ใครบอกว่าเป็นเถ้าแก่ เป็นเจ้าของกิจการแล้วสะบายนะ
ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ตรงกันข้ามกับคำพูดเลยจริงๆ
จากเมื่อก่อน ทำงานไม่ถึง3ชั่งโมงก็รับ1000บาทละ
มาวันนี้รายได้มากกว่า10เท่า แต่ความรีบผิดชอบก็10เท่า
บางทีก็อิจฉาชาวบ้านขายหมูปิ้งข้างทางนะ เพราะพ่อค้า
แม่ค้าเล็กๆเหล่านั้น ขายช่วงเช้า บ่ายๆก็เก็บร้านเสร็จ
ไม่ต้องดูแงลูกน้อง ไม่ต้องจ่ยเงินเดือน ไม่ต้องจ่ายภาษี
แต่กำไรวันนึงเป็นพันก็มีหลายเจ้า
รายได้เยอะ กำไรเยอะ ความรับผิดชอบก็ต้องเยอะ
ไหนจะต้องพัฒนา ตามโลกให้ทัน โดยเฉพาะขายออนไลน์
ขายผ่านแอพส่งอาหาร ต้องเอาใจใส่อย่างยิ่งยวด
สมัยก่อนที่ยังไม่มึแอพสั่งอาหาร ไม่มีไรเดอร์มารับ แม่ค้า
อยู่ร้านเฉยๆ ลูกค้าก็เดินเข้ามาหาเอง เงินเดินมาถึงร้านเอง
แต่พอมีแอพเข้ามา การค้าก็เปลี่ยนไป กำไรบางส่วนต้อง
ถูกหักไปให้กับแอพ 20บ้าง30เปอเซ็นบ้างตามแต่ตกลง
เมื่อก่อนลูกค้าเดินเข้าร้าน เมนูไหนหมดก็สั่งเมนูอื่นได้
เด๋วนี้หรอ ร้านไหนเมนูไม่ครบ ยกเลิกหมดเลย สั่งเจ้าอื่น
ได้ไม่ง้อ
เมื่อก่อนอยากกินไร ลูกค้าแค่รู้ร้านไหนขาย ก็ไปซื้อเอง
หรือจ้างวินไปซื้อ เด๋วนี้หรอ ดูรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ
เมื่อก่อน อร่อยไม่อร่อยก็ได้แต่คิดในใจด่าในใจและวันหลัง
ไม่มาอีกแล้วร้านนี้ เด๋วนี้หรอไม่อร่อยเมื่อไรเด๋วเจอกันใน
โซเชียล...
ที่ว่ามาทั้งหมด ก็หวังว่าพ่อค้าแม่ค้ายุคนี้ ต้องใส่ใจในสินค้า
และการบริการในทุกๆด้านครับ ตั้งแต่มีโซเชียลขึ้นมาก็
เป็นทั้งโอกาสและความซิบหายไปพร้อมๆกันครับ
ทำดีบริการดีเอาใจใส่ดี ร้านนี้คนก็อยากมาอยากรีวิว
ทำแย่ไม่เอาใจใส่ ไม่สนลูกค้าจะซื้อไม่ซื้อไม่แคร์ แบบนี้คงรู้นะว่าระยะยาวจะดีหรือแย่ครับ
รีบพลิกตัวได้แล้วครับพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย
ตามกระแสให้ทันครับ
ตั้งแต่เป็นเถ้าแก่ ผมก็ตื่นตี4ทุกวันมากว่า3ปีแล้วละครับ
ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ตรงกันข้ามกับคำพูดเลยจริงๆ
จากเมื่อก่อน ทำงานไม่ถึง3ชั่งโมงก็รับ1000บาทละ
มาวันนี้รายได้มากกว่า10เท่า แต่ความรีบผิดชอบก็10เท่า
บางทีก็อิจฉาชาวบ้านขายหมูปิ้งข้างทางนะ เพราะพ่อค้า
แม่ค้าเล็กๆเหล่านั้น ขายช่วงเช้า บ่ายๆก็เก็บร้านเสร็จ
ไม่ต้องดูแงลูกน้อง ไม่ต้องจ่ยเงินเดือน ไม่ต้องจ่ายภาษี
แต่กำไรวันนึงเป็นพันก็มีหลายเจ้า
รายได้เยอะ กำไรเยอะ ความรับผิดชอบก็ต้องเยอะ
ไหนจะต้องพัฒนา ตามโลกให้ทัน โดยเฉพาะขายออนไลน์
ขายผ่านแอพส่งอาหาร ต้องเอาใจใส่อย่างยิ่งยวด
สมัยก่อนที่ยังไม่มึแอพสั่งอาหาร ไม่มีไรเดอร์มารับ แม่ค้า
อยู่ร้านเฉยๆ ลูกค้าก็เดินเข้ามาหาเอง เงินเดินมาถึงร้านเอง
แต่พอมีแอพเข้ามา การค้าก็เปลี่ยนไป กำไรบางส่วนต้อง
ถูกหักไปให้กับแอพ 20บ้าง30เปอเซ็นบ้างตามแต่ตกลง
เมื่อก่อนลูกค้าเดินเข้าร้าน เมนูไหนหมดก็สั่งเมนูอื่นได้
เด๋วนี้หรอ ร้านไหนเมนูไม่ครบ ยกเลิกหมดเลย สั่งเจ้าอื่น
ได้ไม่ง้อ
เมื่อก่อนอยากกินไร ลูกค้าแค่รู้ร้านไหนขาย ก็ไปซื้อเอง
หรือจ้างวินไปซื้อ เด๋วนี้หรอ ดูรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ
เมื่อก่อน อร่อยไม่อร่อยก็ได้แต่คิดในใจด่าในใจและวันหลัง
ไม่มาอีกแล้วร้านนี้ เด๋วนี้หรอไม่อร่อยเมื่อไรเด๋วเจอกันใน
โซเชียล...
ที่ว่ามาทั้งหมด ก็หวังว่าพ่อค้าแม่ค้ายุคนี้ ต้องใส่ใจในสินค้า
และการบริการในทุกๆด้านครับ ตั้งแต่มีโซเชียลขึ้นมาก็
เป็นทั้งโอกาสและความซิบหายไปพร้อมๆกันครับ
ทำดีบริการดีเอาใจใส่ดี ร้านนี้คนก็อยากมาอยากรีวิว
ทำแย่ไม่เอาใจใส่ ไม่สนลูกค้าจะซื้อไม่ซื้อไม่แคร์ แบบนี้คงรู้นะว่าระยะยาวจะดีหรือแย่ครับ
รีบพลิกตัวได้แล้วครับพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย
ตามกระแสให้ทันครับ