สวัสดีค่ะ ถ้าถามถึงครีม เซรั่มหรือโลชั่น หลายคนก็น่าจะมีแบรนด์ในใจกันอยู่แล้ว เพราะมีเยอะเหลือเกิน แต่ถ้าพูดถึงสกินแคร์ดีๆ ที่บำรุงผิวสำหรับคนผิวแห้ง แต่เนื้อสบายผิวก็ต้องนึกถึงครีมจากญี่ปุ่นนั่นเองงงง ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ คิดเหมือนกันหรือเปล่าว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศเมืองหนาว ดังนั้น ครีมหรือโลชั่นที่เน้นมอยซ์เจอไรเซอร์หนักๆ ส่วนใหญ่ก็มีต้นกำเนิดจากที่นี่ แถมหลายยี่ห้อก็ดังมากๆ ในบ้านเราด้วยแหละ
วันนี้เราเองอยากมารีวิวแบรนด์หนึ่งซึ่งเราใช้มาสักพักแล้ว หลังจากที่ได้ลองใช้ด้วยตัวเองแล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื้นขึ้นกว่าเดิมมาก จัดว่าชอบเลยแหละ คือ Acseine เคาน์เตอร์แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น โดยตัวที่แนะนำก็คือ Acseine Moistbalance Lotion และ Acseine Moistbalance Gel เราใช้สองตัวนี้คู่กัน คือเราเองมีปัญหาเรื่องผิวแห้ง-ขาดน้ำ รวมไปถึงผิวบอบบาง แพ้ง่ายด้วย
มาดูที่ตัวแรกกันค่ะ
Acseine Moistbalance Lotion ตัวนี้เราใช้ก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ สัมผัสแรกคือ เนื้อโลชั่นใสบางเบา สบายมาก ใช้เหมือนน้ำตบเลย
คุณสมบัติเด่นที่เค้าเคลมใว้ คือ เนื้อซึมซาบเข้าผิวไวและเคลือบผิวให้ชุ่มชื้นยาวนาน เพราะทางแบรนด์ให้ความสำคัญและพัฒนาจนได้เทคโนโลยี “เซราไมด์ขนาดนาโน” ช่วยให้ส่วนผสมซึมลึกเพื่อผิวชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน โดยมีขนาดเพียงแค่ 10-30 นาโนเมตร ในขณะที่ช่องว่างระหว่างผิวชั้นบนของเรามีขนาดใหญ่ 40-60 นาโนเมตร
และ “การเกาะตัวรักษาความชุ่มชื้น” ของโลชั่น
พูดง่ายๆก็คือ โลชั่นนั้นจะซึมลงไปในชั้นผิวหนัง และก็จะก่อตัวเป็นน้ำเคลือบผิวของเราจึงทำให้เราจะรู้สึกถึงผิวที่อิ่มน้ำตลอดเวลา
วิธีใช้ เทลงบนฝ่ามือไม่ต้องเยอะมาก คือขวดหนึงใช้ได้นานมว๊ากกกกก
เนื้อโลชั่นใส จะเป็นแบบไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ และแถมด้วยไม่มีพาราเบนแน่นอนค่ะ สำคัญคนที่ผิวแพ้ง่ายไม่ต้องกลัวเลย
หลังทาผิว เรารู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีและรู้สึกว่าผิวอิ่มฟูขึ้นด้วย ถึงจะดูใส ไม่มีสีไม่มีกลิ่นแต่สัมผัสของโลชั่นจะมีความคล้ายเซรั่ม คือ มีความนวลๆ อิ่มๆ ของโลชั่นอยู่ ไม่ได้ใสแห้งหายเหมือนน้ำเปล่าอะคะ
มามาตัวถัดไปกันเลยจ้าาา ก็คือ Acseine Moistbalance Gel ตัวนี้เราจะใช้ทาหลังจากลง Lotion ไปแล้ว
คุณสมบัติเด่นของเจลที่เค้าเคลมใว้ คือ ความเย็นสบายที่มาพร้อมผิวนุ่มเด้งนั่นเอง มีส่วนผสมหลักที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ในผิว ผิวจึงฉ่ำ นุ่ม ดูสดใสขึ้น
ที่แน่ๆคือแบรนด์ Acseine เน้นการเติมความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน ให้ความรู้สึกเย็นผ่อนคลายสบายผิว แต่คงความพิเศษเอาไว้ในเรื่องของการซึมซาบลงผิวได้ไว จนไม่รู้สึกว่ามีอะไรเกาะอยู่บนหน้าหรือแบบไม่มีความเหนอะหนะหน้า ตื่นมาอาบน้ำ แล้วเราจะรู้สึกได้เลยว่า แต่งง่ายขึ้น ติดทนขึ้น (คนผิวแห้งคงเข้าใจเนอะว่าแต่งหน้าไม่ติดเป็นยังไง)
ภายในกล่องจะมีไม้พายไว้สำหรับตักเจลด้วยนะคะ เพื่อความสะอาดและสะดวกในการตักเนื้อเจลขึ้นมานั่นเองค่ะ ตักประมาณ 1 ช้อนก็สามารถใช้ทาได้ทั่วหน้าแล้ว
สำหรับตัวเจลนี้ จะเป็น Gel to Liquid Technology คือ เมื่อทาเจลลงบนผิว
เนื้อเจลจะละลายเป็นน้ำทันที สดชื่นมาก ไม่มันด้วย เพื่อล็อกน้ำไว้ให้อยู่ในผิวยาวนานขึ้น
ปล่อยไว้สักพัก เนื้อเจลก็จะซึมเข้าผิวจนหมด พร้อมกับผิวนุ่มๆ ที่สัมผัสได้ทันที
หลังจากที่เราใช้ทั้ง Acseine Moistbalance Lotion และ Gel ควบคู่กัน เรารู้สึกได้ชัดว่าผิวเริ่มกลับมาชุ่มชื้นแข็งแรง นุ่มเนียนเวลาจับ และทำให้หน้าใสขึ้นด้วย เราว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยสำหรับสาวผิวแห้งหรือคนที่ต้องทำงานในห้องแอร์ทั้งวัน มีอยู่ครั้งนึงเราไปดำน้ำ วันนั้นโดนแดดจัดมาก เราใช้ตัวเจลโปะเลยจ้ะ มันจะรู้สึก เย็นสบายผิวมากฟินจริงๆๆ บอกเลยว่า สำหรับคนที่มีปัญหาขาดน้ำแต่ผิวมัน อยากได้ตัวบำรุงที่ไม่เพิ่มความมันในผิว หรือคนที่ผิวขาดน้ำเรื้อรัง จะทำให้หน้าแก่เร็วกว่าเพื่อน ลองตัวที่เราใช้ดูคะ แล้วจะบอกว่าตอบโจทย์มากจ้าาาา>//<
[SR] รีวิว Acseine Moistbalance เวชสำอางระดับเคาน์เตอร์แบรนด์จากญี่ปุ่น เกิดมาเพื่อคนผิวแห้ง-แพ้ง่ายโดยเฉพาะ
วันนี้เราเองอยากมารีวิวแบรนด์หนึ่งซึ่งเราใช้มาสักพักแล้ว หลังจากที่ได้ลองใช้ด้วยตัวเองแล้วรู้สึกได้เลยว่าผิวอิ่มน้ำ ชุ่มชื้นขึ้นกว่าเดิมมาก จัดว่าชอบเลยแหละ คือ Acseine เคาน์เตอร์แบรนด์ดังจากญี่ปุ่น โดยตัวที่แนะนำก็คือ Acseine Moistbalance Lotion และ Acseine Moistbalance Gel เราใช้สองตัวนี้คู่กัน คือเราเองมีปัญหาเรื่องผิวแห้ง-ขาดน้ำ รวมไปถึงผิวบอบบาง แพ้ง่ายด้วย
มาดูที่ตัวแรกกันค่ะ
Acseine Moistbalance Lotion ตัวนี้เราใช้ก่อนลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ สัมผัสแรกคือ เนื้อโลชั่นใสบางเบา สบายมาก ใช้เหมือนน้ำตบเลย
คุณสมบัติเด่นที่เค้าเคลมใว้ คือ เนื้อซึมซาบเข้าผิวไวและเคลือบผิวให้ชุ่มชื้นยาวนาน เพราะทางแบรนด์ให้ความสำคัญและพัฒนาจนได้เทคโนโลยี “เซราไมด์ขนาดนาโน” ช่วยให้ส่วนผสมซึมลึกเพื่อผิวชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน โดยมีขนาดเพียงแค่ 10-30 นาโนเมตร ในขณะที่ช่องว่างระหว่างผิวชั้นบนของเรามีขนาดใหญ่ 40-60 นาโนเมตร
และ “การเกาะตัวรักษาความชุ่มชื้น” ของโลชั่น
พูดง่ายๆก็คือ โลชั่นนั้นจะซึมลงไปในชั้นผิวหนัง และก็จะก่อตัวเป็นน้ำเคลือบผิวของเราจึงทำให้เราจะรู้สึกถึงผิวที่อิ่มน้ำตลอดเวลา
เนื้อโลชั่นใส จะเป็นแบบไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ไม่มีน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ และแถมด้วยไม่มีพาราเบนแน่นอนค่ะ สำคัญคนที่ผิวแพ้ง่ายไม่ต้องกลัวเลย
หลังทาผิว เรารู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นทันทีและรู้สึกว่าผิวอิ่มฟูขึ้นด้วย ถึงจะดูใส ไม่มีสีไม่มีกลิ่นแต่สัมผัสของโลชั่นจะมีความคล้ายเซรั่ม คือ มีความนวลๆ อิ่มๆ ของโลชั่นอยู่ ไม่ได้ใสแห้งหายเหมือนน้ำเปล่าอะคะ
มามาตัวถัดไปกันเลยจ้าาา ก็คือ Acseine Moistbalance Gel ตัวนี้เราจะใช้ทาหลังจากลง Lotion ไปแล้ว
คุณสมบัติเด่นของเจลที่เค้าเคลมใว้ คือ ความเย็นสบายที่มาพร้อมผิวนุ่มเด้งนั่นเอง มีส่วนผสมหลักที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ในผิว ผิวจึงฉ่ำ นุ่ม ดูสดใสขึ้น
ที่แน่ๆคือแบรนด์ Acseine เน้นการเติมความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน ให้ความรู้สึกเย็นผ่อนคลายสบายผิว แต่คงความพิเศษเอาไว้ในเรื่องของการซึมซาบลงผิวได้ไว จนไม่รู้สึกว่ามีอะไรเกาะอยู่บนหน้าหรือแบบไม่มีความเหนอะหนะหน้า ตื่นมาอาบน้ำ แล้วเราจะรู้สึกได้เลยว่า แต่งง่ายขึ้น ติดทนขึ้น (คนผิวแห้งคงเข้าใจเนอะว่าแต่งหน้าไม่ติดเป็นยังไง)
ภายในกล่องจะมีไม้พายไว้สำหรับตักเจลด้วยนะคะ เพื่อความสะอาดและสะดวกในการตักเนื้อเจลขึ้นมานั่นเองค่ะ ตักประมาณ 1 ช้อนก็สามารถใช้ทาได้ทั่วหน้าแล้ว
เนื้อเจลจะละลายเป็นน้ำทันที สดชื่นมาก ไม่มันด้วย เพื่อล็อกน้ำไว้ให้อยู่ในผิวยาวนานขึ้น
หลังจากที่เราใช้ทั้ง Acseine Moistbalance Lotion และ Gel ควบคู่กัน เรารู้สึกได้ชัดว่าผิวเริ่มกลับมาชุ่มชื้นแข็งแรง นุ่มเนียนเวลาจับ และทำให้หน้าใสขึ้นด้วย เราว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยสำหรับสาวผิวแห้งหรือคนที่ต้องทำงานในห้องแอร์ทั้งวัน มีอยู่ครั้งนึงเราไปดำน้ำ วันนั้นโดนแดดจัดมาก เราใช้ตัวเจลโปะเลยจ้ะ มันจะรู้สึก เย็นสบายผิวมากฟินจริงๆๆ บอกเลยว่า สำหรับคนที่มีปัญหาขาดน้ำแต่ผิวมัน อยากได้ตัวบำรุงที่ไม่เพิ่มความมันในผิว หรือคนที่ผิวขาดน้ำเรื้อรัง จะทำให้หน้าแก่เร็วกว่าเพื่อน ลองตัวที่เราใช้ดูคะ แล้วจะบอกว่าตอบโจทย์มากจ้าาาา>//<
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้