[CR] เที่ยวลังกาวี 2 วัน 1 คืน ด้วยงบ 4,000 2คนยังมีทอน

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมารีวิวการเดินทางท่องเที่ยวในลังกาวี แบบชิวๆกันนะครับ  ก่อนอื่นเลยเราต้องเดินทางไปที่ท่าเรือตำมะลัง จังหวัดสตูลก่อนครับ จากนั้นเราก็เดินเข้าไปในท่าเรือจะมีช่องจำหน่ายตั๋วอยู่ครับ ในการซื้อตั๋วจะต้องยื่นพาสปอร์ตให้ทางเจ้าหน้าที่ด้วยครับและเราสามารถซื้อตั๋วตอนกลับไว้ได้เลยครับแต่ต้องไปรับตั๋วที่ฝั่งลังกาวี ราคาตั๋วอยู่ที่เที่ยวล่ะ350บาทต่อคน เวลาเรือออกจะมีสองรอบครับคือ 9.00น. และ 15.30น. ผมเลือกเดินทางเวลา9.00น.
นี่คือตารางเวลาเรือออกครับ ส่วนเวลาตอนกลับจากลังกาวีที่เห็นในตารางคือเวลาไทยครับเราต้องบวกเพิ่มไปอีก1ชั่วโมงครับ อย่างเช่นเรือออก8.30น.ในตารางก็จะเป็นเวลา9.30น.จากฝั่งลังกาวีครับ 
เมื่อได้ตั๋วเรียบร้อยแล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่นำมาให้พร้อมกับใบตม.ซึ่งเราต้องยื่นให้เจ้าหน้าที่พร้อมพาสปอร์ตในด่านตม.ฝั่งลังกาวี ประเทศมาเลเซียครับ ใบตม.อันนี้เราสามารถเขียนเองได้ครับแต่ถ้าใครไม่มั่นใจให้เจ้าหน้าที่ช่องขายตั๋วเขียนให้ก็ได้ครับจะมีค่าบริการเขียนให้5 บาท เมื่อเราเขียนเรียบร้อยแล้วเราก็มาแลกตังค์กันครับซีงเรทตอนที่ผมไปจะอยู่ที่1บาท เท่ากับ 7.50 ริงกิต สามารถแลกได้เลยครับที่ท่าเรือจะมีเคาร์เตอร์รับแลกอยู่ครับ ซึ่งเรทก็จะเท่ากันกับฝั่งลากาวีบางวันอาจจะต่างกันแต่ไม่กี่สตางค์ครับ ผมตัดสินใจแลกจากท่าเรือไปหมดเลยครับ3,000ไทย
เมื่อแรกเงินเรียบร้อยแล้วก็รอเวลาเรือออกครับ
ระหว่างนั่งรอก็หิวสิครับรออะไร ด้านหลังที่จำหน่ายตั๋วจะมีร้านขายอาหารและน้ำอยู่ครับ ผมก็ไม่รอช้าจัดการกินเป็นที่เรียบร้อย ราคาอาหารก็ไม่แพงนะครับถือว่ากินได้ข้าวราดแกงอย่าง50 บาท น้ำแก้วล่ะ20 บาท เมื่อทานเสร็จเรียบร้อยก็มานั่งรอสักแปบก็ได้เวลาขึ้นเรือ ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ1ชั่วโมง 15นาที ก่อนขึ้นเรือก็ต้องผ่านตม.ก่อนครับ ผ่านตม.มาเรียบร้อยก็ไปกันเลย
บรรยากาศในเรือครับ เป็นเรือติดแอร์เย็นสบาย มีห้องน้ำในตัวเหมือนห้องน้ำบนเรือแบบทั่วๆไปเลยครับ ขึ้นมาสักพักก็หลับสิครับยาวๆไปจนมาถึงท่าเรือเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย ดูโทรศัพท์สัญญาณไม่มีสิครับ เราก็ลงจากเรือเดินเข้าท่าเรือเพื่อผ่านตม.กันครับ
หลังจากผ่านตม.มาแล้วอันดับแรกเลยเราก็ต้องหาซื้อซิมครับเดินออกจากท่าเรือมาซ้ายมือจะมีร้านโทรศัพท์อยู่ครับ แต่ปรากฎว่าพอจะซื้อซิมที่เราต้องการมันลงทะเบียนไม่ได้ระบบเค้าล่ม เราเลยบอกเค้าว่าเอาซิมไหนก็ได้ถ้าอย่างนั้นเค้าบอกว่ามันมีอีกซิมนึงแต่มันได้เน็ตแค่2 GB เค้าคิดว่ามันน้อยไปเค้าเลยแนะนำให้ไปซื้อที่เซเว่น ซึ่งคนที่นี้ภาษาอังกฤษแน่นอนครับได้อยู่แล้ว เราเองก็พอได้บ้างอันไหนไม่ได้ภาษามือเลยครับง่ายสุด555 จากนั้นเราก็เดินออกมาตรงทางออกครับระหว่างทางออกก็จะมีร้านค้า ร้านอาหารเยอะแยะมากมายเลยครับ เป็นท่าเรือที่หรูหราอีกท่าเรือนึงเลยก็ว่าได้ เดินผ่านร้านค้า ร้านอาหาร Duty Free มาสักพักนึงก็จะเห็นทางออกครับฝั่งซ้ายมือจะเป็นเซเว่น ฝั่งขวามือจะเป็นร้านเคเอฟซี ด้านหลังเคเอฟซีคือช่องที่เราจะไปรับตั๋วเรือขากลับกันครับ แต่ตอนนี้เราไปเซเว่นก่อรครับเพื่อซื้อซิมการ์ด เป็นซิมอินเตอร์เน็ตแบบไม่จำกัด ราคาประมาณ120-130บาทนี่แหละครับเป็นเงินไทย แต่จ่ายด้วยเงินมาเลผมไม่แน่ใจว่าสกี่ริงกิตแล้วครับเอาเป็นว่าราคาไม่แพงครับ ซื้อเสร็จพนักงานเซเว่นลงทะเบียนเปิดใช้งานให้ด้วยครับ บริการดีมาก เราก็เอาโทรศัพท์ให้เค้าทำสักพักเค้าก็เรียกเพื่อนเค้ามาให้เอาโทรศัพท์อีกเครื่องมาเทียบกันเราก็ลืมไปว่าโทรศัพท์เราเป็นภาษาไทยเค้าอ่านไม่ออก555 เราเลยบอกว่าเราเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษให้ไหมเค้าว่าไม่เป็นไร น่ารักมากครับ พอเสร็จแล้วเราก็เดินออกมาแล้วบอกว่าขอบคุณครับเค้าก็บอกว่าด้วยความยินดีครับ เราก็มาที่หลังร้านเคเอฟซีเพื่อจะแลกตั๋วขากลับในวันพรุ่งนี้ครับ ซึ่งเราได้ซื้อมาแล้วจากฝั่งไทย
นี่ครับช่องแลกตั๋วฝั่งลังกาวี เราก็ยื่นในสลิปให้เค้าครับ เค้าก็จะออกตั๋วมาให้เหมือนตั๋วขามาจากฝั่งไทยครับ และด้านหลังนี้ก็จะมีช่องขายตั๋วเยอะแยะมากมายเลยครับ และมีช่องเช่ารถอยู่ด้วย เราเช่ารถจากตรงนี้เลยครับ ตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซต์ครับเพราะมาแบบประหยัด ทางร้านขอแค่ใบขับขี่ใบเดียวครับไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซต์หรือรถยนต์ เสร็จแล้วก็จะมีใบเสร็จมาให้ครับมีค่ามัดจำ50 ริงกิตได้คืนตอนมาคืนรถส่วนค่าเช่ารถตอนแรกเค้าบอก40 ริงกิต เราต่อได้35 ริงกิตก็ถือว่าโอเครครับได้อยู่เป็นเงินไทยก็ประมาณ200 กว่าบาท หลังจากนั้นเราก็แว๊นกันเลยครับ อ่อลืมไปว่าลืมถามปั๊มน้ำมัน ร้านเช่ารถบอกว่าออกจากท่าเรือไปไฟแดงแรกตรงไป ไฟแดงที่2 เลี้ยวขวา ขับไปสักพักก่อนถึงไปแดงจะมีจุดกลับรถและปั๊มน้ำมันจะอยู่ขวามือ ขับตามที่เค้าบอกไปครับก็ถึงปั๊มน้ำมัน น้ำมันที่นี้ถูกมากๆครับ แต่เป็นแบบเติมเองครับ เดินไปบอกเค้าว่าช่องที่เท่าไหร่ตู้ไหน เติมเท่าไหร่ จากนั้นก็จ่ายตังค์และมาเป็นเด็กปั๊มวันนึงครับเติมน้ำมันเอง ผมเติมแค่5 ริงกิตเองครับเต็มถังขับสองวันจนเอารถมาคืนยังไม่ต้องเติมใหม่เลยครับ จากนั้นเราก็หาที่เที่ยวกันครับเพราะโรงแรมที่เราจองมาเค้าให้เช็คอินได้ตอนบ่าย3 ครับ เราเลยไปเที่ยวกันก่อน เราเปิดกูเกิ้ลแมพ เลยครับไปเคเบิ้ลคาร์กันก่อนเลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของที่นี้เลยครับ ใครมาก็ต้องมาเช็คอินกันที่นี้ครับ เจอแล้วก็แว๊นกันเลย ใช้เวลาแว๊นสักพักก็มาถึงเคเบิ้ลคาร์ครับ
ด่านล่างของเคเบิ้ลคาร์ก็จะเป็นหมู่บ้านชื่อ Oriental Village ในหมู่บ้านก็จะมีร้านขายของ ร้านอาหารเยอะแยะมากมาย
มาถีงแล้วเราก็เดินเข้าไปกันเลยครับมีสถานที่ให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลยครับ จนถึงตอนนี้เรายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกันเลยครับแต่มันก็ยังไม่หิวเพราะยังสนุกกับการเที่ยวอยู่เราเลยคิดกันว่ากินทีเดียวตอนเย็นเลยแล้วกันระหว่าทางที่เดินไปก็มีตู้กดน้ำเราเลยกดน้ำกินกันคนล่ะ1 กระป๋อง
กดน้ำเสร็จก็แวะถ่ายรูปสักหน่อยเห็นสะพานสีแดงมันสวยดี 
จากนั้นเราก็เดินมุ่งหน้าไปช่องจำหน่ายตั๋วขึ้นเคเบิ้ลคาร์กันเลยครับครับ ราคาตั๋วอยู่ที่คนล่ะ70 ริงกิตครับ ได้ตั๋วมาแล้วก็ขึ้นมาชมความสวยงามกันเลยครับ
ขึ้นมาสักพักก็จะเห็นความสวยงามของหมู่เกาะน้อยใหญ่ทั่วทั้งลังกาวีเลยครับ
และแล้วเราก็มาถึงจุดพักจุดแรกครับที่เค้าจะให้ลงแล้วมาถ่ายรูป ดูวิว ทิวทัศน์ ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ร้อนมากบอกเลยแต่ก็ไม่ได้หวั่นไหวเพราะคนรักในการเดินทางท่องเที่ยวทำได้หมด555 เรื่องความดำค่อยว่ากันทีหลังแต่บอกเลยว่าสวยมากครับคุ้มค่ากับราคาตั๋วมั้ง(แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน)
เมื่อเราชมวิวกับเรียบร้อย ได้รูปสวยๆกันพอสมควรแล้ว เราก็เดินมาขึ้นกระเช้าไปข้างบนกันต่อได้เลยครับ และข้างบนเราจะต้องเสียเพิ่มอีกครับเพื่อไปชมสะพาน Sky Bridge สำหรับคนที่ไม่ต้องการเสียเยอะคือเสียเพิ่มคนล่ะ5 ริงกิตแต่ต้องเดินลง และเดินขึ้นครับเป็นเส้นทางธรรมชาติลงไปถึงสะพานเลยครับ ส่วนอีกราคานึงคือ15 ริงกิตครับ เป็นเป็นรถรางครับก็จะสบายหน่อย เราตกลงกันอยู่สักพักว่าจะลงไปแบบไหนเพราะตอนแรกในใจคิดว่าเค้ารวมหมดแล้วมั้งค่าตั๋ว แต่พอมาเก็บเพิ่มอีกก็คิดแปบนึง แต่ไหนๆก็มาแล้วเราไม่ได้มาเที่ยวทุกวันในการไปเที่ยวทุกครั้งจะคิดแบบนี้ เลยเลือกขึ้นรถรางลงไปครับ ก่อนขึ้นก็ต้องไปซื้อตั๋วก่อนครับจะมีช่องจำหน่ายตั๋วอยู่ เสร็จแล้วมารอสักแปบก็ได้ขึ้นครับ
มาถึงแล้วครับสะพาน
ตรงกลางสะพานจะเป็นกระจก
ถ่ายรูปกันสักพัก เดินเล่น ก็ได้เวลาลงกลับครับ
ระหว่างทางลงกลับก็จะมีวิวธรรมชาติ ต่างๆนาๆให้ได้ชมกันครับ
และแล้วเราก็นั่งลงมาถึงด่านล่างครับ  
จากนั้นเราก็ไม่เข้า Sky Rex ซึ่งด้านในนี้เค้าห้ามถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ แต่มันจะเป็นเหมือนหนังสามมิติ ที่ให้เราขึ้นนั่งบนรถ และสวมใส่แว่นตาสามมิติ ซึ่งรถก็จะมีการเคลื่อนตัวจริง เสมือนจริงทุกอย่าง ชอบมากๆ สนุกดี ลุ้นๆไปด้วย 
ต่อมาเราก็มาที่ Sky Dome ซึ่งก็จะเหมือนกับ Sky Rex ห้ามถ่าย แต่อันนี้จะเป็นการดูดาว ระบบสุริยะจักรวาล ในแบบสามมิติ นอนดูในโดมที่เป็นครึ่งวงกลม
หลังจากนั้นเราก็ไปที่ 3D Art อันนี้ถ่ายรูปได้ ซึ่งทั้งหมดนี้จะรวมอยู่ในตั๋วครั้งแรกที่เราซื้อขึ้นเคเบิ้ลคาร์ เรามาถึง3D Art ก็ต้องถอดรองเท้าเก็บใส่ถุงฝากไว้ และเก็บตั๋วไว้มารับคืนอีกฝั่ง สามารถใส่รวมกันได้กรณีไปหลายคน เสร็จแล้วก็เข้ามากันเลย
เอาให้ดูบางส่วนแล้วกันครับ ข้างในใหญ่โตมากครับมีที่ให้ถ่ายรูปเยอะ หลังจากนั้นเราก็ไปโรงแรมที่จองไว้กันครับ เราจองโรงแรมผ่านทาง Agoda ในราคา490 บาทรวมอาหารเช้า เราพักที่ Chill Box Langkawi มาเช็คอินเสร็จทางโรงแรมก็จะให้เลือกอาหารเช้าซึ่งเป็นแบบเซ็ท มีขนมปัง ไข่ต้ม มีข้าวถือว่าโอเครเลยครับกับราคาห้องแค่490 บาท อ่อลืมบอกไปว่าที่พักที่นี้ทุกแห่งจะมีค่าภาษีหรือค่าธรรมเนียมที่ต้องเก็บเพิ่มต้องเช็คอินอีก75 บาทครับนอกเหนือจากค่าห้องพัก เรามาดูห้องพักกันเลยครับ
นี้ครับห้องพักของเราก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคามากๆเลยครับ มีครบทุกอย่าง เสร็จแล้วเราก็อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อที่จะออกไปหาอะไรทานกันครับ
อาบน้ำแปลงร่างเรียบร้อยแล้วครับ ไปกันเลย เด่วมาต่อครับ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวlangkawi เมืองเสน่ห์ต้องมนต์ขลัง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่