น้าโซลชาที่เท่าไหร่ ? จัดอันดับ 10 กุนซืออดีตลูกทีมป๋าเฟอร์กี้

น้าโซลชาที่เท่าไหร่? จัดอันดับ 10 กุนซืออดีตลูกทีมป๋าเฟอร์กี้

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถือเป็นหนึ่งในกุนซือที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์วงการลูกหนัง นักเตะมากมายที่ผ่านการดูแลของเขาได้จดจำวิชาเพื่อไปต่อยอดเป็นผู้จัดการทีมหลังแขวนสตั๊ด โดยมีนักเตะทั้งหมด 28 คนที่ผันตัวเองมาเป็นนายใหญ่ แต่น่าสนใจว่ามีกี่คนที่ประสบความสำเร็จในฐานะกุนซือบ้าง แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์ สื่อท้องถิ่นของเมืองแมนเชสเตอร์ จึงมาจัด 10 อันดับกุนซืออดีตลูกทีมป๋า "เฟอร์กี้"



10.รอย คีน



แม้ว่าตำนานกองกลาง “ผีแดง” คนนี้จะรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ชเป็นส่วนใหญ่ แต่ รอย คีน ก็เคยเป็นกุนซือมาก่อนในช่วงระยะสั้นๆหลังแขวนสตั๊ดกับทีม ซันเดอร์แลนด์ และอิปสวิช ทาวน์ เขาไม่ค่อยประสบความสำเร็จกับ 2 ปีที่ อิปสวิช ทาวน์ สักเท่าไหร่ แต่กับทัพ “แมวดำ” ถือว่าดูดีทีเดียว

เขาเข้ามาคุมทัพซันเดอร์แลนด์ในตอนที่ทีมจมอยู่ท้ายตารางลีกแชมเปี้ยนชิพปี 2006 แต่จบฤดูกาลด้วยการพุ่งทะยานเป็นจ่าฝูงพร้อมกับเลื่อนชั้นขึ้นมาสู่พรีเมียร์ลีก ก่อนพาทีมจบอันดับที่ 15 ในฤดูกาล 2007-08 ทว่าฤดูกาลถัดมาเขาทำผลงานไม่ดีนักจนทีมตกลงไปอยู่อันดับที่ 18 ทำให้โดนสโมสรสั่งปลด หลังจากนั้นเขาก็รับงานเป็นสต๊าฟฟ์โค้ชให้ทีมชาติไอร์แลนด์, แอสตัน วิลล่า และน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

9.พอล อินซ์



เป็นอีกหนึ่งคนที่ช่วงเริ่มต้นอาชีพกุนซือได้สวยทีเดียวหลังพาทีม แม็คเคิ่ลส์ ฟิลด์ ทาวน์ หนีจากโซนตกชั้นลีกทูได้สำเร็จ และฤดูกาลต่อมากับทีม เอ็มเค ดอนส์ ก็ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ลีกทูในปี 2008 อีกต่างหาก

อย่างไรก็ตามเมื่อย้ายไปคุม แบล็คเบิร์น ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2008-09 เจ้าตัวก็ทำผลงานดิ่งเหวจนถูกปลด หลังจากนั้นไม่ว่าจะคุมทีม เอ็มเค ดอนส์, น็อตต์ส เคาน์ตี้ หรือแบล็คพูล ก็ไปไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่และเขาไม่ได้เป็นผู้จัดการทีมมาตั้งแต่ปี 2014 

8.ไรอัน กิ๊กซ์



ตำนานปีกพ่อมดของ “ผีแดง” เริ่มอาชีพผู้จัดการทีมด้วยการคุมทัพ แมนฯยูไนเต็ด ในฐานะนายใหญ่ชั่วคราวหลังจาก เดวิด มอยส์ ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่ง 4 เกมกับ “ปีศาจแดง” ก็ทำผลงานชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ 1 ก่อนที่จะผันตัวเองเป็นผู้ช่วยโค้ชของ หลุยส์ ฟานกัล และสิ้นสุดการรับใช้ผีแดง 26 ปีในรั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ เข้ามาคุมทัพแมนฯยูไนเต็ด

จนกระทั่งเขาไปรับงานกุนซือทีมชาติเวลส์ในปี 2018 ซึ่งรอบคัดเลือกฟุตบอลยูโร 2020 ก็ทำผลงานน่าประทับใจทีเดียว

7.ไบรอัน ร็อบสัน



อาชีพกุนซือของ ไบรอัน ร็อบสัน คล้ายๆกับ รอย คีน และพอล อินซ์ เนื่องจากเขาเริ่มต้นกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ได้สวยทีเดียวหลังพาทีมขึ้นสู่พรีเมียร์ชิพ และต่อมายังช่วยให้ทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศทั้งเอฟเอ คัพและลีกคัพปี 1997 ด้วย ทว่าเขาแยกทางกับ “เดอะ โบโร่” ในปี 2001 

หลังจากนั้นเจ้าตัวก็คุมทีมทั้ง แบรดฟอร์ด ซิตี้, เวสต์บรอมวิช, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แต่ก็ไม่ได้คุมทีมฝนอังกฤษนับตั้งแต่ปี 2008 การคุมทีมครั้งสุดท้ายของเขาคือทีมชาติไทยในเดือนกันยายนปี 2009 ถึงเดือนมิถุายนปี 2011

6.โอเล่ กุนนาร์​ โซลชา



โซลชา เริ่มต้นคุมทัพแบบเต็มตัวกับ โมลด์ ทีมในลีกบ้านเกิดพร้อมคว้าแชมป์ลีก 2 ปีติดต่อกันในปี 2012 และ 2013 อย่างไรก็ตามเขาทำผลงานย่ำแย่กับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ และไม่สามารถช่วยให้ทีมรอดตกชั้น ก่อนจะย้ายกลับไป โมลด์ อีกครั้ง

จนกระทั่งเขากลับมาเป็นกุนซือชั่วคราวให้กับ แมนฯยูไนเต็ด ในปลายปี 2018 แทนที่ของ โชเซ่ มูรินโญ่ พร้อมกับทำผลงานสุดยอดจนผีแดงต้องเซ็นสัญญาถาวรจนมาถึงปัจจุบัน

5.สตีฟ บรูซ



มันมีเหตุผลที่ สตีฟ บรูซ ​ไม่เคยว่างงานเลยนับตั้งแต่เขาคุมทีมอย่างเต็มตัวครั้งแรกกับ เชฟฟิดล์ ยูไนเต็ด ในปี 1998 แม้เขาจะไม่เคยคว้าความสำเร็จเลยแต่ก็ทำผลงานสุดยอดมากมายตลอดการคุมทึมถึง 11 สโมสร ทั้งการพาทีมจากแชมเปี้ยนชิพเลื่อนชั้น 3 ครั้ง, พา ฮัลล์ ซิตี้ เข้ารอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ และปัจจุบันก็คุมทัพนิวคาสเซิ่ลด้วยผลงานใช้ได้ทีเดียว

4.เดวิด ฮีลี่ย์



ตำนานแข้งไอร์แลนด์เหนือลงสนามให้กับ แมนฯยูไนเต็ด ของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่มากนักแต่ก็ยังมีชื่อติดอยู่ในอันดับเนื่องจากนับตั้งแต่ปี 2015 เขาประสบความสำเร็จมากมายกับการคุมทีม ลินฟิลด์ ในลีกบ้านเกิด ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ลีกไอร์แลนด์เหนือ 2 สมัย (2017 และ 2019), ลีกคัพไอร์แลนด์เหนือ 2 สมัย, ไอริช คัพ, แชมป์การกุศล ‘แชริตี้ ชิลด์’ และแชมป์เคาน์ตี้ แอนทริม ชีลด์ เขายังเป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของลีกในปี 2019 ด้วย ปัจจุบันก่อนหยุดการแข่งขันเขาพาทีมอยู่จ่าฝูงมีแต้มห่างรองจ่าฝูง 4 แต้ม

3.มาร์ค ฮิวจ์ส



เป็นอีกคนที่มักจะมีงานวนเวียนในลีกอังกฤษอยู่ตลอด เขาเริ่มต้นด้วยการเป็นกุนซือทีมชาติเวลส์ในช่วงระหว่างปี 1999-2004 สร้างชื่อเสียงหลังเอาชนะ อิตาลี 2-1 ในรอบคัดเลือกยูโร 2004 และเกือบพาทีมผ่านรอบคัดเลือกได้ หลังจากนั้นเขาก็มาทำผลงานดีกับ แบล็คเบิร์น ด้วยการจบในท็อป 7 ของตารางได้ถึง 2 ครั้ง จนได้ย้ายไปคุมทัพแมนฯซิตี้

ทว่าการมาของกลุ่มทุนอบูดาบีทำให้เขาต้องแยกทางกับ “เรือใบสีฟ้า” อย่างรวดเร็ว แม้ว่าต่อมา ฮิวจ์ส จะพาทีม ฟูแล่ม ทำผลงานยอดเยี่ยมจบอันดับ 8 ของตารางแต่เขาก็ขอออกจากสโมสร  หลังจากนั้นก็ไปคุมทีมทั้ง ควีนส์พาร์ค, สโต๊ค ซิตี้ รวมถึง เซาธ์แฮมป์ตัน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด

2.กอร์ดอน สตรั๊คคั่น



อดีตกองกลางของผีแดงลงเล่นภายใต้การคุมทีมของป๋า “เฟอร์กี้” ในช่วงปี 1984-1989 หลังจากค้าแข้งพร้อมกับเป็นผู้ช่วยโค้ชกับทีม โคเวนทรี ซิตี้ ในฤดูกาล 1996-97 เขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกุนซือเต็มตัว ก่อนจะย้ายมาคุมทีมเซาธ์แฮมป์ตันในปี 2001 และช่วยให้ “นักบุญ” ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ในอีก 2 ปีถัดมาแต่ก็ต้องแยกทางกับสโมสรเพราะเขาต้องการขอพักจากฟุตบอล

หลังจากหยุดพัก 16 เดือนเขาก็ไปเปิดตัวกับ เซลติก ในปี 2005 และประสบความสำเร็จมากมายด้วยการคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย, สกอตติช ลีก คัพ  2 สมัย, สกอตติช คัพ อีก 1 สมัย แถมในช่วงระหว่างที่เขาคุมทัพ เซลติก ยังเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ชปล. หลังจากเอาชนะเอซี มิลานในรอบแบ่งกลุ่ม ต่อมาเจ้าตัวก็ย้ายไปคุมทีพ มิดเดิ้ลโบรช์ สักพักหนึ่งก่อนจะขยับไปคุมทีมชาติสกอตแลนด์ในปี 2013-2017

1.โลร็องต์ บล็องก์



อันดับหนึ่งคืออดีตกองหลังผีแดงอย่าง โลร็องต์ บล็องก์ ซึ่งแขวนสตั๊ดกับแมนฯยูไนเต็ดในปี 2003 ก่อนจะเริ่มต้นเป็นผู้จัดการทีมที่ บอร์กโดซ์ ในปี 2007 พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิงในปี 2009 

ในปีต่อมาเขาได้ตกลงคุมทีมชาติฝรั่งเศส และพาทีมไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลยูโร 2012 ก่อนลงจากตำแหน่ง  หลังจากนั้นเจ้าตัวก็มาคุมทัพ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในปี 2013 และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทั้งคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย (2013-2016), เฟร้นช์ คัพ 2 สมัย และเฟร้นช์ ลีก คัพ อีก 3 สมัย เป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมของลีกเอิงในปี 2008,2015.2016 น่าแปลกใจที่เขาไม่ได้เป็นกุนซือนับตั้งแต่ปี 2016

cr : www.siampsort.co.th

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่