หน้าผาหินสีขาวที่มีความโดดเด่นทั่วโลก


DOVER (THE WHITE CLIFFS)


White Cliffs of Dover แห่งเมืองโดเวอร์ ตั้งอยู่บริเวณที่แคบที่สุดของช่องแคบอังกฤษ สูง 110 เมตร หน้าผาขาวโดเวอร์ คือ หินปูนละเอียดประมาณหนึ่งล้านปีก่อน ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษ  และยังเป็นเมืองท่า Ferry ที่สำคัญ  เพราะเป็นที่ตั้งของ English channel ที่จะข้ามไปยังฝรั่งเศส สองประเทศอยู่ห่างกันเพียงทะเลกั้น

Dover เป็นเมืองสำคัญมาแต่อดีต เพราะจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า การเข้า-ออกอังกฤษมักใช้ทางนี้เป็นเส้นทาง  สถานที่เที่ยวสำคัญของที่นี่คือ Dover castle และ the white cliffs  จุดสูงสุดของหน้าผาแห่งนี้เรียกว่า ยอดชายหาด (Beachy Head) ชั้นดินขาวที่ก่อตัวขึ้นตามแนวชายหาดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีความสูง ถึง 500 ฟุต (ประมาณ 152 เมตร)


บีชชี่เฮด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ๆกับเมืองอีสต์บอร์น (Eastbourne) เมืองท่องเที่ยวชายทะเลขนาดใหญ่ที่อยู่ในเขตมณฑลอีสต์ซัสเซ็กซ์ (East Sussex) มณฑลที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ และหากมองจากริมหน้าผาชอล์ก จะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของชายหาด
และตัวเมืองอีสต์บอร์นได้อย่างชัดเจน

อีกมุมหนึ่งยังถูกขนานนามให้เป็นหนึ่งในหน้าผาที่ถูกใช้เป็นจุดฆ่าตัวตายมากที่สุดในโลกอีกด้วย เพราะความสูงชันของหน้าผาอาจทำให้หลายๆ คนไม่ทันระวังและพลัดตกลงไป อย่างไรก็ตาม ความสูงชันอันน่ากลัวของ บีชชี่เฮด ก็ยังเป็นภูมิประเทศที่เหมาะสำหรับเล่นกีฬาประเภทเอ็กซ์ทรีม อย่างเช่น กระโดดร่ม 


Beachy Head
ข้อมูลและภาพ  travel.thaiza.com / telegraph.co.uk
เรียบเรียงโดย Travel MThai
Cr.https://travel.mthai.com/world-travel/61788.html




Seven Sisters 
The Seven Sisters เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ South Downs ระหว่างเมือง Seaford และ Eastbourne ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่ง Seven Sisters เป็นชื่อของหุบเขาที่ถูกกัดกร่อนโดยน้ำทะเลจนกลายเป็นหน้าผาหินปูน สูงต่ำสลับกันไป ซึ่งมีอยู่ 7 หน้าผาด้วยกัน จึงเป็นที่มาของชื่อ เจ็ดสาวน้อยนั่นเอง

 เซเวนซิสเตอส์ เป็นกลุ่มหน้าผาหินชอล์กในช่องแคบอังกฤษ ทางใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่งมีลักษณะเป็นเนินเขา 7 ยอด ส่วนยอดที่ 8 เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล ซึ่งมีชื่อเรียกดังนี้ Haven Brow, Short Brow, Rough Brow, Brass Point, Flagstaff Point, Flat Hill, Baily's Hill, และ Went Hill Brow  เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2017  ได้เกิดเหตุหน้าผา Seven Sisters ถล่มลงทำให้หินชอล์กกว่า 50,000 ตันร่วงลงมาในทะเลกินพื้นไปกว่า 80 เมตร และสร้างคลื่นขนาดใหญ่ลงไปในทะเล 

ที่นี่เคยเป็นฉากหนึ่งในภาพยนต์เรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ กับถ้วยอัคนี ภาค 4  ที่แฮร์รี่ตื่นขึ้นมาบนเนินเขาเพื่อหารองเท้าบูทที่พาเขาไปงาน Quidditch World Cup และยังเป็นภาพวอลเปเปอร์ตั้งต้นของ Microsoft Windows 7 ด้วย

Cr.https://www.blesstraveler.com/post/seven-sisters / By Bless Wish
Cr.https://takronop.wordpress.com/2015/10/03/seven-sisters-เหน็ดเหนื่อย-แต่สวยงา/
Cr.https://de-de.facebook.com/samrujlok/posts/10155334547287226/





The cliffs of Etretat 


ในแคว้นโอต-นอร์ม็องดี (Haute-Normandie) ในประเทศฝรั่งเศส มี "หมู่บ้านเอทเทรทาท์" (Etretat Village) หมู่บ้านเล็กๆริมชายฝั่งในจังหวัดแซน-มารีตีม (Seine-Maritime) อีกหนึ่งจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อ เสียงและได้รับความนิยมมาก
      
หมู่บ้านเอทเทรทาท์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อเสียงของ"หน้าผาและเสาหินโค้งธรรมชาติแห่งเอทเทรทาท์" (The Cliffs at Etretat) โดยจุดท่องเที่ยวแห่งนี้ได้ กลายเป็นสถานที่ดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยวและศิลปินเป็นจำนวนมาก เช่น Eugène Boudin, Gustave Courbet และ Claude Monet ต้องบันทึกความงดงามนี้ลงบนผืนผ้าใบ นอกจากนี้ยังมีชายหาดที่ขนานไปกับแนวยาวของชายฝั่ง ซึ่งมีความสวยงามมากแห่งหนึ่ง

The Cliffs at Etretat)  หรือ หน้าผาและเสาหินโค้งธรรมชาติแห่ง Etretat  เป็นหน้าผาหินปูนสีขาวอยู่สูงเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเป็นรูปซุ้มประตูโค้งคล้ายงวงช้าง ด้านล่างของหน้าผาหินเป็นชายหาดหินกรวดสีขาว สามารถอาบแดดและเล่นโต้คลื่นได้ ส่วนด้านบนของหน้าผาเป็นจุดชมวิวที่ขึ้นไปเห็นแล้วคุ้มค่ากับความงามแน่นอน
บทความโดย : Travel.thaiza.com
Cr.https://travel.thaiza.com/foreign/251587/
Cr.https://www.blesstraveler.com/post/etretat




หน้าผาขาวแห่งเกาะอีตูรุฟ
 


เกาะอีตูรุฟ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นและเป็นหนึ่งในหมู่เกาะภูเขาไฟเรียกว่าหมู่เกาะคูริล ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทะเล โอค็อตสก์ (Okhotsk) ของรัสเซียกับมหาสมุทรแปซิฟิก  ซึ่งอยู่ในการปกครองของประเทศรัสเซียแต่ประเทศญี่ปุ่นเรียกร้องว่าหมู่เกาะที่อยู่ทางตอนใต้เป็นพื้นที่ของตนรวมไปถึงเกาะอีตูรุฟและเกาะคุชานีร์ (Kunashir) 

เกาะอีตูรุฟเคยอยู่ในเขตแดนของญี่ปุ่นก็จริง แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1945 สหภาพโซเวียตก็เข้ายึดครองหมู่เกาะดังกล่าว และขับไล่ประชาชนญี่ปุ่นออกไปจากเกาะ เนื่องจากความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตามญี่ปุ่นก็ยังพยายามที่จะได้หมู่เกาะเหล่านี้กลับมาเป็นของตนเองแต่นั้นเป็นต้นมา


 เกาะอีตูรุฟมีความงดงามมากเนื่องจากแร่ลาวาที่เซาะหน้าผาไล่ลงมาซึ่งจะเห็นเป็นสีขาวจากตรงสันเขาจนกระทั่งลงมาด้านล่างหน้าผา แร่เหล่านี้เกิดจากแม็กม่าชนิดอัลคาไล ซึ่งเกิดจากภูเขาไฟ แนวชายฝั่งนั้นชันและมีหินภูเขาไฟสีเขาอยู่ตรงกลางตลอดหน้าผาลาดลงมาเป็นแอ่งคล้ายหกเหลี่ยม เกาะอีตูรุฟยังมีน้ำตกไหลลงมาบางคราวด้วย


นอกจากนั้นที่เกาะนี้ยังมีแร่ธาตุหายาก คือแร่ธาตุเรไนท์ซึ่งเป็นส่วนประกอบของแร่เรเนียม มีราคาสูงราคาเฉลี่ยประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งมีแค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น  แร่นี้เป็นแร่บริสุทธ์ที่เกิดจากแก็ซที่ระเบิดออกจากปล่องภูเขาไฟ ปริมาณที่ได้ของแร่เรเนียมที่ผลิตออกมาจากเกาะนี้มีการปล่อยออกมาถึง 20 ถึง 60 กิโลกรัมต่อปี ซึ่งส่วนมากจะออกมาเป็นแร่ธาตุเรเดียมซัลไฟด์ แร่เรเนียมใช้ในระบบเผาผลาญของเครื่องยนต์ของเครื่องบินเจ็ท และการฟอกท่อไอเสียของน้ำมันเชื้อเพลิง

Cr.amusingplanet.com
Cr.https://travel.thaiza.com/foreign/464815/




Navagio Beach


หาดนาวาจิโอ (Navagio Beach) แปลว่า หาดซากเรือแตก อยู่ในอ่าวเล็กๆ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะซาคีนโตส (Zakynthos) ซึ่งเป็นเกาะทึ่ใหญ่เป็นอันดับ3ในหมู่เกาะไอโอเนียน (Ionian Islands) ทางตะวันตกของประเทศกรีซ

Navagio Beach เป็นชายหาดเล็กๆ ที่ล้อมรอบไปด้วยหน้าผาหน้าผาหินปูนขาวสูงชัน  เป็นหนึ่งในชายหาดสีขาวสะอาดที่มีชื่อเสียงที่สุดและถูกถ่ายรูปมากที่สุดในกรีซ  ชายหาดเต็มไปด้วยก้อนหินสีขาว น้ำทะเลเป็นสีฟ้าสดใส หาดนี้ยังเรียกกันอีกชื่อว่า Shipwreck Beach เนื่องจากบนชายหาดแห่งนี้มีซากเรือเก่าเกยตื้นอยู่ เล่ากันว่าซากเรือนี้ เป็นเรือที่ลักลอบขนส่งสินค้า ที่ถูกเจ้าหน้าที่กรีซไล่ล่า ในขณะที่มีพายุทัศนวิสัยไม่ดีทำให้เรือลำนี้หนีมาจนมาเกยตื้นที่หาดแห่งนี้

หาดนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยที่สุดในโลก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวที่อยากมาเยือน ทำให้ชายหาดแห่งนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวตลอดทั้งวัน นอกจากจะนอนอาบแดดเล่นน้ำแล้ว หน้าผาสูงชันของที่นี่ยังเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับ BASE Jumping ที่นักกระโดดดิ่งพสุธาจากทั่วโลกนิยมเดินทางมามาทดลองโดดหน้าผาที่นี่ ซึ่งติดใน10 Incredible BASE jump exits อีกด้วย หาดแห่งนี้ต้องเดินทางเข้าไปโดยเรือเท่านั้น
Cr.https://www.govivigo.com/ideas/301-greece-ชายหาดนาวาจิโอแสนสวยบนเกาะซาคีนโตส




Hierve el Agua


Hierve el Agua ตั้งอยู่ในรัฐ Oaxaca ประเทศเม็กซิโก เป็นหน้าผาหินสีขาวที่มีรูปร่างแปลกตา คล้ายน้ำตกไหลลงมา ซึ่งเกิดจากแอ่งน้ำแร่ด้านบนที่เต็มไปด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตและแร่ธาตุอื่นๆไหลลงมาและเกิดเป็นโครงสร้างคล้ายหินงอกหินย้อยในถ้ำ

หน้าผาหินหน้าตาคล้ายน้ำตกนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ cascada chica (น้ำตกเล็ก) มีแอ่งน้ำแร่ 4 แอ่งด้านบน นักท่องเที่ยวสามารถว่ายน้ำเล่นได้ และ cascada grande (น้ำตกใหญ่) ซึ่งแอ่งน้ำมีอุณหภูมิ 22-27 องศาเซลเซียส มีน้ำสีฟ้าเทอร์ควอยส์ที่เกิดจากแร่ธาตุอื่นๆ เช่น เงิน เหล็ก และแบเรียม
ที่นี่ล้อมรอบด้วยป่าโอ๊ค holm oak กระบองเพชร และพืชกึ่งทะเลทรายอื่นๆอีกหลายชนิด ส่วนหน้าผาหินนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูงชัน มีชาวเผ่าพื้นเมืองอาศัยอยู่ใกล้ๆ 2 กลุ่มคือ San Lorenzo Albarradas และ San Isidro Roaguia โดยแอ่งน้ำด้านบนเป็นแหล่งน้ำเพียงไม่กี่แห่งในพื้นที่

ที่นี่ไม่ได้เป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติเท่านั้น เพราะยังมีระบบชลประทานและแอ่งขั้นบันไดโบราณที่สร้างขึ้นโดยวัฒนธรรม Zapotec เมื่อประมาณ 2,500 ปีที่แล้ว ซึ่งนักวิจัยก็ได้บอกว่าที่นี่มีระบบคลองชลประทานที่มีเอกลักษณ์มาก แตกต่างจากที่อื่นในเมโสอเมริกา
Cr.https://www.blesstraveler.com/post/hierve-el-agua




The Wedding Cake Rock


หินรูปเค้กแต่งงาน  หรือ The Wedding Cake Rock เป็นรูปแบบทางธรณีวิทยาที่มีความแปลก ตั้งอยู่ทางเหนือของหาด Marley ภายในอุทยานแห่ง
ชาตอ Royal National Park ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นชนิดหินทรายสีขาว ที่ทำมุม 90 องศา กับมุมหน้าผาได้อย่างกับมีคนเอามีดไปตัดเป็นทรงเหลี่ยมพอดี หินจึงมีลักษณะคล้ายเค้กแต่งงาน หรือคล้ายเต้าหู้หรือชีส
 
หินนี้เป็นหนึ่งในการก่อตัวของหินปูนหลายแห่ง สามารถเดินทางไปชมได้ตามเส้นทางเดินป่า Royal Coastal Walk ระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร ตามหน้าผาของอุทยานแห่งชาติที่เต็มไปด้วยภูมิประเทศซึ่งเป็นหุบเขาสูงชัน มีโขดหินโผล่มาเป็นระยะ และเมื่อขึ้นไปชั้นที่สูงที่สุดจะพบกับทัศนียภาพอันงดงามของมหาสมุทรที่สีน้ำเงินที่ทอดยาวไปหลายไมล์ และยังมีน้ำตกและสระน้ำ “Wedding Cake Rock” อยู่ห่างจากจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่ Bundeena ราว 5.1 กิโลเมตร 
 
ในช่วงปี 2015 หินรูปเค้กเป็นที่นิยมอย่างมาก ผู้คนได้เข้าร่วมเส้นทางเดินป่าไฮกิ้ง Royal Coastal Walk จากจำนวนเฉลี่ยน 2,000 คนต่อเดือน เพิ่มขึ้นเป็น 10,000 คนต่อเดือนอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างอยากมาสัมผัสหินและเห็นด้วยตาตัวเอง พร้อมถ่ายรูปลงอินสตาแกรมตามกระแสนิยม
แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่าเส้นทางไปยังหินรูปเค้กจะถูกปิดไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เพราะตัวหินอาจรองรับน้ำหนักได้ไม่มาก และสามารถทรุดลงได้ทุกเมื่อ
Cr.http://realmetro.com/wedding-cake-rock/

 (ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่