หลายคนอยู่บ้านช่วงนี้ น่าจะดูหนังกันบ่อยขึ้น บางวันเราก็อยากดูหนังบางแนว ขึ้นอยู่กับอารณ์ช่วงนั้นๆ เลยอยากให้มาแชร์หนังที่เป็น “ที่สุด” ของแต่ละแนวกันนะคะ
สำหรับเรา หนังที่ชอบต้องมีสามองค์ประกอบคือ เริ่มต้นมาภายในสิบนาทีแรกสามารถดึงดูดให้เราดูต่อได้ ไม่ร่ำไรยือเยื้อ ถ้ามีปูเรื่องต้องให้กระชับแค่ที่จำเป็น พอช่วงกลางต้องดำเนินเรื่องเร็ว สะกดให้เราเข้าไปอยู่ในหนังได้จนถึงขั้นมโนเป็นตัวเอกของเรื่อง (แล้วพอถึงจุดๆ นึง ถึงกับพูดออกมาว่า เฮ้ย กรูจะทำยังไงต่อไปดีวะเนี่ย) ตอนจบต้องประทับใจ จะหักมุม ประหลาดใจหรือสมหวังก็แล้วแต่ ดูหนังจบแล้วคนไม่จบ ต้องมาหาอ่านรีวิวว่าคนอื่นคิดยังไงทันที
List ของเราก็จะเป็นตามนี้ ช่วยมาแชร์กันเยอะๆ นะคะ แนวอื่นด้วยก็ได้
- Action: Face/Off (1997)
- ไขปริศนา: Angels and Demons (2009)
- ผจญภัย: Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) ดูปี 2020 ก็ยังสนุกอยู่
- เจ้าหญิงเจ้าชายฟรุ้งฟริ้ง: Enchanted (2007) เจ้าหญิงดิสนีย์หลุดจากโลกการ์ตูนมาติดอยู่ที่นิวยอร์กซิตี้
- หนังผีน่ากลัว: the Cabin in the Woods (2011) เริ่มต้นมาดูเหมือนหนังผีวัยรุ่นทั่วไป แต่ไม่ใช่เลย
- หนังผีไม่น่ากลัว: the Frighteners (1996) (ไมเคิล เจ ฟอกซ์ เล่นเป็นหมอผี)
- หนังอินเดีย: Andhadhun (2018) เป็นหนังที่ไม่มีทางเดาออกว่าฉากต่อไปจะเป็นยังไง ห้ามอ่านเรื่องย่อก่อนเด็ดขาด รู้แค่ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักดนตรีตาบอดที่ไปเกี่ยวข้องกับอะไรบางอย่าง พอแล้ว
- หนังเกี่ยวกับอนาคต: Gattaca (1997) ยกให้ระดับ masterpiece ทุกฉาก ทุกบทสนทนา มีความหมายหมด [จริงๆ ก็ชอบ What happened to Monday (2017) และ the Island (2005) ด้วย]
- หนังเอาตัวรอด: Apocalypto (2006) เป็นหนังเอาตัวรอดที่สมจริงที่สุดจนลืมไปเลยว่ากำลังดูหนังอยู่ ไปหานักแสดงมาจากไหน ยกให้เป็นอีกหนึ่ง masterpiece
- หนังย้อนเวลา: The Butterfly Effect (2004) ดูแล้วต้องว้าว สุดยอด ขั้น masterpiece
- หนังซอมบี้: World War Z (2013) ยิ่งใหญ่สมกับเป็นสงครามระดับโลก
- Fantasy: Jack the Giant Slayer (2013) พระเอกกล้าหาญ ฉลาด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนจบเป็นการจบที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยดูมาเลย
- Animation: Up (2009)
.
.
- หนังที่สุดของที่สุด: Frequency (2000) พ่อลูกติดต่อกันได้ขณะที่อยู่คนละช่วงเวลากัน และร่วมกันปฏิบัติภารกิจสำคัญด้วย รับประกันความซึ้งและลุ้น
ที่สุดของหนังแต่ละประเภท (genre)
สำหรับเรา หนังที่ชอบต้องมีสามองค์ประกอบคือ เริ่มต้นมาภายในสิบนาทีแรกสามารถดึงดูดให้เราดูต่อได้ ไม่ร่ำไรยือเยื้อ ถ้ามีปูเรื่องต้องให้กระชับแค่ที่จำเป็น พอช่วงกลางต้องดำเนินเรื่องเร็ว สะกดให้เราเข้าไปอยู่ในหนังได้จนถึงขั้นมโนเป็นตัวเอกของเรื่อง (แล้วพอถึงจุดๆ นึง ถึงกับพูดออกมาว่า เฮ้ย กรูจะทำยังไงต่อไปดีวะเนี่ย) ตอนจบต้องประทับใจ จะหักมุม ประหลาดใจหรือสมหวังก็แล้วแต่ ดูหนังจบแล้วคนไม่จบ ต้องมาหาอ่านรีวิวว่าคนอื่นคิดยังไงทันที
List ของเราก็จะเป็นตามนี้ ช่วยมาแชร์กันเยอะๆ นะคะ แนวอื่นด้วยก็ได้
- Action: Face/Off (1997)
- ไขปริศนา: Angels and Demons (2009)
- ผจญภัย: Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) ดูปี 2020 ก็ยังสนุกอยู่
- เจ้าหญิงเจ้าชายฟรุ้งฟริ้ง: Enchanted (2007) เจ้าหญิงดิสนีย์หลุดจากโลกการ์ตูนมาติดอยู่ที่นิวยอร์กซิตี้
- หนังผีน่ากลัว: the Cabin in the Woods (2011) เริ่มต้นมาดูเหมือนหนังผีวัยรุ่นทั่วไป แต่ไม่ใช่เลย
- หนังผีไม่น่ากลัว: the Frighteners (1996) (ไมเคิล เจ ฟอกซ์ เล่นเป็นหมอผี)
- หนังอินเดีย: Andhadhun (2018) เป็นหนังที่ไม่มีทางเดาออกว่าฉากต่อไปจะเป็นยังไง ห้ามอ่านเรื่องย่อก่อนเด็ดขาด รู้แค่ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักดนตรีตาบอดที่ไปเกี่ยวข้องกับอะไรบางอย่าง พอแล้ว
- หนังเกี่ยวกับอนาคต: Gattaca (1997) ยกให้ระดับ masterpiece ทุกฉาก ทุกบทสนทนา มีความหมายหมด [จริงๆ ก็ชอบ What happened to Monday (2017) และ the Island (2005) ด้วย]
- หนังเอาตัวรอด: Apocalypto (2006) เป็นหนังเอาตัวรอดที่สมจริงที่สุดจนลืมไปเลยว่ากำลังดูหนังอยู่ ไปหานักแสดงมาจากไหน ยกให้เป็นอีกหนึ่ง masterpiece
- หนังย้อนเวลา: The Butterfly Effect (2004) ดูแล้วต้องว้าว สุดยอด ขั้น masterpiece
- หนังซอมบี้: World War Z (2013) ยิ่งใหญ่สมกับเป็นสงครามระดับโลก
- Fantasy: Jack the Giant Slayer (2013) พระเอกกล้าหาญ ฉลาด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- Animation: Up (2009)
.
.
- หนังที่สุดของที่สุด: Frequency (2000) พ่อลูกติดต่อกันได้ขณะที่อยู่คนละช่วงเวลากัน และร่วมกันปฏิบัติภารกิจสำคัญด้วย รับประกันความซึ้งและลุ้น