เชื้ออีโคไล 18%
จากเอกสารงานวิจัยชิ้นล่าสุดที่ถูกเผยแพร่ออกมาผ่านทาง Cell เมื่อวัน 27 พฤศจิกายน 2019 ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์จากประเทศอิสราเอล อาจจะสามารถหาทางแก้ปัญหาภาวะเรือนกระจก พร้อมกับช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับพลังงานชีวมวลได้แล้ว ด้วยการ ตัดแต่งพันธุกรรมแบคทีเรีย
แบคทีเรีย Escherichia coli หรือที่เรารู้จักในชื่อ E. coli (อี. โคไล) ถือเป็นแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร ถึงแม้พวกมันจะก่อให้เกิดอาการท้องเสียได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่รุนแรงนัก อีกทั้ง E. coli บางสายพันธุ์ก็มีประโยชน์ในสร้างเชื้อเพลิงชีวมวลได้
นักวิจัยทำการตัดต่อจีโนมของแบคทีเรีย ให้สามารถผลิตเอนไซม์ที่สามารถเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศให้กลายเป็นไบโอแมสได้ และถอดยีนที่ใช้ในการย่อยสลายน้ำตาลออกไป เพื่อบังคับให้เชื้อบริโภคก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงอย่างเดียว ก่อนจะปล่อยให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและส่งผ่าน DNA ของมันไปยังรุ่นต่อ ๆ ไป หลังจากผ่านไป 200 วัน นักวิจัยก็พบว่าเชื้อจุลินทรีย์มีการวิวัฒนาการตามยีนที่พวกเขาตัดต่อให้อย่างสมบูรณ์
เชื้อ E. coli ถือเป็นจุลินทรีย์ที่ควบคุมได้ง่ายมาก ทั้งยังถูกใช้ในการทดลองเทคโนโลยีทางชีวภาพอย่างแพร่หลาย ทำให้มันมีความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด
Cr.
https://www.flagfrog.com/bacteria-that-comsume-co2/ โดย PeemPim
ดอกหญ้า 18%
Tampopo หรือ แดนดิไลออนเป็นดอกไม้แห่งความสุข ความร่าเริงและความหวัง แดนดิไลออนไม่ได้เป็นเพียงวัชพืชแต่มีประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นการนำใบมาใช้กินเป็นสลัดหรือนำมาต้มซุป ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยลดน้ำหนักและควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ การนำรากมาตากแห้งทำเป็นกาแฟและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพซึ่งมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย เช่น ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยกรองสารพิษออกจากเลือด ดูดซับสารพิษออกจากตับและไต ช่วยในระบบการย่อยอาหาร ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและช่วยควบคุมระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในร่างกายให้อยู่ในระดับที่ปกติ เป็นต้น
นอกจากนี้นักวิจัยทางเทคโนโลยีชีวภาพจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแถบยุโรป เช่น เยอรมัน เนเธอร์แลนด์และสวีเดน เป็นต้น ได้นำน้ำยางจากรากของแดนดิไลออนชนิดพันธุ์รัสเซีย (Russian Dandelion) ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ที่รากสามารถผลิตน้ำยางได้ในปริมาณสูงและมีคุณภาพดีพอๆกับน้ำยางพารา มาทดลองผลิตถุงมือยางและยางรถยนต์ เป็นต้น ในขณะเดียวกันก็ทำการปรับปรุงพันธุ์แดนดิไลออนให้รากสามารถผลิตน้ำยางได้ในปริมาณที่สูงขึ้นอันเป็นทางเลือกหนึ่งของอุตสาหกรรมยางในอนาคตอันใกล้
Cr.
https://th.anngle.org/j-lifestyle/tampopo-dandelion.html
ยีสต์ 26%
ยีสต์ หรือ ส่าเหล้า ( yeast) คือ รากลุ่มหนึ่งที่ส่วนใหญ่เป็นเซลล์เดี่ยว มีรูปร่างหลายแบบ เช่น รูปร่างกลม รี สามเหลี่ยม รูปร่างแบบมะนาว ฝรั่ง เป็นต้น ส่วนใหญ่มีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยวิธีการแตกหน่อ พบทั่วไปในธรรมชาติในดิน ในน้ำ ในส่วนต่างๆ ของพืช ยีสต์บางชนิดพบอยู่กับแมลง และในกระเพาะของสัตว์บางชนิด
แต่แหล่งที่พบยีสต์อยู่บ่อยๆ คือแหล่งที่มีน้ำตาลความเข้มข้นสูง เช่น น้ำผลไม้ที่มีรสหวาน ยีสต์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ มักจะปนลงไปในอาหาร เป็นเหตุให้อาหารเน่าเสียได้ ยีสต์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กมาก มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส (eukaryotic micro-organisms) จัดอยู่ในกลุ่มจำพวกเห็ด รา (Fungi) มีทั้งที่เป็นประโยชน์และโทษต่ออาหาร มีการนำยีสต์มาใช้ประโยชน์นานมาแล้ว โดยเฉพาะการผลิตอาหารที่มีแอลกอฮอล์
จากคุณสมบัติที่มีขนาดเล็กมาก สามารถเพาะเลี้ยงให้เกิดได้ในเวลาอันรวดเร็ว และวิธีการไม่ยุ่งยาก ทำให้ยีสต์เริ่มมีบทบาทที่สำคัญในวงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยสามารถนำมาใช้เป็นอาหารสำหรับเลี้ยงอาหารธรรมชาติที่สำคัญอีกทีหนึ่ง เช่น ไรแดง โรติเฟอร์ และอาร์ทีเมีย
Cr.ภาพ
https://www.youtube.com/watch?v=HqPMGXAeVE4
Cr.
https://th.wikipedia.org/wiki/ยีสต์
ไส้เดือน 40%
ไม่น่าเชื่อว่าในโลกนี้ยังมีไส้เดือนกลิ่นหอมมิต่างดอกโมกสีขาว ช่อเล็กๆ ที่นิยมปลูกเป็นรั้วบ้าน แต่ที่ถือเป็นการค้นพบครั้งแรกอันน่าพิศวง คือเป็นไส้เดือนชนิดเดียวที่มีกลิ่นดอกโมก ที่พบในไส้เดือนสีน้ำเงิน มีชื่อสามัญว่า Blue worm มีลักษณะพิเศษ นอกจากมีกลิ่นหอมแล้วยังขยายพันธุ์ได้เร็วมาก
รศ.ดร.สมชัย จันทร์สว่าง ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า ไส้เดือนสีน้ำเงินไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ สามารถพบได้ตามป่าสมบูรณ์ในประเทศเขตร้อนแถบเอเชีย ไล่ตั้งแต่อินเดียยันประเทศไทย
กลิ่นหอมที่ว่านี้มาจากน้ำสีเหลืองอ่อนกลางลำตัวของไส้เดือน (Coelomic fluid) เมื่อจับตัวมันเอามาไว้ในมือ มันจะขับกลิ่นนี้ออกมาจากตัวด้วยสัญชาตญาณ
น้ำสีเหลืองอ่อนมีกลิ่นหอม กำลังถูกนำไปใช้ต่อยอดงานวิจัยเพื่อนำไปใช้สกัดหาสารกำจัดเชื้อรา ที่ผลิตสารพิษอะฟลาทอกซิน อันเป็นสารก่อมะเร็ง
นอกจากกลิ่นหอมอันเป็นประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว ไส้เดือนสีน้ำเงินยังมีความพิเศษด้วยมีขนาดตัวที่เล็ก ทำให้มูลมีขนาดเล็กละเอียด ย่อยสลายได้เร็ว พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่ามูลไส้เดือนชนิดอื่น
Cr.
https://www.thairath.co.th/content/575972 โดย กรวัฒน์ วีนิล
กะหล่ำปลี 40-50%
กะหล่ำปลี (Cabbage) บางครั้งก็เรียกว่า กะหล่ำเขียว กะหล่ำใบ เป็นพืชจำพวกไม้ล้มลุกชนิดหนึ่งในพวกพืชใบเลี้ยงคู่ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Brassica oleracea เป็นพืชที่คนรู้จักมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว มีหลักฐานว่าชาวยุโรปรู้จักรับประทานกะหล่ำปลีมาตั้งแต่เมื่อราว 1 พันปีก่อนคริสตกาลแล้ว หลังจากนั้นจึงมีการนำมาปลูกทั่วไปในดินแดนของอาณาจักรโรมัน ก่อนจะแพร่หลายมาถึงเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเมื่อราวศตวรรษที่ 18
กะหล่ำปลีมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเมดิเตอเรเนียน ในกะหล่ำปลีดิบ จะมีวิตามินซีสูง ทั้งนี้ไม่ควรนำไปนึ่ง ต้ม หรือผัดนานจนเกินไป เป็นผักที่มีกรดทาร์ทาริก ที่ช่วยยับยั้งและขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายเป็นไขมัน จึงมีส่วนในการช่วยลดน้ำหนักและคอเลสเตอรอลได้ ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน เพราะอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นผลดีต่อการเสริมสร้างและบำรุงกระดูก และช่วยบำรุงผิวพรรณทำให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล คงความอ่อนเยาว์ได้อีกด้วย.“
ข้อมูลจาก
dailynews.co.th/agriculture/326196
ที่มา
http://www.vegetablefacts.net/vegetable…/history-of-cabbage/ และ
https://www.honestdocs.co/benefits-of-cabbage-and-caution
Cr.
https://th-th.facebook.com/sararueaipueai/photos/มากิน-กะหล่ำปลี-กัน-กินผักกันเยอะ-ๆ-นะครับกะหล่ำปลี-cabbage-หรือบางครั้งก็เรียกว/1485461391587406/
กล้วย 50%
เซลล์เป็นโครงสร้างชีวภาพขนาดใหญ่ ความเหมือนกันของ DNA ในกล้วยและคนมีถึง 50% ความรู้ดังกล่าวช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในแบบใหม่ๆ เช่นสามารถสร้างพืชที่จะผลิตโปรตีนทางการแพทย์ หรือวัคซีนที่เรียกว่า "กินได้" ตัวอย่างเช่น แครอทสามารถพัฒนาให้ทำหน้าที่เป็นวัคซีนที่ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่หรือโรคอื่น ๆ รวมทั้งสามารถพัฒนาเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมที่อ่อนโยนได้
D & T Farm ในจังหวัดโอะกะยะมะ ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนากล้วยที่สามารถทานได้ทั้งเปลือก ถูกตั้งชื่อว่า
The Mongee Banana เป็นกล้วยที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก DNA กล้วยโบราณ
โดยใช้เทคนิคพิเศษ “Freeze Thaw Awakening” ที่เหมือนย้อนไปยุคน้ำแข็งประมาณ 20,000 ปีก่อน เมื่อพืชเติบโตมาจากอุณหภูมิที่หนาวจัด พืชก็จะเติบโตเร็วกว่าปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกล้วยจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี จึงสามารถออกลูกทานได้ แต่วิธีนี้ทำให้กล้วยโตและออกผลได้ภายในเวลา 4 เดือน
อย่างไรก็ตาม The Mongee Banana สามารถวางจำหน่ายในท้องตลาดได้เพียงสัปดาห์ละ 10 ลูก ทำให้เป็นกล้วยที่มีราคาแพง โดยราคาตกลูกละ 648 เยน หรือราว 6 ดอลลาร์สหรัฐ ลักษณะของกล้วยเมื่อทานพร้อมกับเปลือกจะหวานกว่ากล้วยปกติ
Cr.
https://th.onlinedoctors24.com/4250058-dna-of-a-banana-and-a-man-comparison-similarities-and-differences-interesting-facts
Cr.
http://www.nextsteptv.com/กล้วยที่สามารถทานได้ทั/
แมลงวันผลไม้ 51%
นักวิทยาศาสตร์พบว่า แมลงวัน ก็รู้จักหายากินรักษาโรคปรสิตเช่นกัน อย่างแรกแมลงวันผลไม้มีศัตรูคู่อาฆาตคือ ตัวต่อ โดยตัวต่อจะจะแอบมาฝังไข่ในตัวอ่อนหนอนแมลงวันเพื่อใช้แมลงวันเป็นโรงอาหารเคลื่อนที่สำหรับตัวอ่อนของตัวต่อที่จะฟักออกมา และกัดกินแมลงวันจากภายใน
แมลงวันผลไม้เองก็ไม่นอนรอความตาย เมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า แมลงวันผลไม้จะเสาะหาแหล่งอาหารที่ประกอบไปด้วย เอทานอล(Ethanal) เพื่อใช้เป็นยาฆ่าปรสิตที่อยู่ในกระแสเลือดขอพวกมัน เอทานอลพวกนี้มีผลต่อแมลงวันเล็กน้อย แต่มีผลถึงตายต่อปรสิตตัวต่อ
โดยด็อกเตอร์ Todd Schlenke กล่าวว่า "เราค้นพบแอลกอฮอลตามธรรมชาติ สามารถปกป้องแมลงวันผลไม้จากปรสิตตัวต่อได้ โดยเมื่อแมลงวันผลไม้ติดปรสิต พวกมันจะกินแอลกอฮอล์เพื่อใช้ฆ่าปรสิตในตัว ใครจะรู้พวกมันอาจจะสอนให้เรารู้จักวิธีกต่อสู้กับปรสิตก็ได้ใครจะรู้" ผลงานการวิจัยนี้ตีพิมพ์ลงในวรสาร journal Current Biology โดยทำการศึกษาในแมลงวัน Drosophila melanogaster
ที่มา Credit:
http://wowboom.blogspot.com
Cr.
https://www.clipmass.com/story/42606
ไก่ 60%
(นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ไก่ เช่น ไก่เหล่านี้ในฟาร์มของแมตต์ ซีเกล ในรัฐไวโอมิง มีการรับรู้ขั้นสูง พวกมันอาศัยอยู่ในสังคมที่มีลำดับชั้น นับจำนวนและคำนวณคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานได้ และน่าจะรับรู้อารมณ์ ตั้งแต่ความเบื่อหน่ายและความคับข้องใจไปจนถึงความสุข)
ไก่เริ่มต้นมาจากไก่ป่า มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gullus Gallus ซึ่งเป็นไก่พื้นเมืองชนิดหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นับเป็นสัตว์ปีกเลือดอุ่น มีการรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้สูงและคงที่ตลอดเวลา อยู่ที่ประมาณ 40.6 - 41.7 องศาเซลเซียส ร่างกายปกคลุมด้วยขน ขนาดตัวกะทัดรัด กระดูกมีน้ำหนักเบา เป็นสัตว์ที่มีอาการตื่นเต้นง่าย ชอบคุ้นเขี่ยอาหารตามพื้นดิน มีระบบประสาทไว โดยเฉพาะสายตาและหูจะใช้การได้ดีมาก
ไก่ เป็นสัตว์ปีกประเภทนก มีต้นตระกูลมาจากสัตว์เลื้อยคลาน ดังปรากฏพบหลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์ของนกชนิดแรกในโลก ที่แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน เมื่อปี ค.ศ. 1861 ซากดังกล่าวมีอายุประมาณ 130 ล้านปี และมีกระดูกหางยาว นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “ อาร์คีออพเทอริกซ์ ”
จาก “ อาร์คีออพเทอริกซ์ ” ได้พัฒนาการสืบทอดต่อกันมาจนกระทั่งกลายเป็นนกที่มีขนาดของรูปร่าง สี และอุปนิสัยที่แตกต่างกันออกไปกว่า 9,000 ชนิด สามารถจัดเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 27 อันดับ และ 1 ใน 27 อันดับ คือ Galliformes ซึ่งเป็นอันดับของ ไก่ป่า ไก่งวง ไก่ต๊อก ไก่ฟ้า ฯลฯ
Cr.
https://www.dek-d.com/education/35923/
Cr.
https://www.lib.ru.ac.th/journal/cock.html
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
พืชและสัตว์ที่มี DNA เหมือนกับ มนุษย์
จากเอกสารงานวิจัยชิ้นล่าสุดที่ถูกเผยแพร่ออกมาผ่านทาง Cell เมื่อวัน 27 พฤศจิกายน 2019 ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์จากประเทศอิสราเอล อาจจะสามารถหาทางแก้ปัญหาภาวะเรือนกระจก พร้อมกับช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับพลังงานชีวมวลได้แล้ว ด้วยการ ตัดแต่งพันธุกรรมแบคทีเรีย
แบคทีเรีย Escherichia coli หรือที่เรารู้จักในชื่อ E. coli (อี. โคไล) ถือเป็นแบคทีเรียที่พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร ถึงแม้พวกมันจะก่อให้เกิดอาการท้องเสียได้ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่รุนแรงนัก อีกทั้ง E. coli บางสายพันธุ์ก็มีประโยชน์ในสร้างเชื้อเพลิงชีวมวลได้
นักวิจัยทำการตัดต่อจีโนมของแบคทีเรีย ให้สามารถผลิตเอนไซม์ที่สามารถเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศให้กลายเป็นไบโอแมสได้ และถอดยีนที่ใช้ในการย่อยสลายน้ำตาลออกไป เพื่อบังคับให้เชื้อบริโภคก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียงอย่างเดียว ก่อนจะปล่อยให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและส่งผ่าน DNA ของมันไปยังรุ่นต่อ ๆ ไป หลังจากผ่านไป 200 วัน นักวิจัยก็พบว่าเชื้อจุลินทรีย์มีการวิวัฒนาการตามยีนที่พวกเขาตัดต่อให้อย่างสมบูรณ์
เชื้อ E. coli ถือเป็นจุลินทรีย์ที่ควบคุมได้ง่ายมาก ทั้งยังถูกใช้ในการทดลองเทคโนโลยีทางชีวภาพอย่างแพร่หลาย ทำให้มันมีความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด
Cr. https://www.flagfrog.com/bacteria-that-comsume-co2/ โดย PeemPim
Tampopo หรือ แดนดิไลออนเป็นดอกไม้แห่งความสุข ความร่าเริงและความหวัง แดนดิไลออนไม่ได้เป็นเพียงวัชพืชแต่มีประโยชน์มากมายไม่ว่าจะเป็นการนำใบมาใช้กินเป็นสลัดหรือนำมาต้มซุป ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยลดน้ำหนักและควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ การนำรากมาตากแห้งทำเป็นกาแฟและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพซึ่งมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย เช่น ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยกรองสารพิษออกจากเลือด ดูดซับสารพิษออกจากตับและไต ช่วยในระบบการย่อยอาหาร ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและช่วยควบคุมระดับไขมันและคอเลสเตอรอลในร่างกายให้อยู่ในระดับที่ปกติ เป็นต้น
นอกจากนี้นักวิจัยทางเทคโนโลยีชีวภาพจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแถบยุโรป เช่น เยอรมัน เนเธอร์แลนด์และสวีเดน เป็นต้น ได้นำน้ำยางจากรากของแดนดิไลออนชนิดพันธุ์รัสเซีย (Russian Dandelion) ซึ่งเป็นชนิดพันธุ์ที่รากสามารถผลิตน้ำยางได้ในปริมาณสูงและมีคุณภาพดีพอๆกับน้ำยางพารา มาทดลองผลิตถุงมือยางและยางรถยนต์ เป็นต้น ในขณะเดียวกันก็ทำการปรับปรุงพันธุ์แดนดิไลออนให้รากสามารถผลิตน้ำยางได้ในปริมาณที่สูงขึ้นอันเป็นทางเลือกหนึ่งของอุตสาหกรรมยางในอนาคตอันใกล้
Cr.https://th.anngle.org/j-lifestyle/tampopo-dandelion.html
ยีสต์ หรือ ส่าเหล้า ( yeast) คือ รากลุ่มหนึ่งที่ส่วนใหญ่เป็นเซลล์เดี่ยว มีรูปร่างหลายแบบ เช่น รูปร่างกลม รี สามเหลี่ยม รูปร่างแบบมะนาว ฝรั่ง เป็นต้น ส่วนใหญ่มีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยวิธีการแตกหน่อ พบทั่วไปในธรรมชาติในดิน ในน้ำ ในส่วนต่างๆ ของพืช ยีสต์บางชนิดพบอยู่กับแมลง และในกระเพาะของสัตว์บางชนิด
แต่แหล่งที่พบยีสต์อยู่บ่อยๆ คือแหล่งที่มีน้ำตาลความเข้มข้นสูง เช่น น้ำผลไม้ที่มีรสหวาน ยีสต์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ มักจะปนลงไปในอาหาร เป็นเหตุให้อาหารเน่าเสียได้ ยีสต์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กมาก มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส (eukaryotic micro-organisms) จัดอยู่ในกลุ่มจำพวกเห็ด รา (Fungi) มีทั้งที่เป็นประโยชน์และโทษต่ออาหาร มีการนำยีสต์มาใช้ประโยชน์นานมาแล้ว โดยเฉพาะการผลิตอาหารที่มีแอลกอฮอล์
จากคุณสมบัติที่มีขนาดเล็กมาก สามารถเพาะเลี้ยงให้เกิดได้ในเวลาอันรวดเร็ว และวิธีการไม่ยุ่งยาก ทำให้ยีสต์เริ่มมีบทบาทที่สำคัญในวงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยสามารถนำมาใช้เป็นอาหารสำหรับเลี้ยงอาหารธรรมชาติที่สำคัญอีกทีหนึ่ง เช่น ไรแดง โรติเฟอร์ และอาร์ทีเมีย
Cr.ภาพ https://www.youtube.com/watch?v=HqPMGXAeVE4
Cr.https://th.wikipedia.org/wiki/ยีสต์
รศ.ดร.สมชัย จันทร์สว่าง ภาควิชาสัตวบาล คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า ไส้เดือนสีน้ำเงินไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่ สามารถพบได้ตามป่าสมบูรณ์ในประเทศเขตร้อนแถบเอเชีย ไล่ตั้งแต่อินเดียยันประเทศไทย
กลิ่นหอมที่ว่านี้มาจากน้ำสีเหลืองอ่อนกลางลำตัวของไส้เดือน (Coelomic fluid) เมื่อจับตัวมันเอามาไว้ในมือ มันจะขับกลิ่นนี้ออกมาจากตัวด้วยสัญชาตญาณ
น้ำสีเหลืองอ่อนมีกลิ่นหอม กำลังถูกนำไปใช้ต่อยอดงานวิจัยเพื่อนำไปใช้สกัดหาสารกำจัดเชื้อรา ที่ผลิตสารพิษอะฟลาทอกซิน อันเป็นสารก่อมะเร็ง
นอกจากกลิ่นหอมอันเป็นประโยชน์ทางการแพทย์แล้ว ไส้เดือนสีน้ำเงินยังมีความพิเศษด้วยมีขนาดตัวที่เล็ก ทำให้มูลมีขนาดเล็กละเอียด ย่อยสลายได้เร็ว พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้ดีกว่ามูลไส้เดือนชนิดอื่น
Cr. https://www.thairath.co.th/content/575972 โดย กรวัฒน์ วีนิล
กะหล่ำปลี (Cabbage) บางครั้งก็เรียกว่า กะหล่ำเขียว กะหล่ำใบ เป็นพืชจำพวกไม้ล้มลุกชนิดหนึ่งในพวกพืชใบเลี้ยงคู่ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Brassica oleracea เป็นพืชที่คนรู้จักมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว มีหลักฐานว่าชาวยุโรปรู้จักรับประทานกะหล่ำปลีมาตั้งแต่เมื่อราว 1 พันปีก่อนคริสตกาลแล้ว หลังจากนั้นจึงมีการนำมาปลูกทั่วไปในดินแดนของอาณาจักรโรมัน ก่อนจะแพร่หลายมาถึงเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเมื่อราวศตวรรษที่ 18
กะหล่ำปลีมีถิ่นกำเนิดอยู่แถบเมดิเตอเรเนียน ในกะหล่ำปลีดิบ จะมีวิตามินซีสูง ทั้งนี้ไม่ควรนำไปนึ่ง ต้ม หรือผัดนานจนเกินไป เป็นผักที่มีกรดทาร์ทาริก ที่ช่วยยับยั้งและขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายเป็นไขมัน จึงมีส่วนในการช่วยลดน้ำหนักและคอเลสเตอรอลได้ ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน เพราะอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นผลดีต่อการเสริมสร้างและบำรุงกระดูก และช่วยบำรุงผิวพรรณทำให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล คงความอ่อนเยาว์ได้อีกด้วย.“
ข้อมูลจาก
dailynews.co.th/agriculture/326196
ที่มา http://www.vegetablefacts.net/vegetable…/history-of-cabbage/ และ https://www.honestdocs.co/benefits-of-cabbage-and-caution
Cr.https://th-th.facebook.com/sararueaipueai/photos/มากิน-กะหล่ำปลี-กัน-กินผักกันเยอะ-ๆ-นะครับกะหล่ำปลี-cabbage-หรือบางครั้งก็เรียกว/1485461391587406/
เซลล์เป็นโครงสร้างชีวภาพขนาดใหญ่ ความเหมือนกันของ DNA ในกล้วยและคนมีถึง 50% ความรู้ดังกล่าวช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ในแบบใหม่ๆ เช่นสามารถสร้างพืชที่จะผลิตโปรตีนทางการแพทย์ หรือวัคซีนที่เรียกว่า "กินได้" ตัวอย่างเช่น แครอทสามารถพัฒนาให้ทำหน้าที่เป็นวัคซีนที่ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่หรือโรคอื่น ๆ รวมทั้งสามารถพัฒนาเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมที่อ่อนโยนได้
D & T Farm ในจังหวัดโอะกะยะมะ ตั้งอยู่ทางใต้ของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้พัฒนากล้วยที่สามารถทานได้ทั้งเปลือก ถูกตั้งชื่อว่า
The Mongee Banana เป็นกล้วยที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจาก DNA กล้วยโบราณ
โดยใช้เทคนิคพิเศษ “Freeze Thaw Awakening” ที่เหมือนย้อนไปยุคน้ำแข็งประมาณ 20,000 ปีก่อน เมื่อพืชเติบโตมาจากอุณหภูมิที่หนาวจัด พืชก็จะเติบโตเร็วกว่าปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกล้วยจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี จึงสามารถออกลูกทานได้ แต่วิธีนี้ทำให้กล้วยโตและออกผลได้ภายในเวลา 4 เดือน
อย่างไรก็ตาม The Mongee Banana สามารถวางจำหน่ายในท้องตลาดได้เพียงสัปดาห์ละ 10 ลูก ทำให้เป็นกล้วยที่มีราคาแพง โดยราคาตกลูกละ 648 เยน หรือราว 6 ดอลลาร์สหรัฐ ลักษณะของกล้วยเมื่อทานพร้อมกับเปลือกจะหวานกว่ากล้วยปกติ
Cr.https://th.onlinedoctors24.com/4250058-dna-of-a-banana-and-a-man-comparison-similarities-and-differences-interesting-facts
Cr.http://www.nextsteptv.com/กล้วยที่สามารถทานได้ทั/
นักวิทยาศาสตร์พบว่า แมลงวัน ก็รู้จักหายากินรักษาโรคปรสิตเช่นกัน อย่างแรกแมลงวันผลไม้มีศัตรูคู่อาฆาตคือ ตัวต่อ โดยตัวต่อจะจะแอบมาฝังไข่ในตัวอ่อนหนอนแมลงวันเพื่อใช้แมลงวันเป็นโรงอาหารเคลื่อนที่สำหรับตัวอ่อนของตัวต่อที่จะฟักออกมา และกัดกินแมลงวันจากภายใน
แมลงวันผลไม้เองก็ไม่นอนรอความตาย เมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า แมลงวันผลไม้จะเสาะหาแหล่งอาหารที่ประกอบไปด้วย เอทานอล(Ethanal) เพื่อใช้เป็นยาฆ่าปรสิตที่อยู่ในกระแสเลือดขอพวกมัน เอทานอลพวกนี้มีผลต่อแมลงวันเล็กน้อย แต่มีผลถึงตายต่อปรสิตตัวต่อ
โดยด็อกเตอร์ Todd Schlenke กล่าวว่า "เราค้นพบแอลกอฮอลตามธรรมชาติ สามารถปกป้องแมลงวันผลไม้จากปรสิตตัวต่อได้ โดยเมื่อแมลงวันผลไม้ติดปรสิต พวกมันจะกินแอลกอฮอล์เพื่อใช้ฆ่าปรสิตในตัว ใครจะรู้พวกมันอาจจะสอนให้เรารู้จักวิธีกต่อสู้กับปรสิตก็ได้ใครจะรู้" ผลงานการวิจัยนี้ตีพิมพ์ลงในวรสาร journal Current Biology โดยทำการศึกษาในแมลงวัน Drosophila melanogaster
ที่มา Credit: http://wowboom.blogspot.com
Cr.https://www.clipmass.com/story/42606
(นักวิทยาศาสตร์บอกว่า ไก่ เช่น ไก่เหล่านี้ในฟาร์มของแมตต์ ซีเกล ในรัฐไวโอมิง มีการรับรู้ขั้นสูง พวกมันอาศัยอยู่ในสังคมที่มีลำดับชั้น นับจำนวนและคำนวณคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานได้ และน่าจะรับรู้อารมณ์ ตั้งแต่ความเบื่อหน่ายและความคับข้องใจไปจนถึงความสุข)
ไก่เริ่มต้นมาจากไก่ป่า มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gullus Gallus ซึ่งเป็นไก่พื้นเมืองชนิดหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นับเป็นสัตว์ปีกเลือดอุ่น มีการรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้สูงและคงที่ตลอดเวลา อยู่ที่ประมาณ 40.6 - 41.7 องศาเซลเซียส ร่างกายปกคลุมด้วยขน ขนาดตัวกะทัดรัด กระดูกมีน้ำหนักเบา เป็นสัตว์ที่มีอาการตื่นเต้นง่าย ชอบคุ้นเขี่ยอาหารตามพื้นดิน มีระบบประสาทไว โดยเฉพาะสายตาและหูจะใช้การได้ดีมาก
ไก่ เป็นสัตว์ปีกประเภทนก มีต้นตระกูลมาจากสัตว์เลื้อยคลาน ดังปรากฏพบหลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์ของนกชนิดแรกในโลก ที่แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน เมื่อปี ค.ศ. 1861 ซากดังกล่าวมีอายุประมาณ 130 ล้านปี และมีกระดูกหางยาว นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “ อาร์คีออพเทอริกซ์ ”
จาก “ อาร์คีออพเทอริกซ์ ” ได้พัฒนาการสืบทอดต่อกันมาจนกระทั่งกลายเป็นนกที่มีขนาดของรูปร่าง สี และอุปนิสัยที่แตกต่างกันออกไปกว่า 9,000 ชนิด สามารถจัดเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 27 อันดับ และ 1 ใน 27 อันดับ คือ Galliformes ซึ่งเป็นอันดับของ ไก่ป่า ไก่งวง ไก่ต๊อก ไก่ฟ้า ฯลฯ
Cr.https://www.dek-d.com/education/35923/
Cr.https://www.lib.ru.ac.th/journal/cock.html
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)