ใบแจ้งค่าไฟใบที่ 1 วันที่จดเลขอ่าน 18/02/63 = 1,076 หน่วย = 4,764.84 บาท
ใบแจ้งค่าไฟใบที่ 2 วันที่จดเลขอ่าน 18/03/63 = 1,365 หน่วย = 6,096.29 บาท
ใบแจ้งค่าไฟใบที่ 3 วันที่จดเลขอ่าน 18/04/63 = 1,544 หน่วย = 6,713.33 บาท (มีส่วนลด 3% ตามนโยบายรัฐ จาก 6,920.96 บาท)
คำถามคือ:
1) อยากทราบว่าใบแจ้งค่าไฟใบที่ 1 ถือว่าเป็นค่าไฟของเดือนกุมภาพันธ์ไหมครับ? ถ้าใช่แปลว่าใบแจ้งค่าไฟใบที่ 3 เป็นของเดือนเมษายนถูกไหมครับ?
2) ถ้าใบแจ้งค่าไฟใบที่ 3 เป็นของเดือนเมษายน ผมควรจะต้องจ่ายค่าไฟที่ 4,764.84 บาท เท่ากับใบแจ้งค่าไฟใบที่ 1 ถูกไหมครับ (ต่างกันไม่เกิน 800 หน่วย) แต่ทำไมใบแจ้งค่าไฟใบที่ 3 ถึงยังเป็นยอด 6,713 บาท? (หรือว่าตอนเราจะไปแสกนจ่ายของใบแจ้งค่าไฟใบที่ 3 ยอดจะขึ้นเป็น 4,764.84)
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
อันนี้ข่าวจากไทยรัฐเกี่ยวกับมาตราการเยียวยาค่าไฟครับ:
https://www.thairath.co.th/news/business/1828179
สอบถามเกี่ยวกับใบแจ้งค่าไฟกับมาตรการเยียวยาครับ
ใบแจ้งค่าไฟใบที่ 2 วันที่จดเลขอ่าน 18/03/63 = 1,365 หน่วย = 6,096.29 บาท
ใบแจ้งค่าไฟใบที่ 3 วันที่จดเลขอ่าน 18/04/63 = 1,544 หน่วย = 6,713.33 บาท (มีส่วนลด 3% ตามนโยบายรัฐ จาก 6,920.96 บาท)
คำถามคือ:
1) อยากทราบว่าใบแจ้งค่าไฟใบที่ 1 ถือว่าเป็นค่าไฟของเดือนกุมภาพันธ์ไหมครับ? ถ้าใช่แปลว่าใบแจ้งค่าไฟใบที่ 3 เป็นของเดือนเมษายนถูกไหมครับ?
2) ถ้าใบแจ้งค่าไฟใบที่ 3 เป็นของเดือนเมษายน ผมควรจะต้องจ่ายค่าไฟที่ 4,764.84 บาท เท่ากับใบแจ้งค่าไฟใบที่ 1 ถูกไหมครับ (ต่างกันไม่เกิน 800 หน่วย) แต่ทำไมใบแจ้งค่าไฟใบที่ 3 ถึงยังเป็นยอด 6,713 บาท? (หรือว่าตอนเราจะไปแสกนจ่ายของใบแจ้งค่าไฟใบที่ 3 ยอดจะขึ้นเป็น 4,764.84)
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
อันนี้ข่าวจากไทยรัฐเกี่ยวกับมาตราการเยียวยาค่าไฟครับ: https://www.thairath.co.th/news/business/1828179