
ตอนนี้เจ้าของกระทู้กำลังเบื่อกับการกักตัวในบ้านเนื่องจากสถานการณ์ covid-2019 อยู่ ก็เลยเกิดอาการอยากออกไปเที่ยวมากๆ แต่ก็ไปไม่ได้
เลยลองมาเปิดดูภาพถ่ายในช่วงที่ไปทำวิจัยที่ยุโรปสมัยเรียนปริญญาโท เมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยประเทศที่ผมชอบมากสุด ๆ เป็นลำดับต้น ๆ
ของประเทศที่เคยได้ไปเยือน คือ ประเทศเดนมาร์ก (Denmark) แล้วทำไมต้องเป็นเดนมาร์กละ ?
สมัยก่อนที่ยังไม่ได้เคยไปประเทศนี้ เวลาคึดถึงประเทศเดนมาร์กขี้นมาสิ่งแรก ๆ ที่ผุดขึ้นมาบนหัวเลย นั่น คือ
1. ค่าครองชีพที่สูงมาก (อันนี้ก็สูงจริง ๆ ตอนไปอยู่ต้องจ่ายค่าหอพักซึ่งอยู่ใจกลางเมืองหลวงโคเปนเฮเกน เดือนละเกือบ 50,xxx บาท)
2. เป็นประเทศที่หนาวมากตลอดทั้งปี (อันนี้ไม่แน่ใจนักนะครับ เพราะผมไปช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม เลยอาจจะเย็นก็เป็นได้ แต่อาจารย์บอกว่าช่วงหนาวจัดจะเป็นเดือนมกราคม-มีนาคม รูปปั้นนางเงือกน้อยจะถูกล้อมรอบด้วยทะเลน้ำแข็งเลยทีเดียว)
3. อยากไปดูนางเงือกน้อย ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศเดนมาร์ก (พอได้ไปดูของจริง ทำไมตัวเล็กจัง นางเงือกที่สงขลาดูตัวใหญ่กว่ามากมาย)
การใช้ชีวิตของเจ้าของกระทู้จะอยู่ในเมืองโคเปนฮาเกนเป็นหลัก เนื่องจากต้องไปทำวิจัยใน Copenhagen University
ดังนั้นภาพที่เห็น ก็จะมาจากการเที่ยวในเมืองซะเยอะ อยากจะบอกว่าคนเดนมาร์กเป็นคนที่ใจดีมาก พูดภาษาอังกฤษเก่งด้วย
แม้ในชีวิตประจำวันจะพูดกันด้วยภาษาเดนนิชเป็นหลัก

พูดถึงเดนมาร์ก สิ่งหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศนี้อีกอย่างก็คือ ท่าเรือ "Nyhavn" ในภาษาเดนมาร์ก แปลว่า New Harbour หรือท่าเรือใหม่
ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นท่าเรือนั่นเอง สองข้างท่าเรือมีอาคารสีสวยงามให้ถ่ายภาพ และนั่งพักรับประทานอาหารแบบชิลล์ๆกันได้ครับ

เดินถัดมาไม่ไกลจากท่าเรือ Nyhavn ก็จะเป็นใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน บรรยากาศดีมาก มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม ตลาดดอกไม้สด
วางขายตลอดสองข้างทาง ตอนอยู่ที่นี่ผมจะชอบรีบทำงานให้เสร็จแล้วออกมาเดินเล่นทุกวัน ไม่เคยเบื่อเลย

อันนี้เป็นร้านขาย Hotdog อร่อยมาก และราคาก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่นัก

ตรงนี้จะเป็นใจกลางเมือง Cophenhagen เลย ถือว่าเป็นย่าน shopping ที่สำคัญ เนื่องจากของแบรนด์เนมชื่อดัง
ราคาไม่ได้แพงมาก (ถ้าซื้อในเมืองไทยจะแพงเนื่องจากบวกภาษีนำเข้า) เจ้าของกระทู้ตื่นตาตื่นใจมากการร้านนาฬิกาและร้านรองเท้าวิ่ง

อันนี้เป็นร้านขายขนมของหวานพวกผลไม้แห้ง อร่อยดีครับ

ถ้าจำไม่ผิดตรงนี้น่าจะเป็นอาคารรัฐสภาหรืออะไรซักอย่าง แต่มันสวยมาก ๆ เสียดายถ่ายตอนกลางคืนไม่สวยเท่าไหร่

รูปปั้นน้องหมูป่า ตรงอาคารที่ว่าการเมือง Copenhagen

เดินถัดมาจะเป็นสวนสนุก Tivoli สวนสนุกแห่งนี้เปิดมานานเป็นเวลา 100 ปี กว่าแล้ว คือ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1843 แต่สภาพของเครื่องเล่นต่าง ๆ ยังใหม่มาก และที่สำคัญคือ สวนสนุกแห่งนี้ไม่ได้เปิดตลอดปี หน้าร้อนเปิดช่วงมิถุนายน จะเปิดอีกทีช่วง Halloween และ Christmas โชคดีมากที่ผมได้มาเล่น
ในวันฮาโลวีนพอดี ค่าบัตรก็แพงมากเช่นกัน แต่โชคดีมีคนเป็นเจ้ามือจ่ายให้ ไม่งั้นเล่นหลายอย่างกระแบนเลยทีเดียว


บรรยากาศภายในสวนสนุก Tivoli Garden ที่เห็นฟักทองลูกใหญ่ ๆ นี้เป็นของจริงนะครับ เขานำมาจัดแสดงในช่วงวันฮาโลวีน

อันนี้เพื่อนชาวเดนมาร์กบอกว่าเป็นขนมที่ทุกคนที่มาเดนมาร์กแล้วต้องกิน เจ้าของกระทู้ก็จำชื่อไม่ได้แล้วครับ
ว่ามันชื่อว่าอะไร รู้แต่ว่ามันอร่อยมาก ๆ 55555

ที่ต่อมา คือ Kastellet หรือ Copenhagen Citadel แนวป้อมปราการโบราณที่มีคูน้ำล้อมรอบเป็นรูปดาวซึ่งได้รับการสงวนรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในเขตยุโรปเหนือ ภายในมีอาคารต่างๆ ที่ส่วนมากใช้ทำกิจกรรมของกองทัพ รวมไปถึงโบสถ์ กังหันลม และสวนสาธารณะ อันนี้ไม่สามารถเดินไปได้นะครับ มันไกลมาก แต่เจ้าของกระทู้มีความสามาถพิเศษวิ่งจากมหาวิทยาโคเปนเฮเกน มาถึงตรงนี้ได้ เล่นเอาเกือบเป็นไข้ทีเดียว เพราะช่วงนั้นอากาศเย็นมาก 2 ถึง -3 องศาเซลเซียส (หนาวไม่เท่าไหร่ แต่ลมแรงมาก พัดมาแทบปลิว)
ภายในสวนจะมีรูปปั้นของพระมหากษัตริย์องค์สำคัญ ๆ ของประเทศเดนมาร์กอยู่ด้วย

ทางเข้าป้อมปราการ Copenhagen Citadel

รูปปั้นที่เราเห็นนี้คือ เจ้าน้ำพุเทพีเกฟิออน (Gefion Fountain ) ตามนิทานปรัมปราเดนมาร์กบอกว่าเทพีเกฟิออนสาปลูกๆของเธอทั้งสี่ให้เป็นวัวแล้วไถแผ่นดินจนกลายเป็นประเทศเดนมาร์กครับ

อันนี้เป็นโบสถ์เล็กๆชื่อ St. alban church สวยดีครับ ดูมีมนต์ขลัง

และเจ้าของกระทู้ก็นำทุกคนมาเที่ยวในมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ที่ผมมาทำวิจัย
มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก: Københavns Universitet ; อังกฤษ University of Copenhagen) เป็นมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศเดนมาร์ก ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1479 มีวิทยาเขตในเมืองโคเปนเฮเกนและบริเวณรอบ ๆ โดยวิทยาเขตที่เก่าที่สุดตั้งอยู่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน
คึดถึง COPENHAGEN, DENMARK
ตอนนี้เจ้าของกระทู้กำลังเบื่อกับการกักตัวในบ้านเนื่องจากสถานการณ์ covid-2019 อยู่ ก็เลยเกิดอาการอยากออกไปเที่ยวมากๆ แต่ก็ไปไม่ได้
เลยลองมาเปิดดูภาพถ่ายในช่วงที่ไปทำวิจัยที่ยุโรปสมัยเรียนปริญญาโท เมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยประเทศที่ผมชอบมากสุด ๆ เป็นลำดับต้น ๆ
ของประเทศที่เคยได้ไปเยือน คือ ประเทศเดนมาร์ก (Denmark) แล้วทำไมต้องเป็นเดนมาร์กละ ?
สมัยก่อนที่ยังไม่ได้เคยไปประเทศนี้ เวลาคึดถึงประเทศเดนมาร์กขี้นมาสิ่งแรก ๆ ที่ผุดขึ้นมาบนหัวเลย นั่น คือ
1. ค่าครองชีพที่สูงมาก (อันนี้ก็สูงจริง ๆ ตอนไปอยู่ต้องจ่ายค่าหอพักซึ่งอยู่ใจกลางเมืองหลวงโคเปนเฮเกน เดือนละเกือบ 50,xxx บาท)
2. เป็นประเทศที่หนาวมากตลอดทั้งปี (อันนี้ไม่แน่ใจนักนะครับ เพราะผมไปช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม เลยอาจจะเย็นก็เป็นได้ แต่อาจารย์บอกว่าช่วงหนาวจัดจะเป็นเดือนมกราคม-มีนาคม รูปปั้นนางเงือกน้อยจะถูกล้อมรอบด้วยทะเลน้ำแข็งเลยทีเดียว)
3. อยากไปดูนางเงือกน้อย ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศเดนมาร์ก (พอได้ไปดูของจริง ทำไมตัวเล็กจัง นางเงือกที่สงขลาดูตัวใหญ่กว่ามากมาย)
การใช้ชีวิตของเจ้าของกระทู้จะอยู่ในเมืองโคเปนฮาเกนเป็นหลัก เนื่องจากต้องไปทำวิจัยใน Copenhagen University
ดังนั้นภาพที่เห็น ก็จะมาจากการเที่ยวในเมืองซะเยอะ อยากจะบอกว่าคนเดนมาร์กเป็นคนที่ใจดีมาก พูดภาษาอังกฤษเก่งด้วย
แม้ในชีวิตประจำวันจะพูดกันด้วยภาษาเดนนิชเป็นหลัก
พูดถึงเดนมาร์ก สิ่งหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศนี้อีกอย่างก็คือ ท่าเรือ "Nyhavn" ในภาษาเดนมาร์ก แปลว่า New Harbour หรือท่าเรือใหม่
ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นท่าเรือนั่นเอง สองข้างท่าเรือมีอาคารสีสวยงามให้ถ่ายภาพ และนั่งพักรับประทานอาหารแบบชิลล์ๆกันได้ครับ
เดินถัดมาไม่ไกลจากท่าเรือ Nyhavn ก็จะเป็นใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน บรรยากาศดีมาก มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม ตลาดดอกไม้สด
วางขายตลอดสองข้างทาง ตอนอยู่ที่นี่ผมจะชอบรีบทำงานให้เสร็จแล้วออกมาเดินเล่นทุกวัน ไม่เคยเบื่อเลย
อันนี้เป็นร้านขาย Hotdog อร่อยมาก และราคาก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่นัก
ตรงนี้จะเป็นใจกลางเมือง Cophenhagen เลย ถือว่าเป็นย่าน shopping ที่สำคัญ เนื่องจากของแบรนด์เนมชื่อดัง
ราคาไม่ได้แพงมาก (ถ้าซื้อในเมืองไทยจะแพงเนื่องจากบวกภาษีนำเข้า) เจ้าของกระทู้ตื่นตาตื่นใจมากการร้านนาฬิกาและร้านรองเท้าวิ่ง
อันนี้เป็นร้านขายขนมของหวานพวกผลไม้แห้ง อร่อยดีครับ
ถ้าจำไม่ผิดตรงนี้น่าจะเป็นอาคารรัฐสภาหรืออะไรซักอย่าง แต่มันสวยมาก ๆ เสียดายถ่ายตอนกลางคืนไม่สวยเท่าไหร่
รูปปั้นน้องหมูป่า ตรงอาคารที่ว่าการเมือง Copenhagen
เดินถัดมาจะเป็นสวนสนุก Tivoli สวนสนุกแห่งนี้เปิดมานานเป็นเวลา 100 ปี กว่าแล้ว คือ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1843 แต่สภาพของเครื่องเล่นต่าง ๆ ยังใหม่มาก และที่สำคัญคือ สวนสนุกแห่งนี้ไม่ได้เปิดตลอดปี หน้าร้อนเปิดช่วงมิถุนายน จะเปิดอีกทีช่วง Halloween และ Christmas โชคดีมากที่ผมได้มาเล่น
ในวันฮาโลวีนพอดี ค่าบัตรก็แพงมากเช่นกัน แต่โชคดีมีคนเป็นเจ้ามือจ่ายให้ ไม่งั้นเล่นหลายอย่างกระแบนเลยทีเดียว
บรรยากาศภายในสวนสนุก Tivoli Garden ที่เห็นฟักทองลูกใหญ่ ๆ นี้เป็นของจริงนะครับ เขานำมาจัดแสดงในช่วงวันฮาโลวีน
อันนี้เพื่อนชาวเดนมาร์กบอกว่าเป็นขนมที่ทุกคนที่มาเดนมาร์กแล้วต้องกิน เจ้าของกระทู้ก็จำชื่อไม่ได้แล้วครับ
ว่ามันชื่อว่าอะไร รู้แต่ว่ามันอร่อยมาก ๆ 55555
ที่ต่อมา คือ Kastellet หรือ Copenhagen Citadel แนวป้อมปราการโบราณที่มีคูน้ำล้อมรอบเป็นรูปดาวซึ่งได้รับการสงวนรักษาไว้อย่างสมบูรณ์ที่สุดในเขตยุโรปเหนือ ภายในมีอาคารต่างๆ ที่ส่วนมากใช้ทำกิจกรรมของกองทัพ รวมไปถึงโบสถ์ กังหันลม และสวนสาธารณะ อันนี้ไม่สามารถเดินไปได้นะครับ มันไกลมาก แต่เจ้าของกระทู้มีความสามาถพิเศษวิ่งจากมหาวิทยาโคเปนเฮเกน มาถึงตรงนี้ได้ เล่นเอาเกือบเป็นไข้ทีเดียว เพราะช่วงนั้นอากาศเย็นมาก 2 ถึง -3 องศาเซลเซียส (หนาวไม่เท่าไหร่ แต่ลมแรงมาก พัดมาแทบปลิว)
ภายในสวนจะมีรูปปั้นของพระมหากษัตริย์องค์สำคัญ ๆ ของประเทศเดนมาร์กอยู่ด้วย
ทางเข้าป้อมปราการ Copenhagen Citadel
รูปปั้นที่เราเห็นนี้คือ เจ้าน้ำพุเทพีเกฟิออน (Gefion Fountain ) ตามนิทานปรัมปราเดนมาร์กบอกว่าเทพีเกฟิออนสาปลูกๆของเธอทั้งสี่ให้เป็นวัวแล้วไถแผ่นดินจนกลายเป็นประเทศเดนมาร์กครับ
อันนี้เป็นโบสถ์เล็กๆชื่อ St. alban church สวยดีครับ ดูมีมนต์ขลัง
และเจ้าของกระทู้ก็นำทุกคนมาเที่ยวในมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ที่ผมมาทำวิจัย
มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก: Københavns Universitet ; อังกฤษ University of Copenhagen) เป็นมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยที่เก่าแก่ที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศเดนมาร์ก ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1479 มีวิทยาเขตในเมืองโคเปนเฮเกนและบริเวณรอบ ๆ โดยวิทยาเขตที่เก่าที่สุดตั้งอยู่ใจกลางเมืองโคเปนเฮเกน