Switzerland on budget Part 1 | การเตรียมตัว และทริคประหยัดงบ
.
.
.
สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นประเทศในฝันของใครหลายๆคนรวมถึงเราเองด้วย แต่อย่างที่หลายๆคนรู้กันว่าการเดินทางท่องเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นราคาค่อนข้างสูง วันนี้เราเลยจะมาเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบประหยัดในแบบของเรา ตั้งแต่การวางแผนจัดการทริป ไปจนถึงการเดินทางท่องเที่ยวจริง ทั้งหมด 4 วัน 3 คืน เป็นหนึ่งในความประทับใจที่สุด และขอยกให้เป็นเมืองที่สวยติดอันดับต้นๆในใจไปเลย
.
แพลนทริป
.
เราตั้งต้นด้วยเมือง Geneva เพราะว่าจองตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ซึ่งได้มาในราคามิตรภาพ (แม้ว่าค่ารถเดินทางไปสนามบินจะแพงกว่าตั๋วเครื่องบินก็ตาม) เมืองที่ห้ามพลาดของเราก็คือ Interlaken หลังจากที่ได้สองเมืองหลักๆแล้ว ก็ลองหาข้อมูลว่าการเดินทางจาก Geneva ไป Interlaken จะผ่านเมืองอะไรที่น่าสนใจบ้าง สุดท้ายมาจบลงที่เราจะตั้งหลักนอนที่ Bern 2 คืน แล้วก็ที่ Geneva ในคืนสุดท้าย โดยจาก Bern เราสามารถเดินทางไปยังเมืองใกล้ๆได้ เช่น Lucerne และ Interlaken ที่สำคัญคือ Bern เป็นเมืองหลวงที่เราก็อยากจะไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเองสักครั้ง
.
ทริคประหยัดงบ
.
1. Swiss Pass
หลังจากได้เมืองที่จะไปแน่นอนแล้ว เราก็เริ่มคำนวนราคาค่าเดินทางโดยดูผ่านแอพรถไฟ SBB สรุปว่าราคาสูงใช้ได้เลย เราก็เลยมองหาทางเลือกอย่าง Swiss Pass ที่หลายๆคนแนะนำ เพราะสามารถเดินทางได้ทั่วประเทศเลย (คล้ายๆกับ JR Pass ของญี่ปุ่น) เรามาเจอว่า Swiss Pass แบบที่เหมาะสมกับเราก็คือแบบ 3 วัน ซึ่งราคาอยู่ที่ 7,500 บาท ถือว่าเป็นราคาที่พอรับได้ (พอๆกับค่าเดินทางที่คำนวณมาไว้ และยังสามารถขึ้นภูเขาบางลูกได้ฟรีอีกด้วย) เราจึงแพลนที่จะเที่ยวโดยเดินทางด้วยรถไฟตลอด 3 วันแรกให้เต็มที่ ส่วนวันสุดท้ายเราจะเที่ยวกันในเมือง Geneva และไม่จำเป็นจะต้องใช้บริการรถไฟ
.
.
2. ที่พัก
นอกจากค่าเดินทางที่ราคาสูงมากแล้ว ราคาค่าที่พักก็ไม่ต่างกัน เราหาข้อมูลราคาโรงแรมผ่านทางเว็บจองต่างๆ เปรียบเทียบกับราคาของ Airbnb ตัดสินใจจองกับทาง Airbnb เพราะราคาถูกกว่าโรงแรม (แต่ก็ยังถือว่าแพงอยู่ดี) เราตัดสินใจเลือกที่พักที่ Bern ด้วยราคาที่ถูกที่สุด แม้ว่าจะอยู่ไกลจากสถานีรถไฟออกไปหน่อย แต่เรามี Swiss Pass สามารถใช้นั่งรถไฟไปได้ แต่ที่พักที่ Geneva เราเลือกจากสถานที่ตั้งเป็นหลัก เพราะตั้งใจจะเดินเที่ยวในเมือง ซึ่งราคาก็สูงตามสภาพไป โดยทั้งสองที่เราเลือกห้องที่มีครัวพอให้เราทำอาหารเล็กๆน้อยๆได้ด้วย
.
.
3. อาหารการกิน
นอกจากค่าเดินทาง ค่าที่พัก อีกอย่างที่ราคาสูงมากก็คืออาหารการกิน แน่นอนว่าเราต้องการจะประหยัดให้ได้มากที่สุด แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเราเองก็เบื่ออาหารฝรั่งเต็มที เลยตัดสินใจแพคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลีติดกระเป๋ามาจำนวนหนึ่ง การที่เราไม่ต้องเข้าร้านอาหารแพงๆ ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ระดับนึงเลย เราเลือกซื้อวัตถุดิบจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาทำเอง โดยหลักๆก็เป็นไข่และเนื้อสัตว์ เพื่อประหยัดงบในส่วนนี้ และที่สำคัญคือบางมื้อก็ทำอาหารเที่ยงติดไปกินด้วยเลย ซึ่งจะเน้นเป็นอาหารที่สามารถกินเย็นได้ และกลิ่นเบาที่สุด (มาค้นพบว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจาจังมยอนกินเย็นๆแล้วอร่อยมาก)
นอกจากนี้จากการหาข้อมูลมาพบว่าน้ำดื่มราคาสูงมาก เราเตรียมกระติกน้ำมาคนละกระบอก และซื้อน้ำขวดใหญ่จากซูเปอร์มาร์เก็ตมาแบ่งใส่ไว้สำหรับดื่มระหว่างเดินทาง ข้อควรระวังคือดูให้ดีว่ามันเป็นน้ำเปล่า (Still water) เพราะแพคเกจจิ้งคล้ายกับ Sparkling water มากๆ แถมอ่านภาษาฝรั่งเศส/ เยอรมัน ไม่ออกอีกด้วย
.
.
4. ห้องน้ำ
จากการหาข้อมูลก่อนเดินทาง เราพบว่าห้องน้ำสาธารณะที่นี่ต้องเสียเงินเข้า ยกเว้นบนรถไฟ เราจึงต้องเตือนสติกันตลอดทางว่าจะเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน และสิบนาทีก่อนถึงเวลาลงรถไฟ เราจะเข้าห้องน้ำบนรถไฟให้เรียบร้อย เพื่อประหยัดงบส่วนนี้ (แม้จะไม่มาก แต่ก็พอจะเก็บหอมรอมริบไปซื้ออาหารได้สักมื้อ)
.
สำหรับค่าใช้จ่ายคร่าวๆในการเดินทางครั้งนี้ ก็ประหยัดไปได้พอสมควร เนื่องจากเราเรียนต่อปริญญาโทอยู่ที่อังกฤษ การเดินทางจากอังกฤษไปสวิตเซอร์แลนด์ก็จะไม่ยากลำบากมาก และค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเดินทางออกจากประเทศไทย แต่ก็สามารถปรับใช้ทริคของเราได้ตามความเหมาะสม ใครชอบประหยัดค่าอาหาร ประหยัดค่าที่พัก หรือจะไม่จำกัดงบเลยก็ย่อมได้
.
.
รวมถึงเพจของเราได้ทาง www.facebook.com/hareung/
แล้วในวันที่สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้ เราจะออกเดินทางไปสำรวจโลกด้วยกันอีกครั้งนึง!
[CR] Switzerland on budget Part 1 | การเตรียมตัว และทริคประหยัดงบ
ขายของพอแล้ว มาเข้าเรื่องกันดีกว่า ;)
สวิตเซอร์แลนด์ถือเป็นประเทศในฝันของใครหลายๆคนรวมถึงเราเองด้วย แต่อย่างที่หลายๆคนรู้กันว่าการเดินทางท่องเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นราคาค่อนข้างสูง วันนี้เราเลยจะมาเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบประหยัดในแบบของเรา ตั้งแต่การวางแผนจัดการทริป ไปจนถึงการเดินทางท่องเที่ยวจริง ทั้งหมด 4 วัน 3 คืน เป็นหนึ่งในความประทับใจที่สุด และขอยกให้เป็นเมืองที่สวยติดอันดับต้นๆในใจไปเลย
.
แพลนทริป
.
เราตั้งต้นด้วยเมือง Geneva เพราะว่าจองตั๋วเครื่องบินไปแล้ว ซึ่งได้มาในราคามิตรภาพ (แม้ว่าค่ารถเดินทางไปสนามบินจะแพงกว่าตั๋วเครื่องบินก็ตาม) เมืองที่ห้ามพลาดของเราก็คือ Interlaken หลังจากที่ได้สองเมืองหลักๆแล้ว ก็ลองหาข้อมูลว่าการเดินทางจาก Geneva ไป Interlaken จะผ่านเมืองอะไรที่น่าสนใจบ้าง สุดท้ายมาจบลงที่เราจะตั้งหลักนอนที่ Bern 2 คืน แล้วก็ที่ Geneva ในคืนสุดท้าย โดยจาก Bern เราสามารถเดินทางไปยังเมืองใกล้ๆได้ เช่น Lucerne และ Interlaken ที่สำคัญคือ Bern เป็นเมืองหลวงที่เราก็อยากจะไปสัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเองสักครั้ง
.
ทริคประหยัดงบ
.
1. Swiss Pass
หลังจากได้เมืองที่จะไปแน่นอนแล้ว เราก็เริ่มคำนวนราคาค่าเดินทางโดยดูผ่านแอพรถไฟ SBB สรุปว่าราคาสูงใช้ได้เลย เราก็เลยมองหาทางเลือกอย่าง Swiss Pass ที่หลายๆคนแนะนำ เพราะสามารถเดินทางได้ทั่วประเทศเลย (คล้ายๆกับ JR Pass ของญี่ปุ่น) เรามาเจอว่า Swiss Pass แบบที่เหมาะสมกับเราก็คือแบบ 3 วัน ซึ่งราคาอยู่ที่ 7,500 บาท ถือว่าเป็นราคาที่พอรับได้ (พอๆกับค่าเดินทางที่คำนวณมาไว้ และยังสามารถขึ้นภูเขาบางลูกได้ฟรีอีกด้วย) เราจึงแพลนที่จะเที่ยวโดยเดินทางด้วยรถไฟตลอด 3 วันแรกให้เต็มที่ ส่วนวันสุดท้ายเราจะเที่ยวกันในเมือง Geneva และไม่จำเป็นจะต้องใช้บริการรถไฟ
.
นอกจากค่าเดินทางที่ราคาสูงมากแล้ว ราคาค่าที่พักก็ไม่ต่างกัน เราหาข้อมูลราคาโรงแรมผ่านทางเว็บจองต่างๆ เปรียบเทียบกับราคาของ Airbnb ตัดสินใจจองกับทาง Airbnb เพราะราคาถูกกว่าโรงแรม (แต่ก็ยังถือว่าแพงอยู่ดี) เราตัดสินใจเลือกที่พักที่ Bern ด้วยราคาที่ถูกที่สุด แม้ว่าจะอยู่ไกลจากสถานีรถไฟออกไปหน่อย แต่เรามี Swiss Pass สามารถใช้นั่งรถไฟไปได้ แต่ที่พักที่ Geneva เราเลือกจากสถานที่ตั้งเป็นหลัก เพราะตั้งใจจะเดินเที่ยวในเมือง ซึ่งราคาก็สูงตามสภาพไป โดยทั้งสองที่เราเลือกห้องที่มีครัวพอให้เราทำอาหารเล็กๆน้อยๆได้ด้วย
.
นอกจากค่าเดินทาง ค่าที่พัก อีกอย่างที่ราคาสูงมากก็คืออาหารการกิน แน่นอนว่าเราต้องการจะประหยัดให้ได้มากที่สุด แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเราเองก็เบื่ออาหารฝรั่งเต็มที เลยตัดสินใจแพคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลีติดกระเป๋ามาจำนวนหนึ่ง การที่เราไม่ต้องเข้าร้านอาหารแพงๆ ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ระดับนึงเลย เราเลือกซื้อวัตถุดิบจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาทำเอง โดยหลักๆก็เป็นไข่และเนื้อสัตว์ เพื่อประหยัดงบในส่วนนี้ และที่สำคัญคือบางมื้อก็ทำอาหารเที่ยงติดไปกินด้วยเลย ซึ่งจะเน้นเป็นอาหารที่สามารถกินเย็นได้ และกลิ่นเบาที่สุด (มาค้นพบว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจาจังมยอนกินเย็นๆแล้วอร่อยมาก)
นอกจากนี้จากการหาข้อมูลมาพบว่าน้ำดื่มราคาสูงมาก เราเตรียมกระติกน้ำมาคนละกระบอก และซื้อน้ำขวดใหญ่จากซูเปอร์มาร์เก็ตมาแบ่งใส่ไว้สำหรับดื่มระหว่างเดินทาง ข้อควรระวังคือดูให้ดีว่ามันเป็นน้ำเปล่า (Still water) เพราะแพคเกจจิ้งคล้ายกับ Sparkling water มากๆ แถมอ่านภาษาฝรั่งเศส/ เยอรมัน ไม่ออกอีกด้วย
.
จากการหาข้อมูลก่อนเดินทาง เราพบว่าห้องน้ำสาธารณะที่นี่ต้องเสียเงินเข้า ยกเว้นบนรถไฟ เราจึงต้องเตือนสติกันตลอดทางว่าจะเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน และสิบนาทีก่อนถึงเวลาลงรถไฟ เราจะเข้าห้องน้ำบนรถไฟให้เรียบร้อย เพื่อประหยัดงบส่วนนี้ (แม้จะไม่มาก แต่ก็พอจะเก็บหอมรอมริบไปซื้ออาหารได้สักมื้อ)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้