หากว่าเราจะซื้อรถสักคัน เรามักตั้งคำถามว่าถ้าซื้อมาแล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ สำหรับผมแล้วไม่ว่าจะซื้อรถอะไร ยี่ห้อไหน รุ่นไหนมันจะคุ้มค่าทั้งหมดแหละ หากว่าเราขับขี่มันได้ถึง 100,000 โล ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งหรือรถกระบะจะใช้ขับทำงาน รถมอเตอร์ไซค์ใช้ขี่ไปทำงานรับส่งของหรือผู้คน หากเราใช้รถได้ถึง 100,000 โลแล้ว จำนวนเงินที่ได้จากการทำงานนั้นคงมากกว่าค่าตัวของรถหลายเท่าตัวอย่างแน่นอน หรือแม้ว่าเราจะใช้รถเพื่อขับขี่ท่องเที่ยวสันทนาการ มันก็ยังตอบแทนเราเป็นความเพลิดเพลินสนุกสนานได้นั่นเอง
แต่การคิดคำนึงถึงการใช้ประโยชน์เหล่านี้จะถูกบดบังด้วยกิเลสเสียส่วนใหญ่สำหรับคนที่กำลังมองหารถสวย ๆ ซีซีสูง ๆ คู่ใจสักคัน ภาพจินตนาการที่จะได้ออกทริปไกล ๆ จากภาพวิดีโอที่เคยเห็นนั้นก็คุ้มค่าแล้วกับจำนวนเงินที่เราจะต่องจ่ายไปเพื่อแลกสิ่งเหล่านั้นมา ผมพอมีเงินเก็บอยู่ก้อนนึง ก็เริ่มคิดมองหารถคู่ใจสักคัน และถ้าหากว่าผมโสดอยู่ตัวคนเดียวไม่มีลูกไม่มีเมีย ผมก็อาจจะไปดาวน์รถคันละ 6-7 แสนสักคัน แต่เมื่อคิดถึงครอบครัว จึงลดราคาที่ตั้งไว้เหลือประมาณ 3 – 3.5 แสน แต่พอเสนอโครงการไป ก็โดนแฟนบ่นมา ก็กลับมานั่งคิดว่าจะเอายังไงดี
เริ่มหาข้อมูลในพันทิปบ้าง เห็นคนพูดถึงซูซูกิ แวนแวน 200 ที่กำลังจะเปิดตัวมาแทนตัว 125 พอดี จึงหาข้อมูลตัวรถและเปิดคลิปดูอยู่สองสามวันก็หลอกล่อภรรยาว่าจะไปเที่ยวดูเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ศูนย์ ซึ่งข้าง ๆ ศูนย์จะมีโชว์รูมซูซูกิ เราก็บอกขอไปดูรถหน่อยไหน ๆ ก็มาแล้ว พอไปเห็นตัวจริงก็ทำเป็นด้อม ๆ มอง ๆ แล้วเปรย ๆ กับแฟนว่า เนี่ยราคาแค่แสนนิด ๆ เท่ากับเงินดาวน์รถแพง ๆ เลย นี่ก็ยอมลดราคาลงมาแล้วนะ แฟนก็คงรำคาญเลยไม่พูดอะไรอีก เราก็เลยจ่ายเงินจองไว้แล้วรอศูนย์มาส่งรถที่บ้าน
พอได้รถมาผมก็พยายามหาเรื่องออกไปขี่เที่ยว ไปภูเขาแถวบ้านบ้าง ไปนู่นไปนี่บ้างเพื่อให้เข็มไมล์มันขยับ พอเข็มไมล์รถขยับไปถึงประมาณสามพันโลปุ๊บ ผมก็จอดคลุมผ้าเก็บไว้ไม่ได้เอาออกมาขี่อีกเลย เพราะว่าไม่รู้จะไปเที่ยวไหนแล้ว กลุ่มก๊วนก็ไม่มี ลูกยังเล็ก 2 ขวบกว่า แฟนก็ออกไปเที่ยวด้วยกันไม่ได้ ยังมีที่เพิ่งคลอดมาอีกหนึ่งคน คราวนี้ก็ต้องอยู่บ้านช่วยดูแลเจ้าตัวเล็ก แล้วอย่างนี้ผมจะขี่เจ้าแวนแวนให้ครบ 100,000 โลได้อย่างไรกัน
จนมาวันหนึ่ง กระแสเรื่องขี่แกร๊บกำลังรุ่งเรืองในจังหวัดเชียงใหม่ มีคนที่ขี่อยู่ก่อนแนะนำให้ผมไปสมัครขี่บ้าง ผมจึงเห็นทางสว่างที่จะได้ขี่รถอีกครั้ง ผมก็ไปสมัครกับบริษัท ในช่วงปีแรก ๆ ที่ขี่อย่างที่รู้กันว่าบริษัทสตาร์ทอัพมักจะทุ่มเงินกับธุรกิจ คนขี่แกร๊บยุคแรก ๆ รายได้ดีมาก ผมขี่วันละห้าถึงหกชั่วโมงก็มองเห็นเงินพันอยู่ในกระเป๋าแล้ว ช่วงนั้นสนุกมาก เฉลี่ยงานนึงก็ได้ประมาณ 55 บาท รอรับอาหารแล้วไปส่ง วันนึงก็ขี่วนไปวนมาในเมืองก็ไม่ต่ำว่าร้อยโลหรือมากกว่านั้น ผ่านไปสองสามเดือน เข็มไมล์ก็ไปอยู่ที่หมื่นกว่าแล้ว
แต่พอช่วงหมดโปรของบริษัท งานนึงค่าวิ่งก็ตกลงมาเหลือประมาณ 30 บาทแต่ผมก็ยังวิ่งอยู่ ถามว่าคุ้มมั้ยที่ใช้แวนแวน 200 ขี่แกร๊บ ผมมองว่ายังไงก็ไม่ขาดทุนแน่นอนครับ ได้เงินด้วย แต่อาจจะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนใช้รถเล็กทั่วไป ผมใช้ยามาฮ่า แกรนด์ ฟิลาโน ไฮบริด อีกคันขี่แกร๊บ เอาไว้สลับกันขี่ ถ้าช่วงน้ำมันแพงลิตรละ 27-28 บาท วิ่งวันละร้อยโลเท่ากันแวนแวนจะแพงกว่าฟิลาโนไปประมาณวันละ 30 บาท ก็ประมาณเท่ากับวิ่ง 1 งาน ก็ถือว่าต้นทุนไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แต่สิ่งที่ทำให้ต่างกันระหว่างแวนแวน 200 กับฟิลาโนก็คือเรื่องของอารมณ์การขับขี่
ช่วงที่ผมวิ่งงานหนักเพื่อทำรอบ จะเฉลี่ยประมาณ 16 งาน ถ้าใช้แวนแวนขี่ทั้งหมด ร่างกายจะเมื่อยล้ามากกว่า เพราะรถค่อนข้างมีน้ำหนัก คิดดูว่าแค่จะเริ่มขี่ กว่าจะยกขาพาดเบาะ ยกรถตั้งตรง เข็นรถถอยหลังออกจากช่องจอด ระหว่างขี่ต้องใช้แรงประครองรถมากกว่า ต้องบีบครัชใส่เกียร์ ตอนจอดต้องเอาเท้ายันพื้นรับน้ำหนักรถ ลงรถก็ลำบาก ต้องทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา 16 รอบ แต่ถ้าเป็นฟิลาโน ทุกอย่างจะสบายกว่าหมดเลยครับ จบวันมาร่างกายจะล้าน้อยกว่า
การเอาซูซูกิ แวนแวน 200 มาขี่แกร๊บนั้น ทำให้เราได้ออกเดินทางเหมือนมีจุดมุ่งหมาย เราจะรู้ว่าต้องไปร้านค้าก่อนเพื่อไปเอาของ แล้วจากนั้นก็ตรงไปยังที่พักของลูกค้า แถมยังมีค่าน้ำมันให้ด้วย เงินส่วนที่เหลือยังพอเก็บไว้ชดเชยค่าเสื่อมของรถได้อีก การขี่ในเมืองก็ถือว่ายังสะดวกสบายดีไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก ตอนรถติด ๆ ก็มีเหนื่อยนิดนึง บางทีออกเส้นซุปเปอร์หรือเส้นคันคลองก็ลากยาวทำความเร็ว เล่นโค้งได้อย่างสนุกสนาน
การเอารถคันใหญ่ ๆ ล้อโต ๆ ไปขี่แกร๊บก็อาจจะทำให้เราเป็นจุดเด่นได้ครับ บางคนอาจจะคิดว่าเราเอาบิ๊กไบค์มาขี่แย่งงาน อาจจะคิดว่ารวยแล้วออกมาขี่รถเล่น แต่เขาอาจจะไม่รู้ว่าแวนแวน 200 ความจริงแล้วก็คือรถเล็กทั่วไป ราคารถก็แพงกว่า PCX นิดเดียว ค่าซ่อมบำรุงต่าง ๆ ก็ไม่หนีรถเล็กมาก จะมีค่าเปลี่ยนยางที่แพง แต่ผมก็ตีว่าค่าใช้จ่ายเรื่องยางจะแพงกว่ารถเล็กทั่วไปแค่ 2 เท่า ถ้าคิดว่าแวนแวนเปลี่ยนยางที่ 4 หมื่นโลค่าใช้จ่ายประมาณหนึ่งหมื่น รถสกู๊ตเตอร์เล็กเปลี่ยนครั้งละ 2 พันบาทที่ระยะ 2 หมื่นโล อัตราการกินน้ำมันของแวนแวนจะแพงกว่ารถเล็กที่ประหยัดน้ำมันสุด ๆ ประมาณ 30 เปอร์เซ็นเท่านั้น
ในช่วงที่ต้องอยู่แต่ในบ้านช่วงโรคระบาดโควิด ไม่มีห้างให้เดิน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ไป จะขี่รถไปยาว ๆ ทีละสองสามร้อยโลก็ไปไหนไม่ได้ แต่ยังโชคดีครับที่ยังมีงานขี่แกร๊บรับส่งอาหารที่ทำให้เราได้หายเบื่อได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่โทรศัพท์เด้งว่างานเข้า ผมก็พร้อมที่จะเสียบกุญแจสตาร์ทรถออกจากบ้านเพื่อไปยังจุดหมายคือร้านค้า บางทีก็ไปเจอพรรคพวกแกร๊บด้วยกันได้พูดคุยทักทาย ได้ขี่รถยาว ๆ ออกไปส่งลูกค้าที่อยู่ไกลให้หายคันไม้คันมือ แม้จะทีละสองสามโลก็ยังดีกว่าจอดไว้เฉย ๆ ที่บ้าน และที่สำคัญยังได้เงินมาไว้ใช้จ่ายในบ้านด้วยครับ
ซูซูกิ แวนแวน 200 - ทางเลือกของการขับขี่ในยุคนี้
หากว่าเราจะซื้อรถสักคัน เรามักตั้งคำถามว่าถ้าซื้อมาแล้วจะคุ้มค่าหรือไม่ สำหรับผมแล้วไม่ว่าจะซื้อรถอะไร ยี่ห้อไหน รุ่นไหนมันจะคุ้มค่าทั้งหมดแหละ หากว่าเราขับขี่มันได้ถึง 100,000 โล ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งหรือรถกระบะจะใช้ขับทำงาน รถมอเตอร์ไซค์ใช้ขี่ไปทำงานรับส่งของหรือผู้คน หากเราใช้รถได้ถึง 100,000 โลแล้ว จำนวนเงินที่ได้จากการทำงานนั้นคงมากกว่าค่าตัวของรถหลายเท่าตัวอย่างแน่นอน หรือแม้ว่าเราจะใช้รถเพื่อขับขี่ท่องเที่ยวสันทนาการ มันก็ยังตอบแทนเราเป็นความเพลิดเพลินสนุกสนานได้นั่นเอง
แต่การคิดคำนึงถึงการใช้ประโยชน์เหล่านี้จะถูกบดบังด้วยกิเลสเสียส่วนใหญ่สำหรับคนที่กำลังมองหารถสวย ๆ ซีซีสูง ๆ คู่ใจสักคัน ภาพจินตนาการที่จะได้ออกทริปไกล ๆ จากภาพวิดีโอที่เคยเห็นนั้นก็คุ้มค่าแล้วกับจำนวนเงินที่เราจะต่องจ่ายไปเพื่อแลกสิ่งเหล่านั้นมา ผมพอมีเงินเก็บอยู่ก้อนนึง ก็เริ่มคิดมองหารถคู่ใจสักคัน และถ้าหากว่าผมโสดอยู่ตัวคนเดียวไม่มีลูกไม่มีเมีย ผมก็อาจจะไปดาวน์รถคันละ 6-7 แสนสักคัน แต่เมื่อคิดถึงครอบครัว จึงลดราคาที่ตั้งไว้เหลือประมาณ 3 – 3.5 แสน แต่พอเสนอโครงการไป ก็โดนแฟนบ่นมา ก็กลับมานั่งคิดว่าจะเอายังไงดี
เริ่มหาข้อมูลในพันทิปบ้าง เห็นคนพูดถึงซูซูกิ แวนแวน 200 ที่กำลังจะเปิดตัวมาแทนตัว 125 พอดี จึงหาข้อมูลตัวรถและเปิดคลิปดูอยู่สองสามวันก็หลอกล่อภรรยาว่าจะไปเที่ยวดูเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ศูนย์ ซึ่งข้าง ๆ ศูนย์จะมีโชว์รูมซูซูกิ เราก็บอกขอไปดูรถหน่อยไหน ๆ ก็มาแล้ว พอไปเห็นตัวจริงก็ทำเป็นด้อม ๆ มอง ๆ แล้วเปรย ๆ กับแฟนว่า เนี่ยราคาแค่แสนนิด ๆ เท่ากับเงินดาวน์รถแพง ๆ เลย นี่ก็ยอมลดราคาลงมาแล้วนะ แฟนก็คงรำคาญเลยไม่พูดอะไรอีก เราก็เลยจ่ายเงินจองไว้แล้วรอศูนย์มาส่งรถที่บ้าน
พอได้รถมาผมก็พยายามหาเรื่องออกไปขี่เที่ยว ไปภูเขาแถวบ้านบ้าง ไปนู่นไปนี่บ้างเพื่อให้เข็มไมล์มันขยับ พอเข็มไมล์รถขยับไปถึงประมาณสามพันโลปุ๊บ ผมก็จอดคลุมผ้าเก็บไว้ไม่ได้เอาออกมาขี่อีกเลย เพราะว่าไม่รู้จะไปเที่ยวไหนแล้ว กลุ่มก๊วนก็ไม่มี ลูกยังเล็ก 2 ขวบกว่า แฟนก็ออกไปเที่ยวด้วยกันไม่ได้ ยังมีที่เพิ่งคลอดมาอีกหนึ่งคน คราวนี้ก็ต้องอยู่บ้านช่วยดูแลเจ้าตัวเล็ก แล้วอย่างนี้ผมจะขี่เจ้าแวนแวนให้ครบ 100,000 โลได้อย่างไรกัน
จนมาวันหนึ่ง กระแสเรื่องขี่แกร๊บกำลังรุ่งเรืองในจังหวัดเชียงใหม่ มีคนที่ขี่อยู่ก่อนแนะนำให้ผมไปสมัครขี่บ้าง ผมจึงเห็นทางสว่างที่จะได้ขี่รถอีกครั้ง ผมก็ไปสมัครกับบริษัท ในช่วงปีแรก ๆ ที่ขี่อย่างที่รู้กันว่าบริษัทสตาร์ทอัพมักจะทุ่มเงินกับธุรกิจ คนขี่แกร๊บยุคแรก ๆ รายได้ดีมาก ผมขี่วันละห้าถึงหกชั่วโมงก็มองเห็นเงินพันอยู่ในกระเป๋าแล้ว ช่วงนั้นสนุกมาก เฉลี่ยงานนึงก็ได้ประมาณ 55 บาท รอรับอาหารแล้วไปส่ง วันนึงก็ขี่วนไปวนมาในเมืองก็ไม่ต่ำว่าร้อยโลหรือมากกว่านั้น ผ่านไปสองสามเดือน เข็มไมล์ก็ไปอยู่ที่หมื่นกว่าแล้ว
แต่พอช่วงหมดโปรของบริษัท งานนึงค่าวิ่งก็ตกลงมาเหลือประมาณ 30 บาทแต่ผมก็ยังวิ่งอยู่ ถามว่าคุ้มมั้ยที่ใช้แวนแวน 200 ขี่แกร๊บ ผมมองว่ายังไงก็ไม่ขาดทุนแน่นอนครับ ได้เงินด้วย แต่อาจจะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนใช้รถเล็กทั่วไป ผมใช้ยามาฮ่า แกรนด์ ฟิลาโน ไฮบริด อีกคันขี่แกร๊บ เอาไว้สลับกันขี่ ถ้าช่วงน้ำมันแพงลิตรละ 27-28 บาท วิ่งวันละร้อยโลเท่ากันแวนแวนจะแพงกว่าฟิลาโนไปประมาณวันละ 30 บาท ก็ประมาณเท่ากับวิ่ง 1 งาน ก็ถือว่าต้นทุนไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ แต่สิ่งที่ทำให้ต่างกันระหว่างแวนแวน 200 กับฟิลาโนก็คือเรื่องของอารมณ์การขับขี่
ช่วงที่ผมวิ่งงานหนักเพื่อทำรอบ จะเฉลี่ยประมาณ 16 งาน ถ้าใช้แวนแวนขี่ทั้งหมด ร่างกายจะเมื่อยล้ามากกว่า เพราะรถค่อนข้างมีน้ำหนัก คิดดูว่าแค่จะเริ่มขี่ กว่าจะยกขาพาดเบาะ ยกรถตั้งตรง เข็นรถถอยหลังออกจากช่องจอด ระหว่างขี่ต้องใช้แรงประครองรถมากกว่า ต้องบีบครัชใส่เกียร์ ตอนจอดต้องเอาเท้ายันพื้นรับน้ำหนักรถ ลงรถก็ลำบาก ต้องทำแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา 16 รอบ แต่ถ้าเป็นฟิลาโน ทุกอย่างจะสบายกว่าหมดเลยครับ จบวันมาร่างกายจะล้าน้อยกว่า
การเอาซูซูกิ แวนแวน 200 มาขี่แกร๊บนั้น ทำให้เราได้ออกเดินทางเหมือนมีจุดมุ่งหมาย เราจะรู้ว่าต้องไปร้านค้าก่อนเพื่อไปเอาของ แล้วจากนั้นก็ตรงไปยังที่พักของลูกค้า แถมยังมีค่าน้ำมันให้ด้วย เงินส่วนที่เหลือยังพอเก็บไว้ชดเชยค่าเสื่อมของรถได้อีก การขี่ในเมืองก็ถือว่ายังสะดวกสบายดีไม่ได้เลวร้ายอะไรมากนัก ตอนรถติด ๆ ก็มีเหนื่อยนิดนึง บางทีออกเส้นซุปเปอร์หรือเส้นคันคลองก็ลากยาวทำความเร็ว เล่นโค้งได้อย่างสนุกสนาน
การเอารถคันใหญ่ ๆ ล้อโต ๆ ไปขี่แกร๊บก็อาจจะทำให้เราเป็นจุดเด่นได้ครับ บางคนอาจจะคิดว่าเราเอาบิ๊กไบค์มาขี่แย่งงาน อาจจะคิดว่ารวยแล้วออกมาขี่รถเล่น แต่เขาอาจจะไม่รู้ว่าแวนแวน 200 ความจริงแล้วก็คือรถเล็กทั่วไป ราคารถก็แพงกว่า PCX นิดเดียว ค่าซ่อมบำรุงต่าง ๆ ก็ไม่หนีรถเล็กมาก จะมีค่าเปลี่ยนยางที่แพง แต่ผมก็ตีว่าค่าใช้จ่ายเรื่องยางจะแพงกว่ารถเล็กทั่วไปแค่ 2 เท่า ถ้าคิดว่าแวนแวนเปลี่ยนยางที่ 4 หมื่นโลค่าใช้จ่ายประมาณหนึ่งหมื่น รถสกู๊ตเตอร์เล็กเปลี่ยนครั้งละ 2 พันบาทที่ระยะ 2 หมื่นโล อัตราการกินน้ำมันของแวนแวนจะแพงกว่ารถเล็กที่ประหยัดน้ำมันสุด ๆ ประมาณ 30 เปอร์เซ็นเท่านั้น
ในช่วงที่ต้องอยู่แต่ในบ้านช่วงโรคระบาดโควิด ไม่มีห้างให้เดิน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ไป จะขี่รถไปยาว ๆ ทีละสองสามร้อยโลก็ไปไหนไม่ได้ แต่ยังโชคดีครับที่ยังมีงานขี่แกร๊บรับส่งอาหารที่ทำให้เราได้หายเบื่อได้ เมื่อไหร่ก็ตามที่โทรศัพท์เด้งว่างานเข้า ผมก็พร้อมที่จะเสียบกุญแจสตาร์ทรถออกจากบ้านเพื่อไปยังจุดหมายคือร้านค้า บางทีก็ไปเจอพรรคพวกแกร๊บด้วยกันได้พูดคุยทักทาย ได้ขี่รถยาว ๆ ออกไปส่งลูกค้าที่อยู่ไกลให้หายคันไม้คันมือ แม้จะทีละสองสามโลก็ยังดีกว่าจอดไว้เฉย ๆ ที่บ้าน และที่สำคัญยังได้เงินมาไว้ใช้จ่ายในบ้านด้วยครับ