วิธีรับมือกับความเครียดในยุคโควิด-19

วิธีรับมือกับความเครียดในยุคโควิด-19
 
     พี่หมอเชื่อว่าตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเด็กและผู้ใหญ่ก็คงจะรู้สึกเครียดไม่ต่างกัน เพราะคงไม่มีใครคาดคิดว่าโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบที่รุนแรงได้ถึงขนาดนี้  ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การงาน หรือแม้กระทั่งหน่วยเล็กที่สุดอย่างครอบครัวก็ยังสะเทือนไปด้วย เรียกได้ว่าการเกิดขึ้นของโรคระบาดเพียงโรคเดียวสามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตประจำวันของเราไปได้อย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว คนทำงานบางส่วนก็ต้องเปลี่ยนมาทำงานที่บ้านแทนการไปออฟฟิศอย่างเคย ในขณะที่เด็กๆ ก็ต้องเปลี่ยนมาเรียนและทำกิจกรรมต่างๆ ทางออนไลน์แทน ซึ่งถ้าเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เราก็อาจจะไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่ยิ่งนานวันเข้า การต้องติดอยู่บ้านเพียงอย่างเดียวก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกอีกต่อไป  
ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนสามารถผ่านพ้นภาวะวิกฤตนี้ไปได้ พี่หมอจึงมีวิธีรับมือกับความเครียดในช่วงที่โรคโควิด-19กำลังระบาดมาฝากกันในวันนี้ครับ 
 
แนวทางสำหรับผู้ใหญ่ 
 
     · ถ้ารู้สึกเครียด สับสน หรือกลัวจนทำให้รู้สึกโกรธหรือเศร้า ก็ให้พูดคุยกับคนที่เราไว้ใจได้ เช่น เพื่อนหรือคนในครอบครัว เพื่อแบ่งปันความรู้สึกและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน จะได้รู้สึกสบายใจขึ้น
     · ถ้าต้องอยู่บ้านและไม่สามารถออกไปไหนได้ ก็ให้เปลี่ยนช่วงเวลานี้ให้เป็นช่วงเวลาที่มีคุณภาพที่สุด เช่น ดูแลรักษาสุขภาพ โดยการออกกำลังกายแบบง่ายๆ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ จัดหรือทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อย พูดคุยกับคนในครอบครัว หรือโทรหาญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง เพื่อส่งกำลังใจให้กันและกัน 
     · ลด ละ อบายมุขต่างๆ รวมถึงไม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า หรือใช้ยาเสพติด แต่ถ้ารู้สึกสับสนหรือเครียดมากๆ พี่หมอแนะนำให้ไปพูดคุยหรือขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ หรือนักจิตวิทยา จะดีกว่านะครับ คุณหมอจะได้ช่วยแก้ปัญหาให้อย่างตรงจุด
     · หาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อประเมินความเสี่ยงของตนเอง รวมถึงศึกษาวิธีดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม เช่น เว็บไซต์ขององค์การอนามัยโลก หรือข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขที่มีการอัพเดทอยู่ตลอดเวลา และควรตรวจสอบข้อมูลที่ได้รับก่อนที่จะเชื่อหรือบอกต่อคนอื่น โดยเฉพาะข่าวลือต่างๆ ที่มักจะเผยแพร่อยู่ในโซเชียลมีเดีย 
     · จำกัดเวลาในการดูหรือฟังข่าว โดยอาจเลือกแค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของวัน เพื่อลดความวิตกกังวลและความกระวนกระวายใจ เพราะถ้ายิ่งเสพข่าวเยอะ เราก็จะยิ่งเครียดและไม่สบายใจมากขึ้น 
     · นำประสบการณ์ที่เคยใช้จัดการความทุกข์ในอดีตมาช่วยจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกในช่วงเวลานี้ พี่หมอแนะนำให้ลองนั่งสมาธิ สวดมนต์ และแผ่เมตตาดูนะครับ แค่วันละ 5-10 นาที ก็จะช่วยให้จิตใจสงบได้ 
 
แนวทางสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพื่อช่วยให้เด็กสามารถรับมือกับความเครียดได้
         
     · เมื่อเด็กๆ เครียดก็อาจจะมีวิธีการแสดงออกที่ต่างกัน เช่น เรียกร้องความสนใจมากขึ้น แสดงความวิตกกังวลให้เห็น แยกตัว โกรธ กระวนกระวายใจ หรือบางครั้งอาจมีปัสสาวะรดที่นอนได้ พ่อแม่จึงควรทำความเข้าใจและตอบสนองในทางที่สนับสนุนต่อปฏิกิริยาของลูกๆ โดยรับฟังความกังวลของเขาและไม่ตำหนิติเตียนหรือลงโทษด้วยความรุนแรง
     · เด็กๆ ยังต้องการความรักและความห่วงใยจากพ่อแม่ผู้ปกครอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ พ่อแม่จึงควรให้เวลาและความใส่ใจกับลูกๆ มากเป็นพิเศษ โดยการใช้คำพูดที่อ่อนโยนและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูก และอาจจะหากิจกรรมที่ช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายมาทำร่วมกัน เช่น ทำสวน ทำอาหาร ประดิษฐ์ของเล่น เป็นต้น 
     · พยายามให้เด็กอยู่ใกล้กับพ่อแม่ผู้ปกครองและครอบครัวให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการแยกเด็กออกจากผู้ปกครอง ยกเว้นกรณีที่จำเป็นจริงๆ เช่น ถ้าต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก็ควรติดต่อกันเป็นประจำ เพื่อให้เด็กๆคลายความกังวล
     · ให้เด็กๆ ทำกิจวัตรประจำวันเหมือนช่วงเวลาปกติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้เค้ารู้สึกว่าถูกขังอยู่แต่ในบ้าน หรืออาจจะสร้างกิจวัตรประจำวันใหม่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ เพื่อไม่ให้เด็กๆ เกิดความเบื่อหน่าย 
     · บอกเล่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบันให้เด็กได้รับรู้เพื่อให้เด็กๆ เข้าใจ เช่น ถ้ามีสมาชิกในครอบครัวเริ่มรู้สึกไม่สบายก็อาจจะต้องพาไปโรงพยาบาล  เพราะคุณหมอจะสามารถรักษาให้หายได้และให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรค โดยใช้คำศัพท์ที่เหมาะกับอายุ เพื่อให้เด็กๆ สามารถทำตามได้
 
     ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ พ่อแม่เองก็ต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะปรับตัวและปล่อยวาง ลดความคาดหวังในตัวเองและลูกๆ
ลงบ้าง อยู่กับปัจจุบันให้เยอะๆ เพราะยังไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์นี้จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ดังนั้น ทัศนคติที่เราปลูกฝังให้กับลูกๆในช่วงเวลานี้จึงมีความสำคัญมาก เพื่อที่ในอนาคต หากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เขาก็จะสามารถรับมือได้ 
 
     พี่หมอเชื่อว่าฟ้าหลังฝนย่อมงดงามเสมอ ดังนั้น อดทนและให้กำลังใจซึ่งกันและกันนะครับ ยิ่งถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกมาให้คำแนะนำ อีกไม่นานพวกเราก็จะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ไปได้แน่นอน 
 
     เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ ❤ ❤ ❤
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่