ทุกคนบนโลกใบนี้...ล้วนได้รับผลกระทบจากโควิดกันถ้วนหน้า
ไม่ว่าจะเป็น...ผู้ชาย - ผู้หญิง...เด็ก - ผู้ใหญ่...คนรวย - คนจน
ไม่ว่าจะเป็น...คนไทย - ต่างชาติ....
ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด - ไม่นับถือศาสนา
ฯลฯ
หากไม่นับคนยากจน คนด้อยโอกาสทางสังคม คนหาเช้ากินค่ำ
ที่รัฐบาลต้องเร่งเข้าไปดูแลแล้ว
คนในวัยทำงานทั่วๆไป...ที่เดิมมีรายได้ในระดับที่ไม่เดือดร้อน
ย่อมมีพฤติกรรมการออมที่แตกต่างกันไป
ผู้ที่มีนิสัยการเก็บออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
เช่น ตกงาน เจ็บป่วย เป็นต้น
ก็ยังพอมีช่องให้หายใจได้บ้าง
ยิ่งในสถานการณ์ตอนนี้
ก็ยังมีความหวังประคองตัวรอดไปได้
ง่ายกว่าผู้ที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและไม่เคยเก็บออมเลย
เมื่อสถานการณ์เลวร้ายนี้ผ่านไป
หากไม่ทบทวนตัวเอง และปรับพฤติกรรมการเก็บออมเสียใหม่
ถ้ามีเขื้อโรคตัวใหม่มาเยี่ยมเยือนอีก
ก็คงต้องประสบชะตากรรมแบบเดิมเป็นแน่แท้
ต้องคอยแต่รอความช่วยเหบือจากภายนอกถ่ายเดียว
บทเรียน...มีไว้ให้ศึกษาและนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์...
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
●● “คนญี่ปุ่น กับ โควิด 19”... ใครที่สอนให้รู้จักประหยัดและเก็บออม...โดย ดำรง พุฒตาล ●●
ผมคิดไม่ตกและฟันธงไม่ได้ว่า ระหว่างคนญี่ปุ่น กับ โควิด 19 ใครที่ สอนให้ผมประหยัดและเก็บออม...
หลายปีมาแล้ว ท่านกงสุลใหญ่ ณ สถานกงสุลไทยกรุงโอซาก้าประเทศญี่ปุ่น ได้เชิญผมไปร่วมงานที่โอซาก้า
โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจเป็นผู้ดูแลและให้ความสะดวกผมตลอดที่อยู่ในเมืองนี้
ผมถามผู้ดูแลผมว่า จริงหรือไม่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องเงินไม่สะพัดทำให้เศรษฐกิจฝืดเคือง
ทั้งทั้งที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกประเทศหนึ่ง
ท่านผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจตอบผมว่าเป็นความจริง
และรัฐบาลขณะนั้นที่มี นาย อาเบะ เป็นนายกรัฐมนตรีก็กำลังหาวิธีที่จะรณรงค์ให้คนญี่ปุ่นได้ออกมาใช้เงิน
จับจ่ายใช้สอย
ผมถามว่าทำไมชาวญี่ปุ่นจึงไม่ยอมใช้เงิน จนทำให้การเงินของประเทศฝืดเคือง
ซึ่งได้คำตอบที่น่าสนใจมากคือ.. ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา ทั้งแผ่นดินไหว
สึนามิ พายุใต้ฝุ่น น้ำท่วมรุนแรง ซึ่งนำความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตผู้คนต้องประสบกับความเดือดร้อนและ
ยากไร้อยู่เนืองๆ เกือบทุกปี
ภัยธรรมชาติที่คนญี่ปุ่นต้องประสบนั้นอาจจะไม่ถึงกับปิดประเทศ แต่เวลาเกิดขึ้นแล้วมันยิ่งกว่าการปิดเมืองหรือ
ล็อกดาวน์เป็นหลายเท่า ทั้งผู้คนล้มตายสูญหาย ทั้งบ้านช่องและอาคาร พังทลายจนผู้คนไร้ที่อยู่ อาหารก็ขาดแคลน
คนญี่ปุ่นจึงมีประสบการณ์ว่าจะต้องมีเงินเอาไว้แก้สถานการณ์ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
นี่เองคือเหตุผลที่คนญี่ปุ่นไม่จับจ่ายใช้สอยฟุ่มเฟือย เมื่อหาเงินได้ก็จะประหยัดและเก็บออมเอาไว้เป็นเงินก้อน
พร้อมที่จะใช้สอยในยามยากที่เดือดร้อนอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ
ก็คือสรุปได้ว่าเมื่อพบกับความเดือดร้อนคนญี่ปุ่นก็ยังมีเงินเก็บเป็นเงินก้อนอยู่ในธนาคาร
ผมจึงนำประเด็นนี้มาบอกลูกบอกหลานของผมว่าโควิด 19 ได้ทำให้ลูกหลานต้องลำบากต้องหยุดงาน
ต้องอยู่กับบ้าน ซึ่งบางคนเดือดร้อนมากเพราะขาดเงินที่เคยหาได้ในยามปกติ
“โควิด19 นั้นหนักกว่าภัยธรรมชาติที่คนญี่ปุ่นได้เผชิญมาและเราก็กำลังเผชิญกับมัน”
หากสิ้นโควิด-19 และเราได้กลับไปสู่สถานการณ์ปกติ ก็ขอแนะนำให้ลูกหลานของผมได้ประหยัดและอดออม
ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับโลกในอนาคต ผมไม่บังอาจแนะนำผู้อื่นขอแนะนำเฉพาะลูกหลานของผม
เท่านั้นนะครับ
Cr. :
https://www.plewseengern.com/covid19-japan/
●● “คนญี่ปุ่น กับ โควิด 19”... ใครที่สอนให้รู้จักประหยัดและเก็บออม...โดย ดำรง พุฒตาล ●●
ไม่ว่าจะเป็น...ผู้ชาย - ผู้หญิง...เด็ก - ผู้ใหญ่...คนรวย - คนจน
ไม่ว่าจะเป็น...คนไทย - ต่างชาติ....
ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด - ไม่นับถือศาสนา
ฯลฯ
หากไม่นับคนยากจน คนด้อยโอกาสทางสังคม คนหาเช้ากินค่ำ
ที่รัฐบาลต้องเร่งเข้าไปดูแลแล้ว
คนในวัยทำงานทั่วๆไป...ที่เดิมมีรายได้ในระดับที่ไม่เดือดร้อน
ย่อมมีพฤติกรรมการออมที่แตกต่างกันไป
ผู้ที่มีนิสัยการเก็บออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
เช่น ตกงาน เจ็บป่วย เป็นต้น
ก็ยังพอมีช่องให้หายใจได้บ้าง
ยิ่งในสถานการณ์ตอนนี้
ก็ยังมีความหวังประคองตัวรอดไปได้
ง่ายกว่าผู้ที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและไม่เคยเก็บออมเลย
เมื่อสถานการณ์เลวร้ายนี้ผ่านไป
หากไม่ทบทวนตัวเอง และปรับพฤติกรรมการเก็บออมเสียใหม่
ถ้ามีเขื้อโรคตัวใหม่มาเยี่ยมเยือนอีก
ก็คงต้องประสบชะตากรรมแบบเดิมเป็นแน่แท้
ต้องคอยแต่รอความช่วยเหบือจากภายนอกถ่ายเดียว
บทเรียน...มีไว้ให้ศึกษาและนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์...
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
●● “คนญี่ปุ่น กับ โควิด 19”... ใครที่สอนให้รู้จักประหยัดและเก็บออม...โดย ดำรง พุฒตาล ●●
ผมคิดไม่ตกและฟันธงไม่ได้ว่า ระหว่างคนญี่ปุ่น กับ โควิด 19 ใครที่ สอนให้ผมประหยัดและเก็บออม...
หลายปีมาแล้ว ท่านกงสุลใหญ่ ณ สถานกงสุลไทยกรุงโอซาก้าประเทศญี่ปุ่น ได้เชิญผมไปร่วมงานที่โอซาก้า
โดยให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจเป็นผู้ดูแลและให้ความสะดวกผมตลอดที่อยู่ในเมืองนี้
ผมถามผู้ดูแลผมว่า จริงหรือไม่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องเงินไม่สะพัดทำให้เศรษฐกิจฝืดเคือง
ทั้งทั้งที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกประเทศหนึ่ง
ท่านผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจตอบผมว่าเป็นความจริง
และรัฐบาลขณะนั้นที่มี นาย อาเบะ เป็นนายกรัฐมนตรีก็กำลังหาวิธีที่จะรณรงค์ให้คนญี่ปุ่นได้ออกมาใช้เงิน
จับจ่ายใช้สอย
ผมถามว่าทำไมชาวญี่ปุ่นจึงไม่ยอมใช้เงิน จนทำให้การเงินของประเทศฝืดเคือง
ซึ่งได้คำตอบที่น่าสนใจมากคือ.. ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา ทั้งแผ่นดินไหว
สึนามิ พายุใต้ฝุ่น น้ำท่วมรุนแรง ซึ่งนำความเสียหายทั้งทรัพย์สินและชีวิตผู้คนต้องประสบกับความเดือดร้อนและ
ยากไร้อยู่เนืองๆ เกือบทุกปี
ภัยธรรมชาติที่คนญี่ปุ่นต้องประสบนั้นอาจจะไม่ถึงกับปิดประเทศ แต่เวลาเกิดขึ้นแล้วมันยิ่งกว่าการปิดเมืองหรือ
ล็อกดาวน์เป็นหลายเท่า ทั้งผู้คนล้มตายสูญหาย ทั้งบ้านช่องและอาคาร พังทลายจนผู้คนไร้ที่อยู่ อาหารก็ขาดแคลน
คนญี่ปุ่นจึงมีประสบการณ์ว่าจะต้องมีเงินเอาไว้แก้สถานการณ์ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
นี่เองคือเหตุผลที่คนญี่ปุ่นไม่จับจ่ายใช้สอยฟุ่มเฟือย เมื่อหาเงินได้ก็จะประหยัดและเก็บออมเอาไว้เป็นเงินก้อน
พร้อมที่จะใช้สอยในยามยากที่เดือดร้อนอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ
ก็คือสรุปได้ว่าเมื่อพบกับความเดือดร้อนคนญี่ปุ่นก็ยังมีเงินเก็บเป็นเงินก้อนอยู่ในธนาคาร
ผมจึงนำประเด็นนี้มาบอกลูกบอกหลานของผมว่าโควิด 19 ได้ทำให้ลูกหลานต้องลำบากต้องหยุดงาน
ต้องอยู่กับบ้าน ซึ่งบางคนเดือดร้อนมากเพราะขาดเงินที่เคยหาได้ในยามปกติ
“โควิด19 นั้นหนักกว่าภัยธรรมชาติที่คนญี่ปุ่นได้เผชิญมาและเราก็กำลังเผชิญกับมัน”
หากสิ้นโควิด-19 และเราได้กลับไปสู่สถานการณ์ปกติ ก็ขอแนะนำให้ลูกหลานของผมได้ประหยัดและอดออม
ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับโลกในอนาคต ผมไม่บังอาจแนะนำผู้อื่นขอแนะนำเฉพาะลูกหลานของผม
เท่านั้นนะครับ
Cr. : https://www.plewseengern.com/covid19-japan/