ชีวิตจริงยิ่งกว่า ละครหลังข่าว...รักแท้แพ้ความต้องการ.....

เริ่มเรื่องขอเกริ่น ก่อน เรื่องราวของเราเกิดขึ้นเมื่อ ประมาณ 4 เดือน ที่แล้ว ที่มาถึงจุดจบ เรื่องนี้คือเรื่องจริง.100% ที่เราก็ไม่เคยคิดว่าเราจะต้องมาเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้ เราจะเล่าคือเราโดนกระทำจาก หญิงร้าย ชายชั่ว คู่นึง (จะว่าเป็นชายเลยก็ไม่ได้ แต่เขาคือผู้หญิงเหมือนกัน)
   เรื่องมีอยู่ว่า เรากับแฟนเรา คบกันมาได้ประมาณ 4 ปีกว่า เราทำงานบริษัทเดียวกันเราอยู่ กทม. แต่แฟนเราอยู่ตจว. ช่วงแรกๆ ก็ไปมา หาสู่กัน ตจว แต่พอมีตำแหน่งว่าง.เลยย้ายเข้ามาอยู่ กทม. แฟนเราน่ารักมาก ดูแลเราดีทุกอย่าง อยากไปไหน อยากได้อะไร ช่วงแรกที่คบกัน ครอบครัวเราก็ไม่ได้เปิดใจเท่าไหร่ เพราะเราเป็นลูกคนเดียว พ่อ แม่อยากให้แต่งงาน มีครอบครัว แต่พออยู่ๆๆ ไป เขาทำให้แม่เรารัก และเอ็นดูว์เขามาก เพราะเขาดูแลทุกอย่าง พาไปเที่ยว บางทีก็ซื้อนู้น ซื้อนี้ให้ เรื่องมาเกิด ช่วงประมาณ ช่วงต้นปี 62 ในทีมเรา มีน้องคนนึงเข้ามาใหม่ แล้วเขาจะต้องเป็นสอนงาน ปกติเราเป็นคนไม่ขี้หึง ไม่เช็คโทรศัพท์ ไม่ค่อย จู้จี้ มันก็อาจจะเป็นช่องทางนึงที่เปิดโอกาสให้เขา แล้วช่วงนั่นเราทำงานหนัก ไปเช้า กลับค่ำ กลับมาถึงยังต้องมานั่งทำงาน มันเลยมีพฤติกรรมแปลกๆๆ ออกมาให้เห็นบ้าง บางทีก็แอบเห็นคุยไลน์กะใครก็ไม่รู้ ขอดูไม่ให้ดู พีคเลย คือมีบิลบัตรเครดิตมา ไปดูหนังบ้าง ไปกินข้าวบ้าง.ตอนนั่นเราคิดแล้วว่าเขาต้องมีใคร เราขอเลิก แต่เขาก็ขอโอกาส บอกจะไม่ทำอีก เราก็ให้โอกาสเพราะเรายังจับไม่ได้คาหนังคาเขา เหตุผลในการนอกใจครั้งนั่นคือ เขาเหงา เราทำแต่งาน (ทั้งๆ ที่อยู่ด้วยกันทุกวัน)😒😒 พอต่อมาเรื่อยๆ เริ่มมีคนพูดถึง เขากับน้องคนที่เข้ามาใหม่ให้เราฟังมากขึ้น ว่าเขาดูสนิทสนมกันนะ เราก็ไม่เชื่อ ไม่น่าจะใช่ ก็ปล่อยๆ ผ่านไป เพราะเขายังไม่ค่อยมีพฤติกรรมน่าสงสัยเท่าไหร่ แต่เราก็แอบสังเกตุ เวลาเราไปกินข้าวหรือไปไหนด้วยกัน ทั้งทีม น้องคนนั่นจะมีอาการแปลกๆๆ ชอบหงุดหงิด อยู่ตลอดเวลา จนมาช่วง เมษาปีที่แล้ว เราต้องแยกทีมกัน เราก็ให้น้องที่สนิทช่วยเราสืบ น้องก็บอกสองคนนี้มีพฤติกรรมแปลกๆ นะ ให้เราลองสังเกตุคนของเราดู เราก็สังเกตุ คือช่วงก่อนที่จะจับได้ จะชอบออกไปสังสรรค์บ่อยๆ โดยไม่มีเรา ไม่ชวนเรา และไม่อยากให้เราไป (เขาไม่ได้พูดแต่เราดูออก) มีพี่ๆ น้องเคยเตือนแฟนเราแล้ว กับน้องคนนั่น แต่ทั้งคู่ก็บอกไม่มีอะไร แล้วเวลาทำงานเลิกงานแล้ว ชอบกลับดึก โดยไม่มีสาเหตุ และเราก็เริ่มได้ยิน เสียงบางอย่างมาทำให้เรารับไม่ได้มาก เราเลยเริ่มหาหลักฐาน เราได้หลักฐานมา เป็นประวัติการคุยกันทางโทรศัพท์ พอเราดูแทบช็อค  เวลาออกไปทำงาน โทรหาเราที โทรหาน้องคนนั่นที สลับกันไปมา บางทีก็คุยสายน้องคนนั่น แต่ตอบไลน์เรา แต่อัตราการคุยฝั่งนู้นมากกว่า ทั้งเดือนเป็นแบบนี้ เห็นแล้วมือสั่น บางทีทะเลาะกับเราทางไลน์ แต่ในสายคุยกะน้องคนนั่น หรือบางทีปล่ยให้เรานั่งรอป้ายรถเมย์เป็น ชม. เพราะบอกว่าทำงานยังไม่เสร็จ แต่จริงๆๆ คุยโทรศัพท์กับน้งคนนั่น แต่เรายังไม่พูดอะไร เราคิดว่าหลักฐานแค่นี้ยังไม่พอ เราเลยหาต่อ ปกติเราจะไม่ค่อยยุ่งกับโทรศัพท์เลย วันนั่นเป็นวันแรก ที่ตัดสินใจเข้า แล้วเราก็เจอ ข้อความที่น้องผู้หญิงส่งมาหาแฟนเรา "ถึงบ้านแล้วนะค่ะ ฉันอยากมีแค่เธอ อยากมีแค่เรา" เท่านั่นแหละ มือสั่นมากๆๆๆ แต่!!!!! เราก็ยังไม่พูดอะไร เราเก็บ  แล้วก็มาเจอ แชตเด็ดๆ อีกหลายครั้ง ปกติเวลาเขาคุย เขาจะลบข้อความ บางทีก็มีหลุดมาบ้างนิดหน่อย  และอดทนไว้ก่อน เหตุผลตอนนั่นเราให้โอกาสเขาเอง เราคิดว่าเขาสองคนน่าจะสนุกกัน เดี๋ยวคงจะคิดได้แล้วก็แยกย้ายกันไปและ คือเราก็กำลังจะไปทริปเกาหลีด้วยกันครั้งแรก มันเป็นทริปที่เราตั้งใจ และฝันกันไว้มากๆๆ เราเลยเลือกที่จะอดทนไว้ก่อน แต่ระหว่างนั่นก็มีคนเล่านู้นนี้ ให้ฟังเรื่อยๆๆ และเราก็เก็บข้อมูลไว้เรื่อยๆๆ (เราลืมบอกน้องคนนั่นก็มีแฟนแล้วนะค่ะ เป็นทอมเหมือนกัน) ต่างคนต่างมีแฟน...
         ทุกอย่างที่เรารู้มามันเจ็บปวดมาก แฟนเราเอาเรื่อง ของเขากับน้องคนนี้ ไปเล่าให้คนคนนึงฟัง แล้วคนคนนั่นก็รับไม่ได้เหมือนกัน เขาสงสารเราเลยบอก เขาแอบมีอะไรกัน แอบไปไหนมาไหนด้วยกัน แทบทุกวันหลังเลิกงาน ครั้งแรกที่มีอะไรกันในรถ เขาบอกอารมณ์มันพาไป ไม่ได้คิดอะไร ยังไงมันก็ไม่ใช่ เขาไม่มีทางเลิกกับเราแน่ๆๆ แต่มันก็มีต่อเนื่องมาเรื่อยๆๆ จนระยะเวลาเกือบปี เขาแอบซ่อนของเล่นที่ทอมใช้กันไว้ในรถ เขาจะหวงรถมากไม่ค่อยให้เราอยู่ที่รถคนเดียว เหมือนกลัวว่าเราจะค้นเจอ แต่ตอนนั่นเรารู้ทุกอย่างแล้ว หลังจากรู้เรื่องทุกอย่าง เราเก็บเรื่องนี้ไว้เกือบ หกเดือน เพียงเพราะอยากไปทริปสุดท้าย กับเขาช่วง มกราคม 63 แต่เราก็เก็บต่อไปไม่ไหวเพราะช่วงหลัง เขายิ่งได้ใจ ชอบหงุดหงิดใส่เรา บางทีก็ทะเลาะกันรุนแรงในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ  จนเราระเบิดใส่ช่วงธันวา 62 เขาไม่ยอมรับ น้องคนนั่นก็ไม่ยอมรับ บอกไม่ได้คิดอะไร เป็นเพื่อนกัน คอยปรึกษางานกัน เราเลยบอกว่าเรามีหลักฐานทุกอย่าง กล้าทำต้องกล้ารับสิ จะโกหกต่อไปทำไม สุดท้าย ยอมรับเพราะหลักฐาน ขอโทษเรา ขอโอกาสเรา ร้องไห้ขอร้องเรา ตอนนั่นเราคิดว่าพอแล้วเราเจ็บมากๆๆ แล้ว หลายครั้งที่ให้โอกาส แต่มันดูไม่มีค่าเลย เขาบอกครั้งนี้ ครั้งสุดท้ายเขาจะไม่ทำให้เราเจ็บอีก และ เราเคลียกันสามคน ฝั้งนุนก็บอกจะเลิกยุ่ง เราเลยให้โอกาส เรารู้ว่าการให้โอกาสครั้งนี้มันอยู่บนฐานของความระแวงอยู่แล้ว แต่เรารักเขาเราคิดว่าเราจะต้องลืมทุกอย่างให้ได้แล้วเริ่มต้นใหม่ถึงแม้ในใจเราจะเจ็บมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายกลับมาคืนดีกันได้ไม่ถึงเดือน ช่วงมกรา เขาเองเป็นฝ่ายที่เดินกลับมาบอกเราว่าเขาอึดอัด เขาบอกเขาไม่อยากทำให้เราเจ็บ เขาบอกว่าเราลืมทุกอย่างไปไม่ได้หรอก แต่!!!!!! เรื่องจริงคือเขาไม่ได้หยุดคุยกับน้องคนนั้น เขาไม่ได้เลิกคุยกันจริงๆ สุดท้ายเราถอยให้ คุณทั้งคู่คือผู้ชนะ เรายอมออกมา ทั้งที่หัวใจเรายังรัก และเจ็บ มากๆๆ คืนนั่นที่เลิกกันเขาก็ออกไปหาน้องคนนี้เลย เราตามไปเจออยู่ห้อง ยังปฏิเสธว่าเลิกคุยกันไปแล้ว แต่ที่ให้มานอนด้วยเพราะแฟนเราไม่มีที่ไป เรายิ่งเจ็บมากๆๆ แฟนเราปกป้องน้องคนนั่น บอกน้องไม่เกี่ยวเราเลิกกันแล้ว เธอไม่มีสิทธิมาทำอะไรเขา ทุกครั้งเขาจะเป็นแบบนี้ตลอด บอกว่าเขาผิดเองน้องไม่ผิด เขาเป็นคนเริ่มทุกอย่าง เรายิ่งเสียใจ ตัดสินใจพอจริงๆ ยอมแพ้ แม่เราบอกทำไมไม่ให้โอกาสเขา เริ่มต้นกันใหม่ เราไม่เคยบอกแม่เลยว่าเราเจออะไรมาบ้าง แม่ไม่เคยรู้ว่าเขาทำเราเจ็บมากขนาดไหน เราบอกกับแม่ว่าพอแล้ว..ต่างคนต่างอยู่ดีแล้ว ตอนนี้หลังจากที่เราเลิกกับเขาไป อีกวันเขาก็ไปเช่าคอนโดอยู่ด้วยกันเลย 
เราไม่ได้โทษน้องผู้หญิงฝ่ายเดียวนะคะ เราโทษแฟนเราด้วย
ว่าถ้าทำขนาดนี้ ทำไมไม่เลิกกับเราตั้งแต่แรก
ตอนนั้นกลับมาทำร้ายเราทำไม ถ้ารู้ตัวว่าหยุดไม่ได้กลับมาทำไม
ในเมื่อตอนนั้นเธอก็มีน้องคนนี้แล้ว ถ้าบอกเราดีๆ เราก็ยอมปล่อยเธอไป
แฟนเราบอก ก็ยังอยากคบเราอยู่ อยากทำให้รักของเราดีกว่าเดิม
ปัจจุบัน 2 คนนั้นก็ยังอยู่ด้วยกัน ไม่ละอายต่อบาปอะไรเลย..คู่บาป ตัดกันไม่ขาดหรอกค่ะ จริงๆ เราไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีก
แต่มันยากมากๆค่ะ ที่จะลืม เราเคยขอให้เค้าทั้ง 2 คนเลิกคุยกัน ตอนที่จับได้แรกๆ
เค้ายังทำให้เราไม่ได้เลย จนเรื่องมันเลยเถิดขนาดนี้
มันรู้สึกแย่มาก
ประเด็นที่พีคคือ ก็ยังอยู่ในบริษัทเดียวกันกับเรา ยังอยู่ในทีม กิน เที่ยวด้วยกันด้วย เวลาไปประชุมก็ยังต้องเจอกัน เราอยากจะลืมเรื่องทั้งหมดนะ แต่ทุกครั้งที่เห็น มันวน กลับมาในหัวเราอย่างรวดเร็ว ...
สุดท้าย ขอบคุณคนรอบข้าง ขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่คอยให้คำปรึกษาและคอยปลอบใจเราในวันที่เรา ร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนบ้า คอยดึงสติให้เรารักตัวเองมากๆๆ คิดถึงแม่ คิดถึงครอบครัวเยอะๆๆ
จริงๆเรื่องพวกนี้มันอาจจะเป็นกรรมที่เราเคยทำไว้ 
ถ้าเป็นแบบนั่นเราชดใช้กรรมให้หมดในชาตินี้กันไปเลย เราเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง
ถึงทุกวันนี้ 2 คนนั้น จะยังไม่สำนึกผิด ใช้ชีวิตแบบมีความสุขไม่แคร์ใคร แต่ซักวัน เราเชื่อว่าเค้าทั้งสองจะคิดได้
แค่นี้ก็เป็นบาปติดตัวมากๆแล้ว ตกนรกไปไม่รู้ว่าต้องชดใช้กรรมขนาดไหนบ้าง
เราสงสาร 2 คนนั้นด้วยซ้ำที่คนรอบข้างต่างไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขาทั้งคู่ ใครที่ทำกับแฟนแบบนี้อยู่ เลิกเถอะค่ะ
การทำกรรมกับคนดีๆ มันบาปมากนะคะ ถึงตอนนี้ยังไม่เจอผลของกรรม
แต่ซักวันต้องเจอแน่นอนค่ะ.....จำไว้นะค่ะ ความสุขที่พวกคุณได้มา มันแลกมาจากหัวใจที่เจ็บเพราะถูกคุณทั้งสองคนเหยียบย้ำจนบอมช้ำไปหมด
ตอนนี้เรื่องผ่านมา 4 เดือนแล้วถึงหัวใจยังไม่หายดี แต่ก็ดีขึ้นมากๆ แล้ว..😊
ปล. 1 ขออนุญาตแนบรูป ที่น้องคนนั่นส่งมาหาแฟนเรานะค่ะ เห็นแล้วขนลุกเลยยย....(จะได้เห็นภาพมากขึ้นว่าเราเจ็บหัวใจมากแค่ไหน)
ปล. 2 น้องคนนั่นก็เลิกกับแฟน 1 วัน ก่อนที่เราจะบอกเลิกแฟนเรา หลากหลายเรื่องราว 1 ในนั่นคือเรื่องมือที่สาม (กะแฟนเรา) สบายเลย ไปคบกันให้จบๆๆ ไป
ปล. 3 หลังจากเลิกกันช่วงต้น มค. ช่วงปลาย มค. เราตัดสินใจกันว่าเราจะไปทริปเกาหลีด้วยกันครั้งสุดท้าย ไปทั้งๆๆ ที่หัวใจยังเจ็บนั่นแหละ เรายอม แล้วมันก็เป็นทริปสุดท้ายที่มีความสุข และ เจ็บปวดมากจริงๆๆ มีทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ กอดครั้งสุดท้ายที่ N Seoul Tower เราร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัว มันบีบหัวใจ เพราะคิดว่ามันคือครั้งสุดท้ายจริงๆ เราไม่ได้ คล้องกุญแจเพราะคิดว่ามันน่าจะไม่มีสัญญาใจอะไรซึ่งกันและกันแล้ว ตอนกลับจากเกาหลีระหว่างนั่งเครื่องเราร้องไห้ตลอดทาง ร้องไป หลับไป ตื่นก็ร้อง สุดท้ายก็แยกย้ายจากกันไปอยู่ดี แต่ถือว่าเราทำความฝันของเราทั้งคู่เป็นจริงถึงแม้การไปครั้งนั้นจะไม่ได้ไปในฐานะคนรักก็ตาม 😊
ปล. 4 ทุกวันนี้เราก็ยังคุยกับแฟนเราอยู่ ถามสารทุกข์สุขดิบ เจอกันบ้าง เวลามาเจอกันไม่รู้เขาบอกน้องคนนั่นว่าไงเหมือนกัน 😅😅 พยายามคุยกันให้ได้แบบเพื่อน แต่ก็ยังเจ็บหัวใจอยู่นิดๆๆ อยากจะเกลียดแล้วเลิกติดต่อกันไปเลยแต่ก็ทำไม่ได้สักที ยังรักเขาแหละ ดูออก 😢😢😢

สุดท้าย...เราอยากฝากถึงคนที่กำลังทำพฤติกรรมแบบนี้กับแฟนตัวเองอยู่เลิกเถอะนะ สุดท้ายแล้ว มันต้องมีคนเจ็บมากๆ อยู่แค่ 1 คน คือคนถูกกระทำ เรารู้ความรู้สึกถ้ามันเกิดมาแล้ว มันห้ามกันไม่ได้  แต่!!! คุณเลือกที่จะทำให้มันถูกต้องได้ คนเรา
รักกันเป็นแฟนกัน มันก็รักกันสองคน ถ้าเมื่อไหร่ที่มีคนที่สามเข้ามาแสดงว่าความรักของคุณทั้งคู่ไม่เหมือนเดิม ฉะนั่น กล้าหน่อยกล้าที่บอกคนรักของคุณว่า เราคงไปต่อกันไม่ได้ จบความสัมพันธ์กันไปดีกว่า แล้วคุณก็ไปเริ่มต้นใหม่ ให้มันถูกต้อง..แบบนี้ยังเจ็บหน่อยกว่า รักสามเศร้าเนอะ 😉
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่