“พี่ครับเราไป นอนด่านมะขามเตี้ยกันขับรถ ไม่เกิน หนึ่งชั่วโมง ก็ถึงแล้ว” ผมชวน
“เอาซิ น้องอยากไปไหนก็ไป” ป้าตอบ
วันนั้นผมพาป้ามาเยี่ยมพี่ชายที่จอมบึง นั่งกินข้าวอยุ่แถว ราชภัฎ จอมบึง ไปด่านมะขามเตี้ยกาญจนบุรี ก็ ระยะทาง พอดูเหมือนกัน
เลกาซี่รีสอร์ท คือที่หมายของเรา
“เคยไปที่นี่ซิ ชอบไปหรือ” ป้าถาม
“ใช่ครับ เคยไปมาตั้งแต่ปีใหม่ ปี 2552 เขาจัดงานดินเนอร์ วันปีใหม่ผมเลยพาหมิวมาเที่ยวตอนนั้น ห้องยังไม่สวยงามเท่าปัจจุบัน เขาบริการดีแล้วผมชอบ ที่นี่ สงบดี”
สมัยนี้อะไรก็สะดวก แต่ก่อน มากาญจนบุรี ขับรถไปเปิดแผนที่ ทางหลวงไป สมัยนี้ GPS อย่างมากก็ไปกลางทุ่งนา ฮาาาาาาาาาา
“พานางเล็กๆ มานอนประจำซิ” ป้าดักคอ
“เฮ้ย ไม่มีนะพี่ ที่นี่เป็นที่ที่ผมชอบมาก มาเป็นสิบแล้ว เวลาทำงานยุ่งๆ ผมนะ Work from home มานานแล้วนะพี่ตั้งแต่สมัย ต้มยำกุ้งโน่น”
เลกาซีรีสอร์ท เป็นรีสอร์ท ที่จะว่าไปถือว่าใหญ่ ไม่น้อย
ชิวิตคนเรามันก็แปลกนะ เราสร้างบ้านเรือนใหญ่โต มีตึกสูง มีคอนโด เป็นสิบๆ ชั้นแต่เวลาเราพักผ่อน เรากลับหนีเมืองกรุง มาหาธรรมชาติ มาอยู่กับ ความสงบกลางป่า
“พี่เชื่อไหม เลย จากนี้ไปราว 20 กิโลเมตรเป็นค่าย ไทรโยค ด้านหลังริมแม่น้ำ มีค่าย อินวะษา ผมเคยมาฝึกภาคสนาม รด ปี 5 ที่นั่นด้วย ทำให้รู้สึกชอบกาญ ชอบเพราะมันสงบ เงียบแบบนี้ชอบ”
วันนั้นเป็นวันธรรมดา ไม่มีเทศกาลอะไร ดูเหมือนมีเด็ก นักเรียนกลุ่มเล็กๆ มาเข้าค่าย รีสอร์ท เงียบมากไม่คึกคักเหมือนช่วงปีใหม่ ที่ผมชอบมากับลูก
ผมกับป้า ได้ห้องพักเป็นเรือนหลังเล็ก ๆ ไกลจากล็อบบี้ พอควร แต่ก็ดี สงบ เพราะแทบไม่มีคนเดินผ่าน เรือนที่เราพัก
“ไม่ออกไปไหนหรือ” ป้าถาม
“ไม่แล้วล่ะพี่ รีสอร์ท คือที่ที่เราใช้เวลาอยู่กับมัน พัก กิน นอน อยู่ที่นี่สบายๆ นะครับ มามะ เดี๋ยวพาไปที่ แม่น้ำด้านหลังหาอะไรกินด้วย”
ผมพาป้าเดินตัดล็อบบี้ขึ้นมา
“พี่เห็นเก้าอี้ไม้ตรงนั้นไหม มาบางทีนะผมเครียดงานมาคนเดียว หอบโน๊ตบุ๊ค มาแล้วก็ มาพัก นั่งทำงาน แถวนี้หรือไม่ก็นอนหลับตรงเก้าอี้ไม้ นั่นแหละ วันธรรมดา บางที ผม พักคนเดียวทั้งรีสอร์ทก็เคยมาแล้ว แพในแม่น้ำ นั่น ผม ก็เคยนะ แป๊บซี่แก้วหนึ่ง ขนมนิดหน่อย หนังสือเล่มหนึ่ง นั่งอ่านจนนอนหลับ ไปเลย”
บ่ายวันนั้นได้นั่งกินข้าวเดินถ่ายรูปกับป้า อย่างมีความสุข จนมื้อเย็น
“อยากกิน เหล้าซักแก้ว” ป้ารำพึง
“เอาเลย ไหม บลูมาการิต้า”
สั่งค็อคเทลให้ป้าแก แก้วหนึ่ง ผมนั่งกินเบียร์ ไป
ชีวิตคนเรา ไม่ต้องไวน์ขวดละเป็นแสน หรือ อะไร เลย การมีชีวิต สงบๆ ง่ายๆ ความเรียบง่าย กินข้าว พักผ่อนกับ คนที่รู้ใจ เรา และเรารู้ใจเขา มันเป็นอะไรที่มีความสุขจริงๆ นะครับ
ผมเห็นหลายคน สามีทำงานยุ่งๆ ภรรยาก็ เอาแต่ช้อปแทบไม่มีเวลา คุยกัน แล้วได้อะไร บางคนวิ่งหาเงินตะครุบเงินจนลืม ความเป็นครอบครัว ลืม ความสุขง่ายๆ ไปสุดท้าย เสียหมดทุกอย่าง
======ลุงป้าเล่าเรื่อง รีสอร์ทแสนสุข (ตอนที่ 10)==========
“เอาซิ น้องอยากไปไหนก็ไป” ป้าตอบ
วันนั้นผมพาป้ามาเยี่ยมพี่ชายที่จอมบึง นั่งกินข้าวอยุ่แถว ราชภัฎ จอมบึง ไปด่านมะขามเตี้ยกาญจนบุรี ก็ ระยะทาง พอดูเหมือนกัน
เลกาซี่รีสอร์ท คือที่หมายของเรา
“เคยไปที่นี่ซิ ชอบไปหรือ” ป้าถาม
“ใช่ครับ เคยไปมาตั้งแต่ปีใหม่ ปี 2552 เขาจัดงานดินเนอร์ วันปีใหม่ผมเลยพาหมิวมาเที่ยวตอนนั้น ห้องยังไม่สวยงามเท่าปัจจุบัน เขาบริการดีแล้วผมชอบ ที่นี่ สงบดี”
สมัยนี้อะไรก็สะดวก แต่ก่อน มากาญจนบุรี ขับรถไปเปิดแผนที่ ทางหลวงไป สมัยนี้ GPS อย่างมากก็ไปกลางทุ่งนา ฮาาาาาาาาาา
“พานางเล็กๆ มานอนประจำซิ” ป้าดักคอ
“เฮ้ย ไม่มีนะพี่ ที่นี่เป็นที่ที่ผมชอบมาก มาเป็นสิบแล้ว เวลาทำงานยุ่งๆ ผมนะ Work from home มานานแล้วนะพี่ตั้งแต่สมัย ต้มยำกุ้งโน่น”
เลกาซีรีสอร์ท เป็นรีสอร์ท ที่จะว่าไปถือว่าใหญ่ ไม่น้อย
ชิวิตคนเรามันก็แปลกนะ เราสร้างบ้านเรือนใหญ่โต มีตึกสูง มีคอนโด เป็นสิบๆ ชั้นแต่เวลาเราพักผ่อน เรากลับหนีเมืองกรุง มาหาธรรมชาติ มาอยู่กับ ความสงบกลางป่า
“พี่เชื่อไหม เลย จากนี้ไปราว 20 กิโลเมตรเป็นค่าย ไทรโยค ด้านหลังริมแม่น้ำ มีค่าย อินวะษา ผมเคยมาฝึกภาคสนาม รด ปี 5 ที่นั่นด้วย ทำให้รู้สึกชอบกาญ ชอบเพราะมันสงบ เงียบแบบนี้ชอบ”
วันนั้นเป็นวันธรรมดา ไม่มีเทศกาลอะไร ดูเหมือนมีเด็ก นักเรียนกลุ่มเล็กๆ มาเข้าค่าย รีสอร์ท เงียบมากไม่คึกคักเหมือนช่วงปีใหม่ ที่ผมชอบมากับลูก
ผมกับป้า ได้ห้องพักเป็นเรือนหลังเล็ก ๆ ไกลจากล็อบบี้ พอควร แต่ก็ดี สงบ เพราะแทบไม่มีคนเดินผ่าน เรือนที่เราพัก
“ไม่ออกไปไหนหรือ” ป้าถาม
“ไม่แล้วล่ะพี่ รีสอร์ท คือที่ที่เราใช้เวลาอยู่กับมัน พัก กิน นอน อยู่ที่นี่สบายๆ นะครับ มามะ เดี๋ยวพาไปที่ แม่น้ำด้านหลังหาอะไรกินด้วย”
ผมพาป้าเดินตัดล็อบบี้ขึ้นมา
“พี่เห็นเก้าอี้ไม้ตรงนั้นไหม มาบางทีนะผมเครียดงานมาคนเดียว หอบโน๊ตบุ๊ค มาแล้วก็ มาพัก นั่งทำงาน แถวนี้หรือไม่ก็นอนหลับตรงเก้าอี้ไม้ นั่นแหละ วันธรรมดา บางที ผม พักคนเดียวทั้งรีสอร์ทก็เคยมาแล้ว แพในแม่น้ำ นั่น ผม ก็เคยนะ แป๊บซี่แก้วหนึ่ง ขนมนิดหน่อย หนังสือเล่มหนึ่ง นั่งอ่านจนนอนหลับ ไปเลย”
บ่ายวันนั้นได้นั่งกินข้าวเดินถ่ายรูปกับป้า อย่างมีความสุข จนมื้อเย็น
“อยากกิน เหล้าซักแก้ว” ป้ารำพึง
“เอาเลย ไหม บลูมาการิต้า”
สั่งค็อคเทลให้ป้าแก แก้วหนึ่ง ผมนั่งกินเบียร์ ไป
ชีวิตคนเรา ไม่ต้องไวน์ขวดละเป็นแสน หรือ อะไร เลย การมีชีวิต สงบๆ ง่ายๆ ความเรียบง่าย กินข้าว พักผ่อนกับ คนที่รู้ใจ เรา และเรารู้ใจเขา มันเป็นอะไรที่มีความสุขจริงๆ นะครับ
ผมเห็นหลายคน สามีทำงานยุ่งๆ ภรรยาก็ เอาแต่ช้อปแทบไม่มีเวลา คุยกัน แล้วได้อะไร บางคนวิ่งหาเงินตะครุบเงินจนลืม ความเป็นครอบครัว ลืม ความสุขง่ายๆ ไปสุดท้าย เสียหมดทุกอย่าง