EXTRACTION
แอ็คชั่นเกรด A เรื่องใหม่จาก Netflix ผมขอยกให้เรื่องนี้เลยครับ

จั่วหัวก่อน สำหรับ จขกท.คิดว่าหนังแอคชั่นดีๆ ที่เป็น Netflix's Original มันค่อนข้างมีไม่มากนัก (แต่ว่าช่วยแนะนำที่ตัวเองชอบมาอีกทีก็ได้ เผื่อพลาดไป) ที่ผ่านมาเอาแบบที่ถูกจริตกับผม ก็อย่างเช่น Triple Frontier นี่โอเคเลยนะ แล้วก็ 6 Underground ที่ดูได้สนุกแต่ก็เหมือนนั่งดู Transformer เวอร์ชั่นไม่มีหุ่นยนต์แปลงร่าง จนตอนที่ตัวอย่างเรื่อง Extraction ออกมา ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะว่าพี่ธอร์ Chris Hemsworth ของเราก็เคยแป๊กกับหนังแนวนี้บ่อยๆ อยู่ แต่ผิดคาด เพราะว่าหนังออกมาดีมากๆ เลยครับ

เนื่อเรื่องก็นะ มันเป็นหนังบู๊อะ ก็ไม่ได้ต้องคิดอะไรมาก สั้นๆ ง่ายๆ ลูกเจ้าพ่อค้ายาอินเดีย ถูกเจ้าพ่อค้ายาบังคลาเทศจับไปเป็นตัวประกัน หยามกันแบบนี้ยอมได้ที่ไหน เลยส่งมือดีให้ไปว่าจ้างทีมของพระเอกที่ถนัดงานชิงตัวประกันทั่วทุกมุมโลก ในขณะที่ภารกิจดูท่าจะไม่มีอุปสรรคอะไร ก็เกิดพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือที่ทำให้ Tyler (Chris Hemsworth) กับ Ovi เด็กอินเดียที่เป็นตัวประกัน ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดออกจากกรุงธากาให้ได้

เนื้อเรื่องที่ดูไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ความดีงามที่แพ็ครวมๆ กันมา ทำให้ Extraction เป็นแอ็คชั่นเกรด A ในความคิดผมเลยก็คือ ...

🎬 ฉาก long take* สุดมันส์ตอนกลางเรื่อง ที่กินความยาว 12 นาทีที่มันส์แบบไม่ได้พักหายใจ คือปกติการทำ long take เป็นอะไรที่ค่อนข้างท้าทายอยู่แล้ว แถมยิ่งเป็นฉากแอ็คชั่นเข้าไปอีก บอกเลยนี่คือ 12 นาทีที่น่าจดจำที่สุดของหนังเรื่องนี้แล้ว

🎬 Chris Hemsworth คือแม่เหล็กของหนังเรื่องนี้ แต่ถึงยังงั้น ก็มีนักแสดงคุณภาพคนอื่นอีก อย่าง David Habour (Jim Hopper จาก Stranger Things) และดาราอินเดียที่หลายคนน่าจะชอบ คือ Randeep Hooda ในบท Saju และ Golshifteh Farahani รับบทสาวสวยผู้ประสานงานทีมชิงตัวประกัน ... นี่อาจกล่าวได้ว่า Extraction คือหนังบอลลีวู้ดอินเดียที่มี Chris Hemsworth แสดงนำ 😂

🎬 ถ้าเบื่อหนังแอ็คชั่นที่มีฉากหลังความวุ่นวายเป็นตะวันออกกลาง สถานที่ในหนังอย่างอินเดียและกรุงธากาของบังคลาเทศ คือความแปลกใหม่ที่ดี

✨ คะแนนเรื่องนี้ ให้ 8.5/10 จ้า ✨
ดูได้มันส์แบบจุกๆ ไปเลยสำหรับคอหนังบู๊ ห้ามพลาดความมันส์ของฉาก long take ที่บอก แต่ก็อาจมีบางช่วงที่มีบทพูดดราม่าและดูน่าเบื่อไปบ้าง โดยรวมแล้วเป็นหนังแอ็คชั่นที่ดีจาก Netflix เค้าล่ะ

* ฉาก long take หรือ one shot ในแบบที่ จขกท.เข้าใจ คือเทคนิคการถ่ายทำแบบยิงยาวต่อเนื่องโดยไม่มีการคัท (อาจจะมีบ้างในเชิงเทคนิค ที่มีการตัดสลับฉากโดยไม่ให้คนดูรู้ตัว) ดังนั้นจะมีความยากในเรื่องการวางแผน นัดแนะคิวต้องเป๊ะ เพราะไม่งั้นต้องถ่ายกันใหม่ตั้งแต่แรก ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือมุมกล้องที่เรียล เสมือนเราไปอยู่ในฉากนั้นจริงๆ และไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น ยิง long take ยาวๆ ก็ยิ่งยากเข้าไปอีก ลองนึกถึงหนังอย่าง 1917 และ Birdman หรือจะเอาตัวอย่างที่หาดูได้เลยอย่าง MV ของเพลง ปล่อย - ป๊อบ ปองกูล ใน Youtube นะ