สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าหากข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากตอนไปไม่ได้คิดจะมารีวิวแต่ช่วงนี้ติดโควิด ว่างๆเลยอยากมาแชร์และรำลึกความหลังให้อ่านกันค่ะ เราเดินทางวันที่ 22 ธ.ค. 2019 กลับวันที่ 3 ม.ค. 2020 ค่ะ รูทที่ไปมีดังนี้
22 – 24 ธ.ค. Munich
24 – 25 ธ.ค. Frankfurt
26 ธ.ค. รับรถ เริ่มขับจาก Frankfurt ไป Metzingen (แวะ Rothenburg)
27 ธ.ค. Metzingen Outlet – Fussen
28 ธ.ค. Neuschwanstein Castle จากนั้นขับไปนอนที่ Salzburg, Austria
29 ธ.ค. Hallstatt & St. Wolfgang
30 ธ.ค. Cesky Crumlov, Czech
31 – 3 ม.ค. Vienna, Austria
สำหรับทริปนี้ไม่ใช่ทริปแรกของพวกเราในยุโรป แต่เป็นทริปแรกที่เราจะขับรถเที่ยวกัน ชาวแกงค์มีกัน 5 คน และลงมติกันว่า ขอรถใหญ่ที่สุดใน segment เพราะแพลนจะซื้อกระเป๋าใหม่กลับบ้านกันแทบทุกคน แต่หารู้ไม่ว่า ความราบรื่นในทริปนี้คือ ไม่มี!
เค้าลางแรก
เริ่มกันตั้งแต่ขอวีซ่าเลย คือเราแยกกันบินเป็น 3 กรุ๊ป เพราะฉะนั้นเวลาที่อยู่ในแต่ละประเทศก็จะไม่เหมือนกัน เรากับแฟนต้องขอวีซ่าเชงเก้นที่เยอรมันเพราะอยู่นานสุด ด้วยความชะล่าใจ วันที่ไปขอวีซ่าก็ไปของเยอรมันกันทุกคน สรุปอีก 3 คนต้องไปขอที่ออสเตรียจ้า เพราะพวกนางจะอยู่ที่ออสเตรียเยอะกว่า คือแบบลืมนับวันกันได้ไงฟะ เรื่องผิดพลาดง่ายๆแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับพวกเรา! รู้ถึงไหนอายถึงนั่น! แค่เริ่มก็มีลางไม่ดีละ! เราพูดออกมาเลยนะว่า ถ้าทริปนี้กระเป๋าจะไม่ตามมาก็คือไม่แปลกใจเลย หารู้ไม่ว่า มันจะไม่มาจริงๆ!
ความซวยที่ 1
ตัดมาที่วันเดินทาง เรากับแฟนไปกันก่อน บินกับเอมิเรตส์ ขาออกจากสุวรรณภูมิไม่ดีเลย์แต่พอจะลงดูไบพี่แกบินวนอยู่นั่น จนเวลาลงคือใกล้เวลาออกของไฟลท์ต่อไปแล้ว พอลงปุ๊บ ออกไปก็มี ground staff มาถือป้ายรอเลยค่ะ Munich มาทางนี้ ก็วิ่งตามกันไปขึ้นเครื่องทัน เราก็คิดในใจ ขอให้กระเป๋ามาทันด้วยเถอะ สรุป บินยังไม่ทันถึงมิวนิค แอร์เดินมาบอกว่า แอมซอรี่ กระเป๋ายูมาไม่ทันจ้ะ เราก็เออๆ เข้าใจได้ แต่ทำไมของแฟนมาทันอะ! แล้วจากนั้นก็คือมหากาพย์แห่งการตามกระเป๋า เพราะนางบอกว่ากระเป๋าจะตามมาไฟล์ทถัดไป แต่ก็ไม่มา เราก็โทรตามทุกวันจนวันสุดท้ายก่อนออกไป Frankfurt โทรไปบอกว่า ถ้าไม่มา ส่งตามไปที่ Frankfurt ด้วยโว้ย ไม่รอแล้ว! สรุป มาทันก่อนขึ้นรถไฟสองชั่วโมง ยังดีที่เราพอมีของเตรียมไว้ในกระเป๋า carry-on ก็ใส่ชุดเดิมสลับกับเสื้อแฟนวนไปค่ะ
นี่ก็คือใบแจ้งว่ากระเป๋ามาไม่ทัน เอามาให้ตั้งแต่เครื่องยังไม่ลงเลยจ้า พอถึงมิวนิค ก็มีประกาศชื่อให้ไปติดต่อเคาน์เตอร์อีก
โชคดีที่เราซื้อซิมยุโรปติดไปด้วย โทรตามกระเป๋าทุกวันเลยค่ะ แถมเจอพนักงานเอมิเรตส์เหวี่ยงใส่อีก นางบอกว่า ไม่ใช่ความผิดนาง ชั้นตามได้แค่นี้ ชั้นก็รู้เท่าคุณนั่นแหละ ระบบบอกแบบนี้ รอไปก่อน .. เฮ้ย ได้เหรอวะ พูดงี้ได้ไงเนี่ย ตอนนั้นก็โมโหแต่ก็พยายามจะปล่อยมันไป ไม่อยากหมดสนุก แต่พอตามกับออฟฟิศที่สนามบิน เป็นคนแก่ ช่วยเหลือดีมาก มีโทรกลับมาบอกตลอดว่ากระเป๋าถึงไหนแล้วจนมาถึงโรงแรมก็โทรมาบอกอีก ขอบคุณมากค่ะ
และขอ NOTE ตัวใหญ่ๆไว้ตรงนี้เลย ประกันการเดินทางไทยวิวัฒน์ดีมาก! เราเก็บเอกสารและใบเสร็จต่างๆมาเคลมย้อนหลัง คือได้ทุกบาททุกสตางค์ เรามีซื้อกางเกงยีนส์ รองเท้า เซรั่มทาหน้า เครื่องสำอางอีก ไม่ถามอะไรเลย ดีมาก แนะนำเลยค่ะ
ความซวยที่ 2
วันที่ 26 เพื่อนคนสุดท้ายบินมาสมทบที่ Frankfurt นางเป็นคนติดต่อรถเช่าทั้งหมด พอนางมา เราก็เช็คเอาท์จากโรงแรมไปเอารถกัน จองไว้ที่ Sixt สาขา Main City Centre พอไปถึงก็มีคนรออยู่เพียบ และจากท่าทางและภาษาเยอรมันที่รัวๆกันอยู่นั้น พวกเราก็รับรู้ได้ทันทีว่าเค้าไม่มีรถให้! เพื่อนก็เช็คในอีเมล์ สรุปมันส่งเมล์มาบอกเราเหมือนกันว่า ไม่มีรถ! เฮ้ย นี่จองล่วงหน้ามาสามเดือนนะเว้ย พอมาถึงคิวเรา ก็เลยรู้ว่า เปล่าประโยชน์ที่จะโวยวาย เพราะยังไงก็ไม่มีรถอยู่ดี เลยให้ช่วยหาว่าสาขาอื่นๆจะมีบ้างไหม สรุปมันบอกว่า ให้ลองไปสนามบินดู รถน่าจะเยอะกว่า คือก็ไม่ commit นะว่าจะมีรถให้รึเปล่า
ที่นี่เลย Sixt สาขาในเมือง ตอนนั้นก็ถ่ายรูปกระเป๋าเล่นๆ ไม่ได้รู้เล้ยว่าจะไม่มีรถ!
เราก็อะ ไปก็ไป ยังไงก็ต้องหารถให้ได้ ไม่งั้นทริปคือล่มแน่ๆ ก็ยกพลกลับไปที่สนามบิน กระจายกำลังติดต่อรถเช่าทุกเคาน์เตอร์ ก็ไม่มีทุกที่เพราะมันเป็นช่วงคริสมาสต์ คนกลับบ้านกันเยอะ จนไปถึงที่สุดท้าย บริษัท Alamo คือแทบหมดหวังแล้วอะ ก็เดินเข้าไปติดต่อว่าจะเอารถ 7 seater เกียร์ออโต้ ยี่ห้อไรก็ได้ สรุปนางบอก มี! เหลือคันสุดท้ายเป็น Ford คือจากที่แพลนกันไว้สวยหรูว่าจะต้อง Benz/BMW เท่านั้น ให้สมกะมาขับบนออโต้บาห์นเยอรมันหน่อย จังหวะนั้น ได้ยี่ห้ออะไรมาก็ต้องเอาละ เหลือแค่ว่า จะใส่กระเป๋าของ 5 คนพอรึเปล่า แค่นั้นเลย จากที่แพลนว่าจะออกจาก Frankfurt ตอนสิบโมง กลายเป็นบ่ายโมงไปเลยจ้า อะ ไปค่ะ มุ่งหน้า Rothenburg!
ต้องใช้สกิลการเรียงกระเป๋าขั้นสุด คือพอดีมากกก
ไปกันค่า Ford ก็ Ford ซิ่งบนออโต้บาห์นได้ 215 เลยแหละ! ในรูปก็คือใกล้ถึง Rothenberg ละ
ความซวยที่ 3 (เอ๊ะ หรือความโง่นะ)
ขึ้นรถกันได้ก็เฮฮากันไป กด GPS ไปโลด Rothenberg .. สังเกตอะไรกันไหมคะ ยังไม่เห็นใช่มะ เหมือนกันเลย เราก็ไม่เห็น ขับไป กินหนมไป เม้ามอย ลงสตอรี่ จนมาถึง Rothenberg เย้ๆ ได้เที่ยวซะที
แต่... ไหนวะ เมืองน่ารักๆ ทำไมมันมีแต่ป่าอย่างงี้อะ เลยจอดข้างทางเช็คหน่อยซิ ..
เห็นแล้วโว้ย ที่จะไปกันอะ Rothenburg ไม่ใช่ Rothenberg โรเทนบวร์ก ไม่ใช่ โรเทนแบร์ก!!!
คือห่างไปอีก 180 โลจ้า!!! จำไว้เลยทุกคน ใส่ GPS ด้วยชื่อเต็ม
Rothenburg ob der Tauber เตือนแล้วนะ!
สรุปก็มาถึงจนได้ในเวลา 4 โมงเย็น ซึ่งเดินได้หน่อยเดียวก็มืด หนาวก็หนาว หิวอีก แทบหมดอารมณ์ชมเมืองคิวท์ๆเลย
คือมันน่ารักมากๆจริงๆแหละ Rothenburg จัมวั้ย!!!
หลงจนหิว โชคดีมาประเทศแห่งไส้กรอก กินไปเลยค่ะไม่ต้องเลือกเลย อร่อยทุกอัน
หลังจากนั้น เราก็พร้อมรับความซวยกันแล้ว เริ่มมีภูมิคุ้มกัน มีอะไรก็ยิงมาเลยจ้าแม่
ไปต่อกันที่ ปราสาทนอยชวานชไตน์ เช็คอากาศก็คือ ฝนอาจจะตก 60%
แน่นอนว่ามากับทีมงานคุณภาพอย่างพวกเราก็เจอสิคะ หิมะตกจ้า เดินไปที่สะพานก็คือ ปราสาทหายไปทั้งหลัง!
ถึงกะต้องหารูปเก่ามาเทียบ ถ่ายจากมุมเดียวกันเป๊ะเลย
ต่อมาก็ผจญความหนาวที่ Hallstatt หนาวบ้า หนาวบอ เที่ยงวันก็ยัง -5 อยู่เลย
ไปถ่ายรูปมุมมหาชนก็เจอต้นคริสมาสต์ประดับไว้ เลยได้รูปรกๆมาแบบนี้
ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง หลังจากที่เราได้ Ford มา ก็เลยเปลี่ยนแพลนไป Cesky Crumlov
ตอนแรกที่ไม่ได้ใส่ไว้ในแพลน เพราะคิดว่าเราจองรถแพงมา มันมีข้อมูลอยู่ว่าไม่ให้ขับเข้า Czech ก็เลยจะไม่ไป พอเป็น Ford เออ ไปโว้ย ไหนๆก็ไหนๆละ ก็คือคิดถูกมากที่มา นอกจากเมืองจะน่ารักเหมือนหลงไปอยู่ในยุคกลางแล้ว ของยังถูกมากกก ถูกจนแบบ คิดว่าคูณเลขผิด เบียร์กระป๋องละ 12 บาทไทย! ของถูกจนอยากจะขนกลับบ้านเยอะๆ ดีนะ ในรถไม่มีที่แล้ว ไม่งั้นช็อปแหลกแน่นอน
นี่คือกิจกรรมในทุกๆเช้าก่อนออกรถ เรียงกระเป๋า!
ออกมาเดินในปราสาทเชสกี้ตอนกลางคืน สวยมาก ไม่มีคนเลย บรรยากาศดีมาก เหมือนเดินอยู่ในคิงส์แลนดิ้ง 555555
พอมีคนโผล่มาที ก็อดคิดไม่ได้ว่า เอ๊ะ คนจริงรึปล่าวนะ ถถถถถ
ส่วนกลางวันก็จะมีทัวร์ไทย ทัวร์จีน เยอะหน่อย แต่ก็ยังไม่แออัดเพราะมาช่วงนี้ด้วยล่ะมั้ง ฝรั่งอยู่บ้านฉลองคริสมาสต์กัน
ได้มาเหยียบแล้วจ้า คิดถูกมากที่มา ทั้งสวย ทั้งราคาถูก!
และความซวยก็ไม่มาหาพวกเราอีก จนกระทั่งคืนวัน countdown ที่เวียนนา ..
คืนวันที่ 31 ธ.ค. พวกเราก็กระดี๊กระด๊าฝ่าความหนาวออกไปเคาท์ดาวน์กันที่ Vienna Rathaus เพราะหาข้อมูลมาว่าทุกปีจะมีจุดพลุอลังการเลย
ก็ไปกัน คนเดินกันเต็มเมือง บรรยากาศสนุกสนานมากแต่ก็หนาวจนต้องหาที่หลบตามมุมตึกก่อนถึงเที่ยงคืน
คนเบียดกันเบอร์นี้
พอใกล้เวลาเราก็ไปเคาท์ดาวน์กัน เอ้า 5 4 3 2 1 .. เงียบ เฮ้ย พลุอะ ไหนพลุ ฝรั่ง จีน ไทย แถวๆนั้นก็งงกันใหญ่
ไหน ตัวซวยอยู่ไหน! ไปที่ไหนบรรลัยที่นั่นคร่าทั่นผู้ชม
ก็เลยไม่รอละ เดินกลับออกมาก็เจอป้ายว่า วันนี้ไม่มีพลุเพราะลมแรงจ้ะที่รัก โอเคค่ะ ปิดทริปแห่งความซวยได้สุดยอดเลย เย้!
ก็จบง่ายๆแบบนี้แหละค่ะ ทริปแห่งความซวย ถามว่าเข็ดไม๊ ก็ไม่นะ หมดโควิดเมื่อไหร่ไปอีกแน่นอน!
[CR] Road Trip เยอรมัน ออสเตรีย เชค รวมข้อผิดพลาดและความซวย!
ก่อนอื่นต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าหากข้อมูลไม่ครบถ้วน เนื่องจากตอนไปไม่ได้คิดจะมารีวิวแต่ช่วงนี้ติดโควิด ว่างๆเลยอยากมาแชร์และรำลึกความหลังให้อ่านกันค่ะ เราเดินทางวันที่ 22 ธ.ค. 2019 กลับวันที่ 3 ม.ค. 2020 ค่ะ รูทที่ไปมีดังนี้
22 – 24 ธ.ค. Munich
24 – 25 ธ.ค. Frankfurt
26 ธ.ค. รับรถ เริ่มขับจาก Frankfurt ไป Metzingen (แวะ Rothenburg)
27 ธ.ค. Metzingen Outlet – Fussen
28 ธ.ค. Neuschwanstein Castle จากนั้นขับไปนอนที่ Salzburg, Austria
29 ธ.ค. Hallstatt & St. Wolfgang
30 ธ.ค. Cesky Crumlov, Czech
31 – 3 ม.ค. Vienna, Austria
สำหรับทริปนี้ไม่ใช่ทริปแรกของพวกเราในยุโรป แต่เป็นทริปแรกที่เราจะขับรถเที่ยวกัน ชาวแกงค์มีกัน 5 คน และลงมติกันว่า ขอรถใหญ่ที่สุดใน segment เพราะแพลนจะซื้อกระเป๋าใหม่กลับบ้านกันแทบทุกคน แต่หารู้ไม่ว่า ความราบรื่นในทริปนี้คือ ไม่มี!
เค้าลางแรก
เริ่มกันตั้งแต่ขอวีซ่าเลย คือเราแยกกันบินเป็น 3 กรุ๊ป เพราะฉะนั้นเวลาที่อยู่ในแต่ละประเทศก็จะไม่เหมือนกัน เรากับแฟนต้องขอวีซ่าเชงเก้นที่เยอรมันเพราะอยู่นานสุด ด้วยความชะล่าใจ วันที่ไปขอวีซ่าก็ไปของเยอรมันกันทุกคน สรุปอีก 3 คนต้องไปขอที่ออสเตรียจ้า เพราะพวกนางจะอยู่ที่ออสเตรียเยอะกว่า คือแบบลืมนับวันกันได้ไงฟะ เรื่องผิดพลาดง่ายๆแบบนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับพวกเรา! รู้ถึงไหนอายถึงนั่น! แค่เริ่มก็มีลางไม่ดีละ! เราพูดออกมาเลยนะว่า ถ้าทริปนี้กระเป๋าจะไม่ตามมาก็คือไม่แปลกใจเลย หารู้ไม่ว่า มันจะไม่มาจริงๆ!
ความซวยที่ 1
ตัดมาที่วันเดินทาง เรากับแฟนไปกันก่อน บินกับเอมิเรตส์ ขาออกจากสุวรรณภูมิไม่ดีเลย์แต่พอจะลงดูไบพี่แกบินวนอยู่นั่น จนเวลาลงคือใกล้เวลาออกของไฟลท์ต่อไปแล้ว พอลงปุ๊บ ออกไปก็มี ground staff มาถือป้ายรอเลยค่ะ Munich มาทางนี้ ก็วิ่งตามกันไปขึ้นเครื่องทัน เราก็คิดในใจ ขอให้กระเป๋ามาทันด้วยเถอะ สรุป บินยังไม่ทันถึงมิวนิค แอร์เดินมาบอกว่า แอมซอรี่ กระเป๋ายูมาไม่ทันจ้ะ เราก็เออๆ เข้าใจได้ แต่ทำไมของแฟนมาทันอะ! แล้วจากนั้นก็คือมหากาพย์แห่งการตามกระเป๋า เพราะนางบอกว่ากระเป๋าจะตามมาไฟล์ทถัดไป แต่ก็ไม่มา เราก็โทรตามทุกวันจนวันสุดท้ายก่อนออกไป Frankfurt โทรไปบอกว่า ถ้าไม่มา ส่งตามไปที่ Frankfurt ด้วยโว้ย ไม่รอแล้ว! สรุป มาทันก่อนขึ้นรถไฟสองชั่วโมง ยังดีที่เราพอมีของเตรียมไว้ในกระเป๋า carry-on ก็ใส่ชุดเดิมสลับกับเสื้อแฟนวนไปค่ะ
นี่ก็คือใบแจ้งว่ากระเป๋ามาไม่ทัน เอามาให้ตั้งแต่เครื่องยังไม่ลงเลยจ้า พอถึงมิวนิค ก็มีประกาศชื่อให้ไปติดต่อเคาน์เตอร์อีก
โชคดีที่เราซื้อซิมยุโรปติดไปด้วย โทรตามกระเป๋าทุกวันเลยค่ะ แถมเจอพนักงานเอมิเรตส์เหวี่ยงใส่อีก นางบอกว่า ไม่ใช่ความผิดนาง ชั้นตามได้แค่นี้ ชั้นก็รู้เท่าคุณนั่นแหละ ระบบบอกแบบนี้ รอไปก่อน .. เฮ้ย ได้เหรอวะ พูดงี้ได้ไงเนี่ย ตอนนั้นก็โมโหแต่ก็พยายามจะปล่อยมันไป ไม่อยากหมดสนุก แต่พอตามกับออฟฟิศที่สนามบิน เป็นคนแก่ ช่วยเหลือดีมาก มีโทรกลับมาบอกตลอดว่ากระเป๋าถึงไหนแล้วจนมาถึงโรงแรมก็โทรมาบอกอีก ขอบคุณมากค่ะ
และขอ NOTE ตัวใหญ่ๆไว้ตรงนี้เลย ประกันการเดินทางไทยวิวัฒน์ดีมาก! เราเก็บเอกสารและใบเสร็จต่างๆมาเคลมย้อนหลัง คือได้ทุกบาททุกสตางค์ เรามีซื้อกางเกงยีนส์ รองเท้า เซรั่มทาหน้า เครื่องสำอางอีก ไม่ถามอะไรเลย ดีมาก แนะนำเลยค่ะ
ความซวยที่ 2
วันที่ 26 เพื่อนคนสุดท้ายบินมาสมทบที่ Frankfurt นางเป็นคนติดต่อรถเช่าทั้งหมด พอนางมา เราก็เช็คเอาท์จากโรงแรมไปเอารถกัน จองไว้ที่ Sixt สาขา Main City Centre พอไปถึงก็มีคนรออยู่เพียบ และจากท่าทางและภาษาเยอรมันที่รัวๆกันอยู่นั้น พวกเราก็รับรู้ได้ทันทีว่าเค้าไม่มีรถให้! เพื่อนก็เช็คในอีเมล์ สรุปมันส่งเมล์มาบอกเราเหมือนกันว่า ไม่มีรถ! เฮ้ย นี่จองล่วงหน้ามาสามเดือนนะเว้ย พอมาถึงคิวเรา ก็เลยรู้ว่า เปล่าประโยชน์ที่จะโวยวาย เพราะยังไงก็ไม่มีรถอยู่ดี เลยให้ช่วยหาว่าสาขาอื่นๆจะมีบ้างไหม สรุปมันบอกว่า ให้ลองไปสนามบินดู รถน่าจะเยอะกว่า คือก็ไม่ commit นะว่าจะมีรถให้รึเปล่า
ที่นี่เลย Sixt สาขาในเมือง ตอนนั้นก็ถ่ายรูปกระเป๋าเล่นๆ ไม่ได้รู้เล้ยว่าจะไม่มีรถ!
เราก็อะ ไปก็ไป ยังไงก็ต้องหารถให้ได้ ไม่งั้นทริปคือล่มแน่ๆ ก็ยกพลกลับไปที่สนามบิน กระจายกำลังติดต่อรถเช่าทุกเคาน์เตอร์ ก็ไม่มีทุกที่เพราะมันเป็นช่วงคริสมาสต์ คนกลับบ้านกันเยอะ จนไปถึงที่สุดท้าย บริษัท Alamo คือแทบหมดหวังแล้วอะ ก็เดินเข้าไปติดต่อว่าจะเอารถ 7 seater เกียร์ออโต้ ยี่ห้อไรก็ได้ สรุปนางบอก มี! เหลือคันสุดท้ายเป็น Ford คือจากที่แพลนกันไว้สวยหรูว่าจะต้อง Benz/BMW เท่านั้น ให้สมกะมาขับบนออโต้บาห์นเยอรมันหน่อย จังหวะนั้น ได้ยี่ห้ออะไรมาก็ต้องเอาละ เหลือแค่ว่า จะใส่กระเป๋าของ 5 คนพอรึเปล่า แค่นั้นเลย จากที่แพลนว่าจะออกจาก Frankfurt ตอนสิบโมง กลายเป็นบ่ายโมงไปเลยจ้า อะ ไปค่ะ มุ่งหน้า Rothenburg!
ต้องใช้สกิลการเรียงกระเป๋าขั้นสุด คือพอดีมากกก
ไปกันค่า Ford ก็ Ford ซิ่งบนออโต้บาห์นได้ 215 เลยแหละ! ในรูปก็คือใกล้ถึง Rothenberg ละ
ความซวยที่ 3 (เอ๊ะ หรือความโง่นะ)
ขึ้นรถกันได้ก็เฮฮากันไป กด GPS ไปโลด Rothenberg .. สังเกตอะไรกันไหมคะ ยังไม่เห็นใช่มะ เหมือนกันเลย เราก็ไม่เห็น ขับไป กินหนมไป เม้ามอย ลงสตอรี่ จนมาถึง Rothenberg เย้ๆ ได้เที่ยวซะที
แต่... ไหนวะ เมืองน่ารักๆ ทำไมมันมีแต่ป่าอย่างงี้อะ เลยจอดข้างทางเช็คหน่อยซิ ..
เห็นแล้วโว้ย ที่จะไปกันอะ Rothenburg ไม่ใช่ Rothenberg โรเทนบวร์ก ไม่ใช่ โรเทนแบร์ก!!!
คือห่างไปอีก 180 โลจ้า!!! จำไว้เลยทุกคน ใส่ GPS ด้วยชื่อเต็ม Rothenburg ob der Tauber เตือนแล้วนะ!
สรุปก็มาถึงจนได้ในเวลา 4 โมงเย็น ซึ่งเดินได้หน่อยเดียวก็มืด หนาวก็หนาว หิวอีก แทบหมดอารมณ์ชมเมืองคิวท์ๆเลย
คือมันน่ารักมากๆจริงๆแหละ Rothenburg จัมวั้ย!!!
หลงจนหิว โชคดีมาประเทศแห่งไส้กรอก กินไปเลยค่ะไม่ต้องเลือกเลย อร่อยทุกอัน
หลังจากนั้น เราก็พร้อมรับความซวยกันแล้ว เริ่มมีภูมิคุ้มกัน มีอะไรก็ยิงมาเลยจ้าแม่
ไปต่อกันที่ ปราสาทนอยชวานชไตน์ เช็คอากาศก็คือ ฝนอาจจะตก 60%
แน่นอนว่ามากับทีมงานคุณภาพอย่างพวกเราก็เจอสิคะ หิมะตกจ้า เดินไปที่สะพานก็คือ ปราสาทหายไปทั้งหลัง!
ถึงกะต้องหารูปเก่ามาเทียบ ถ่ายจากมุมเดียวกันเป๊ะเลย
ต่อมาก็ผจญความหนาวที่ Hallstatt หนาวบ้า หนาวบอ เที่ยงวันก็ยัง -5 อยู่เลย
ไปถ่ายรูปมุมมหาชนก็เจอต้นคริสมาสต์ประดับไว้ เลยได้รูปรกๆมาแบบนี้
ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง หลังจากที่เราได้ Ford มา ก็เลยเปลี่ยนแพลนไป Cesky Crumlov
ตอนแรกที่ไม่ได้ใส่ไว้ในแพลน เพราะคิดว่าเราจองรถแพงมา มันมีข้อมูลอยู่ว่าไม่ให้ขับเข้า Czech ก็เลยจะไม่ไป พอเป็น Ford เออ ไปโว้ย ไหนๆก็ไหนๆละ ก็คือคิดถูกมากที่มา นอกจากเมืองจะน่ารักเหมือนหลงไปอยู่ในยุคกลางแล้ว ของยังถูกมากกก ถูกจนแบบ คิดว่าคูณเลขผิด เบียร์กระป๋องละ 12 บาทไทย! ของถูกจนอยากจะขนกลับบ้านเยอะๆ ดีนะ ในรถไม่มีที่แล้ว ไม่งั้นช็อปแหลกแน่นอน
นี่คือกิจกรรมในทุกๆเช้าก่อนออกรถ เรียงกระเป๋า!
ออกมาเดินในปราสาทเชสกี้ตอนกลางคืน สวยมาก ไม่มีคนเลย บรรยากาศดีมาก เหมือนเดินอยู่ในคิงส์แลนดิ้ง 555555
พอมีคนโผล่มาที ก็อดคิดไม่ได้ว่า เอ๊ะ คนจริงรึปล่าวนะ ถถถถถ
ส่วนกลางวันก็จะมีทัวร์ไทย ทัวร์จีน เยอะหน่อย แต่ก็ยังไม่แออัดเพราะมาช่วงนี้ด้วยล่ะมั้ง ฝรั่งอยู่บ้านฉลองคริสมาสต์กัน
ได้มาเหยียบแล้วจ้า คิดถูกมากที่มา ทั้งสวย ทั้งราคาถูก!
และความซวยก็ไม่มาหาพวกเราอีก จนกระทั่งคืนวัน countdown ที่เวียนนา ..
คืนวันที่ 31 ธ.ค. พวกเราก็กระดี๊กระด๊าฝ่าความหนาวออกไปเคาท์ดาวน์กันที่ Vienna Rathaus เพราะหาข้อมูลมาว่าทุกปีจะมีจุดพลุอลังการเลย
ก็ไปกัน คนเดินกันเต็มเมือง บรรยากาศสนุกสนานมากแต่ก็หนาวจนต้องหาที่หลบตามมุมตึกก่อนถึงเที่ยงคืน
คนเบียดกันเบอร์นี้
พอใกล้เวลาเราก็ไปเคาท์ดาวน์กัน เอ้า 5 4 3 2 1 .. เงียบ เฮ้ย พลุอะ ไหนพลุ ฝรั่ง จีน ไทย แถวๆนั้นก็งงกันใหญ่
ไหน ตัวซวยอยู่ไหน! ไปที่ไหนบรรลัยที่นั่นคร่าทั่นผู้ชม
ก็เลยไม่รอละ เดินกลับออกมาก็เจอป้ายว่า วันนี้ไม่มีพลุเพราะลมแรงจ้ะที่รัก โอเคค่ะ ปิดทริปแห่งความซวยได้สุดยอดเลย เย้!
ก็จบง่ายๆแบบนี้แหละค่ะ ทริปแห่งความซวย ถามว่าเข็ดไม๊ ก็ไม่นะ หมดโควิดเมื่อไหร่ไปอีกแน่นอน!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้