ไทยกระดี๊กระด๊าเรื่องจำนวนผู้ติดเชื้อที่น้อยลงทุกวันแต่สิ่งที่พลาดไปคือไม่ได้พัฒนาHerd Immunityของคนไทยไว้สู้โควิด19

ถ้าไวรัสระบาดอย่างแพร่หลายในกลุ่มประชาชน คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ตัว เพราะอาการจะไม่รุนแรงเนื่องจากไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยงที่เป็นคนส่วนน้อย คนจำนวนมากถ้าติดเชื้อแล้วสามารถพักรักษาตัวแล้วสร้างภูมิคุ้มกันต่อสู้กับไวรัสได้เองจนสามารถหยุดการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นกลไกของธรรมชาติ กลุ่มคนกลุ่มนี้จะสามารถที่หยุดการแพร่ไวรัสไปให้คนอื่นได้ เพราะเขามีภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นมาโดยธรรมชาติไว้ป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ซึ่งก็เหมือนกับการที่เขาฉีดวัคซีนไปแล้วนั่นเอง การกักตัวสามารถจำกัดจำนวนผู้ติดเชื้อไม่ให้พุ่งสูงได้จริง แต่เมื่อไรที่กลับมาใช้ชีวิตตามปรกติ การแพร่เชื่อระลอกต่อไปก็อาจจะกลับมา เพราะประชาชนไม่ได้มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด ฝากให้ไปคิดด้วยครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 18
เจ้าของกท. อาจจะเข้าใจสับสน

หลักการของการ ปล่อยให้เกิด Herd Imnity  คือการปล่อยให้คน ส่วนใหญ่รับเชื้อกันไป แบบอิสระ และ จะมีคนราวๆ 80% ที่รับเชื้อแล้วไม่ได้เป็นไร และสร้างภูมิต้านทานเกินขึ้น ทนเชื้อไม่เป็นโรคอีกและไม่แพร่เชื่ออีก

แต่การปล่อยอย่างนั้น กว่าจะไปถึงจุดนั้น สำหรับ โควิด นั่นเราต้องแลกกับ คน อีก 20% ที่จะมีอาการ ป่วย หรือคิดเป็นจำนวนคนไทย ก็ราวๆ 13 ล้านคน

และ ถ้าป่วยกันมากขนาดนั้น จะเกินขีดความสามารถในการรับมือด้านการแพทย์ได้ ทำให้ ในจำนวนนี้ จะมีคนป่วยหนักถึงตาย ได้สูง ถึงราวๆ 5% หรือ 3-4 ล้านคน  

ดังนั้น เมื่อคำนวนแล้ว การสูญเสียมากไป เราเลยเลือกใช้วิธีคุมให้คนติดเชื้อน้อยที่สุด

จำกัดการอยู่บ้าน ล้อคกลุ่มคนติดเชื้อ ให้ตามได้ง่ายเฝ้าดู คนที่มีเชื้อและไม่แสดงอาการ ให้แสดงอาการออกมาแล้ว เข้าตรวจเป็นกลุ่มย่อยๆ(ถ้ามีเชื่อก็จะแพร่ให้เห็นในกลุ่มย่อยๆควบคุมได้)

รอจนมันสงบลงทั้งหมด ซึ่งถึงจุดนั้น คนที่มีเชื้อและ ตรวจไม่พบจะน้อยมาก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
คุณนี่ถ้าจะหมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้มากนะครับ เห็นตั้งมาหลายกระทู้เกี่ยวกับโควิดนี่ไม่มีอะไรดีเกี่ยวกับวงการแพทย์ไทยเลย 55555
ความคิดเห็นที่ 1
รู้ได้อย่างไรล่ะเจ้าคะว่าปัจจุบันคนที่อยู่ตามบ้านไม่ได้ติดเชื้อ

คนที่อยู่บ้านทุกวันนี้ อาจติดเชื้ออยู่แล้วก็ได้และเมื่อมีมาตรการให้อยู่บ้าน
เขาเหล่านั้น(ถ้าบังเอิญว่าติดเชื้ออยู่ก่อนแล้ว)ก็จะไม่ออกไปแพร่เชื้อให้คนอื่นๆ
มันก็คือการกักตัวอยู่บ้านกลายๆนั่นแหละเจ้าค่ะ

มาตรการ Lock down นี้ จึงได้ประโยชน์ทั้งสองทางคือ ไม่ไปรับเชื้อใหม่ และไม่เอาเชื้อตัวเอง(ถ้ามี)ไปแพร่คนอื่น
ความคิดเห็นที่ 22
...ไม่มีประเทศไหนอยากเสี่ยงทำหรอก
...เพราะอัตราการเสียชีวิตมันสูง

...ยกตัวอย่างไข้หวัด 2009 (Swine Influenza / H1N1) ที่เคยระบาดใหญ่และเป็นข่าวดัง
...ก็ยังมีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยแค่ 0.02%
...ขณะที่ COVID-19 ในหลายประเทศที่ยุโรป มีอัตราการเสียชีวิต สูงถึง 13%
...พลาดหรือควบคุมไม่ได้ขึ้นมา ก็ "หายนะ" คนในประเทศตายเป็นแสน

...ได้ข่าวว่า สวีเดน (ประชากร 10 ล้านคน) กำลังตัดสินใจจะเสี่ยงทำ Herd Immunity แบบเต็มรูปแบบ (ปัจจุบันทำบางส่วน แบบกล้าๆกลัวๆ) เพราะมั่นใจในคุณภาพ-วินัยของประชากรตัวเองและระบบสาธารณะสุขที่มาตรฐานสูง
...แต่ คนในประเทศก็ยังเสียงแตกอยู่
...เพราะล่าสุดติดเชื้อไปแล้วราว 2 หมื่นคน ตาย 2,355 คน หรือตายเฉลี่ยวันละ 80-130 คน
และมี Deaths per 1 Million People = 233
...ถ้าเป็นในไทย ตัวเลขแบบนี้คงโดนด่าไปแล้ว (ปัจจุบันไทยมี Deaths per 1 Million People = 0.8)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่