หากพูดถึงนางเอกคุณภาพ ฝีมือการแสดงระดับเทพ มาพร้อมความสวยระดับเบอร์ต้นและที่กวาดรางวัลมาแล้วแทบทุกเวที จนได้ตำแหน่ง "เจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิง" ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก นางเอกสาว แอน ทองประสม ที่ฝากผลงานครองใจแฟนละครมาแล้วนับไม่ถ้วน เติบโตในวงการบันเทิงมาหลายสิบปีจากนางเอกสาววัยใส จนตอนนี้ขยับมาเป็นผู้จัดละครแห่งค่าย ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ที่ต้องบอกว่าละครแต่ละเรื่องที่ส่งมาให้แฟนๆ ชมก็โดนใจจนขึ้นแท่นผู้จัดมือทองของช่อง 3 ไปแล้ว
อย่างล่าสุดสาวแอนผู้จัดคนเก่งก็ปล่อยละครฟีลกู้ดอย่างเรื่อง "อกเกือบหักแอบรักคุณสามี" ที่พาสองพระนางสุดฮอต หมาก ปริญ และ มิว นิษฐา มาคู่กันเป็นครั้งแรก โดยออนแอร์คืนแรกก็เป็นที่พูดถึงของแฟนละครและชาวโซเชียลที่พากันส่งเสียงชมมาอย่างล้นหลาม
และในวันนี้ sanook.com ขอพาทุกคนมาพูดคุยกับนางเอกดาวค้างฟ้าและผู้จัดมือทอง แอน ทองประสม ถึงผลงานชิ้นล่าสุดพร้อมกับเจาะลึกทุกเรื่องราวของเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงคนนี้ว่ากว่าจะมีวันนี้ชีวิตเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง
การทำงานในเรื่อง "อกเกือบหักแอบรักคุณสามี" เป็นยังไงบ้าง?
"สนุกดีค่ะ เรื่องนี้โปรดักชั่นไม่ได้ยากมากเพราะเป็นละครฟีลกู้ด ไม่ได้มีความเฉือดเฉือน หรือ พล็อตที่มีความซับซ้อนอีรุงตุงนังอะไรมากนัก เป็นละครสบายๆ ดูแล้วยิ้มๆ ให้กับความรักของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่แอบหลงรักพี่ชายตัวเอง ก็จะเขินๆ เพลินๆ กันไป"
"ที่แอนหยิบเรื่องนี้มาทำเพราะแอนชอบความรักของ เมย ที่เขามีความจริงจัง มีความบริสุทธิ์ และที่สำคัญไม่รู้ว่ารักไปทำไม เพราะรักไปตัวเองก็ไม่ได้อะไรกลับมา ในขณะเดียวกันเขาเป็นเด็กที่มองโลกสวยงามมากๆ เขาจะยิ้มให้กับทุกเรื่อง ไม่มีมุมมองในแง่ลบเลย และแอนก็หลงรักในความรักของ เมย และ เธียร ก็เลยหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาทำ รู้แหละว่าเรื่องนี้ไม่ได้เฉือดเฉือนจัดจ้านแต่เราแค่อยากทำละครอีกหนึ่งรสชาติให้คนดูลองชมเท่านั้นเอง"
จับ หมาก-มิว มาประกบกันครั้งแรก ทำงานกับพระนางคู่นี้เป็นยังไงบ้าง?
"คู่นี้น่ารักค่ะ อย่างหมาก แอน รู้จักน้องอยู่แล้วรู้ว่าเขามีวิธีการเล่นละครยังไง หมากเขาเป็นนักแสดงที่มีวินัย มีความสามารถรอบตัว มีความเป็นผู้ชายกบฏที่น่าค้นหาอยู่ในตัวเอง"
"ส่วน มิว เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่แอนได้ทำงานกับน้อง มิว เป็นเด็กที่มีความธรรมชาติสูงมาก เราจะคาดเดาไม่ค่อยว่าเดี๋ยวความน่ารักที่มันจะเกิดขึ้นในละครมันจะไปทางไหน เขาจะเป็นคนดีไซน์ของเขาเองโดยที่เราคิดไม่ถึง ซึ่งมิวก็มีความเป็นเมยมากๆ ทำให้สองคนนี้กลายเป็นเคมีที่ลงตัวมากค่ะ"
หมาก-แอน-มิว
เรื่องนี้ออนแอร์พร้อมประเทศจีนด้วย?
"ใช่ค่ะ ออนแอร์คู่กันไปเลย เหมือนเรื่อง "ลิขิตรัก"ที่แอนเคยทำก่อนหน้านี้ก็เป็นการออนแอร์พร้อมกันแบบนี้ ถามว่ากดดันไหมก็ไม่ค่อยกดดันเท่าเรื่องก่อนค่ะ เพราะเราพอรู้ทิศทางบ้างแล้วว่าการออนแอร์พร้อมประเทศจีนจะเป็นยังไง เราต้องเตรียมตัวยังไง สิ่งที่ดี คือ เรามีแฟนต่างชาติเข้ามาติดตามละครเราเยอะขึ้น ทั้ง จีน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปินส์, พม่า, ลาว, เกาหลี ทำให้เราได้คอมเมนต์ที่หลากหลายเพื่อให้เราได้ปรับปรุงงานของเราต่อไป"
"เพราะบางทีเราทำละครให้แฟนๆ ชาวไทยดู เราก็จะรู้แนวที่คนไทย รสชาติที่คนบ้านเราชอบ แต่ถ้าเราทำละครแล้วชาวต่างชาติบอกว่าเขาก็ชอบด้วยเราก็ดีใจ มีความสุขที่เขาแฮปปี้กับงานเราค่ะ"
ในช่วงโควิด-19 ทุกอย่างชะลอตัว ภาวะแบบนี้กระทบกับเราบ้างไหม?
"ถ้าในเรื่องของจิตใจมันส่งผลอยู่แล้วค่ะ แต่เผอิญแอนโชคดีที่ละครเรื่องนี้ของแอนเราทำกันเสร็จแล้ว ตัดต่อเสร็จ ส่งถึงช่องและส่งให้จีนแล้วเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้แอนก็ทำการโปรโมทหลังบ้านระหว่างที่ละครออกอากาศ ก็ใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำงาน"
"ส่วนเรื่องระหว่างการออนแอร์ถ้าเราเจอเหตุการณ์ในเรื่องของความหดหู่ของจิตใจคนที่เขาอาจจะยังไม่มีอารมณ์มาดูละครในตอนนี้ เหมือนคนที่เขานั่งร้องไห้อยู่แล้วเราไปสะกิดให้เขาลุกมาร่าเริง เขาก็อาจจะบอกว่า อย่าเพิ่งมายุ่งกับฉัน เราเข้าใจและเราก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าคนเขาหดหู่กับสถานการณ์มาพอสมควรแล้ว และรู้สึกว่าอยากได้น้ำหล่อเลี้ยงหัวใจ อยากคลายเครียด แล้วจังหวะละครเรามาสามารถให้เขาได้พอดีแบบนี้ก็จะโชคดีไปค่ะ มันอยู่ที่ช่วงจังหวะว่าสภาพจิตใจของคนดูของเราตอนนั้นเป็นยังไง"
"แต่สิ่งสำคัญตอนนี้เราไม่ได้มองเรื่องการค้า การหากำไร หรือการแข่งขันมาเป็นตัวตั้งค่ะ เราอยากดูแลและรักษาจิตใจคนมากกว่า เราอย่าไปบังคับคนดู ถ้าเขาพร้อมเขาก็หันมาดูเราเองเราเองก็ทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่เท่านั้น"
"ยังไงก็ฝากถึงแฟนละครนะคะ ถ้าสบายใจแล้วลองหันมามองนะ เราลองนั่งดูไปด้วยกันเพลินๆ อย่างน้อยก็คลายเครียดไปได้นิดนึงค่ะ"
"แอนว่าช่วงนี้คนบันเทิงก็ลำบากพอๆ กับคนอาชีพอื่นๆ นะคะ ทุกๆ คนก็จะมีความเจ็บช้ำจากสถานการณ์นี้ในรูปแบบของตัวเองกันทุกคน ถ้าพูดถึงคนบันเทิง บางคนกินรายวัน เช่น ช่างแต่งหน้า ช่างไฟ ช่างกล้อง เด็กเสิร์ฟน้ำ หรืออื่นๆ ที่เป็นรายวัน พอละครถ่ายไม่ได้ก็ส่งผลกระทบต่อเขา แม้แต่คนกินรายเดือนก็กระทบเหมือนกันเพราะทุกอย่างต้องหยุด แต่เราก็ต้องดูแลกันประคองกันไป และปัญหาใหญ่ คือ เราไม่รู้ว่าสถานการณ์นี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน และจะกลับไปทำงานได้เมื่อไหร่"
"แอนไม่รู้จะพูดยังไง แต่แอนเข้าใจทุกๆ อาชีพเลย ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ คือ เราต้องเห็นใจกันค่ะ อย่างแอนเองแอนไม่ใช่สายดราม่าแต่ถามลึกๆ ในใจก็เซ็งเหมือนกัน เพียงแต่เราก็พยายามให้กำลังใจกันและกันในส่วนที่เราทำได้ดีกว่าค่ะ"
เปิดเบื้องลึก "แอน ทองประสม" รอยน้ำตาใต้ภาพเจ้าหญิง และชีวิตที่ไม่ได้น่าอิจฉาสำหรับใคร
อย่างล่าสุดสาวแอนผู้จัดคนเก่งก็ปล่อยละครฟีลกู้ดอย่างเรื่อง "อกเกือบหักแอบรักคุณสามี" ที่พาสองพระนางสุดฮอต หมาก ปริญ และ มิว นิษฐา มาคู่กันเป็นครั้งแรก โดยออนแอร์คืนแรกก็เป็นที่พูดถึงของแฟนละครและชาวโซเชียลที่พากันส่งเสียงชมมาอย่างล้นหลาม
และในวันนี้ sanook.com ขอพาทุกคนมาพูดคุยกับนางเอกดาวค้างฟ้าและผู้จัดมือทอง แอน ทองประสม ถึงผลงานชิ้นล่าสุดพร้อมกับเจาะลึกทุกเรื่องราวของเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงคนนี้ว่ากว่าจะมีวันนี้ชีวิตเธอต้องผ่านอะไรมาบ้าง
การทำงานในเรื่อง "อกเกือบหักแอบรักคุณสามี" เป็นยังไงบ้าง?
"สนุกดีค่ะ เรื่องนี้โปรดักชั่นไม่ได้ยากมากเพราะเป็นละครฟีลกู้ด ไม่ได้มีความเฉือดเฉือน หรือ พล็อตที่มีความซับซ้อนอีรุงตุงนังอะไรมากนัก เป็นละครสบายๆ ดูแล้วยิ้มๆ ให้กับความรักของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่แอบหลงรักพี่ชายตัวเอง ก็จะเขินๆ เพลินๆ กันไป"
"ที่แอนหยิบเรื่องนี้มาทำเพราะแอนชอบความรักของ เมย ที่เขามีความจริงจัง มีความบริสุทธิ์ และที่สำคัญไม่รู้ว่ารักไปทำไม เพราะรักไปตัวเองก็ไม่ได้อะไรกลับมา ในขณะเดียวกันเขาเป็นเด็กที่มองโลกสวยงามมากๆ เขาจะยิ้มให้กับทุกเรื่อง ไม่มีมุมมองในแง่ลบเลย และแอนก็หลงรักในความรักของ เมย และ เธียร ก็เลยหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาทำ รู้แหละว่าเรื่องนี้ไม่ได้เฉือดเฉือนจัดจ้านแต่เราแค่อยากทำละครอีกหนึ่งรสชาติให้คนดูลองชมเท่านั้นเอง"
จับ หมาก-มิว มาประกบกันครั้งแรก ทำงานกับพระนางคู่นี้เป็นยังไงบ้าง?
"คู่นี้น่ารักค่ะ อย่างหมาก แอน รู้จักน้องอยู่แล้วรู้ว่าเขามีวิธีการเล่นละครยังไง หมากเขาเป็นนักแสดงที่มีวินัย มีความสามารถรอบตัว มีความเป็นผู้ชายกบฏที่น่าค้นหาอยู่ในตัวเอง"
"ส่วน มิว เรื่องนี้เป็นครั้งแรกที่แอนได้ทำงานกับน้อง มิว เป็นเด็กที่มีความธรรมชาติสูงมาก เราจะคาดเดาไม่ค่อยว่าเดี๋ยวความน่ารักที่มันจะเกิดขึ้นในละครมันจะไปทางไหน เขาจะเป็นคนดีไซน์ของเขาเองโดยที่เราคิดไม่ถึง ซึ่งมิวก็มีความเป็นเมยมากๆ ทำให้สองคนนี้กลายเป็นเคมีที่ลงตัวมากค่ะ"
หมาก-แอน-มิว
เรื่องนี้ออนแอร์พร้อมประเทศจีนด้วย?
"ใช่ค่ะ ออนแอร์คู่กันไปเลย เหมือนเรื่อง "ลิขิตรัก"ที่แอนเคยทำก่อนหน้านี้ก็เป็นการออนแอร์พร้อมกันแบบนี้ ถามว่ากดดันไหมก็ไม่ค่อยกดดันเท่าเรื่องก่อนค่ะ เพราะเราพอรู้ทิศทางบ้างแล้วว่าการออนแอร์พร้อมประเทศจีนจะเป็นยังไง เราต้องเตรียมตัวยังไง สิ่งที่ดี คือ เรามีแฟนต่างชาติเข้ามาติดตามละครเราเยอะขึ้น ทั้ง จีน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปินส์, พม่า, ลาว, เกาหลี ทำให้เราได้คอมเมนต์ที่หลากหลายเพื่อให้เราได้ปรับปรุงงานของเราต่อไป"
"เพราะบางทีเราทำละครให้แฟนๆ ชาวไทยดู เราก็จะรู้แนวที่คนไทย รสชาติที่คนบ้านเราชอบ แต่ถ้าเราทำละครแล้วชาวต่างชาติบอกว่าเขาก็ชอบด้วยเราก็ดีใจ มีความสุขที่เขาแฮปปี้กับงานเราค่ะ"
ในช่วงโควิด-19 ทุกอย่างชะลอตัว ภาวะแบบนี้กระทบกับเราบ้างไหม?
"ถ้าในเรื่องของจิตใจมันส่งผลอยู่แล้วค่ะ แต่เผอิญแอนโชคดีที่ละครเรื่องนี้ของแอนเราทำกันเสร็จแล้ว ตัดต่อเสร็จ ส่งถึงช่องและส่งให้จีนแล้วเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้แอนก็ทำการโปรโมทหลังบ้านระหว่างที่ละครออกอากาศ ก็ใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำงาน"
"ส่วนเรื่องระหว่างการออนแอร์ถ้าเราเจอเหตุการณ์ในเรื่องของความหดหู่ของจิตใจคนที่เขาอาจจะยังไม่มีอารมณ์มาดูละครในตอนนี้ เหมือนคนที่เขานั่งร้องไห้อยู่แล้วเราไปสะกิดให้เขาลุกมาร่าเริง เขาก็อาจจะบอกว่า อย่าเพิ่งมายุ่งกับฉัน เราเข้าใจและเราก็ต้องยอมรับ แต่ถ้าคนเขาหดหู่กับสถานการณ์มาพอสมควรแล้ว และรู้สึกว่าอยากได้น้ำหล่อเลี้ยงหัวใจ อยากคลายเครียด แล้วจังหวะละครเรามาสามารถให้เขาได้พอดีแบบนี้ก็จะโชคดีไปค่ะ มันอยู่ที่ช่วงจังหวะว่าสภาพจิตใจของคนดูของเราตอนนั้นเป็นยังไง"
"แต่สิ่งสำคัญตอนนี้เราไม่ได้มองเรื่องการค้า การหากำไร หรือการแข่งขันมาเป็นตัวตั้งค่ะ เราอยากดูแลและรักษาจิตใจคนมากกว่า เราอย่าไปบังคับคนดู ถ้าเขาพร้อมเขาก็หันมาดูเราเองเราเองก็ทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่เท่านั้น"
"ยังไงก็ฝากถึงแฟนละครนะคะ ถ้าสบายใจแล้วลองหันมามองนะ เราลองนั่งดูไปด้วยกันเพลินๆ อย่างน้อยก็คลายเครียดไปได้นิดนึงค่ะ"
"แอนว่าช่วงนี้คนบันเทิงก็ลำบากพอๆ กับคนอาชีพอื่นๆ นะคะ ทุกๆ คนก็จะมีความเจ็บช้ำจากสถานการณ์นี้ในรูปแบบของตัวเองกันทุกคน ถ้าพูดถึงคนบันเทิง บางคนกินรายวัน เช่น ช่างแต่งหน้า ช่างไฟ ช่างกล้อง เด็กเสิร์ฟน้ำ หรืออื่นๆ ที่เป็นรายวัน พอละครถ่ายไม่ได้ก็ส่งผลกระทบต่อเขา แม้แต่คนกินรายเดือนก็กระทบเหมือนกันเพราะทุกอย่างต้องหยุด แต่เราก็ต้องดูแลกันประคองกันไป และปัญหาใหญ่ คือ เราไม่รู้ว่าสถานการณ์นี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน และจะกลับไปทำงานได้เมื่อไหร่"
"แอนไม่รู้จะพูดยังไง แต่แอนเข้าใจทุกๆ อาชีพเลย ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ คือ เราต้องเห็นใจกันค่ะ อย่างแอนเองแอนไม่ใช่สายดราม่าแต่ถามลึกๆ ในใจก็เซ็งเหมือนกัน เพียงแต่เราก็พยายามให้กำลังใจกันและกันในส่วนที่เราทำได้ดีกว่าค่ะ"