เมื่อเจ้าพ่อเทคโนโลยี สมโภชน์ อาหุนัย จากบริษัทพลังงานบริสุทธิ์ (EA) ตอบจดหมาย นายกฯในการช่วยเรื่อง โควิด – 19

จากปัญหาวิกฤต COVID-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นปัญหาระดับชาติที่นานๆ ประเทศเราจะพบปัญหาแบบนี้สักทีหนึ่ง และจากปัญหาที่เกิดทำให้นายกรัฐมนตรีส่งจดหมายเปิดผนึกออกมาเชิญให้มหาเศรษฐีในประเทศมาร่วมกันช่วยเหลือ ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม หรือด้านใดก็ได้ที่เหล่าเจ้าสัวชำนาญ ซึ่งก็มีหลายๆคนตอบรับกับจดหมายดังกล่าวซึ่งหลายๆการตอบรับแสดงให้เห็น “กึ๋น” ของความเก่ง และการมองอนาคต ถึงขั้นที่ว่าจบ COVID-19 แล้วจะเดินไปในทิศทางไหนเลยทีเดียว จขกท.อยากมาแตกประเด็นถึงการตอบรับจดหมายครั้งนี้ของนายกฯ ว่าเจ้าสัวคนไหน ช่วยอะไรเพราะอะไร อยากมาวิเคราะห์ว่าเจ้าสัวคนนั้นๆมองประเด็น COVID-19 นี้ยังไงบ้าง โดยคนแรกที่จะหยิบมาคุยกันวันนี้คือเจ้าสัวสายเทคโนโลยีแห่งอนาคต เจ้าของฉายา อีลอน มัสก์ เมืองไทย เจ้าของธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า บริษัทพลังงานบริสุทธิ์ จำกัด มหาชน หรือ EA 

                โดยคุณสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เป็นหนึ่งในบุคคลที่ นายกรัฐมนตรีทำจดหมายมาถึง และได้ตอบกลับโดยมีหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยหลักๆทางคุณสมโภชน์มองว่า สถานการณ์โควิด-19 จะยังอยู่กับประเทศไทยไปอีกสักระยะหนึ่ง และควรวางแผน วางแนวทางว่าจะอยู่อย่างไรให้ปลอดภัย และสามารถลดผลกระทบทางเศรษฐกิจได้และสังคมให้น้อยที่สุด ดังนั้นแนวทางหรือคำตอบที่ตอบนายกฯมา จึงแทบจะเป็นการเอาเทคโนโลยีที่ตัวเองถนัดมาช่วยทำอุปกรณ์ หรือ กระบวนการต่างๆ ให้เกิดความประหยัดที่สุด หรืออีกนัยหนึ่งคือลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการประหยัดด้วยการเอาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามาใช้นั่นเอง
              โดยทางบริษัทเปิดตัวมาก่อนเลยก่อตั้งกลุ่ม “ช่วยกัน” ผลักดัน Application หมอชนะ ที่ กรมควบคุมโรค หน่วยงานรัฐและภาคเอกชนด้านเทคโนโลยีได้พัฒนาร่วมกัน แอพพลิเคชั่นนี้จะช่วยให้การติดตามและควบคุมโรคมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการเชื่อมโยงประชาชนที่ใช้ทุกคนเข้ากับพิกัดพื้นที่ พร้อมการประเมินเบื้องต้นของระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อค้นหาความเชื่อมโยงใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง ด้วยการประเมินจากฐานข้อมูล DDC iLab ของกรมควบคุมโรคโดยตรง สร้างความชัดเจนให้ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน และแนวทางการเข้าถึงระบบรักษาต่อไปของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาโควิด-19
              และที่ทำอยู่หรือทำแล้วคือปรับปรุงอาคาร รถพยาบาลต่างๆ ทั้งห้องผู้ป่วย ที่พัก การขนส่ง ฯลฯ แจกเครื่องกรองอากาศที่ฆ่าเชื้อไวรัสได้ ซึ่งแนวทางที่บอกมาทั้งหมดสามารถลดทั้งขั้นตอน ประหยัดงบประมาณ และสร้างสิ่งที่ตัวเองถนัดคือ “เทคโนโลยี” มาเพื่อสู้กับวิกฤติครั้งนี้ 
              ส่วนที่สองคือส่วนทำเพิ่ม คือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ผลิตหน้ากากแรงดันบวก จัดหาเครื่อง RT-PCR ผลิตเครื่องมืออุปกรณ์ ตู้ฆ่าเชื้อ ต่างๆ ซึ่งส่วนที่สองที่ทำเพิ่มนี้เป็นการทำงานเชิงรุกเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการในระยะยาวได้เป็นอย่างดี 
              จากที่บอกมาส่วนตัวมองว่าบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เน้นไปที่การนำเทคโนโลยีที่ตัวเองถนัดมาใช้เพื่อลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต สังเกตได้จากส่วนใหญ่เป็นการปรับปรุงระบบ process ในการทำงานและพัฒนาเครื่องมือมาเพื่อให้ทำงานง่ายและสะดวกขึ้นทั้งนั้น ถ้ามองในมุมของ จขกท. ถือว่า อิลอน มัสก์เมืองไทย ตอบรับ จดหมาย นายกรัฐมนตรี ด้วยเทคโนโลยีเป็นตัวนำทั้งหมดจริงๆ ไว้ในอนาคตจะเอาคำตอบรับของบริษัทอื่นๆมาเล่าสู่กันฟังนะ วันนี้ไปก่อน ใครคิดเห็นยังไงมาแชร์กันได้นะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่