สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้ที่เราเขียนครั้งแรก หากผิดพลาดหรือไม่ชัดเจนยังไง ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เราใช้เวลาตัดสินใจนานมากว่าควรเขียนกระทู้เพื่อเล่าถึงเรื่องราวนี้ดีหรือไม่? จนมาถึงทุกวันนี้เราเห็นแม่เราเครียดและทุกข์ใจมาก เพราะแม่เป็นเสาหลักของครอบครัว(ครอบครัวของเรามีคุณตา คุณยาย คุณแม่และเราค่ะ) บ้านเราใช้กระเป๋าใบเดียวคือของคุณแม่ เหตุผลที่คุณแม่เราลาออกจากหน่วยงานภาครัฐที่มั่นคงมาก (เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ สอบถามเพิ่มเติมหลังไมค์ได้ค่ะ) เพราะเจ้านายเก่าขอให้แม่ไปช่วยงานกับหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่เมื่อปี 60 ซึ่งแม่มีความเคารพและเกรงใจท่านมาก ไม่กล้าปฏิเสธเพราะเป็นท่านเป็นผู้ใหญ่มากๆ และท่านโทรศัพท์มาหาเรา ให้บอกแม่ด้วยเรื่องให้มาช่วยงานเป็นผู้เลขาและผู้ช่วยส่วนตัว (เพราะท่านติดต่อแม่ไม่ได้ แม่เปลี่ยนเบอร์โทร) จึงทำให้แม่ตัดสินใจมาช่วยงานเพราะเคยรับใช้ท่านมาตั้งแต่เราอายุ 6 เดือน ซึ่งมารู้ภายหลังว่าเป็นการจ้างงานสัญญาจ้างปีต่อปี และไม่มีสวัสดิการอะไรเลย จากที่แม่มีเบิกสวัสดิการได้ทั้งหมดค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาลบุตร และค่ารักษาพยาบาลคุณตาคุณยาย ฯลฯ แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณแม่เลย เนื่องจากค่าตอบแทนหน่วยงานใหม่นี้จัดว่าสูงทีเดียว เพราะเป็นสัญญาจ้างปี/ปี และไม่มีสวัสดิการอะไรเลยจึงจ่ายสูง
แต่แม่มาตกม้าตายเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่มันก็เป็นเรื่อง และเป็นเรื่องใหญ่สำหรับครอบครัวเราที่มีคุณแม่เป็นกระเป๋าเงินใบเดียวของบ้าน และเหตุเกิดจากความเมตตาที่เจ้านายเก่าดูแลคุณแม่อย่างดี แน่ล่ะคุณแม่รับใช้ท่านมาตั้งแต่เรา 6 เดือน (ตอนที่คุณแม่ขอลาออกเราอายุ 19ปี) ทำให้ครอบครัวท่านไม่สบายใจและมาลงที่คุณแม่ ทำไมเรารู้เหรอ? เพราะคุณผู้หญิงท่านนี้โทรมาเหวี่ยงคุณแม่เป็นปีๆ เราอยู่ด้วยเลยพอได้ฟังบ้าง และไม่เคยเห็นแม่คุยโทรศัพท์กับใครแล้วมีอาการอยากเถียงหรืออธิบาย (แบบไม่สุภาพคือเหมือนแม่อยากด่ากลับ อะไรประมาณนั้น) ต่อมาคุณแม่มาเล่ากึ่งระบายให้ครอบครัวฟังถึงเหตุผลที่ขอยกเลิกสัญญาตัวเองก่อนกำหนดเพราะทราบดีแล้วว่าไม่ได้ไปต่อแน่นอน ไม่อยากให้เจ้านายปวดหัว และไม่อยากคุยกับคุณผู้หญิงท่านนี้เพราะเป็นคนที่มีจิตใจที่เป็นอคติ และไม่อยากได้ยินคำหยาบคายทุกเช้าสายบ่ายเย็นของทุกวัน หากวันไหนเธอโทรมาแล้วแม่ไม่รับสาย คนที่จะต้องหาแม่ให้เจอคือคนขับรถ เธอจะถามคนรถว่าคุณแม่อยู่ไหนไปกับใคร ซึ่งคุณผู้หญิงขู่แม่ตลอดว่าจะไม่ต่อสัญญาแน่นอนเพราะจะทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยก(มีหลักฐานในส่วนนี้) ทำไมเค้าถึงมีอิทธิพล ก็เพราะหน่วยงานนี้เป็นระบบเพื่อนอุปถัมป์เพื่อนช่วยเพื่อน เหมือนเจ้านายแม่ดึงแม่มาทำงานที่นี่แหละ ส่วนคุณผู้หญิงฝากเพื่อนที่เกษียณอายุราชการมาเป็นผู้บริหารระดับสูง และเป็นคนดูแลพนักงานทั้งหมดของหน่วยงานซึ่งเคยเรียกแม่ไปเขียนใบลาออกมาแล้ว แต่แม่บอกว่าให้หามาว่าแม่มีความผิดอะไร ตรงไหน (ต่อสู้อยู่หลายเดือน) เรื่องนี้ไม่เคยถึงหูเจ้านายแม่เลย คุณแม่ไม่เคยบ่นหรือเล่าเรื่องนี้ให้เจ้านายฟังว่าภรรยาท่านเป็นยังไง เพื่อนภรรยาท่านเป็นยังไง? เราแอบโกรธ แต่แม่บอกโกรธไปไม่มีประโยชน์ไงเราก็ทำงานของเราไปให้ดีที่สุด เราไปห้ามความคิดใครไม่ได้ ที่เราทราบละเอียดเพราะเราคุยกันทุกเรื่องจึงเล่าได้เหมือนเป็นงานของตัวเอง จริงๆแล้วอยากระบายความอึดอัด ใจร้ายที่คุณแม่เจอมา ในที่สุดแม่ดูแล้วว่าไปต่อลำบากเพราะถึงเจ้านายจะต่อสัญญาให้แต่คงไม่รอดอยู่ดี จึงขอยกเลิกสัญญาจ้างเพื่อจบเรื่องทั้งหมด
ตอนนี้แม่เราหางานใหม่มีคนหลายคนเข้ามาสัมภาษณ์สนใจงานแม่ แต่ติดที่อายุ และเงินเดือนที่ค่อนข้างสูง (แต่บริษัทไม่เคยขอต่อรองกับแม่เลย แค่บอกว่าประสบการณ์เยอะไป) ตอนลาออกแม่ได้รับเงินมาจำนวนหนึ่ง แต่ทุกวันนี้เงินจำนวนนี้ใกล้จะหมดไป ทำให้ครอบครัวเราประสบปัญหาในเรื่องการเงินอย่างมากในช่วงสถานการณ์นี้ จึงอยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำจากเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่านค่ะว่าคนอายุ 50 จบการศึกษาในระดับวุฒิป.ตรี มหาลัยไม่ได้ชื่อดังในสมัยนี้ แต่คุณแม่ของเราก็มีประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูงเกี่ยวกับการบริหารและการจัดการ วางแผนต่างๆ รวมถึงความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของแม่เราทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน การติดต่อประสานงานต่างๆ และเคยทำงานกับชาวต่างชาติในองค์กรต่างๆ ในระดับ High Level เพื่อนๆคิดว่าคุณแม่ของเรายังสามารถประกอบอาชีพหรือสมัครงานที่ไหนได้บ้างคะ คุณแม่เราเคยได้โพสต์ CV ลงไปในแอปพลิเคชันหางานและเว็บไซต์ต่างๆแต่เจอกับข้อจำกัดในด้านอายุ เงินเดือนและตำแหน่งที่เป็นงานเฉพาะด้าน เช่น วิศวะ ไอที หรือบัญชีต่างๆค่ะ
ประเด็นที่ระบายมาทั้งหมดคือเรื่องนี้เราอยากช่วยคุณแม่หางานเพราะรู้ว่าแม่เครียด จากที่ท่านเคยเป็นคนร่าเริง ตลก เฮฮาตลอดแต่ตอนนี้กลับดูหม่นหมองและเศร้ามาก เลยอยากหาแนวคิดแนวทางคำแนะนำเผื่อว่าจะได้ช่วยเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้คุณแม่ ในฐานะลูกบ้างน่ะค่ะ เรากำลังหางาน part time หรือสมัครตัวแทนจำหน่ายต่างๆเพื่อช่วยแม่อีกทาง ถึงแม้แม่จะไม่อยากให้ทำก็ตาม รบกวนเพื่อนๆด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ
รบกวนขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการหางานสำหรับคนมีอายุค่ะ
เราใช้เวลาตัดสินใจนานมากว่าควรเขียนกระทู้เพื่อเล่าถึงเรื่องราวนี้ดีหรือไม่? จนมาถึงทุกวันนี้เราเห็นแม่เราเครียดและทุกข์ใจมาก เพราะแม่เป็นเสาหลักของครอบครัว(ครอบครัวของเรามีคุณตา คุณยาย คุณแม่และเราค่ะ) บ้านเราใช้กระเป๋าใบเดียวคือของคุณแม่ เหตุผลที่คุณแม่เราลาออกจากหน่วยงานภาครัฐที่มั่นคงมาก (เกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ สอบถามเพิ่มเติมหลังไมค์ได้ค่ะ) เพราะเจ้านายเก่าขอให้แม่ไปช่วยงานกับหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่เมื่อปี 60 ซึ่งแม่มีความเคารพและเกรงใจท่านมาก ไม่กล้าปฏิเสธเพราะเป็นท่านเป็นผู้ใหญ่มากๆ และท่านโทรศัพท์มาหาเรา ให้บอกแม่ด้วยเรื่องให้มาช่วยงานเป็นผู้เลขาและผู้ช่วยส่วนตัว (เพราะท่านติดต่อแม่ไม่ได้ แม่เปลี่ยนเบอร์โทร) จึงทำให้แม่ตัดสินใจมาช่วยงานเพราะเคยรับใช้ท่านมาตั้งแต่เราอายุ 6 เดือน ซึ่งมารู้ภายหลังว่าเป็นการจ้างงานสัญญาจ้างปีต่อปี และไม่มีสวัสดิการอะไรเลย จากที่แม่มีเบิกสวัสดิการได้ทั้งหมดค่าเล่าเรียน ค่ารักษาพยาบาลบุตร และค่ารักษาพยาบาลคุณตาคุณยาย ฯลฯ แต่เรื่องนั้นไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณแม่เลย เนื่องจากค่าตอบแทนหน่วยงานใหม่นี้จัดว่าสูงทีเดียว เพราะเป็นสัญญาจ้างปี/ปี และไม่มีสวัสดิการอะไรเลยจึงจ่ายสูง
แต่แม่มาตกม้าตายเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่มันก็เป็นเรื่อง และเป็นเรื่องใหญ่สำหรับครอบครัวเราที่มีคุณแม่เป็นกระเป๋าเงินใบเดียวของบ้าน และเหตุเกิดจากความเมตตาที่เจ้านายเก่าดูแลคุณแม่อย่างดี แน่ล่ะคุณแม่รับใช้ท่านมาตั้งแต่เรา 6 เดือน (ตอนที่คุณแม่ขอลาออกเราอายุ 19ปี) ทำให้ครอบครัวท่านไม่สบายใจและมาลงที่คุณแม่ ทำไมเรารู้เหรอ? เพราะคุณผู้หญิงท่านนี้โทรมาเหวี่ยงคุณแม่เป็นปีๆ เราอยู่ด้วยเลยพอได้ฟังบ้าง และไม่เคยเห็นแม่คุยโทรศัพท์กับใครแล้วมีอาการอยากเถียงหรืออธิบาย (แบบไม่สุภาพคือเหมือนแม่อยากด่ากลับ อะไรประมาณนั้น) ต่อมาคุณแม่มาเล่ากึ่งระบายให้ครอบครัวฟังถึงเหตุผลที่ขอยกเลิกสัญญาตัวเองก่อนกำหนดเพราะทราบดีแล้วว่าไม่ได้ไปต่อแน่นอน ไม่อยากให้เจ้านายปวดหัว และไม่อยากคุยกับคุณผู้หญิงท่านนี้เพราะเป็นคนที่มีจิตใจที่เป็นอคติ และไม่อยากได้ยินคำหยาบคายทุกเช้าสายบ่ายเย็นของทุกวัน หากวันไหนเธอโทรมาแล้วแม่ไม่รับสาย คนที่จะต้องหาแม่ให้เจอคือคนขับรถ เธอจะถามคนรถว่าคุณแม่อยู่ไหนไปกับใคร ซึ่งคุณผู้หญิงขู่แม่ตลอดว่าจะไม่ต่อสัญญาแน่นอนเพราะจะทำให้ครอบครัวเค้าแตกแยก(มีหลักฐานในส่วนนี้) ทำไมเค้าถึงมีอิทธิพล ก็เพราะหน่วยงานนี้เป็นระบบเพื่อนอุปถัมป์เพื่อนช่วยเพื่อน เหมือนเจ้านายแม่ดึงแม่มาทำงานที่นี่แหละ ส่วนคุณผู้หญิงฝากเพื่อนที่เกษียณอายุราชการมาเป็นผู้บริหารระดับสูง และเป็นคนดูแลพนักงานทั้งหมดของหน่วยงานซึ่งเคยเรียกแม่ไปเขียนใบลาออกมาแล้ว แต่แม่บอกว่าให้หามาว่าแม่มีความผิดอะไร ตรงไหน (ต่อสู้อยู่หลายเดือน) เรื่องนี้ไม่เคยถึงหูเจ้านายแม่เลย คุณแม่ไม่เคยบ่นหรือเล่าเรื่องนี้ให้เจ้านายฟังว่าภรรยาท่านเป็นยังไง เพื่อนภรรยาท่านเป็นยังไง? เราแอบโกรธ แต่แม่บอกโกรธไปไม่มีประโยชน์ไงเราก็ทำงานของเราไปให้ดีที่สุด เราไปห้ามความคิดใครไม่ได้ ที่เราทราบละเอียดเพราะเราคุยกันทุกเรื่องจึงเล่าได้เหมือนเป็นงานของตัวเอง จริงๆแล้วอยากระบายความอึดอัด ใจร้ายที่คุณแม่เจอมา ในที่สุดแม่ดูแล้วว่าไปต่อลำบากเพราะถึงเจ้านายจะต่อสัญญาให้แต่คงไม่รอดอยู่ดี จึงขอยกเลิกสัญญาจ้างเพื่อจบเรื่องทั้งหมด
ตอนนี้แม่เราหางานใหม่มีคนหลายคนเข้ามาสัมภาษณ์สนใจงานแม่ แต่ติดที่อายุ และเงินเดือนที่ค่อนข้างสูง (แต่บริษัทไม่เคยขอต่อรองกับแม่เลย แค่บอกว่าประสบการณ์เยอะไป) ตอนลาออกแม่ได้รับเงินมาจำนวนหนึ่ง แต่ทุกวันนี้เงินจำนวนนี้ใกล้จะหมดไป ทำให้ครอบครัวเราประสบปัญหาในเรื่องการเงินอย่างมากในช่วงสถานการณ์นี้ จึงอยากขอคำปรึกษาและคำแนะนำจากเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่านค่ะว่าคนอายุ 50 จบการศึกษาในระดับวุฒิป.ตรี มหาลัยไม่ได้ชื่อดังในสมัยนี้ แต่คุณแม่ของเราก็มีประสบการณ์ในการทำงานค่อนข้างสูงเกี่ยวกับการบริหารและการจัดการ วางแผนต่างๆ รวมถึงความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของแม่เราทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน การติดต่อประสานงานต่างๆ และเคยทำงานกับชาวต่างชาติในองค์กรต่างๆ ในระดับ High Level เพื่อนๆคิดว่าคุณแม่ของเรายังสามารถประกอบอาชีพหรือสมัครงานที่ไหนได้บ้างคะ คุณแม่เราเคยได้โพสต์ CV ลงไปในแอปพลิเคชันหางานและเว็บไซต์ต่างๆแต่เจอกับข้อจำกัดในด้านอายุ เงินเดือนและตำแหน่งที่เป็นงานเฉพาะด้าน เช่น วิศวะ ไอที หรือบัญชีต่างๆค่ะ
ประเด็นที่ระบายมาทั้งหมดคือเรื่องนี้เราอยากช่วยคุณแม่หางานเพราะรู้ว่าแม่เครียด จากที่ท่านเคยเป็นคนร่าเริง ตลก เฮฮาตลอดแต่ตอนนี้กลับดูหม่นหมองและเศร้ามาก เลยอยากหาแนวคิดแนวทางคำแนะนำเผื่อว่าจะได้ช่วยเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้คุณแม่ ในฐานะลูกบ้างน่ะค่ะ เรากำลังหางาน part time หรือสมัครตัวแทนจำหน่ายต่างๆเพื่อช่วยแม่อีกทาง ถึงแม้แม่จะไม่อยากให้ทำก็ตาม รบกวนเพื่อนๆด้วยนะคะ ขอบพระคุณค่ะ