'ศรัณย์วุฒิ' จวก 'รัฐราชการ' ทำช่วยชาวบ้านล่าช้า ชี้แจก 5 พันน้อยเกิน ติงปมบี้ยอด 'โควิด' ให้เป็นศูนย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_2175374
เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม นาย
ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์
‘มติชน’ รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ประเทศขาดภูมิคุ้มกัน คนเป็นหนี้ พอเจอโควิดซ้ำเติมเข้าไป จึงยิ่งหนัก เหตุใดจึงปล่อยให้ทัวร์จีนเข้าประเทศ สุดท้ายเกิดการระบาดในไทย ถามว่าตอนนั้นปล่อยให้จัดชกมวยได้อย่างไร พอระบาดประกาศใช้ พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งทำให้กลายเป็น ‘
รัฐราชการ’ ทันที ทุกอย่างใช้กฎหมายบังคับ แต่ความช่วยเหลือเยียวยากลับทำได้น้อยมาก และล่าช้า ซ้ำยังมีวันหยุด ถ้าตนเป็นพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่มีวันหยุด แต่จะทำตัวเป็น เซเว่น-อีเลฟเว่น พร้อม 24 ชั่วโมง และถ้าตนเป็น นพ.
ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน จะนอบน้อมถ่อมตน คุยกับประชาชนดีๆ
“พลเอกประยุทธ์ ต้องปรับเปลี่ยนมาทำงานแบบที่เอกชนทำกัน ต้องรู้ว่าในภาวะวิกฤตต้องทำอย่างไร ความเป็นผู้นำต้องมี ส่วนหมอทวีศิลป์ ต้องเข้าใจความรู้สึกประชาชน ส่วนกรณีคนฆ่าตัวตาย ตอนนี้รัฐบาลต้องรีบแก้ไข ต้องรู้ว่าตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องอะไร ต้องรีบทำให้เร็วที่สุด ผมยังยืนยันว่า คลังเป็นของประชาชน เงินกู้ 1.9 ล้านล้าน ถามว่าเอามาทำอะไร ที่รัฐบาลประกาศว่าจะทำโครงการนั้น โครงการนี้ มองว่ารัฐบาลต้องเอามากระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยประชาชนให้ได้มากที่สุด การช่วยแค่ 5,000 บาทน้อยเกินไป อย่างน้อยต้องคนละ 10,000 บาท และต้องเปิดบ้าน เปิดเมืองเร็วๆ เพราะการปิดเมืองทำให้กระเทือนทุกหย่อมหญ้า แต่ไม่สามารถดูแลประชาชนได้ หลายประเทศหนักกว่าเรา แต่ยังเปิดเมือง อย่าบอกว่าตัวเลขต้องเป็นศูนย์ ควรบอกว่ารับได้ในสัดส่วนไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ สร้างภูมิคุ้มกันอย่างเป็นระบบด้วยความชาญฉลาด เท่านี้ก็จบแล้ว” นาย
ศรัณย์วุฒิกล่าว
นักวิชาการจี้รัฐเร่งทำแผนฟื้นฟูโควิด
https://www.innnews.co.th/politics/news_667933/
รศ.ดร.
ยุทธพร อิสรชัย ภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการผ่อนปรนมาตรการ ว่า การที่ทางรัฐบาลมีการผ่อนปรนเพิ่มให้บางธุรกิจได้ดำเนินกิจการต่อไปได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งมองว่าการผ่อนปรนนั้น สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้พอสมควร เพราะว่าเมื่อมีการเปิดธุรกิจ ก็จะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ดีขึ้น แต่จะต้องดูในระยะหลังของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยว่ามีการวางแผนไว้อย่างไรต่อไป ซึ่งวันนี้ยังไม่เห็นแผนที่ชัดเจนเท่าที่ควร
พร้อมกันนี้ รศ.ดร.
ยุทธพร กล่าวต่อว่า ในการผ่อนปรนระยะต่อๆไป รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงความสมดุลทั้งวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และเรื่องการสาธารณสุขจะต้องดำเนินการไปด้วยกันได้ เพราะหากสร้างความสมดุลตรงนี้ได้ ก็จะสามารถทำให้เกิดการผ่อนปรนควบคู่ไปกับการป้องกันในเชิงของสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
JJNY : ศรัณย์วุฒิจวกรัฐราชการ ช่วยชาวบ้านล่าช้า/นักวิชาการจี้รัฐเร่งทำแผนฟื้นฟู/สหภาพแฉบินไทย/โควิดติดทั่วโลก3.9.ล.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2175374
“พลเอกประยุทธ์ ต้องปรับเปลี่ยนมาทำงานแบบที่เอกชนทำกัน ต้องรู้ว่าในภาวะวิกฤตต้องทำอย่างไร ความเป็นผู้นำต้องมี ส่วนหมอทวีศิลป์ ต้องเข้าใจความรู้สึกประชาชน ส่วนกรณีคนฆ่าตัวตาย ตอนนี้รัฐบาลต้องรีบแก้ไข ต้องรู้ว่าตอนนี้ประชาชนเดือดร้อนเรื่องอะไร ต้องรีบทำให้เร็วที่สุด ผมยังยืนยันว่า คลังเป็นของประชาชน เงินกู้ 1.9 ล้านล้าน ถามว่าเอามาทำอะไร ที่รัฐบาลประกาศว่าจะทำโครงการนั้น โครงการนี้ มองว่ารัฐบาลต้องเอามากระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วยประชาชนให้ได้มากที่สุด การช่วยแค่ 5,000 บาทน้อยเกินไป อย่างน้อยต้องคนละ 10,000 บาท และต้องเปิดบ้าน เปิดเมืองเร็วๆ เพราะการปิดเมืองทำให้กระเทือนทุกหย่อมหญ้า แต่ไม่สามารถดูแลประชาชนได้ หลายประเทศหนักกว่าเรา แต่ยังเปิดเมือง อย่าบอกว่าตัวเลขต้องเป็นศูนย์ ควรบอกว่ารับได้ในสัดส่วนไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ สร้างภูมิคุ้มกันอย่างเป็นระบบด้วยความชาญฉลาด เท่านี้ก็จบแล้ว” นายศรัณย์วุฒิกล่าว
นักวิชาการจี้รัฐเร่งทำแผนฟื้นฟูโควิด
https://www.innnews.co.th/politics/news_667933/
รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย ภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงการผ่อนปรนมาตรการ ว่า การที่ทางรัฐบาลมีการผ่อนปรนเพิ่มให้บางธุรกิจได้ดำเนินกิจการต่อไปได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งมองว่าการผ่อนปรนนั้น สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้พอสมควร เพราะว่าเมื่อมีการเปิดธุรกิจ ก็จะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ดีขึ้น แต่จะต้องดูในระยะหลังของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยว่ามีการวางแผนไว้อย่างไรต่อไป ซึ่งวันนี้ยังไม่เห็นแผนที่ชัดเจนเท่าที่ควร
พร้อมกันนี้ รศ.ดร.ยุทธพร กล่าวต่อว่า ในการผ่อนปรนระยะต่อๆไป รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงความสมดุลทั้งวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และเรื่องการสาธารณสุขจะต้องดำเนินการไปด้วยกันได้ เพราะหากสร้างความสมดุลตรงนี้ได้ ก็จะสามารถทำให้เกิดการผ่อนปรนควบคู่ไปกับการป้องกันในเชิงของสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น