Dangerous Lies (2020) ดูได้ใน Netflix
..
***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญบางส่วน***
คะแนนความชอบ 5.5 / 10
เคยมีผลวิจัยในเรื่องสถานภาพของชีวิตคู่ มีสาเหตุนึงที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ชีวิตคู่ต้องเลิกราหย่าร้างกันไป คือเรื่อง เงินๆทองๆ นั่นเอง ซึ่ง ผกก.ได้หยิบยกประเด็นนี้มาใช้ในหนังเรื่องนี้ ที่จะทำให้เรารู้ว่า เรื่องเงินๆทองๆ ไม่เคยเข้าใครออกใคร แม้กระทั่งคู่ชีวิตของเราที่รักกันปานจะกลินกิน ก็มากินแหนงแคลงใจกันกับเรื่องแบบนี้

หนังว่าด้วยเรื่องราวของ เคที่ (Camila Mendes) กับ อดัม (Jessie T. Usher) คู่สามีภรรยา ที่มีปัญหาครอบครัวกำลังจะถังแตก ด้วยภาระหนี้สินหลายอย่าง รายจ่ายมากกว่ารายรับ ซึ่งเคที่ทำงานอยู่คนเดียว รายได้ไม่พอที่จะใช้จ่ายในแต่ละเดือน สถานการณ์เลยต้องบีบให้ อดัม ต้องหยุดเรียน มาหางานทำช่วย พอ อดัม หยุดเรียนก็ยิ่งทำให้ครอบครัวมีรายจ่ายมากขึ้น เพราะต้องจ่ายหนี้ให้กับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา เพียงเพราะว่า อดัมไม่ได้เรียนต่อแล้วนี่เอง
..
เนื่องจากมีเหตุการณ์บางอย่างทำให้ร้านอาจปิดตัว หรือ แค่ปิดชั่วคราว ทำให้เคที่ต้องไปหางานใหม่ ซึ่งงานใหม่ของเคที่ คือ การไปดูแล เลนเนิร์ด (Elliott Gould) ผู้สูงอายุที่อยู่อย่างสันโดษในบ้านหลังใหญ่ จนมาวันนุง เลนเนิร์ด ได้เสียชีวิตลง ทำให้เกิดเหตุการณ์ยุ่งวุ่นวายหลายอย่างเกิดขึนกับเคที่และอดัม

พอหลังจากที่ เลนเนิร์ดตาย หนังได้วางปมหลอกล่อให้เราหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
..
+ อดัมไปพบหีบใส่เงินในห้องใต้หลังคาของบ้าน ทำให้เราฉุกคิดละว่า ทำไม เจ้าของบ้านไม่เอาเงินไปฝากธนาคาร เป็น อีกหนึ่งฉนวนเหตุ ที่ทำให้เคที่กับอดัม มีปากเสียงเล็กๆ หลายครั้ง
..
+ การปรากฏตัวของทนายหญิง ที่อ้างว่า เจ้าของบ้านติดต่อไปก่อนที่จะตาย เพื่อดำเนินการในเรื่องของพินัยกรรมเพื่อยกบ้านให้กับ เคที่ ( โดยที่เคที่ไม่ทราบเรื่องนี้)
..
+ มีบุคคลลึกลับที่บุกรุกเข้ามาในบ้านทั้งตอนที่ เลนเนิร์ดยังมีชีวิตอยู่ แล้วหลังจากที่ เลนเนิร์ดตาย ( มีแอบทำร้ายอดัมจนหัวแตก ตอนที่อดัมแอบเข้าบ้านไปนับเงินในหีบ )
..
+ มีนายหน้าขายที่ดิน มาติดต่อและคุกคาม เคที่ พอขอซื้อบ้าน แถมยังแอบสะกดรอยตามทั้งสองคน
..
+ มีโทรศัพท์ลึกลับ โทรให้อดัมไปให้ปากคำคดีคนร้ายปล้นร้านอาหารทั้งที่คดีได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งภายหลังมารู้ว่าคนที่โทรไปไม่ใช่ตำรวจ แต่จากเหตุการณ์ดั่งกล่าวทำให้ นักสืบ เชสเลอร์ (Sasha Alexander) สงสัยในพฤติกรรมของอดัม จึงได้แอบสืบลับๆ เพราะทางเชสเลอร์ ยังแอบติดใจเล็กๆ กับการตายของ เลนเนิร์ด ที่ในใจลึกๆเชื่อว่า การตายของเลนเนิร์ดต้องมีอะไรมากกกว่า การตายโดยธรรมชาติ

หนังหยอดประเด็นเรื่องเงินๆทองๆ ให้เราได้เห็นตลอดทั้งเรื่อง เคที่ยอมที่จะอยู่แบบถังแตก ดีกว่าจะเอาครอบครัวเข้าไปเสี่ยงกับเงินร้อน ต่างกับอดัมที่เห็นเงินมากองตรงหน้า พฤติกรรมพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ยอมเสี่ยงตัวเองเพื่อที่ตัวเองจะไม่ต้องกลับไปเป็นคนจนอีก แต่หนังเลือกทางออกให้กับทั้ง 2 คน ด้วยความอะลุ่มอลวยให้แก่กัน ประมาณว่าทุกครั้งอดัมก็จะหาเหตุผล ปัจจัยที่ทำให้เคที่ต้องยอมรับในเงินและทรัพย์สินที่ได้มาแบบไม่คาดฝัน อีกสาเหตุนึงก็คือทั้งคู่ได้แต่งงานแล้ว ประมาณลงเรือลำเดียวกันแล้วเอาไงก็เอากัน ซึ่งประเด็นนี้ก็เสียดายที่ หนังหยิบมาเล่นได้ไม่สุด ทั้งที่ปูทางให้เคที่เริ่มสงสัยในพฤติกรรมสามีอยู่แล้วเชียว
_______________________________
เสียดายตรงที่หนังเลือกที่จะเฉลย บอกคนดูตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ค่าแรงที่ เลนเนิร์ด เขียนเช็คแอบเพิ่มค่าแรงให้เคที่ เพราะรู้ว่า เคที่กำลังถังแตก ทำให้เรารู้แน่ๆว่า เชสเลอร์ ต้องเอามาเป็นประเด็นให้สงสัย , เผยหน้าคนที่สะกดรอยตามให้เห็นว่าเป็นใคร , เผยรูปร่างให้เห็นตอนเจ้าหน้าที่จัดหางานแอบย่องเข้าไปในบ้านเคที่เพื่อหาความจริง
..
แม้กระทั่งไดอะลอก บทพูด ของตัวละครก็ไม่ได้มีพลิกแพลง หรือเล่นคำอะไร สาธยายบรรยายพูดมาโต้งๆ เลย ไม่ว่าจะเป็น ตอนทนายมาพูดถึงเงื่อนไข การพิสูจน์พินัยกรรม 3 เดือน หรือตอนที่ เลนเนิร์ด พูดถึง การหายไปของคนสวนคนเก่า ซึ่งถือว่าเป็นจุดด้อยเล็กๆ เพราะคนดูจะจับต้นชนปลายได้ง่าย เผลอๆคาดเดาเรื่องราวในตอนท้ายได้เลย

ครึ่งหลังของหนังดูเหมือนจะรวบรัดมากไปหน่อย จนทำให้บทและพฤติกรรมของตัวละคร ไม่ Make Sense หลายอย่าง (เอาจริงๆ มันแปลกๆ ตั้งแต่เริ่มเรื่องแล้ว) ไม่ว่าจะเป็น..
..
+ ตอนที่ เคที่กับอดัม เจอศพ เลนเนิร์ดในบ้าน ยังมีเวลานั่งชิว คุยโน่นคุยนี่กันตั้งนาน จนกว่าจะโทรหาตำรวจ
..
+ นายหน้าขายที่ดิน ( ซึ่งตอนหลังเฉลยว่าเป็นอาชญากร ) อุตส่าห์ออกจากคุกมาแต่ไม่ยอมเปลี่ยนชื่อ นามสกุล จน อดัมไปเสิร์ชในอินเตอร์เนตดู จนความแตก....
..
+ คาลเวิร์น เจ้าหน้าที่จัดหางาน อยากสืบเรื่องเคที่จัด ไม่อยากให้บริษัทจัดหางานมีมลทิน เลยแอบย่องเข้าบ้านเคที่ยามดึก จนพลาดท่าตกบันได เพราะตกใจเสียงอดัม สรุป.. ตายฟรีเลย
..
+นักสืบแทนที่จะไปสืบเรื่องพินัยกรรม แต่กับไปสืบรื้อฟื้น ในคดีที่สิ้นสุดแล้วของอดัม......
..
+ เลนเนิร์ดไม่เอะใจ ถึงปริมาณยาที่กินอยู่ทุกวันว่ากินกี่เม็ด โดนคนร้ายแอบเพิ่มปริมาณยาให้กิน แต่ก็ไม่เอะใจ ? แถมเจ้าหน้าที่ชันสูตรไม่พบสารตกค้าง ?
..
+ มีคนตายในโรงสวนข้างๆ แต่เลนเนิร์ดไม่ได้กลิ่น ? หลังจากนั้น พอเคที่เจอศพ อดัมเลยอาสากับเคที่ว่าจะไปจัดการศพให้อดัมเลือกที่จะไปทิ้งในถังขยะในเมือง...WTF แทนที่จะไปทิ้งที่อื่นที่ไกลหูไกลตากว่านี้ ไม่กลัวกล้องวงจรปิดบ้างเหรอ 55
..
ยังมีอีกหลายประเด็นยิบย่อยที่มันดูขวางหูขวางตาไปหมด
_____________________________
เอาจริงๆ แอบเสียดายหนังน่าจะทำได้ดีกว่านี้ เหมือน ผกก. สร้างเขาวงกตให้คนเข้ามาเล่น ระหว่างที่คนกำลังเล่นสนุกหาทางออก ผกก.เบื่ออยากให้รีบๆจบ เลยทุบกำแพง ให้ทุกคนเดินมาถึงทางออกได้ง่ายๆ แยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน...
Jurassic Boy
เครดิตบทความ : เพจ เด็กชายตัวน้อยในโรงหนังใหญ่มาก
ถ้าชอบ เข้ามาคุยได้นะครับ พึ่งสร้างเพจขึ้นมาใหม่ ฝากด้วยนะครับ ติดตามได้ที่เพจ :
https://www.facebook.com/bigCinema.littleboy/
[CR] Review : Dangerous Lies / ทุกขลาภที่เปลี่ยนชะตาชีวิตคู่ไปตลอดกาล
..
***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญบางส่วน***
คะแนนความชอบ 5.5 / 10
เคยมีผลวิจัยในเรื่องสถานภาพของชีวิตคู่ มีสาเหตุนึงที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ชีวิตคู่ต้องเลิกราหย่าร้างกันไป คือเรื่อง เงินๆทองๆ นั่นเอง ซึ่ง ผกก.ได้หยิบยกประเด็นนี้มาใช้ในหนังเรื่องนี้ ที่จะทำให้เรารู้ว่า เรื่องเงินๆทองๆ ไม่เคยเข้าใครออกใคร แม้กระทั่งคู่ชีวิตของเราที่รักกันปานจะกลินกิน ก็มากินแหนงแคลงใจกันกับเรื่องแบบนี้
หนังว่าด้วยเรื่องราวของ เคที่ (Camila Mendes) กับ อดัม (Jessie T. Usher) คู่สามีภรรยา ที่มีปัญหาครอบครัวกำลังจะถังแตก ด้วยภาระหนี้สินหลายอย่าง รายจ่ายมากกว่ารายรับ ซึ่งเคที่ทำงานอยู่คนเดียว รายได้ไม่พอที่จะใช้จ่ายในแต่ละเดือน สถานการณ์เลยต้องบีบให้ อดัม ต้องหยุดเรียน มาหางานทำช่วย พอ อดัม หยุดเรียนก็ยิ่งทำให้ครอบครัวมีรายจ่ายมากขึ้น เพราะต้องจ่ายหนี้ให้กับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา เพียงเพราะว่า อดัมไม่ได้เรียนต่อแล้วนี่เอง
..
เนื่องจากมีเหตุการณ์บางอย่างทำให้ร้านอาจปิดตัว หรือ แค่ปิดชั่วคราว ทำให้เคที่ต้องไปหางานใหม่ ซึ่งงานใหม่ของเคที่ คือ การไปดูแล เลนเนิร์ด (Elliott Gould) ผู้สูงอายุที่อยู่อย่างสันโดษในบ้านหลังใหญ่ จนมาวันนุง เลนเนิร์ด ได้เสียชีวิตลง ทำให้เกิดเหตุการณ์ยุ่งวุ่นวายหลายอย่างเกิดขึนกับเคที่และอดัม
พอหลังจากที่ เลนเนิร์ดตาย หนังได้วางปมหลอกล่อให้เราหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
..
+ อดัมไปพบหีบใส่เงินในห้องใต้หลังคาของบ้าน ทำให้เราฉุกคิดละว่า ทำไม เจ้าของบ้านไม่เอาเงินไปฝากธนาคาร เป็น อีกหนึ่งฉนวนเหตุ ที่ทำให้เคที่กับอดัม มีปากเสียงเล็กๆ หลายครั้ง
..
+ การปรากฏตัวของทนายหญิง ที่อ้างว่า เจ้าของบ้านติดต่อไปก่อนที่จะตาย เพื่อดำเนินการในเรื่องของพินัยกรรมเพื่อยกบ้านให้กับ เคที่ ( โดยที่เคที่ไม่ทราบเรื่องนี้)
..
+ มีบุคคลลึกลับที่บุกรุกเข้ามาในบ้านทั้งตอนที่ เลนเนิร์ดยังมีชีวิตอยู่ แล้วหลังจากที่ เลนเนิร์ดตาย ( มีแอบทำร้ายอดัมจนหัวแตก ตอนที่อดัมแอบเข้าบ้านไปนับเงินในหีบ )
..
+ มีนายหน้าขายที่ดิน มาติดต่อและคุกคาม เคที่ พอขอซื้อบ้าน แถมยังแอบสะกดรอยตามทั้งสองคน
..
+ มีโทรศัพท์ลึกลับ โทรให้อดัมไปให้ปากคำคดีคนร้ายปล้นร้านอาหารทั้งที่คดีได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งภายหลังมารู้ว่าคนที่โทรไปไม่ใช่ตำรวจ แต่จากเหตุการณ์ดั่งกล่าวทำให้ นักสืบ เชสเลอร์ (Sasha Alexander) สงสัยในพฤติกรรมของอดัม จึงได้แอบสืบลับๆ เพราะทางเชสเลอร์ ยังแอบติดใจเล็กๆ กับการตายของ เลนเนิร์ด ที่ในใจลึกๆเชื่อว่า การตายของเลนเนิร์ดต้องมีอะไรมากกกว่า การตายโดยธรรมชาติ
หนังหยอดประเด็นเรื่องเงินๆทองๆ ให้เราได้เห็นตลอดทั้งเรื่อง เคที่ยอมที่จะอยู่แบบถังแตก ดีกว่าจะเอาครอบครัวเข้าไปเสี่ยงกับเงินร้อน ต่างกับอดัมที่เห็นเงินมากองตรงหน้า พฤติกรรมพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ยอมเสี่ยงตัวเองเพื่อที่ตัวเองจะไม่ต้องกลับไปเป็นคนจนอีก แต่หนังเลือกทางออกให้กับทั้ง 2 คน ด้วยความอะลุ่มอลวยให้แก่กัน ประมาณว่าทุกครั้งอดัมก็จะหาเหตุผล ปัจจัยที่ทำให้เคที่ต้องยอมรับในเงินและทรัพย์สินที่ได้มาแบบไม่คาดฝัน อีกสาเหตุนึงก็คือทั้งคู่ได้แต่งงานแล้ว ประมาณลงเรือลำเดียวกันแล้วเอาไงก็เอากัน ซึ่งประเด็นนี้ก็เสียดายที่ หนังหยิบมาเล่นได้ไม่สุด ทั้งที่ปูทางให้เคที่เริ่มสงสัยในพฤติกรรมสามีอยู่แล้วเชียว
_______________________________
เสียดายตรงที่หนังเลือกที่จะเฉลย บอกคนดูตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ค่าแรงที่ เลนเนิร์ด เขียนเช็คแอบเพิ่มค่าแรงให้เคที่ เพราะรู้ว่า เคที่กำลังถังแตก ทำให้เรารู้แน่ๆว่า เชสเลอร์ ต้องเอามาเป็นประเด็นให้สงสัย , เผยหน้าคนที่สะกดรอยตามให้เห็นว่าเป็นใคร , เผยรูปร่างให้เห็นตอนเจ้าหน้าที่จัดหางานแอบย่องเข้าไปในบ้านเคที่เพื่อหาความจริง
..
แม้กระทั่งไดอะลอก บทพูด ของตัวละครก็ไม่ได้มีพลิกแพลง หรือเล่นคำอะไร สาธยายบรรยายพูดมาโต้งๆ เลย ไม่ว่าจะเป็น ตอนทนายมาพูดถึงเงื่อนไข การพิสูจน์พินัยกรรม 3 เดือน หรือตอนที่ เลนเนิร์ด พูดถึง การหายไปของคนสวนคนเก่า ซึ่งถือว่าเป็นจุดด้อยเล็กๆ เพราะคนดูจะจับต้นชนปลายได้ง่าย เผลอๆคาดเดาเรื่องราวในตอนท้ายได้เลย
ครึ่งหลังของหนังดูเหมือนจะรวบรัดมากไปหน่อย จนทำให้บทและพฤติกรรมของตัวละคร ไม่ Make Sense หลายอย่าง (เอาจริงๆ มันแปลกๆ ตั้งแต่เริ่มเรื่องแล้ว) ไม่ว่าจะเป็น..
..
+ ตอนที่ เคที่กับอดัม เจอศพ เลนเนิร์ดในบ้าน ยังมีเวลานั่งชิว คุยโน่นคุยนี่กันตั้งนาน จนกว่าจะโทรหาตำรวจ
..
+ นายหน้าขายที่ดิน ( ซึ่งตอนหลังเฉลยว่าเป็นอาชญากร ) อุตส่าห์ออกจากคุกมาแต่ไม่ยอมเปลี่ยนชื่อ นามสกุล จน อดัมไปเสิร์ชในอินเตอร์เนตดู จนความแตก....
..
+ คาลเวิร์น เจ้าหน้าที่จัดหางาน อยากสืบเรื่องเคที่จัด ไม่อยากให้บริษัทจัดหางานมีมลทิน เลยแอบย่องเข้าบ้านเคที่ยามดึก จนพลาดท่าตกบันได เพราะตกใจเสียงอดัม สรุป.. ตายฟรีเลย
..
+นักสืบแทนที่จะไปสืบเรื่องพินัยกรรม แต่กับไปสืบรื้อฟื้น ในคดีที่สิ้นสุดแล้วของอดัม......
..
+ เลนเนิร์ดไม่เอะใจ ถึงปริมาณยาที่กินอยู่ทุกวันว่ากินกี่เม็ด โดนคนร้ายแอบเพิ่มปริมาณยาให้กิน แต่ก็ไม่เอะใจ ? แถมเจ้าหน้าที่ชันสูตรไม่พบสารตกค้าง ?
..
+ มีคนตายในโรงสวนข้างๆ แต่เลนเนิร์ดไม่ได้กลิ่น ? หลังจากนั้น พอเคที่เจอศพ อดัมเลยอาสากับเคที่ว่าจะไปจัดการศพให้อดัมเลือกที่จะไปทิ้งในถังขยะในเมือง...WTF แทนที่จะไปทิ้งที่อื่นที่ไกลหูไกลตากว่านี้ ไม่กลัวกล้องวงจรปิดบ้างเหรอ 55
..
ยังมีอีกหลายประเด็นยิบย่อยที่มันดูขวางหูขวางตาไปหมด
_____________________________
เอาจริงๆ แอบเสียดายหนังน่าจะทำได้ดีกว่านี้ เหมือน ผกก. สร้างเขาวงกตให้คนเข้ามาเล่น ระหว่างที่คนกำลังเล่นสนุกหาทางออก ผกก.เบื่ออยากให้รีบๆจบ เลยทุบกำแพง ให้ทุกคนเดินมาถึงทางออกได้ง่ายๆ แยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน...
Jurassic Boy
เครดิตบทความ : เพจ เด็กชายตัวน้อยในโรงหนังใหญ่มาก
ถ้าชอบ เข้ามาคุยได้นะครับ พึ่งสร้างเพจขึ้นมาใหม่ ฝากด้วยนะครับ ติดตามได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/bigCinema.littleboy/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้