มาดูกัน มาตราการลดค่าไฟ ช่วยใครกันแน่!!!

จากการระบาดของโรคโควิด-19 แล้วเห็นข่าวคนฆ่าตัวตายจำนวนมาก เพราะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล
แต่รัฐบาลออกมาตราการใช้ไฟฟรี-ลดค่าไฟ ใช้งบประมาณ 23,688 ล้านบาท ถ้าเอางบนี้มาแจกให้คน คนละ 5000 จะแจกได้
จำนวน 4,737,600 คน เกือบห้าล้านคน ซึ่งจะช่วยคนที่ไม่มีเงินแม้กระทั่งซื้อข้าวกินได้อีกมาก

เพราะมาตราการลดค่าไฟนั้นช่วยได้แค่คนบางกลุ่มเท่านั้นเอง มาดูกัน

มาตราการแรก
มิเตอร์ไฟขนาดไม่เกิน 5 แอมป์ จะได้ใช้ฟรี 150 หน่วย/เดือน > มาตราการนี้โอเค เพราะฟรีไปเลย 150 หน่วย

แต่มาตราการที่สอง
มิเตอร์ไฟขนาดเกิน 5 แอมป์ จะมีข้อกำหนด คือ 
- หากใช้มากกว่าเดือน ก.พ. แต่ไม่เกิน 800 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดือน ก.พ. 
- แต่หากใช้เกิน 800 หน่วย แต่ไม่เกิน 3,000 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดือน ก.พ. บวกจำนวนหน่วยที่เกินจากเดือนกุมภา ซึ่งได้รับส่วนลด 50% 
- และหากใช้เกิน 3,000 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดือน ก.พ. บวกกับส่วนที่เกินจากเดือนกุมภา ซึ่งได้รับส่วนลด 30% 
โดยการลดหย่อนดังกล่าวจะมีการคืนค่าใช้จ่ายให้ในรอบบิลถัดไป

มาตราการแบบนี้ไม่ช่วยให้เกิดการประหยัดการใช้พลังงาน ทำให้หลายคนคิดว่าต้องใช้ไฟให้เยอะขึ้นถึงจะเกิดความคุ้ม ถึงจะได้รับการช่วยเหลือ
แนวทางที่สามารถช่วยประชาชนได้จริงคือ ต้องกำหนดไปเลยว่าให้ใช้ฟรีได้กี่หน่วย ใช้เกินก็ชำระส่วนที่เกิน 

มาตราการที่เน้นให้ประชาชนใช้ไฟเยอะขึ้นเหมือนช่วยผู้ผลิตไฟฟ้าที่ขายให้รัฐมากกว่าประชาชน

ข้อมูลจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
กำลังผลิตของ กฟผ.มี 15424.83 เมกะวัตต์ คิดเป็น 33.83%
กำลังผลิตจากแหล่งอื่น (เอกชนรายใหญ่, เอกชนรายเล็ก, ซื้อจากต่างประเทศ) 30,171.04 เมกะวัตต์ คิดเป็น 66.17% ตามรูปด้านล่าง

ที่มา https://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=80&Itemid=116

ประชาชนใช้ไฟเยอะขึ้นรัฐก็ต้องจ่ายให้ผู้ผลิตเยอะขึ้น ซึ่งกำลังผลิตเอกชนคิดเป็นเปอร์เซนต์มากถึง 66.17%

และมาดูที่กำลังผลิตรวมซึ่งของ กฟผ. + กับเอกชน มี 45,595.87 เมกะวัตต์ แต่ปีนี้ใช้ไฟสูงสุดวันที่ 12 มี.ค. 63 
ใช้อยู่ที่ 28,636.70 เมกะวัตต์ ยังน้อยกว่าสูงสุดของปีที่แล้วคืออยู่ที่ 30,000 กว่าเมกะวัตต์ ตามรูปด้านล่าง

ที่มา https://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=348&Itemid=116

จะเห็นได้ว่ายอดสูงสุดของปีนี้น้อยกว่าปีที่แล้วอยู่ประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ และถ้าดูจากกำลังการผลิตยังเหลืออีกเกือบ 20,000 เมกะวัตต์
เพราะแบบนี้หรือเปล่ารัฐถึงออกมาตราการให้ประชาชนใช้ไฟเยอะขึ้น แล้วค่าไฟที่ใช้เยอะขึ้นก็เอาไปจ่ายให้ผู้ผลิต
แบบนี้ใครคือคนได้ประโยชน์ตัวจริง

ไม่ต่างอะไรกับมาตราการอินเตอร์เนตมือถือฟรี คนส่วนใหญ่จะเลือกใช้แพคเกจอินเตอร์เนตที่ตรงกับความต้องการใช้งานอยู่แล้ว
การให้กดรับสิทธิ์เพิ่มอินเตอร์เนต แล้วรัฐก็เอางบประมาณไปจ่ายให้ค่ายมือถือ เอางบส่วนนี้ไปรวมในงบแจก 5,000
แล้วรีบแจกให้ครบทุกคน ให้เร็วกว่าปัจจุบัน เพราะหลายคนไม่มีข้าวกินเค้าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ คนเนตไม่พอใช้ก็น่าจะ
ขวนขวายหามาเพิ่มเองได้ 

และงบที่สำคัญเลย งบดูงาน รัฐควรตัดให้เหลือ 0 ไปเลย ทั้งผู้ไปดูงานเอยผู้ติดตามเอย ช่วงนี้ไม่สามารถเดินทางได้อยู่แล้ว
จะตัดงบดูงานไม่ต้องคิดเยอะ ตัดให้หมด

จริงๆแล้วเงิน 5,000 ควรแจกให้ทุกคน ยกเว้น ข้าราชการ เพราะไม่ได้รับผลกระทบด้านเงินเดือน แล้วเปิดให้ลงทะเบียน
เฉพาะผู้ที่ต้องการช่วยชาติไม่รับเงิน 5,000 จะได้ไม่ต้องเสียเวลาตรวจสอบเป็นเวลานาน ทุกคนก็นำเงินไปใช้ตามความต้องการของตนเอง
ใครหิวจะได้เอาไปซื้อข้าวกิน ใครอยากจะเอาไปจ่ายค่าไฟก็เอาไปจ่ายได้เลย ใครจะซื้อเนตมือถือเพิ่มก็ตัดสินใจเอง
รัฐไม่ต้องคิดมากเลย