ายมาก เราก็บอกนะว่าวันนี้จะพาไปรพ นี้ๆ เขาก็บอกโอเคไปสิ ไม่มีการหงุดหงิด (เพราะได้ใช้ยา) แล้วพอไปรพ ธัญญารักษ์ ก็เช่นกัน ยอมไปง่ายๆ แล้วก็พูดว่า ตัวเองปกติ จะพาพี่ไปทำไม แต่ก็ดีพี่เบื่อบ้าน แถวนั่นถิ่นพี่ ของถูกด้วย(หมายถึงยา)
- พอไปถึงก็รอตรวจตามอาการ และได้เข้ารักษา มีจนท มาช่วยเปลี่ยนชุด และพาไปที่ตึกเพชร1บอกก่อนเลยเขาห้ามมีอะไรติดตัวไปแบบรักษาตัวเปล่า เสื้อผ้าที่ใส่ก็เอากลับบ้าน ให้ได้แค่แว่นสายตาอะไรพวกนี้ พี่เราสายตาสั้นแต่ตอนนั้นใส่คอนเทค จนทเขาก็ต้องให้ถอด แล้วพอดีไม่ได้เอาแว่นสายตามาเพราะมันทำหัก
อันนี้เขาจะมีเป็นขั้นตอนรักษาอย่างงี้ 1 เดือนคือรักษาเอาพิษออกจากร่างกาย หรือเอาสารเสพติดก่อนด้วยการบำบัด และขั้นต่อไปคือคอสฟื้นฟู(แต่พี่เราอยู่ไม่ถึง)  อยู่ได้3 อาทิตย์  โทรถามอาการกับพยาบาล จนท ตลอด และต้องจ้างคนเฝ้าเพราะอยู่แรกๆอาการจะก้าวร้าวต้องมีคนดูตลอด กะละ400 บาท มี3 กะ ตอนแรกเขาแนะนำให้เฉยๆ ก็เลยจ้างไป3 วันแรก 2กะ ก็800 บาท ช่วงแรกๆพี่ไม่มีอาการรุนแรงมากแค่หงุดหงิด จนพอผ่านมาเกือบอาทิตย์ จนท พยาบาลโทรมาให้จ้างเพิ่มอีก เพราะพี่อาการรุนแรงขึ้น พอต่อมา เข้าอาทิตย์ที่2 พี่ก็ยังอาการแรงอยู่ คือ ทำร้ายผู้ป่วยข้างใน แล้วก็ทำร้ายเจ้าหน้าที่ เพราะตอนเขาไปลอค พี่เราก็จะโต้ตอบแบบนี้ เวลาจับตัวพี่เรา ต้องใช้4-5 คน เพราะหุ่นพี่เราคือ ออกกำลังกาย เล่นกล้าม ทำให้แรงเยอะมาก และทำลายข้าวของ จนจนท ต้องจับมัดกับเตียง และใส่แพมเพิส และจนเข้าอาทิตย์ที่3 จนท โทรมาเกริ่นว่าอาการยังไม่ดีขึ้นจ้างคนเฝ้าตลอด และบอกแม่เราว่า อาจจะส่งตัวไปรักษาจิตเวช ที่รพ สมเด็จเจ้าพระยา คลองสาน(อันนี้ทุกคนคงเริ่มสงสัย ทำไมหัวข้อกระทู้คือ กัลยาฯเดี๋ยวจะอธิบายการทำงานของรพ ธัญญารักษ์ที่ผิดพลาด)
เรากับแม่ก็โอเคได้ เพราะพี่อาการไม่สงบเลย จนวันต่อมาเขาโทรมาแจ้งว่าต้องส่งไปรักษาจิตเวชเลยเพราะพี่มีอาการทางจิตแล้ว และสารเสพติดในร่างกายไม่มีแล้ว พูดเหมือนว่าหมดหน้าที่รักษาเขาเรื่องยาเสพติด เพราะส่งให้รพ จิตเวชโดยตรงเลยเขาเป็นรพ รักษาโรคนี้โดยตรง และเราต้องมารับตัวคนไข้ที่นัดคือวันที่12 พ.ค 2563 ไปที่รพ เจ้าพระยาเอง โดยจ้างรถฉุกเฉิน จากข้างนอกมา เพราะกลัวว่าพี่จะมีอาการก้าวร้าวตอนไป หลังจากนี้ขอพูดถึงเรื่อง การประสานงานของจนท รพ ธัญญารักษ์ ก่อนนะ
- 1. โทรมาแจ้งให้ไปที่รพ ธัญญารักษ์ โดยตรงเลยแล้วต้องมาทำเรื่องส่งตัวที่รพ จังหวัดต่อ (ซึ่ง เรารู้สึกให้วิ่งจาก เพชรบุรี เราอยู่เพชรบุรี ไปกทม แล้วก็ขึ้นไปกทม อีกในวันนั้น เนี่ยนะ )
- 2. ในขณะที่เดินทางไปค้างกทม ก่อนวันไปรับคือคืนวันที่11 พ.ค 2563 ประมาน 1 ทุ่มกว่า มีจทน โทรมาบอกให้ไปรพ จังหวัดเลย ณ ตอนนั้นนี่แบบไม่น่าเดินทางมาก่อนเลยเรากับแม่ให้พี่ชายอีกคนช่วยขับรถพาไปเพราะขับไม่เป็นทั้งคู่และเขาทำงานอยู่กทม
- 3. พอวันที่ไปทำเรื่อง รพ จังหวัดทำให้ไม่ได้ต้องให้รพ อำเภอเราทำ เราจึงต้องขับมาที่เขตอำเภอตัวเองอีก ตอนนั้นบอกเลยเริ่มหงุดหงิด พอมารพ ชะอำ อำเภอเราอาศัย เขาก็บอกเขาเป็นเขตเล็กๆทำให้ไม้ได้ ต้องจังหวัดทำ ตอนนั้นอารมณ์เสียมาก แล้วคือแม่เราก็คุยกับจนท ทางธัญญารักษ์ ยังไงไม่รู้ ไปๆมาๆ ไปพระจอมเกล้า เขาก็ไม่ทำให้เพราะคนไข้อยู่ที่นั่น ทำไมต้องมานี่ให้รพ ธัญญารักษ์ส่งไปสิ แล้วเราติดต่อเรื่องใช้สิทธ 30 รักษาด้วย บอกเลยตอนนี้งงมาก ไม่พิมละกันเพราะตอนนี้ยังสับสนอยู่ และสุดท้าย จนท ธัญญารักษ์โทรมาบอกให้มาที่รพ เลย คือสรุปเมื่อวานจนท คนละคนแถมประสานงานกันผิดจนทำให้เสียเวลามาก เขามาอธิบายตอนหลังว่า ที่ให้ไปรพ จังหวัดให้ไปถามสิทธ และเรื่องส่งตัวด้วย เขาจะแฟกซ์ใบส่งตัวของทางนี้ ไปให้รพ จังหวัด และอำเภอเรา แต่ตอนนั้นเขาคุยกับแม่แล้วแม่ไม่ได้บอกเรา เราก็ยอมรับไม่เข้าใจเท่าไหร่คิดว่ามาขอใบเหมือนครั้งแรกง่ายๆซึ่งยากมาก แล้วแม่ก็ไม่ไม่ได้ให้เบอร์แฟกซ์เขาไปแม่บอกไม่ต้อง ตอนที่แม่เข้าไปคุยกับ รพ อำเภอ จังหวัด เขาให้เข้าได้คนเดียว แม่เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้ ก็ยอมรับผิดที่การสื่อสารของเราด้วย
- 4. พอมาถึงรพ ธัญญารักษ์ รับตัว จนท บอกให้ญาติคิดคำ คำเปราะชวนให้เขาไปให้ยอมไป เพราะกลัวจะอาละวาด และทางจนท รถฉุกเฉินถามฉีดยาไหม เพราะเขาเกรงว่าพี่เราจะเกิดคลั่ง แต่จนท บอกว่า ถ้าฉีดยาไปแล้วเขาสงบ มีสิทธิ์ที่เขาจะไม่รับ เขาจึงไม่อยากฉีด ให้ดูอาการและเรานั่งไปด้วยชวนพูดคุย แต่ตอนเราคุยเจอพี่ครั้งแรก พี่เราก็เข้ามากอดเรา กอดแม่เรา และเก็บขนมแบ่งไว้ให้ตอนที่นอนรักษาตัวที่นี่(ปกติมันไม่เคยทำ) ตอนนั้นน้ำตาตกในซึ้งอยู่
เราคุยกับพี่ระหว่างไปปกติมาก จำรหัสบัตรปชช เบอร์โทร อะไรได้
- 5. มาถึงรพ สมเด็จเจ้าพระยา จนท และหมอ ตกใจเพราะถามว่าทำไมรพ ธัญญารักษ์ไม่โทรมาประสาน แล้วพอเช็คบัตรปชช คนไข้ หมอบอกว่าเขตที่ตามบัตร อยุ๋ที่รพ กัลยาฯ ไม่ใช่ที่นี่นะ ธัญญารักษ์ส่งผิดนะ ถึงรักษาที่นี่ สุดท้ายก็ต้องไปกัลยาฯเพราะเราใข้สิทธิ สิทธิเราอยู่ที่นั่น ตรงนี้ก็ต้องจ่ายเอง นี่ก็เกิดอาการสับสน จะโกรธก็โกรธแต่มันแบบ ทำไมเขาทำแบบนี้อีกแล้วละ แม่เลยโทรถาม เขาพูดมาว่า แนะนำกับแม่ แล้วแม่เราก็โมโหว่ารพ ไปทำไมคุณทำแบบนี้แย่มากเลยทำงานกันยังงี้หรอประมานนี้ (เราลืมอัดเสียงแต่แม่บอกแบบนี้)แต่ในใบส่งตัวเขียนถึงรพ สมเด็จเจ้าพระยาเลย โกรธเสียความรู้สึกตัวสั่นไปหมด สุดท้ายต้องไปรพ กัลยาฯ 
- 6. มาถึง รพ กัลยาฯ พุทมนฑนสาย4 ที่สุดท้ายนี่ก็รับแต่ปกติแล้วต้องมีใบส่งตัวจากรพ จังหวัดเรา แต่ที่ส่งมานี่ จนท ธัญญารักษ์เขาเคยพุดว่า เขาต้องรับอยู่แล้วกรณีฉุกเฉิน หมอรับให้เพราะพี่เราอาการรุนแรงและอยู่ในเขตการักษาสิทธิที่นี่
ในใบส่งตัวของธัญญารักษ์ ก็เขียนให้ใช้การรักษา แบบECT การรักษาทางจิตเวชด้วยไฟฟ้า 

จบขั้นตอนสุดท้าย จนท ธัญญารักษ์ ได้โทรมาสอบถามตามว่ารพ กัลยา รับเคสไว้หรือยังไรแบบนี้ เราก็ถามเขาเลยทำไมถึงไม่ส่งไปรพ กัลยาฯเลย เขาบอกเราว่า ตอนแรกเขาบอกให้ไปถามเรื่องสิทธิก่อนจะให้ไปที่ไหนแล้วต้องให้รพ จังหวัดทำเรื่องส่งไป โดยปกติ ตามที่ข้อมูลเราเราอยู่ในเขตเจ้าพระยา แต่เหมือนเพิ่งมีการแบ่งเขตใหม่ แล้วเขาเพิ่งเช็คใหม่ (ตรงนี้เราอัดเสียงไว้) และซึ่งเราก็ยังงมาก แต่ที่เขารับไว้เพราะมันฉุกเฉินและรุนแรงตามที่หมอบอก หมอเป็นคนอนุมติ ตอนแรกมาพยาบาลแก่ๆคนนึง ไม่ๆ ปฏิสเธไว้ก่อนเลย เราให้ใบส่งตัว บอกเนียรับไว้ไม่ได้หรอก ดูอาการสิ ทั้งที่ในใบหมอเขียนรายละเอียด ให้ทำการรักษา ECT ,ทำร้ายผู้ป่วยมา จนท และก้าวร้าวบลาๆ ไม่พอใจกับพยาบาลคนนี้มากพูดเลย เขาพูดมาได้ยังไงว่าจะไม่รับตอนแรกทั้งที่คนไข้อาการหนักขนาดนี้ แถมยังถูกส่งตัวมาจากรพ อื่น ตอนนี้เริ่มปวดหัวอีกและ เหนื่อยสุดในชีวิต สงสารพี่มาก รอจนเกือบคลั่ง เขาคุยกับเราดีแม่ดี แต่เขาไม่ชอบการจับมัด และพูดว่าไม่ชอบทำไมยังจับมัด เขาก็เรียกเรากับแม่ พี่จะได้กลับบ้านวันนี้ไหม  พี่ต้องนอนที่นี่อีกหรอ เรานี่ร้องในใจหลายรอบ และเก็บขนมที่เขาให้ไว้กลับไป มันอยากร้องแต่จุกหมือนร้องข้างในบอกไม่ถูก เพราะเขาเป็นพี่ชายเราอะเนอะ T_____T
จนตอนนี้ก็ขอให้พี่หายดีไวๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะโทรถามเพราะปกติ ตอนรักษาธัญญารักษ์ โทรประจำ

ถ้าใครมีอะไรอยากสอบถามเราเพิ่มเติมทักมาหลังไมค์ได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่