
ใครคิดถึงญี่ปุ่น ยกมือขึ้น!
เมื่อปีที่แล้ว ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เราได้ออกทริปไปเที่ยวฮอกไกโดช่วงหน้าร้อน 2 คนกับคุณสา
ลงมือจัดทริปเอง และเลือกที่พักเอง โดยหาข้อมูลจากหลายๆ ที่ สุดท้ายก็เลือกมาพักที่นี่
วันนี้เลยจะขอรีวิวโรงแรมในทริปฮอกไกโดของเรา เผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ในการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นทริปหน้ากันค่ะ
.........✍️✍️✍️............
พิกัด📌: โรงแรมเดอะบี ซัปโปโร ซูซูกิโนะ (The b Sapporo Susukino)
ประเภทห้องที่เข้าพัก : Standard Double Room (Non-Smoking) ขนาด 16 sqm สำหรับ 2 คน
วันที่ไปใช้บริการ : วันที่ 26-30 กรกฎาคม 2562 (4 คืน)
สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด: รถไฟใต้ดินสถานีซูซูกิโนะ (Susukino) ทางออก 4
..........✍️✍️✍️............
เราเลือกจองที่พักผ่านแอพ Traveloka ได้มาในราคา 12,000 บาท ไม่รวมอาหารเช้าค่ะ (เฉลี่ยคืนละ 3,000 บาท) ราคาค่อนข้างสูงทีเดียว
แต่ก็ถือว่าถูกที่สุดแล้วในตอนนั้น สำหรับทำเลในย่านซูซูกิโนะ (ส่วนที่พักใกล้สถานีซัปโปโร ราคาสูงกว่านี้เยอะเลยค่ะ)
จากสนามบิน New Chitose เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Sapporo และต่อรถไฟใต้ดิน Sapporo มาลงสถานี Susukino และใช้ทางออกหมายเลข 4

ออกมาก็จะเจอกับแยกไฟแดง และป้ายพระราชาถือวิสกี้ หรือ "Nikka Sign" แลนด์มาร์คสำคัญของย่านซูซูกิโนะแห่งนี้ค่ะ

ด้วยความที่ข้าวของพะรุงพะรัง บวกกับความอยากนั่งรถรางของที่นี่ เราจะข้ามฝั่งไปยังเกาะกลางถนน เพื่อไปขึ้นรถรางกันค่ะ

โดยป้ายตั้งต้นคือป้าย Susukino (SC 23) ตามสัญลักษณ์สีแดงในรูปด้านล่าง เราจะนั่งไปลงป้ายหน้า ใช่ค่ะ! เรานั่งแค่ป้ายเดียว 555 สนองนี๊ดดดดดดด โดยเราจะลงที่ป้าย Shiseikan Shogakko Mae (SC 22)
รถรางที่นี่มี 2 ฝั่งนะคะ ต้องสังเกตป้ายดีๆ ว่าเราขึ้นถูกฝั่งมั้ย ให้ดูจากป้ายที่เราขึ้น และดูชื่อป้ายปลายทางที่เราจะลง จากนั้นสังเกตลูกศรว่าชี้ไปทางไหน ผ่านป้ายที่เราจะลงรึเปล่า ไม่ยากเลยค่ะ (จริงๆ ก็นั่งได้ทั้ง 2 ฝั่งแหละ เพียงแต่ถ้านั่งผิดฝั่ง กว่าจะวนมาถึงป้ายที่เราจะลง อาจจะอ้อมโลกไปไกลค่ะ)

ลืมถ่ายหน้าตาของรถรางมาให้ชมค่ะ ขอเอาภาพกลางคืนมาลงแทน รถรางที่นี่เรียกว่า "Streetcar (Shiden) Sightseeing" หรือเรียกสั้นๆ ว่า "ชิเด็น" ค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่เที่ยวละ 200 เยน ส่วนเด็ก 100 เยนค่ะ จ่ายได้ทั้งเงินสดและ IC Card (เราใช้ Suica ค่ะ)

บรรยากาศภายในรถราง ดูสบายตา ที่สำคัญคือสะอาดมากกกก

พอลงรถรางก็เดินข้ามมาฝั่งซ้ายมือ จากนั้นเดินต่อไปยังโรงแรมอีกประมาณ 2-3 นาที ก็ถึงหน้าโรงแรมแล้วจ้า
โรงแรม The b Sapporo Susukino เพิ่งเปิดเมื่อปี 2018 ค่ะ สภาพภายนอกยังดูใหม่มาก
เยื้องๆ โรงแรมทั้งซ้าย-ขวา มี LAWSON 2 สาขาเลยค่ะ

กลางคืนประตูทางเข้าด้านในจะล็อคนะคะ ต้องใช้คีย์การ์ดแตะเข้ามาค่ะ

เข้ามาข้างในจะเจอกับห้องสูบบุหรี่ทางขวามือ ส่วนซ้ายมือเป็นประตูสำหรับเข้าไปยังล็อบบี้ค่ะ

เข้ามาจะเจอกับมุมนั่งเล่น / นั่งรอเช็คอิน

ติดๆ กัน มีมุมกาแฟให้กดฟรีจ้า เริ่ดดดดดดดด

คุณสา กดเอสเพรสโซ่มาลอง บอกว่ารสชาติทั่วไป ไม่ได้ว้าวมากค่ะ

ถัดไปข้างในเป็นห้องอาหารเช้าค่ะ ส่วนด้านซ้ายมือของรูปเป็นเคานท์เตอร์เช็คอินค่ะ

ที่นี่เช็คอินบ่าย 3 เช็คเอาท์ไม่เกิน 11 โมงค่ะ
เช็คอินเรียบร้อย ได้คีย์การ์ดมาแล้ว ตามไปดูห้องพักกันจ้าาาาา

เราได้ห้องพักชั้น 5 ค่ะ (โรงแรมมีทั้งหมด 13 ชั้น)

ภายในสะอาดสะอ้านมากกกก

ห้องเล็กกะทัดรัด สไตล์ญี่ปุ่น ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นที่แขวนเสื้อผ้า

อุปกรณ์สำหรับรองเท้าตามสไตล์ญี่ปุ่น

เตียงนอนนุ่มๆ นอนเบียดกันอบอุ่นๆ

มีทีวีอยู่ปลายเตียงค่ะ

มุมทำงานเล็กๆ

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตู้เย็นใบเล็กน่ารัก

ชาเขียวพร้อมกาน้ำร้อนที่เดือดเร็วมาก

ตู้เซฟ ไดร์เป่าผม แฟ้มกฎกติกามารยาท ถุงสำหรับส่งผ้าซักรีด และรองเท้าแตะสำหรับสวมในห้องค่ะ

มีฮีทเตอร์ให้ด้วยนะคะ ไว้ใช้หน้าหนาว สำหรับเราที่มาหน้าร้อนก็พับเก็บไว้ได้เลยจ้า

สำรวจห้องน้ำกันดีกว่า แบ่งโซนเปียก-โซนแห้งได้ดีมากค่ะ เพราะมีประตูกั้น

แปรงสีฟัน, ที่โกนหนวด, หวี, cotton bud (ที่ปั่นหู) มีให้พร้อมค่ะ (แต่แนะนำให้เอาแปรงมาเองดีกว่าค่ะ เพราะมันแข็งมากกกกก)

อันนี้เหมือนผ้าขัดตัวค่ะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน

สบู่ล้างมือ Shisedo

มาถึงไฮไลท์ที่เราอยากนำเสนอ และเป็นเหตุผลหลักที่เราตัดสินใจเลือกพักที่นี่ นั่นคือ สุดยอดนวัตกรรมของฝักบัววววว
ที่นอกจากเรนชาวเวอร์ด้านบนจะใหญ่สะใจแล้ว ยังมีรูพ่นน้ำไปตามจุดต่างๆ ของร่างกายอีกด้วย แถมยังหมุนปรับทิศทางได้ตามใจชอบ เหมือนได้นวดคลายจุดไปในตัว บอกเลยว่ากลับมาเหนื่อยๆ แล้วมาเล่นฝักบัวของที่นี่ มันคือที่สุดแล้วจริงๆ


ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้ไม่เป็นนะคะ เค้ามีวิธีใช้งานเป็นภาษาอังกฤษไว้ให้ค่ะ
ครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด มีให้ครบค่ะ
สรุปแล้วค่อนข้างประทับใจที่นี่ ด้วยความที่
- อยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวหรือแลนด์มาร์คที่คนพลุกพล่าน ทำให้ที่นี่ค่อนข้างสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะกับการพักผ่อนจริงๆ
- โรงแรมเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ทำให้ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพดี และดูสะอาดมากๆ
- ที่สำคัญคือประทับใจห้องอาบน้ำมากๆ (ย้ำจัง

) สำหรับเรามันเริ่ดจริงๆ นะ
หักคะแนนนิดหน่อยตรงที่ไกลจากสถานีซูซูกิโนะ แต่ก็ไม่ถือว่าไกลมากสำหรับเรา เดินชิวๆ ดูร้านค้า ดูผู้คน ก็เพลินๆ ดีนะคะ
ยังไงที่นี่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทริปต่อๆ ไปหากได้มาเยือนที่ฮอกไกโดอีกครั้ง
... The b Sapporo Susukino...
[CR] (เที่ยวฮอกไกโด) รีวิวโรงแรมเดอะบี ซัปโปโร (The b Sapporo Susukino) แถวสถานีซูซูกิโนะ เงียบสงบ ห้องน้ำเริ่ดดดดดดดด
ใครคิดถึงญี่ปุ่น ยกมือขึ้น!
เมื่อปีที่แล้ว ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม เราได้ออกทริปไปเที่ยวฮอกไกโดช่วงหน้าร้อน 2 คนกับคุณสา
ลงมือจัดทริปเอง และเลือกที่พักเอง โดยหาข้อมูลจากหลายๆ ที่ สุดท้ายก็เลือกมาพักที่นี่
วันนี้เลยจะขอรีวิวโรงแรมในทริปฮอกไกโดของเรา เผื่อจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ในการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นทริปหน้ากันค่ะ
.........✍️✍️✍️............
พิกัด📌: โรงแรมเดอะบี ซัปโปโร ซูซูกิโนะ (The b Sapporo Susukino)
ประเภทห้องที่เข้าพัก : Standard Double Room (Non-Smoking) ขนาด 16 sqm สำหรับ 2 คน
วันที่ไปใช้บริการ : วันที่ 26-30 กรกฎาคม 2562 (4 คืน)
สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด: รถไฟใต้ดินสถานีซูซูกิโนะ (Susukino) ทางออก 4
..........✍️✍️✍️............
เราเลือกจองที่พักผ่านแอพ Traveloka ได้มาในราคา 12,000 บาท ไม่รวมอาหารเช้าค่ะ (เฉลี่ยคืนละ 3,000 บาท) ราคาค่อนข้างสูงทีเดียว
แต่ก็ถือว่าถูกที่สุดแล้วในตอนนั้น สำหรับทำเลในย่านซูซูกิโนะ (ส่วนที่พักใกล้สถานีซัปโปโร ราคาสูงกว่านี้เยอะเลยค่ะ)
จากสนามบิน New Chitose เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Sapporo และต่อรถไฟใต้ดิน Sapporo มาลงสถานี Susukino และใช้ทางออกหมายเลข 4
ออกมาก็จะเจอกับแยกไฟแดง และป้ายพระราชาถือวิสกี้ หรือ "Nikka Sign" แลนด์มาร์คสำคัญของย่านซูซูกิโนะแห่งนี้ค่ะ
ด้วยความที่ข้าวของพะรุงพะรัง บวกกับความอยากนั่งรถรางของที่นี่ เราจะข้ามฝั่งไปยังเกาะกลางถนน เพื่อไปขึ้นรถรางกันค่ะ
โดยป้ายตั้งต้นคือป้าย Susukino (SC 23) ตามสัญลักษณ์สีแดงในรูปด้านล่าง เราจะนั่งไปลงป้ายหน้า ใช่ค่ะ! เรานั่งแค่ป้ายเดียว 555 สนองนี๊ดดดดดดด โดยเราจะลงที่ป้าย Shiseikan Shogakko Mae (SC 22)
รถรางที่นี่มี 2 ฝั่งนะคะ ต้องสังเกตป้ายดีๆ ว่าเราขึ้นถูกฝั่งมั้ย ให้ดูจากป้ายที่เราขึ้น และดูชื่อป้ายปลายทางที่เราจะลง จากนั้นสังเกตลูกศรว่าชี้ไปทางไหน ผ่านป้ายที่เราจะลงรึเปล่า ไม่ยากเลยค่ะ (จริงๆ ก็นั่งได้ทั้ง 2 ฝั่งแหละ เพียงแต่ถ้านั่งผิดฝั่ง กว่าจะวนมาถึงป้ายที่เราจะลง อาจจะอ้อมโลกไปไกลค่ะ)
ลืมถ่ายหน้าตาของรถรางมาให้ชมค่ะ ขอเอาภาพกลางคืนมาลงแทน รถรางที่นี่เรียกว่า "Streetcar (Shiden) Sightseeing" หรือเรียกสั้นๆ ว่า "ชิเด็น" ค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่เที่ยวละ 200 เยน ส่วนเด็ก 100 เยนค่ะ จ่ายได้ทั้งเงินสดและ IC Card (เราใช้ Suica ค่ะ)
บรรยากาศภายในรถราง ดูสบายตา ที่สำคัญคือสะอาดมากกกก
พอลงรถรางก็เดินข้ามมาฝั่งซ้ายมือ จากนั้นเดินต่อไปยังโรงแรมอีกประมาณ 2-3 นาที ก็ถึงหน้าโรงแรมแล้วจ้า
โรงแรม The b Sapporo Susukino เพิ่งเปิดเมื่อปี 2018 ค่ะ สภาพภายนอกยังดูใหม่มาก
เยื้องๆ โรงแรมทั้งซ้าย-ขวา มี LAWSON 2 สาขาเลยค่ะ
กลางคืนประตูทางเข้าด้านในจะล็อคนะคะ ต้องใช้คีย์การ์ดแตะเข้ามาค่ะ
เข้ามาข้างในจะเจอกับห้องสูบบุหรี่ทางขวามือ ส่วนซ้ายมือเป็นประตูสำหรับเข้าไปยังล็อบบี้ค่ะ
เข้ามาจะเจอกับมุมนั่งเล่น / นั่งรอเช็คอิน
ติดๆ กัน มีมุมกาแฟให้กดฟรีจ้า เริ่ดดดดดดดด
คุณสา กดเอสเพรสโซ่มาลอง บอกว่ารสชาติทั่วไป ไม่ได้ว้าวมากค่ะ
ถัดไปข้างในเป็นห้องอาหารเช้าค่ะ ส่วนด้านซ้ายมือของรูปเป็นเคานท์เตอร์เช็คอินค่ะ
ที่นี่เช็คอินบ่าย 3 เช็คเอาท์ไม่เกิน 11 โมงค่ะ
เช็คอินเรียบร้อย ได้คีย์การ์ดมาแล้ว ตามไปดูห้องพักกันจ้าาาาา
เราได้ห้องพักชั้น 5 ค่ะ (โรงแรมมีทั้งหมด 13 ชั้น)
ภายในสะอาดสะอ้านมากกกก
ห้องเล็กกะทัดรัด สไตล์ญี่ปุ่น ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นที่แขวนเสื้อผ้า
อุปกรณ์สำหรับรองเท้าตามสไตล์ญี่ปุ่น
เตียงนอนนุ่มๆ นอนเบียดกันอบอุ่นๆ
มีทีวีอยู่ปลายเตียงค่ะ
มุมทำงานเล็กๆ
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตู้เย็นใบเล็กน่ารัก
ชาเขียวพร้อมกาน้ำร้อนที่เดือดเร็วมาก
ตู้เซฟ ไดร์เป่าผม แฟ้มกฎกติกามารยาท ถุงสำหรับส่งผ้าซักรีด และรองเท้าแตะสำหรับสวมในห้องค่ะ
มีฮีทเตอร์ให้ด้วยนะคะ ไว้ใช้หน้าหนาว สำหรับเราที่มาหน้าร้อนก็พับเก็บไว้ได้เลยจ้า
สำรวจห้องน้ำกันดีกว่า แบ่งโซนเปียก-โซนแห้งได้ดีมากค่ะ เพราะมีประตูกั้น
แปรงสีฟัน, ที่โกนหนวด, หวี, cotton bud (ที่ปั่นหู) มีให้พร้อมค่ะ (แต่แนะนำให้เอาแปรงมาเองดีกว่าค่ะ เพราะมันแข็งมากกกกก)
อันนี้เหมือนผ้าขัดตัวค่ะ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
สบู่ล้างมือ Shisedo
มาถึงไฮไลท์ที่เราอยากนำเสนอ และเป็นเหตุผลหลักที่เราตัดสินใจเลือกพักที่นี่ นั่นคือ สุดยอดนวัตกรรมของฝักบัววววว
ที่นอกจากเรนชาวเวอร์ด้านบนจะใหญ่สะใจแล้ว ยังมีรูพ่นน้ำไปตามจุดต่างๆ ของร่างกายอีกด้วย แถมยังหมุนปรับทิศทางได้ตามใจชอบ เหมือนได้นวดคลายจุดไปในตัว บอกเลยว่ากลับมาเหนื่อยๆ แล้วมาเล่นฝักบัวของที่นี่ มันคือที่สุดแล้วจริงๆ
ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้ไม่เป็นนะคะ เค้ามีวิธีใช้งานเป็นภาษาอังกฤษไว้ให้ค่ะ
ครีมอาบน้ำ แชมพู ครีมนวด มีให้ครบค่ะ
สรุปแล้วค่อนข้างประทับใจที่นี่ ด้วยความที่
- อยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวหรือแลนด์มาร์คที่คนพลุกพล่าน ทำให้ที่นี่ค่อนข้างสงบ เป็นส่วนตัว เหมาะกับการพักผ่อนจริงๆ
- โรงแรมเพิ่งเปิดได้ไม่นาน ทำให้ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพดี และดูสะอาดมากๆ
- ที่สำคัญคือประทับใจห้องอาบน้ำมากๆ (ย้ำจัง
หักคะแนนนิดหน่อยตรงที่ไกลจากสถานีซูซูกิโนะ แต่ก็ไม่ถือว่าไกลมากสำหรับเรา เดินชิวๆ ดูร้านค้า ดูผู้คน ก็เพลินๆ ดีนะคะ
ยังไงที่นี่ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทริปต่อๆ ไปหากได้มาเยือนที่ฮอกไกโดอีกครั้ง
... The b Sapporo Susukino...
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้