[CR] Tokyo – Asakusa One Day Trip เที่ยว ช้อป กิน ถ่ายรูป “ย่านอาซากุสะ” ในโตเกียว

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ไม่ได้เที่ยวกันเลย เหงาๆ อยู่บ้านไม่มีอะไรทำแบบนี้ เลยมาเขียนรีวิวทริปสั้นๆ เที่ยวโตเกียวกัน ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวย่านดังของโตเกียวกับ “ย่านอาซากุสะ” ที่ถือว่าต้องไปให้ได้ซักครั้งหากมาเที่ยวที่ญี่ปุ่น โดยเฉพาะที่โตเกียว เพราะว่านอกจากจะเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง “วัดเซ็นโซจิ” และโคมไฟขนาดใหญ่หน้าทางเข้าวัดเซ็นโซจิ “ประตูคามินาริมง” แล้วบริเวณนี้ยังเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร หรือร้านค้าต่างๆ อีกมากมาย
โดยเราจะเริ่มจากสถานีอาซากุสะ ที่มีรถไฟเชื่อมต่ออยู่ 3 สายเดินทางสะดวก คือ รถไฟใต้ดินสายอาซากุสะ /รถไฟใต้ดินสายกินซ่า ที่เชื่อมต่อระหว่างย่านกินซ่า สถานีชิบุย่า  ฯลฯ /รถไฟโทบุ สายสกายทรีไลน์(TOBU SKYTREE LINE) โดยเชื่อมต่อระหว่างสถานีโตเกียวสกายทรีเพียง 1 สถานีเท่านั้น
เมื่อออกมาจากสถานีอาซากุสะ เดินไปทางสะพานก็จะเป็นจุดชมวิวโตเกียวสกายทรีที่ชัดมากๆ คู่กับตึกเบียร์ และก็ก้อนทองๆ ที่เป็นวิวยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ที่บริเวณเรียบแม่น้ำซุมิดะยังเป็นสถานที่ชมซากุระชื่อดัง วิวที่ฮิตมากๆ เลยก็คือซากุระคู่กับโตเกียวสกายทรีแบบนี้ ในช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคม ไปจนถึงต้นเดือนเมษายน
นอกจากวิวตรงนี้แล้ว ถ้าขึ้นไปบนตึกห้าง Matsuya ที่เชื่อมกับสถานีอาซากุสะ บนชั้นดาดฟ้าจะเป็นจุดชมวิวที่คนทั่วไปสามารถขึ้นไปนั่งเล่นได้ เห็นวิวโตเกียวสกายทรีได้ชัด บรรยากาศโรแมนตึก ถ้ามาช่วงเย็นๆ พอดี มุมนี้สวยมากเลยค่ะ
พอชมวิวโตเกียวสกายทรีแล้ว ก็ไปจุดไฮไลท์ของย่านนี้กันเลยที่ “วัดเซ็นโซจิ” ,โคมขนาดใหญ่ “ประตูคามินาริมง” และทางเดินย่านร้านค้า “นาคามิเสะ”
ก่อนอื่นก็ประตูคามินาริมง สามารถเดินจากสถานีรถไฟใต้ดินอาซากุสะไปได้ภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น
และนี่ก็คือ “ประตูคามินาริมง” ที่มีโคมไฟขนาดใหญ่สีแดงเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งบนโคมไฟเขียนตัวจีน หรือตัวคันจิ ว่า “คามินาริมง”
และเมื่อเดินลอดผ่านประตูคามินาริมงไป ก็จะเข้าสู่ทางเดินเข้าวัด เป็นย่านร้านค้าที่เรียกว่า “นาคามิเสะ” ทางเดินนี้ก็จะมีร้านค้าต่างๆ ทั้งร้านขายของฝาก หรือร้านขนมญี่ปุ่น ละลานตาตลอดทาง
เดินพ้นย่านร้านค้านาคามิเสะไป ก็จะเจออีกหนึ่งโคมไฟยักษ์ และเมื่อลอดผ่านไปก็จะเข้าสู่บริเวณวัดเซ็นโซจิ 
อาคารวัดยิ่งใหญ่อลังการมากๆ บรรยากาศญี่ปุ่นสุดๆ บริเวณรอบๆ ก็มีทั้งบ่อน้ำชำระล้างร่างกาย กระถางธูป จุดบูชาเครื่องราง และเซียมซี โดยเมื่อเข้าไปแล้วก็ทำการชำระร่างกายให้บริสุทธิ์ก่อน (การล้างมือล้างปาก)แล้วค่อยไปกราบไหว้สักการะ 
จะเห็นได้ว่าบริเวณหน้าอาคารวัดมีกระถางธูปขนาดใหญ่ที่มีคนมุงอยู่ ซี่งมีความเชื่อว่าหากปัดควันเข้าส่วนใดของร่างกายส่วนนั้นก็จะดีขึ้น หรือคนปัดเข้ากระเป๋าสตางค์เพื่อให้เงินไหลมาเทมานั่นเอง
กราบไหว้สักการะเรียบร้อยแล้วก็สามารถบูชาเครื่องราง หรือเซียมซีได้ที่ซุ้มบริเวณด้านข้างทั้งสองข้าง เครื่องรางก็มีทั้งเครื่องรางความรัก เครื่องรางการเรียน เครื่องรางโชคลาภ เครื่องรางการเดินทาง หรือเครื่องรางสุขภาพ เป็นต้น
เซียมซีที่ญี่ปุ่นโดยทั่วไปจะมี “โชคดีมาก : 大吉” “โชคดีปานกลาง : 中吉” “โชคดีเล็กน้อย : 小吉” “โชคดี : 吉” “โชคไม่ดี : 凶” “โชคไม่ดีมาก : 大凶” สำหรับใครที่ได้เซียมซีผลออกมาไม่ดีก็สามารถผูกผลโชคไม่ดีไว้ที่วัดได้แบบในภาพเลย
นอกจากนี้บริเวณรอบๆ วัดเซ็นโซจิ ยังเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ  อีกมากมาย ตามตรอกซอกซอยบริเวณโดยรอบ ซึ่งขนมที่จะเห็นอยู่หลายร้านเลยก็คือ มันจูทอด (ซาลาเปาทอด) ร้านนี้เป็นร้านที่อยู่ในย่านร้านค้านาคามิเสะ คนต่อแถวกันเยอะเลย มีทั้งไส้งาดำ แกงกะหรี่ มันหวาน ถั่วแดงกวน หรือคัสตาร์ด ฯลฯ อีกมากมาย
ส่วนร้านนี้คือร้านเมล่อนปังร้านดัง กรอบหอม แบบเซต 3 ชิ้น 500 เยน
ระหว่างทางเดินในย่านร้านค้านาคามิเสะจะมีซอยแยกออกไปหลายซอย ซึ่งบางซอยจะเห็นวิวโตเกียวสกายทรีด้วย
หรือซอยนี้จะเป็นซอยที่สามารถทะลุไปสถานีอาซากุสะได้โดยตรงเลย
มีทั้งร้านอาหาร ร้านขายของฝากที่น่าสนใจเยอะแยะ ไม่ต่างจากย่านดังอื่นๆ ในโตเกียวเลย
มีร้านนึงที่ไม่คิดว่าจะมาเจอที่ย่านนี้ โดยเดินไปตามทางที่จะทะลุไปสถานีอาซากุสะจนสุดทางก็จะเจอกับร้านขายกระเป๋าเดินทาง ร้าน GINZA LIFE ASAKUSA เราสะดุดตากับป้ายราคาที่แปะไว้ว่า 5,500 เยนเลยลองเข้าไปดูที่ร้าน คือกระเป๋าทุกใบราคา 5,500 เยนเท่านั้น!! ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,660 บาท
กระเป๋าเดินทางก็ราคา 5,500 เยน ตีหรือประมาณ 1,660 บาท ทุกไซส์ราคาเท่ากันหมด ตั้งแต่ใบเล็กแบบถือขึ้นเครื่อง ไปจนถึงใบใหญ่ ดีไซน์ก็เก๋ดี
เป็นกระเป๋าเดินทาง Made in Japan ที่แม้แต่ชิ้นส่วนของล้อกระเป๋าเดินทางก็ผลิตภายในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ระบบล็อคก็เป็นระบบสากล ถือว่าคุ้มมาก
นอกจากกระเป๋าเดินทางก็มีกระเป๋าดีไซน์ต่างๆ ในเลือกหลายแบบ ในราคาเดียวคือทุกใบ 5,500 เยนเท่านั้น กระเป๋าหนัง กระเป๋าถือแฟชั่น หรือกระเป๋าทำงาน 
และที่ร้านนี้ก็เป็นร้านตัวแทนจำหน่ายกระเป๋าแบรนด์ Anello ด้วย มีแบบให้เลือกเยอะมากๆ เก๋ๆ ไม่ซ้ำใคร ทางร้านบอกว่าเป็นร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเพราะฉะนั้นจะมีแบบที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านทั่วไปอีกด้วย ซึ่งสินค้าของ Anello จะจำหน่ายในราคาตามป้าย แต่ก็จำหน่ายราคาพิเศษมากๆ
กระเป๋าเป้ทรงทั่วไป เราชอบสองแบบนี้มากค่ะ เพราะตัวกระเป๋าเป็นผ้าแบบหนังเงาๆ สีดำหรือเงินเลือกอยู่นานมาก
Anello แบบกระเป๋าสะพายข้างแบบนี้ก็มี เราเพิ่งเคยเห็นแบบนี้ที่ร้านนี้เลย
ที่ร้านมีกระเป๋าตังค์ของ Anello ด้วย
ของฝากจากญี่ปุ่นน่ารักๆ ก็มี อันนี้เป็นกระจกลายโคมคามินาริมงประจำย่านอาซากุสะ
ร้านจะอยู่ตรงหัวมุมเส้นทางย่านร้านค้า “ชินนาคามิเสะ” เป็นซอยหน้าตึกห้าง Matsuya ที่เชื่อมต่อกับสถานีอาซากุสะเลย หาง่ายมากๆ ถ้ามาสถานีอาซากุระยังไงก็ต้องได้ผ่านแน่นอน
หลังจากเดินเลือกแวะดูของต่างๆ แล้ว ก่อนออกจากย่านนี้ ที่บริเวณใกล้สถานีอาซากุสะ จะมีร้านข้าวหน้าปลาไหลชื่อดัง ราคาไม่แพงอยู่ด้วย ร้านจะอยู่ข้าง Starbucks ข้างตึกห้าง Matsuya ที่เชื่อมต่อกับสถานีอาซากุสะ
ร้านนี้ชื่อว่า “ร้านอุนาโตโตะ Unatoto” ร้านข้าวหน้าปลาไหลราคาย่อมเยา เริ่มต้นตั้งแต่ 550 เยนขึ้นไป
สามารถนั่งทานได้ที่ร้าน หรือสั่งกลับบ้านก็ได้ ที่นั่งภายในร้านมีทั้งที่นั่งเคาน์เตอร์ และที่นั่งแบบโต๊ะ รวมแล้วประมาณ 20 กว่าที่นั่ง ถึงจะเป็นร้านเล็กๆ แต่ได้บรรยากาศร้านอาหารญี่ปุ่นดีค่ะ ลูกค้าก็เข้าเรื่อยๆ 
วิธีสั่งอาหารที่ร้านก็กดซื้อคูปองเมนูที่ต้องการ จากเครื่องจำหน่ายคูปองอัตโนมัติได้เลย จิ้มที่เมนูอาหารที่ต้องการทานก่อนเลย
จากนั้นก็จ่ายตังค์ที่เครื่อง ถ้าใครเติมเงินไว้ในบัตร IC CARD หรือ บัตร SUICA ที่ใช้ขึ้นรถไฟอยู่แล้วก็สามารถใช้ที่นี่ได้
พอคูปองออกมาแล้ว ก็ยื่นให้พนักงานที่ร้าน แล้วก็หาที่นั่งเองได้เลย
มาแล้ววววว!!! เป็นไงบ้างคะ น่าทานมากๆ เนื้อปลาไหลอุนางิ คือชิ้นหนา และแน่นมากๆ เราสั่งข้าวหน้าปลาไหลแบบพิเศษ ราคา 1000 เยน เห็นแบบนี้ราคาเท่านี้แต่กินอิ่มแน่นท้องเลย
ที่โต๊ะมีซอสข้าวหน้าปลาไหลสูตรพิเศษ พริกผง โชยุ และพริกไทยญี่ปุ่นให้ปรุงเพิ่มด้วย
ถึงแม้ว่าซอสจะราดมาให้แล้ว แต่ถ้าใครไม่พอก็ราดซอสปลาไหลสูตรพิเศษเพิ่มได้ตามความชอบเลย อยากบอกว่าซอสที่นี่เด็ดมากๆ เข้มข้นกล่มกล่อม อร่อยสุดๆ แค่ราดซอสทานกับข้าวเปล่ายังอร่อยเลยค่ะ 
ใครอยากทานข้าวหน้าปลาไหล แต่งบน้อยก็ไม่ควรพลาดที่นี่เลยจริงๆ ทั้งคุ้มทั้งอร่อย คอนเฟิร์มค่ะ
พอทานเสร็จก็เดินไปสถานีอาซากุระได้เลย สะดวกมากๆ ซึ่งเราจะไปสถานีชิบุย่า เพราะฉะนั้นก็นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สายกินซ่า ไปได้เลย โดยนั่งไปจนสุดสายทั้งหมด 18 สถานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 33 นาที ค่าเดินทาง 242 เยนค่ะ
หวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์ให้เพื่อนๆ และจะช่วยให้หายคิดถึงญี่ปุ่นกันบ้างนะคะ รักษาสุขภาพ และ Stay at home นะคะไว้จะมาลงรีวิวอีกเรื่อยๆ ขอบคุณค่ะ
ชื่อสินค้า:   GINZA LIFE Asakusa
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่