เขียนบทโดย: Kim Eunsook (e.g Secret Garden, The Heirs, Descendent of the sun, Goblin, Mr. Sunshine)

กำกับโดย: Baek Sanghoon (co-director ของ Descendent of the sun, Love in the Moonlight, School2015)​

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ อีกน ​(รับบทโดย อีมินโฮ) จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเกาหลี ที่ได้ทะลุข้ามประตูมิติที่กั้นระหว่างสองโลกคู่ขนาน จนได้มาพบกับ ผู้หมวดจองแทอึล (รับบทโดย คิมโกอึน) หญิงสาวที่มีส่วนเกี่ยวพันกับโศกนาฏกรรมในอดีตของเขา ในขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับกบฏอีริม (รับบทโดย อีจุงจิน) ลุงของเขาที่หลบซ่อนและสร้างความปั่นป่วนให้แก่สองโลกคู่ขนาน อีกนต้องร่วมมือกับผู้หมวดจองแทอึลเพื่อขจัดภัยร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบงัน

รับชมได้ผ่าน Netflix ทุกวัน ศ.-ส. เวลา 21.30 น. เป็นต้นไป

หลังจากเปิดตัวไปได้ 2 อาทิตย์ ต้องขอบอกว่าเป็นเรื่องที่สร้างเสียงกรีดร้องให้แก่หญิงสาวทั่วราชอาณาจักร และสร้างความ 'อิหยังวะ' ให้แก่ผู้รับชมทั่วไปอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเรื่องที่ชวนให้งุนงงและเชื่องช้าแหกขนบธรรมเนียมซีรี่ส์ฮอตฮิตทั่วไป อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นงานภาพหรือโปรดักชั่นก็ล้วนรังสรรค์ออกมาได้อย่างงดงาม

แม้จะมีจุดที่พลาดไปบ้าง เช่น ผมหน้าม้าของนางเอกและรายละเอียดปลีกย่อย แต่โดยรวมก็นับว่าผลงานออกมาคุ้มค่ากับต้นทุนการผลิตที่เสียไปรวมกว่า  842 ล้านบาท (รวมสุทธิ 16 ตอน ตกเป็นเงินถึงราว 53ล้านบาท/ตอน) เรียกได้ว่าเป็นชาติที่ลงทุนกับการเผยแพร่วัฒนธรรมผ่านซีรี่ส์อย่างแท้จริง แม้กระทั่งกรมการท่องเที่ยวปูซานยังให้ความร่วมมือในการใช้ปูซานเป็นฉากหลังการถ่ายทำเรื่องนี้เป็นอย่างดี

ในส่วนของตัวบทนั้น หากไม่มีบทพูดที่แสนจะ Cringy ของคิมอึนซุกแล้ว ก็คงยากที่จะบอกว่าเป็นผลงานการเขียนบทของเธอ เพราะเรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่แหกขนบธรรมเนียมวิธีการเล่าเรื่องของเธอเป็นอย่างมากหากเทียบกับเรื่องที่ผ่านๆมา ถือเป็นการท้าทายครั้งใหญ่ในอาชีพนักเขียนบทที่ผ่านการเขียนแนวรอมคอม(The Heir/ Secret Garden) แนวอิงประวัติศาสตร์(Mr.Sunshine) และแนวแฟนตาซีปัจจุบัน(Goblin) มาแล้ว ที่จะผสมผสานสามแนวที่ว่าเข้าด้วยกัน

การสร้างโลกอีกใบขึ้นมาอย่างจักรวรรดิเกาหลี ต้องใช้ความกล้าหาญชาญชัยเป็นอย่างมาก เพราะต้องให้เวลาในการใส่รายละเอียดปลีกย่อยเพื่อให้คนดูเชื่อและอินไปกับมันว่ามีโลกใบนี้อยู่จริง นอกจากนี้ยังโฟกัสไปที่การสร้างมิติของตัวละครหลายตัวในเวลาเดียวกัน อย่างที่เธอไม่เคยทำมาก่อน

ด้วยความที่ในเรื่อง อีกน พระเอกของเรา มีความเป็น Geek ในด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ทำให้เรื่องนี้มีส่วนผสมของ Scientific Element ด้วย ซึ่งก็ทั้งบันเทิงและไม่ดูยัดเยียดจนเกินไป หากมองว่านี่เป็นคาแรคเตอร์ของคนคนหนึ่งที่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะพูดออกมาเป็นเรื่องGeekๆเสมอ ยกตัวอย่างเช่น ทฤษฎีสัมพัทธภาพพิเศษ ค่าEuler's number และความทรงพลังของเลข0 

หากลองพิจารณาคำพูดดูดีๆแล้วก็จะค้นพบว่าเรื่องนี้มีชั้นเชิงในการอุปมาอุปไมยทางด้านคณิตศาสตร์แพรวพราวกว่าซีรี่ส์เกาหลีที่เรื่องอื่นที่เคยดูมา ซึ่งมันก็ทั้งCringyและลึกซึ้งในเวลาเดียวกัน 

ในส่วนของการดำเนินเรื่อง คิมอึนซุกได้เลือกที่จะเดินทางที่ 'เสี่ยง' กว่าครั้งไหนๆ แน่นอนว่าซีรี่ส์นี้ได้ถูกคาดหวังไว้สูงจากผู้ชมทางบ้านตั้งแต่รายชื่อของดาราโปรไฟล์หรูทั้งสองคนได้ถูกประกาศออกมา กอปรกับชื่อเสียงของตัวนักเขียนบทเองที่นำเรตติ้งของซีรี่ส์อีกหลายๆเรื่องพุ่งขึ้นไปเกิน20%มานับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอเลือกที่จะลดความตื่นเต้นระทึกใจในช่วงแรกของซีรี่ส์เพื่อปูพื้นของเรื่องราว และการปูพื้นที่ว่า หากผู้ชมไม่ให้ความใส่ใจในรายละเอียดดีๆหรือมีความอดทนกับมัน ก็อาจจะพลาดเสน่ห์ของเรื่องนี้ไปอย่างน่าเสียดาย 

ต่างจากVagabondหรือItaewon Classที่เป็นซีรี่ส์ที่ย่อยง่ายในผู้ชมหมู่มาก ถ่ายทอดจุดประสงค์ของตัวละครหลักออกมาแบบตรงๆชัดเจน เรื่องThe Kingไม่เพียงโฟกัสที่ตัวละครหลักแต่สอดแทรกแรงจูงใจของตัวละครย่อยเข้าไปด้วย เลือกที่จะเล่าเรื่องในแบบกระจัดกระจาย ภายใต้กลิ่นอายของซีรี่ส์แฟนตาซีเบาสมอง ที่หากไม่ผ่านการตีความหรือการพยายามเชื่อมโยงแต่ละจุดเราก็อาจไม่เข้าใจสิ่งที่ละครจะสื่อเลย 

นับตั้งแต่ออกอากาศมา 4ตอน ผู้เขียนได้โปรยเมล็ดพันธ์ุออกไปแบบกระจัดกระจายเพื่อรอวันที่พันธุ์ไม้เหล่านั้นจะงอกเงยประกอบกันเป็นต้นไม้ต้นใหญ่ที่แข็งแรง ต้องขอยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มี Plot Easter Eggs เยอะที่สุดเท่าที่เคยเจอในซีรี่ส์เรื่องไหนๆ และนั้นแหละ คือเสน่ห์ของ The King: Eternal Monarch แต่ละตอนเราจะได้รับโจทย์มาให้แก้และคาดเดาคำตอบที่ถูกต้องในตอนหน้า หากไม่เข้าใจโจทย์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รับมาก็ไม่อาจหาคำตอบที่ถูกต้องได้ และล้มเลิกที่จะแก้มันไป แต่หากอดทนเพื่อทำความเข้าใจโจทย์และแก้โจทย์ได้ถูกต้อง เมื่อนั้น คุณจะไม่สามารถถอนตัวออกจากซีรี่ส์เรื่องนี้ได้เลย

**ต้องบอกว่ากลุ่มเป้าหมายของเรื่องนี้ถูกจำกัดไว้ในวงที่แคบมาก ต่างคนต่างความคิด หากชอบ ถูกจริตก็จะชอบไปเลย แต่ถ้าไม่ถูกจริตก็สามารถข้ามเรื่องนี้ได้ ไม่เสียหายอะไร ยังมีซีรี่ส์ดีๆอีกมากมายที่รอเราอยู่ข้างหน้า

ขวัญใจแม่ยก หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เหล่าหญิงสาวยังคงติดตามซีรี่ส์เรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ในเรื่องนี้อีมินโฮถ่ายทอดเสน่ห์ของจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิเกาหลีออกมาได้อย่างน่าสนใจ ต่างจากเรื่องก่อนหน้าที่เขามักจะรับบทเป็นคุณชายผู้ปากไม่ตรงกับใจ เรื่องนี้เขาได้กลายเป็นจักรพรรดิผู้ที่ไม่เอื้อนเอ่ยคำปดไม่ว่าจะต่อหน้าคนที่เขาไม่เชื่อใจหรือคนที่เขาเชื่อใจ ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะพูดมันออกมาหรือไม่เท่านั้น เมื่ออยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่เขาเลือกที่จะใช้ความเงียบหรือการพูดตักเตือนที่แฝงความนัยแทนการโกหก

แม้กระทั่งข้ามมายังโลกอันไม่คุ้นเคยและยากที่จะหาคนที่เชื่อถือในคำพูดของเขา อีกนก็ยังเลือกที่จะพูดความจริงต่อหน้าผู้หมวดจองแทอึล เพราะเขาเชื่อใจและไม่อยากโกหกเธอ คนที่เขาตามหามาตลอด25ปี ในใจของเขาเหมือนถูกเติมเต็มไปด้วยความเชื่อตั้งแต่ที่เขาได้บัตรประจำตัวของเธอมา มันจึงไม่อาจหาเหตุผลใดมาอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งเวลาที่อยู่กับอีกฝ่าย เรายังไม่อาจตีความได้ว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อจองแทอึลนั้นคือความรัก แต่ออกจะใกล้เคียงกับ 'ความสนใจ' เหมือนเจอโจทย์เลขที่ยังแก้ไม่ออกมากกว่า

อีกนเป็นตัวละครที่สุขุม ฉลาด ปะติดปะต่อเรื่องราวได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่หัวช้าแบบพระเอกละครซากึกตัวอื่นๆ เขาสามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ตื่นตระหนก จะสังเกตุได้ว่าอีกนสามารถเก็บงำอารมณ์เพื่อทำหน้าที่ราชาได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่เด็กทั้งที่พึ่งสูญเสียครอบครัวทั้งหมดไปไม่นาน แม้อีกนจะมีท่าทางการเดิน การพูดจาที่เพรียบพร้อมอย่างคนที่ได้รับการฝึกฝนมาดีตั้งแต่เด็ก บาดแผลทางจิตใจจากเหตุการณ์ในอดีตก็ยังคงไม่ถูกรักษาและทิ้งร่องรอยส่งผลต่อตัวเขาในทุกวันนี้ 

ผู้หมวดแห่งสาธารณรัฐเกาหลี รับบทโดย คิมโกอึน นักแสดงสาวมากฝีมือ ที่เรื่องนี้สวมบทบาทเป็นนักสืบสายบู๊ ตัวละครที่มีอาชีพเรื่องแรกของเธอนับตั้งแต่ก้าวเข้ามาเล่นทีวีซีรี่ส์ (ที่ผ่านมาจะรับบทสาวมหาลัยหรือเด็กกว่าทั้งสิ้น) เธอเป็นคนประเภทที่ไม่เชื่อว่าโลกกลม จนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตนเอง เรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่ตรงมากหากเทียบกับอีกนที่มีความซับซ้อนและเก็บงำทุกอย่างเอาไว้ในใจ แต่'ตรง'ไม่ได้แปลว่า'แบน' เราได้รับรู้เรื่องราวของเธอว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจมายืนอยู่ในจุดๆนี้ ทำไมเธอถึงมีความเชื่อหรือมีความคิดอย่างที่เป็นอยู่ การกระทำของเธอสอดคล้องกับคนเป็นนักสืบทุกอย่างที่จะเชื่อและสรุปทุกอย่างBased onหลักฐาน แต่สิ่งที่ขัดแย้งกับความเป็นสายศิลป์ของเธอที่พระเอกชอบแซว นั่นคือ เธอมักจะไม่ใช้จินตนาการเท่าไหร่นัก (ณ จุดนี้ยังคิดว่าการเปรียบเปรยสายวิทย์-สายศิลป์ยังไม่ค่อยตรงประเด็นเท่าไหร่ นอกจากว่าเกาหลีจะมีการใช้สองคำนี้ในcontextที่ต่างออกไป) อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งด้านจิตใจและการกระทำของเธอ คือสิ่งที่ทำให้อีกนประทับใจ เหมือนที่เปรียบเปรยว่าจองแทอึลเหมือนเลข0 ที่ไม่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับตัวแปรที่ทรงพลังแค่ไหน เธอก็จะสามารถจัดการกับมันได้อย่างง่ายดาย แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นกำลังให้กับเลขที่อยู่ด้านหน้าได้เช่นกัน

องครักษ์ของอีกนในโลกของจักรวรรดิ และ เจ้าหน้าที่สวัสดิการสังคมในโลกสาธารณะรัฐ รับบทโดย อูโดฮวาน นักแสดงดีกรีพระเอกดาวรุ่ง สองบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแต่สิ่งที่มีเหมือนกันคือเขามักจะคอยช่วยเหลืออีกนอยู่เสมอ ณ ปัจจุบัน รายละเอียดเชิงลึกของตัวละครนี้ยังไม่ถูกเปิดเผยออกมามากนัก แต่พื้นเพที่เขาเป็นคนรู้จักกับอีกนตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กก็ช่วยยืนยันจุดยืนของตัวละครนี้ได้ในระดับหนึ่ง นอกจากบท Bromance ที่ผู้เขียนใส่เข้ามา คงต้องรอดูถัดไปว่าจะมีสิ่งใดรออยู่ข้างหน้า เป็นตัวละครที่ควรถูกใช้อย่างคุ้มค่าให้สมกับนักแสดงที่มารับบทอย่างยิ่ง 

รุ่นพี่นางเอก ถือเป็นตัวละครม้ามืดที่ได้แอร์ไทม์เยอะเกินกว่าที่ใครหลายคนคาดการณ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นBackgroundที่รันทดและน่าสงสัย บวกกับการปูพื้นถึงสาเหตุที่เขาเลือกเดินเส้นทางของผู้ยืนอยู่ ณ​ ปลายทางของเส้นทางที่ผิด เป็นไปได้ว่าการตัดสินใจของตัวละครนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญในเหตุการณ์พลิกผันในอนาคต เขาคือคนที่มีโอกาสเข้าสู่ด้านมืดมากที่สุดเทียบกับตัวละครหลายๆตัว แต่สิ่งเดียวที่ยึดเหนี่ยวให้เขายังยืนอยู่ด้านสว่าง อาจเป็นตัวของจองแทอึล หญิงสาวที่บอกว่าเขายังจะต้องล้มลงอีกนับครั้งไม่ถ้วน แต่เธอจะเป็นคนสอนเขาว่าต้องล้มยังไงให้ถูกต้อง