สวัสดีค่ะเราชื่อวิว เราอายุ15 วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องเรากับแฟนเก่า พี่เขาชื่อพี่บอส อายุ 18 เราสองคน เจอกันครั้งแรกที่ ค่ายมวย..แต่เราขอไม่เอ่ยชื่อค่าย พอดีเราบอกแม่เราว่าอยากเรียนมวย เพราะปกติเราก็ชอบอยู่แล้ว แม่เราก็บอกให้พ่อลองไปค้นหาในเพจดู ว่าที่ไหนสอนดี วันต่อมาพ่อเราก็พาเรากับแม่ไปที่ค่ายมวย ทีแรกเราก็กล้าๆกลัวๆ ขาสั่นผับๆ เพราะในค่ายมีแต่คนที่พูดภาษาอังกฤษ ไม่มีใคพูดไทย ส่วนเราเองด็พึ่งย้ายมาอยู่ที่ ออสเตรเลียได้แค่สองเดือนกว่า(ปล.ลืมบอกว่าเรื่องเกิดที่ออส)ซึ่งเราก็ยังฟังไม่ค่อยเข้าใจเขาสักเท่าไหร่ แต่ก็โชคดีที่เจ้าของค่ายแนะนำให้รูจักรกับพี่คนไทยที่พูดได้ทั้งสองภาษาเราก็เริ่มล่วงใจ ในที่สุดฟ้าก็ส่งเธอมาให้ฉัน🙄เราก็ทำความรู้จักรกันสักพักครูก็มาเรีบกไปเข้าคราส เราสองคนคุยกันแค่สองสามคำก็ซ้อมต่อจนหมดคราบเรียนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน และเราก็ไม่ได้กลับไปที่นั่นอีก จนกระทั่งผ่านไป 1ปี หลังจากเลิกเรียนเรากับเพื่อนก็จะนั่งรถไฟสายเดียวกันกลับบ้าน ซึ่งเรามีกันสามคน คนนึงชื่อ พริตตี้ อายุเท่าเรา ส่วนอีกคนชื่อ นิต้า อายุน้อยกว่าเราปีเดียว เราสามคนมันจะไปไหนมาด้วยกันอยู่เสมอๆ จนกระทั่งมาวันหนึ่ง เราก็ขึ้นรถไฟกลับบ้านกันแบบปกติ เหมือนๆกับทุกๆวัน เราสามคนจะนั่นฝั่งตรงข้ามของกันและกันเพื่อที่จะให้เห็นหน้ากันแบบง่ายๆเวลาคุยกัน และสายตาเราก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่ง! เราก็เห็นทุกวันอยู่แล้วเห็นจนชินเห็นจนไม่อยากจะเห็น แต่วันนี้สิ!มันจะไม่ปกติอีกต่อไปเพราะมันจะป็นวันที่เขาจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเรา...ที่เราบอกว่ามันไม่ปกติ ก็เพราะว่า เราดันไปนินทาเขาให้เพื่อนฟังจนเขาได้ยินนี่สิ เรื่องมันเกินเพราะเราคิดว่าเขาเป็น คนฟิลิปปิน และคงฟังภาษาไทยไม่อกนี่สิ เราก็เลยนินทาเขาและกระซิบกับเพื่อนว่า แกๆ แกว่าพี่เขาหล่อไหมว้ะ อยากได้เป็นแฟนชิ*หาย แบบ ดัง มากกก คาดว่าเขาคงได้ยินแหละ แต่คงไม่รู้ว่าเราพูดอะไร😂สักพักนึงเราหันไปหาพี่เขาแล้วก็หันมายิ้มกับเพื่อนต่อ แต่!!!!! ดูเหมือนพี่เขาจะเข้าใจแฮะ!😓 เราก็เลยกระซิบกับเพื่อต่อว่า ๆๆ!ทำใมตูรู้สึกว่าพี่เขาฟังตูรู้เรื่องว้ะ?? เพื่อนเลยตอบกับมาว่า "ไม่รู้ดิ" เพียงแค่นั้นพี่เขาก็จ้องตาเราแล้วก็พูดว่า "ก็พี่เป็นคนไทยนิครับ" เชรดดดด เรากับเพื่อนนี่อึ้งไป30วิ อยากจะกระโดดลงจากรถไฟตอนนั้นเลย แล้วเราก็ยิ้มกับไปพน้อมกับความเขินว่า "อะ555หรอค้ะ ยิน.ดด..ดี..ดีที่ได้รู้จักรนะค้ะ" เรานี่เขินเลยเพราะนินทาเขาใว้เยอะไง😅😊 หลังจากวันนั้นพี่เขาก็เริ่มเผยตัวตนที่แท้จิงออกมาว่า"พี่จำเราได้ แต่จำชื่อไม่ได้ เพราะเรามีใฝตรงปากซึ่งเป็นจุดเด่นของเราพี่เลยจำได้ง่าย" แบบขำๆ แต่ตูไม่ขำไงเพราะยังสตั้นไม่หายเลย เวลาผ่านไปสามเดือนความผูกพันระหว่างเราสองคนก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาเลื่อยๆๆ เราแอบชอบพี่เขาตั้งแต่แรกเห็นแล้ว แต่เราไม่รู้จะบอกยังไงดี มีวันนึง..วันไหนไม่รู้ เราเดินไปส่งพี่เขาที่ค่ายมวยและเราก็ขอพี่เขากอดและอ้างว่า "รู้สึกโดดเดี่ยว" แต่ในใจเราก็คิดแหละว่า เชี้ย!! พี่เขาคงไม่ให้กอดแน่เลย เราก็เลยบอกไปว่าไม่เป็นไร แล้วก็หันกลังกำลังจะเดินกลับ แต่พี่เขาก็ตะโกนกลับมาว่า"อ่ะๆๆๆๆให้กอดก็ได้"เรานี่แอบยิ้มกริ่มๆ แล้วความฝันก็เป็นจริงเราได้กอดพี่เขา เรารู้สึกอุ่นมากและรู้สึกปลอดภัยที่ได้อยู่กับพี่เขา มันเป็นแบบนี้อยู่ประมาณสองเดือนกว่าๆ จนวันนึงเราเดินด้วยกันแบบทุกๆวัน แต่จู่ๆพี่เขาถามเราว่า "น้องชอบพี่ใช่ไหม?" เราเลยสะดุ้งด้วยความตกใจ แล้วก็แถว่า "ปล้าววววใครชอบ ไม่มี้มมม~" ด้วยความที่เราไม่อยาดอกหักอีก เราเคยอกหักมาแล้วหลายสิบครั้งจนนับไม่ถ้วน แล้วเราก็ไม่อยากเจ็บอีกไง เราเลยปฏิเสธพี่เขาว่าเราปล่าวชอบ แต่ในใจเราคิดและก็มองหน้าพี่เขาไปด้วยว่า"หึ มุงจะบอกว่าไม่ได้ชอบตูใช่ไหมล่ะ ตูรู้นะ!" และพี่เขาคงดูออกแหละว่าเราโกหก พี่เขาเลยพูดเราว่า "น้องรู้ป่าวว่าพี่ก็ชอบน้องเหมือนกัน ชอบมาตั้งนานแล้วด้วย ตั้งแต่วันนั้นที่เราเจอกัน" เรานี่เขินตัวบิดเลย แต่ไม่ได้สิเราต้องเก๊กเข้าใว้อย่าพึ่งไปยอมรับอะไรง่ายๆสิ เราก็เลยเล่นตัว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่อ!! เราถามพี่เขาว่า"จิงดิ ล้อกันเล่นรึปล่าว" พูดแบบนั้นไป สามครั้ง จนพี่เขาบอกว่า "งั้นพี่ให้เวลาน้อง สามวัน พี่จะรอคำตอบนะ" แล้วเราก็แยกกันกลับบ้าน จนอรกสามวันที่เราต้องให้คำตอบพี่เขา เรารู้สึกใจเต้นแรงมาก จนพี่เขาเดินมาหาแล้วพูดว่า"ไหนอ่ะคำตอบพี่?" เราเลยถามคำถามเดิมว่า "ล้อเล่นรึพูดจิง?" พี่เขาก็ตอบคำถามเดิมว่า "อืม ชอบจิงๆ" เราได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้พูดอะไรกลับไป แต่เราแค่ ยื่นนิ้วก้อยข้างซ้ายของเราออกไปพี่เขาก็ทำตาม จนนิ้วก้อยของเราสองคนเกี่ยวกัน แล้วเราก็บอกว่า "เป็นแฟนกันแล้วนะ" พี่เขาก็ยิ้มให้แล้วดึงเราไปกอด จนเวลาแห่งความสุขมันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ถึงเวลาที่เราต้องกลับบ้านแล้ว พี่เขาก็ ยื่นอะไรให้เราแล้วให้เราแบมือรับ เราก็ทำตามที่พี่เขาบอก สิ่งที่พี่เขาให้เรามันคือ ก้อนหินรูปหัวใจสีแดงอันนึง เราชอบมันมาก และจะดูแลมันเป็นอย่างดี แต่อย่างที่เราบอกแหละว่าเวลาแห่งความสุขที่หาจากไหนไม่ได้ มันผ่านไปเร็วมาก เวลาผ่านไปหนึ่งปีเราก็ยังรักกันดีอยู่ แต่ ปัญหาเรื่องเราที่มันต้องจบลงไปนั้น มันไม่ใช่เราและแฟนเรา แต่มันอยู่ที่พ่อแม่ของเราสองคน พ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย พวกเขาไม่อยากให้เราคบกันต่อ เพราะ ห่วงเรื่องอนาคตของ ฝ่ายชาย~~ ใช่ค่ะ ฝ่ายชายอายุห่างจากเรา สองปีกว่าๆ ซึ่งที่ประเทศออสเตรเลียถือว่า ผิดกดหมายในระดับหนึ่ง เราสองคนก็เลยต้องเลิกลากันไป โดยที่ยังไม่ได้พูดอะไรกันเลย ถามว่าเราเสียใจไหม ลองถามใจคุณดูสิว่าหากเรื่องราวอันน่าประทับใจแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวคุณล่ะ คุณจะรู้สึกยังไง😔แต่เราก็ต้องยอมปล่อยแหละ เราก็หวังว่า วันนึงเขาจะกลับมาหาเรา.
■■■หากพี่ได้อ่านข้อความนี้ หนูก็อยากบอกพี่ว่าขอบคุณนะที่ คอยช่วยเหลือ คอยอยู่ข้างๆ คอยปลอบใจ คอยให้กำลังใจอยู่เสมอๆ คอยเทคแคร คอย..และก็ขอบใจนะที่ เคยช่วยชีวิตเราใว้ถึงสามครั้ง ทั้งที่รถเกือบจะชนเรา ทั้งที่รถมันชนกันกระเด็นมาหาเราแล้วคอยจูงเราวิ่งหนีไม่ให้รถชนเรา (ถ้าพี่ไม่ช่วยใว้วันนั้นเราคงตายไปแล้ว)ทั้งช่วยไม่ให้แม่ตบเราครั้งที่เราหนีไปหา ทั้งดึงเราหนีฝน ไม่ให้เราตากฝน ขอบคุณมากๆจิงๆ
และเราก็ขอโทษนะที่บางทีอาจจะงี่เง่างอแงไปบ้างแต่ก็อยากจะบอกว่า เรารักเบพ(babe)นะ■■■ ขอบคุณสำหรับเวลาหนึ่งปี(กว่าๆ).........😔
ฟ้าลิขิต(ให้ตูอกหัก)
■■■หากพี่ได้อ่านข้อความนี้ หนูก็อยากบอกพี่ว่าขอบคุณนะที่ คอยช่วยเหลือ คอยอยู่ข้างๆ คอยปลอบใจ คอยให้กำลังใจอยู่เสมอๆ คอยเทคแคร คอย..และก็ขอบใจนะที่ เคยช่วยชีวิตเราใว้ถึงสามครั้ง ทั้งที่รถเกือบจะชนเรา ทั้งที่รถมันชนกันกระเด็นมาหาเราแล้วคอยจูงเราวิ่งหนีไม่ให้รถชนเรา (ถ้าพี่ไม่ช่วยใว้วันนั้นเราคงตายไปแล้ว)ทั้งช่วยไม่ให้แม่ตบเราครั้งที่เราหนีไปหา ทั้งดึงเราหนีฝน ไม่ให้เราตากฝน ขอบคุณมากๆจิงๆ
และเราก็ขอโทษนะที่บางทีอาจจะงี่เง่างอแงไปบ้างแต่ก็อยากจะบอกว่า เรารักเบพ(babe)นะ■■■ ขอบคุณสำหรับเวลาหนึ่งปี(กว่าๆ).........😔