ขอคำปรึกษา บริษัทฯ ปรับลดเงินเดือนพนักงาน โดยเอายอดขายมาเป็นตัวกำหนด
บริษัททำธุรกิจ ซื้อมา-ขายไป สินค้าก็ซื้อในประเทศไทย ขายในประเทศไทย
ตั้งแต่ 1 เม.ย. 63 มีการเรียกประชุมพนักงาน Office ทุกคน (เหลือ 8 คน ไม่รวมคนขับรถส่งของอีก 2 คน บริษัทหดตัวลงมาเล็กมากๆ) โดยบริษัทฯอ้างถึงเศรษฐกิจ และสถานการณ์โควิค-19 แจ้งขอจ่ายเงินเดือน 50% ให้ทำงานที่บ้าน(WFH และต้องติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลาทำงานปกติ จ.-ส. 8.30-17.30) แต่ทุกวันจันทร์ขอให้เข้า Office 1 วัน โดยไม่ได้มีหนังสือให้พนักงานคนใดเซ็นรับ หรือมีประกาศใดๆออกมา เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็มองหน้ากันเลิ่กหลั่ก แต่ไม่มีใครพูดแย้งอะไร ได้แต่มาคุยกันเองว่าทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ
พอสิ้นเดือนก็จ่าย 50% จริงๆ บางคนได้ครบ บางคนจ่ายแค่ 30-40%(พี่ๆ ที่เงินเดือนเยอะ อยู่มานาน) แล้วจะทยอยจ่ายให้ครบ 50% วันหลัง
ต่อมาเดือน พ.ค.63 เรียกประชุมอีกครั้งประกาศ แนวทางการปรับสัดส่วนเงินเดือนตามยอดขาย โดยจะบังคับใช้ตั้งแต่ พ.ค.63 เป็นต้นไป ดังนี้
ยอดไม่ถึง 2.0 .... บาท จ่าย 50%
ยอด 2.0 ....บาท จ่าย 60%
ยอด 2.5 ....บาท จ่าย 70%
ยอด 3.0 ....บาท จ่าย 80%
ยอด 3.5 ....บาท จ่าย 90%
ยอด 4.0 ....บาท จ่าย 100%
ยิ่งทำให้อึ้งกันหมด และไม่ได้มีหนังสือให้พนักงานคนใดเซ็นรับ หรือมีประกาศใดๆออกมา
หากย้อนไปสักประมาณ 3-4 ปี บริษัทฯ ก็เหมือนจะลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด เหมือนจะไม่ไหว (เปลี่ยนผู้บริหาร เจ้าของมาคุมกิจการเอง) แต่เห็นเค้ายังจ้างเราและจ่ายปกติ(บางคน) ก็คิดว่าเค้าคงอยู่ได้ ส่วนใหญ่ยอดขายอยู่ประมาณ 1-3 ....บาท มีแค่เดือนเดียวที่ถึง 4 ....บาท
และมีการทยอยจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานบางคนทีละ 5,000-10,000 บาท บางทีค้างกัน 3 เดือน ถึงจะจ่ายครบ พอเริ่มเดือนใหม่ก็ผ่อนจ่าย เป็นงูกินหางมาตลอด
ตั้งแต่ต้นปี 2563 บริษัทฯ ก็ทำการย้าย Office จากอาคารเดิมที่เคยเช่า ก็ย้ายมาบ้านส่วนตัวของเจ้านายเอง (ห่างกัน 2 กม.) คลังเก็บสินค้า จากที่เดิม Stock ได้ 100% เหลือ 20% (เพื่อลดต้นทุนค่าเช่า และค่าที่เก็บสินค้า)
ตอนย้าย Office มีพนักงาน 15 คน เป็นผู้ชาย 7 คน เป็นพนักงานแผนกคลังและจัดส่งทั้งหมด ช่วงย้าย Office ไม่มีการจ้างคนมาขนย้ายเลย ใช้พนักงานชายที่มีอยู่ 7 คน ทยอยย้ายตั้งแต่ กลางเดือน ม.ค.-มี.ค. 63 และไม่มีการหยุดงานเพื่อขนย้าย ตอนเช้าทำงานส่งของ ตอนบ่ายขนโต๊ะขนตู้ทยอยย้ายเข้าที่ใหม่ ซึ่งทุกคนก็อดทนกัน
พอย้ายมาเสร็จเริ่มมีการบีบพนักงานบางคนขอให้มาทำครึ่งวัน จ่ายครึ่งเดียวบ้าง วันไหนมีงานให้เข้ามา หากงานน้อย บีบให้จบทันเที่ยงแล้วให้กลับบ้าน จ่ายค่าแรงครึ่งเดียวบ้าง ตัดเงินเบี้ยขยันอ้างว่าขอพิจารณาใหม่ แล้วเงียบหายไป บีบพนักงานที่หมายหัวไว้ให้เค้าเขียนใบลาออก บางวันงานเยอะ เดินทางไกลให้รถวิ่งคันเดียว ที่เหลือให้กลับบ้านและไม่จ่ายค่าแรงวันนั้น จนพนักงานคลังและจัดส่ง ตัดสินใจลาออกไปบางส่วน บางส่วนหายไปเฉยๆ เลย แต่ก็โทรมาแจ้งว่าไม่ไหว กดขี่ เกินไป จนมาถึงปัจจุบัน มาออกแนวทางการปรับสัดส่วนเงินเดือนตามยอดขาย แบบนี้ เหมือนบีบใครทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ ลาออกไปเองซิ
ทุกคนตอนนี้เริ่มมีความคิดเห็นเหมือนกันหมด ว่านายจ้างเอาเปรียบพนักงานอย่างมาก ไม่ไหวก็บอกไม่ไหว ไหวก็ควรจ่ายปกติ
จึงอยากจะปรึกษาพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่มีความรู้แนวทาง เล่เหลี่ยม หรือหลักกฎหมาย แนวทางการจัดการบริษัทฯ กรณีนี้หน่อย เพราะ พี่ๆหลายคนอยู่กับบริษัทฯมานาน อายุเยอะแล้ว เค้าจะเคว้งคว้างกันหมดเลย รบกวนด้วยจร้าาาา
ขอคำปรึกษา บริษัทฯ ปรับลดเงินเดือนพนักงาน โดยเอายอดขายมาเป็นตัวกำหนด พนง.นี้มึนเลย
บริษัททำธุรกิจ ซื้อมา-ขายไป สินค้าก็ซื้อในประเทศไทย ขายในประเทศไทย
ตั้งแต่ 1 เม.ย. 63 มีการเรียกประชุมพนักงาน Office ทุกคน (เหลือ 8 คน ไม่รวมคนขับรถส่งของอีก 2 คน บริษัทหดตัวลงมาเล็กมากๆ) โดยบริษัทฯอ้างถึงเศรษฐกิจ และสถานการณ์โควิค-19 แจ้งขอจ่ายเงินเดือน 50% ให้ทำงานที่บ้าน(WFH และต้องติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลาทำงานปกติ จ.-ส. 8.30-17.30) แต่ทุกวันจันทร์ขอให้เข้า Office 1 วัน โดยไม่ได้มีหนังสือให้พนักงานคนใดเซ็นรับ หรือมีประกาศใดๆออกมา เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นก็มองหน้ากันเลิ่กหลั่ก แต่ไม่มีใครพูดแย้งอะไร ได้แต่มาคุยกันเองว่าทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ
พอสิ้นเดือนก็จ่าย 50% จริงๆ บางคนได้ครบ บางคนจ่ายแค่ 30-40%(พี่ๆ ที่เงินเดือนเยอะ อยู่มานาน) แล้วจะทยอยจ่ายให้ครบ 50% วันหลัง
ต่อมาเดือน พ.ค.63 เรียกประชุมอีกครั้งประกาศ แนวทางการปรับสัดส่วนเงินเดือนตามยอดขาย โดยจะบังคับใช้ตั้งแต่ พ.ค.63 เป็นต้นไป ดังนี้
ยอดไม่ถึง 2.0 .... บาท จ่าย 50%
ยอด 2.0 ....บาท จ่าย 60%
ยอด 2.5 ....บาท จ่าย 70%
ยอด 3.0 ....บาท จ่าย 80%
ยอด 3.5 ....บาท จ่าย 90%
ยอด 4.0 ....บาท จ่าย 100%
ยิ่งทำให้อึ้งกันหมด และไม่ได้มีหนังสือให้พนักงานคนใดเซ็นรับ หรือมีประกาศใดๆออกมา
หากย้อนไปสักประมาณ 3-4 ปี บริษัทฯ ก็เหมือนจะลุ่มๆ ดอนๆ มาตลอด เหมือนจะไม่ไหว (เปลี่ยนผู้บริหาร เจ้าของมาคุมกิจการเอง) แต่เห็นเค้ายังจ้างเราและจ่ายปกติ(บางคน) ก็คิดว่าเค้าคงอยู่ได้ ส่วนใหญ่ยอดขายอยู่ประมาณ 1-3 ....บาท มีแค่เดือนเดียวที่ถึง 4 ....บาท
และมีการทยอยจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานบางคนทีละ 5,000-10,000 บาท บางทีค้างกัน 3 เดือน ถึงจะจ่ายครบ พอเริ่มเดือนใหม่ก็ผ่อนจ่าย เป็นงูกินหางมาตลอด
ตั้งแต่ต้นปี 2563 บริษัทฯ ก็ทำการย้าย Office จากอาคารเดิมที่เคยเช่า ก็ย้ายมาบ้านส่วนตัวของเจ้านายเอง (ห่างกัน 2 กม.) คลังเก็บสินค้า จากที่เดิม Stock ได้ 100% เหลือ 20% (เพื่อลดต้นทุนค่าเช่า และค่าที่เก็บสินค้า)
ตอนย้าย Office มีพนักงาน 15 คน เป็นผู้ชาย 7 คน เป็นพนักงานแผนกคลังและจัดส่งทั้งหมด ช่วงย้าย Office ไม่มีการจ้างคนมาขนย้ายเลย ใช้พนักงานชายที่มีอยู่ 7 คน ทยอยย้ายตั้งแต่ กลางเดือน ม.ค.-มี.ค. 63 และไม่มีการหยุดงานเพื่อขนย้าย ตอนเช้าทำงานส่งของ ตอนบ่ายขนโต๊ะขนตู้ทยอยย้ายเข้าที่ใหม่ ซึ่งทุกคนก็อดทนกัน
พอย้ายมาเสร็จเริ่มมีการบีบพนักงานบางคนขอให้มาทำครึ่งวัน จ่ายครึ่งเดียวบ้าง วันไหนมีงานให้เข้ามา หากงานน้อย บีบให้จบทันเที่ยงแล้วให้กลับบ้าน จ่ายค่าแรงครึ่งเดียวบ้าง ตัดเงินเบี้ยขยันอ้างว่าขอพิจารณาใหม่ แล้วเงียบหายไป บีบพนักงานที่หมายหัวไว้ให้เค้าเขียนใบลาออก บางวันงานเยอะ เดินทางไกลให้รถวิ่งคันเดียว ที่เหลือให้กลับบ้านและไม่จ่ายค่าแรงวันนั้น จนพนักงานคลังและจัดส่ง ตัดสินใจลาออกไปบางส่วน บางส่วนหายไปเฉยๆ เลย แต่ก็โทรมาแจ้งว่าไม่ไหว กดขี่ เกินไป จนมาถึงปัจจุบัน มาออกแนวทางการปรับสัดส่วนเงินเดือนตามยอดขาย แบบนี้ เหมือนบีบใครทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ ลาออกไปเองซิ
ทุกคนตอนนี้เริ่มมีความคิดเห็นเหมือนกันหมด ว่านายจ้างเอาเปรียบพนักงานอย่างมาก ไม่ไหวก็บอกไม่ไหว ไหวก็ควรจ่ายปกติ
จึงอยากจะปรึกษาพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่มีความรู้แนวทาง เล่เหลี่ยม หรือหลักกฎหมาย แนวทางการจัดการบริษัทฯ กรณีนี้หน่อย เพราะ พี่ๆหลายคนอยู่กับบริษัทฯมานาน อายุเยอะแล้ว เค้าจะเคว้งคว้างกันหมดเลย รบกวนด้วยจร้าาาา