จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี อธิบายว่า รอมมะฎอน (อาหรับ: رمضان; อังกฤษ: Ramadan) หรือสะกด คือเดือนที่ 9 ของปฏิทินฮิจญ์เราะฮ์ใน
ศาสนาอิสลาม เป็นเดือนที่มุสลิมถือศีลอดทั้งเดือน ด้วยเหตุนี้จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "เดือนบวช" และถือว่าเป็นเดือนที่สำคัญที่สุดเดือนหนึ่ง
มุสลิมจะต้องอดอาหารเพื่อที่จะได้เข้าถึงอัลลอฮ์ และเพื่อให้มีความอดทน, การอุทิศส่วนกุศล ระลึกถึงภาวะขาดแคลนอาหาร และผู้ที่ไม่ได้รับ
การดูแลจากสังคม เช่น คนยากจน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเป็นเดือนที่อัลกุรอานได้ถูกประทานลงมาเป็นทางนำให้กับมนุษย์ มุสลิมจึงต้องอ่านอัลกุรอาน เพื่อศึกษาถึงสิ่งที่พระเจ้าต้องการ
ให้มนุษย์รู้ว่า การเป็นอยู่ในโลกนี้ และโลกหน้าจะเป็นอย่างไร จะต้องปฏิบัติธรรมะเพื่อตนเองอย่างไรบ้าง กิจกรรมพิเศษของมุสลิม คือการละ
หมาดตะรอเวียะฮ์ในยามค่ำของเดือนนี้
เดือนรอมฎอนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้ (23-24 เมษายน) ขณะที่ ที่กำลังมีการระบาดของโรค หวู่ฮัน ไวรัส (Covid-19 หรือ โคโรนาไวรัส)
ทำให้ชีวิตทั่วโลกเปลี่ยนวิถีทาง ไปจากปกติ ซึ่งทำให้มุสลิมต้องทบทวนประเพณีและหาแนวทางใหม่ๆ ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำ
คัญอย่างหนึ่งของศาสนาอิสลาม นั้นคือการถือศีลอด ตามปกติการถือศีลอดนี้อนุโลมให้กับผู้เดินทาง, ผู้ที่เจ็บป่วยที่การอดน้ำอดอาหารชั่วระยะ
หนึ่งจะทำให้เกิดผลร้ายต่ออาการป่วยของเขา และคนชราที่ มีสุขภาพ อ่อนแอไม่อาจจะทนต่อการอดน้ำอดอาหาร หรือการเปลี่ยนเวลาการกิน
อาหารได้
ในระหว่างการระบาดของโรคหวู่ฮันไวรัสนี้ นักวิชาการทางกฏหมายอิสลาม และแพทย์จากสถาบันต่างๆทั่วโลกอิสลามร่วมกันปรึกษา พิจารณาว่า
ควรจะงดการถือศีลอดหรือไม่ ทั้งนี้เพราะว่าจะทำให้ ลำคอแห้ง ทำให้ประสิทธิภาพของระบบทางเดินหายใจหย่อนประสิทธภาพในการขจัดเชื้อ
ไวรัสให้ออกจากร่างกาย, ถ้าไม่มีความจำเป็นจะบ้วนน้ำลาย ก็อย่าบ้วนจนคอแห้ง ในที่สุดก็ตกลงให้ถือศีลอดามปกติ แต่ถ้าหากว่ามีการพิสูจน์
ทางการแพทย์ว่า การถือศีลอดมีผลกระทบกระเทือนในการป้องกันการระบาดของ โรคหวู่ฮันไวรัสแล้วจะพิจารณากันต่อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทั้งนี้เพราะว่าในระบบทางเดินหายใจมีเยื่อบุทางเดินหายใจเรียกว่า Ciliated membrane ซึ่งมี cilia ลักษณะคล้ายเส้นขนโบกไปมาเพื่อกวาด
สิ่งแปกปลอมออกจากร่างกายโดยขับเคลื่อนน้ำเมือกผสมกับสิ่งแปลกปลอมหรือจุลินทีร์ซึ่งกลายเป็นเสมหะ
ดังนั้นการบ้วนน้ำลายหรือเสมหะจึงจำเป็นต้องระวังอย่าขากถ่มไปทั่ว และถ้ามีความจำเป็นจะต้อง ถ่มหรือบ้วนน้ำลายหรือเสมหะจะต้องบ้วนใส่
กระดาษเช็ดปากแล้วโยนทิ้งในภาชนะหรือถังขยะที่เตรียมไว้ อย่างถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของหวู่ฮันไวรัส (Covid-19)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับการละหมาดที่มัสยิด ถ้ามัสยิดไม่มีที่ละหมาดที่สามารถจะจัดระยะต่อระยะเคียง ให้ห่างกัน 6 ฟุตได้ ก็อย่าไปละหมาดร่วมกันที่มัสยิด ให้ทำ
การละหมาดที่บ้าน มุสลิมจะต้องร่วมมือกันกับทางสาธารณะสุขอย่างเข้มงวด ให้สมกับที่ประเทศทางอเมริกาและยุโรป ชมประเทศไทยว่า มีวิธีการ
ป้องกัน โรคหวู่ฮันไวรัส(Covid-19 หรือ โคโรนาไวรัส) ได้เป็น 1 ในอันดับ 10 ของโลก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มุสลิมต้องช่วยกันทำ "รอมฎอน"1441 – 1442. ให้มีความสุขกว่าทุกๆปี
ศาสนาอิสลาม เป็นเดือนที่มุสลิมถือศีลอดทั้งเดือน ด้วยเหตุนี้จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า "เดือนบวช" และถือว่าเป็นเดือนที่สำคัญที่สุดเดือนหนึ่ง
มุสลิมจะต้องอดอาหารเพื่อที่จะได้เข้าถึงอัลลอฮ์ และเพื่อให้มีความอดทน, การอุทิศส่วนกุศล ระลึกถึงภาวะขาดแคลนอาหาร และผู้ที่ไม่ได้รับ
การดูแลจากสังคม เช่น คนยากจน เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเป็นเดือนที่อัลกุรอานได้ถูกประทานลงมาเป็นทางนำให้กับมนุษย์ มุสลิมจึงต้องอ่านอัลกุรอาน เพื่อศึกษาถึงสิ่งที่พระเจ้าต้องการ
ให้มนุษย์รู้ว่า การเป็นอยู่ในโลกนี้ และโลกหน้าจะเป็นอย่างไร จะต้องปฏิบัติธรรมะเพื่อตนเองอย่างไรบ้าง กิจกรรมพิเศษของมุสลิม คือการละ
หมาดตะรอเวียะฮ์ในยามค่ำของเดือนนี้
เดือนรอมฎอนกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์นี้ (23-24 เมษายน) ขณะที่ ที่กำลังมีการระบาดของโรค หวู่ฮัน ไวรัส (Covid-19 หรือ โคโรนาไวรัส)
ทำให้ชีวิตทั่วโลกเปลี่ยนวิถีทาง ไปจากปกติ ซึ่งทำให้มุสลิมต้องทบทวนประเพณีและหาแนวทางใหม่ๆ ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำ
คัญอย่างหนึ่งของศาสนาอิสลาม นั้นคือการถือศีลอด ตามปกติการถือศีลอดนี้อนุโลมให้กับผู้เดินทาง, ผู้ที่เจ็บป่วยที่การอดน้ำอดอาหารชั่วระยะ
หนึ่งจะทำให้เกิดผลร้ายต่ออาการป่วยของเขา และคนชราที่ มีสุขภาพ อ่อนแอไม่อาจจะทนต่อการอดน้ำอดอาหาร หรือการเปลี่ยนเวลาการกิน
อาหารได้
ในระหว่างการระบาดของโรคหวู่ฮันไวรัสนี้ นักวิชาการทางกฏหมายอิสลาม และแพทย์จากสถาบันต่างๆทั่วโลกอิสลามร่วมกันปรึกษา พิจารณาว่า
ควรจะงดการถือศีลอดหรือไม่ ทั้งนี้เพราะว่าจะทำให้ ลำคอแห้ง ทำให้ประสิทธิภาพของระบบทางเดินหายใจหย่อนประสิทธภาพในการขจัดเชื้อ
ไวรัสให้ออกจากร่างกาย, ถ้าไม่มีความจำเป็นจะบ้วนน้ำลาย ก็อย่าบ้วนจนคอแห้ง ในที่สุดก็ตกลงให้ถือศีลอดามปกติ แต่ถ้าหากว่ามีการพิสูจน์
ทางการแพทย์ว่า การถือศีลอดมีผลกระทบกระเทือนในการป้องกันการระบาดของ โรคหวู่ฮันไวรัสแล้วจะพิจารณากันต่อไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดังนั้นการบ้วนน้ำลายหรือเสมหะจึงจำเป็นต้องระวังอย่าขากถ่มไปทั่ว และถ้ามีความจำเป็นจะต้อง ถ่มหรือบ้วนน้ำลายหรือเสมหะจะต้องบ้วนใส่
กระดาษเช็ดปากแล้วโยนทิ้งในภาชนะหรือถังขยะที่เตรียมไว้ อย่างถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของหวู่ฮันไวรัส (Covid-19)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับการละหมาดที่มัสยิด ถ้ามัสยิดไม่มีที่ละหมาดที่สามารถจะจัดระยะต่อระยะเคียง ให้ห่างกัน 6 ฟุตได้ ก็อย่าไปละหมาดร่วมกันที่มัสยิด ให้ทำ
การละหมาดที่บ้าน มุสลิมจะต้องร่วมมือกันกับทางสาธารณะสุขอย่างเข้มงวด ให้สมกับที่ประเทศทางอเมริกาและยุโรป ชมประเทศไทยว่า มีวิธีการ
ป้องกัน โรคหวู่ฮันไวรัส(Covid-19 หรือ โคโรนาไวรัส) ได้เป็น 1 ในอันดับ 10 ของโลก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้