สวัสดีค่ะ วันนี้ยุ้ยเพิ่งอ่านเจอข่าวน่าสนใจเกี่ยวกับท่าทีของรัฐบาลอเมริกากับองค์กรอนามัยโลก (WHO : World Health Organization) ที่เรียกได้ว่ามาถึงจุดแตกหักกันแล้วนะคะ ยังไงเดี๋ยวยุ้ยจะสรุปให้ทุกคนอ่านง่ายๆ เป็นข้อๆ ดังนี้นะคะ

รูปภาพ : ซ้าย - ประธานาธิบดี ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ขวา : นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ประธาน องค์การอนามัยโลก
ก่อนอื่นเลย ยุ้ยจะขอจะเริ่มต้นจะท้าวความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอเมริกากับองค์กรอนามัยโลก (WHO : World Health Organization) กันก่อนนะคะ
1. องค์กรอนามัยโลก The World Health Organization (WHO) ถูกตั้งขึ้นเมื่อ ปีค.ศ. 1948 เป็นหน่วยงานเฉพาะของสหประชาชาติโดยมีอำนาจหน้าที่ในการประสานงานกับปัญหาสุขภาพระหว่างประเทศ
2.ประเทศสหรัฐอเมริกา(รัฐบาลของอเมริกา) มีพันธะสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานกับองค์การอนามัยโลก(WHO) อย่างเช่น ให้การสนับสนุนทางการเงินและ รวมถึงการมีส่วนร่วมในโครงสร้างการกำกับดูแล เป็นต้น
จากแผนภาพ จะเป็นกราฟข้อมูลของเงินทุนแต่ละประเทศที่ให้เงินสนับสนุนองค์กรอนามัยโลกในปี 2018-2019 เราจะเห็นได้ว่าไม่มีได้มีแค่ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ให้ทุนนี้เท่านั้นนะคะ แค่อเมริกา ให้เงินทุนมากกว่าประเทศอื่นๆ เท่านั้นเองค่ะ(ตอนแรกเราก็เข้าใจว่า ประเทศสหรัฐเค้าเนี่ย เป็นประเทศเดียวที่ให้เงินสนับสนุนWHO)

ที่มา :
https://www.kff.org/global-health-policy/fact-sheet/the-u-s-government-and-the-world-health-organization/
3. ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดให้กับองค์การอนามัยโลก
จริงๆแล้วเงินทุนที่องค์กรอนามัยโลกได้มาของแต่ละประเทศ จะมีอยู่สองทาง คือ
แถบสีเขียวอ่อน(Assessed) = เงินจากที่รัฐบาลให้ ของประเทศสมาชิก (จะเรียกง่ายๆว่าเป็นค่าธรรมเนียมราย2ปีค่ะ) ซึ่งคำนวณจากความร่ำรวยและจำนวนประชากรของประเทศสมาชิก
แถบสีเขียวเข้ม (Voluntary) = เงินบริจาคจากองค์กรต่างๆ อย่างเช่น องค์กร, เอกชน เป็นต้น
4. เมื่อเร็ว ๆ นี้ WHO ได้เผชิญกับปัญหา อย่างเช่น การทำภารกิจที่มีเงินทุนจำกัด และความซับซ้อนของระบบราชการ มันได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพและการจัดการ ต่อการระบาดของโรคโควิด-19
5.องค์การอนามัยโลกได้ช่วยเหลือประสานงานกับทั่วโลกเกี่ยวกับ COVID-19 ซึ่งในวันที่ 30 มกราคมและการระบาดใหญ่ทั่วโลกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563ได้ประกาศว่าเป็นเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของทั่วโลก(PHEIC)
PHEIC ย่อมาจาก Public Health Risk to other States through the International spread of disease.
หมายเหตุ : ภาพด้านบนนี้เป็นภาพ ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อพุ่งเกิน SARS ไปไกลมากแล้ว ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าเอากราฟนี้มาเทียบผู้ติดเชื้อตอนนี้จะห่างกันแบบไหนนะคะ
ที่มา :
https://www1.racgp.org.au/newsgp/clinical/how-does-coronavirus-compare-with-previous-global
6. ในเดือนเมษายน(เดือนนี้) ทำเนียบขาวประกาศว่า จะทำการระงับสนับสนุนทางการเงินแก่องค์การอนามัยโลก ซึ่งจริงๆ ตอนนี้ตัวเงินนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบกิจกรรมขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของ COVID-19 โดยประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าสหรัฐฯมีส่วนร่วมในการให้เงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลก ในช่วง 10ปีที่ผ่านมาคิดเป็น 107 ถึง 119 ล้านดอลลาร์
นอกจากนั้นสหรัฐอเมริกาได้บริจาคเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมโดยองค์การเอกชนซึ่งมีมากถึง 102 ดอลลาร์ถึง 401 ล้านดอลลาร์ต่อปี(3,000 - 12,000 ล้านบาทต่อปี)
ที่มาของข่าว :
https://www.kff.org/global-health-policy/fact-sheet/the-u-s-government-and-the-world-health-organization/
ทรัมป์หยุดส่งเงินกับองค์กรอนามัยโลก
อย่างที่เราพอจะทราบข่าวกันแล้วว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(14 เมษายน 2663) ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศออกมาว่าเขาได้ทำการหยุดการให้เงินสนับสนุนกับองค์กรอนามัยโลก(World Health Organization) ในระยะช่วงเวลา 60 ถึง90 วัน
โดยอ้างว่า คณะกรรมการการบริหารของทรัมป์ได้ทบทวนการทำงานของWHO ในช่วงที่มีโรคระบาดโคโรน่า ชี้ว่าWHO ทำงานผิดพลาดในเรื่องของการจัดการบริหาร และ ได้ข้างข้างจีนโดยการปกปิดการแพร่ระบาดของไวรัส
โดยประธาน WHO ได้ออกมาตอบโต้สั้นๆว่า "อย่าเอาเรื่องการเมืองมาปนกับเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้ เพราะว่าจะทำให้ทุกอย่างพังกันไปหมด"
ที่มา :
https://www.npr.org/sections/goatsandsoda/2020/04/15/834666123/trump-and-who-how-much-does-the-u-s-give-whats-the-impact-of-a-halt-in-funding
ความคิดเห็นส่วนตัวผู้เขียนนะคะ
การได้ทุนสนับสนุนของWHOอ่ะค่ะ เค้าจะได้เงินสนับสนุน ทุกๆ 2 ปี อย่างปี2018-2018 ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้ให้ทุน สนับสนุนกะWHOไป ทั้งสิ้น 893 ล้านดอลล่าร์ค่ะ แยกออกมาเป็น ของรัฐบาลที่ให้เงินสนับสนุนเป็น 237ล้านดอลลาร์ และเงินให้เปล่าจากองค์กรเอกชนต่างๆเป็น 656ล้านดอลลาร์ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า เงินจากรัฐบาลให้WHOน้อยกว่าที่เอกชนเค้าให้ซะอีกค่ะ
แต่ว่านะคะ ประเทศที่มีความร่ำรวยและจำนวนระชากรที่มากอย่าง อเมริกา เงินที่รัฐบาลอเมริกาให้ไปก็คิด เป็น22% ของค่าธรรมเนียมทั้งหมด ส่วนจีนนั้นก็ให้เงินสนับสนุนไปเป็น 12% ของค่าธรรมเนียมทั้งหมด แล้วประเทศที่มีรายได้ต่ำก็จ่ายไปแค่ 0.1%ของค่าธรรมเนียมทั้งหมด
สรุปง่ายๆเลย ว่า รวมๆแล้วประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นให้เงินสนับสนุนแก่WHOเจ้าใหญ่ แต่ว่า WHO ไม่ได้ขึ้นกับเงินจากรัฐบาลอเมริกานะคะ แต่เป็นเงินจากองค์กรเอกชนชาติอเมกัน ค่ะ
ทรัมป์เตรียมทำสงครามกับองค์กรอนามัยโลก (WHO) : ยกเลิกการสนับสนุนทุกอย่างรวมไปถึงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาทในปีนี้อีกด้วย
รูปภาพ : ซ้าย - ประธานาธิบดี ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา
ขวา : นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ประธาน องค์การอนามัยโลก
ก่อนอื่นเลย ยุ้ยจะขอจะเริ่มต้นจะท้าวความเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอเมริกากับองค์กรอนามัยโลก (WHO : World Health Organization) กันก่อนนะคะ
1. องค์กรอนามัยโลก The World Health Organization (WHO) ถูกตั้งขึ้นเมื่อ ปีค.ศ. 1948 เป็นหน่วยงานเฉพาะของสหประชาชาติโดยมีอำนาจหน้าที่ในการประสานงานกับปัญหาสุขภาพระหว่างประเทศ
2.ประเทศสหรัฐอเมริกา(รัฐบาลของอเมริกา) มีพันธะสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนานกับองค์การอนามัยโลก(WHO) อย่างเช่น ให้การสนับสนุนทางการเงินและ รวมถึงการมีส่วนร่วมในโครงสร้างการกำกับดูแล เป็นต้น
จากแผนภาพ จะเป็นกราฟข้อมูลของเงินทุนแต่ละประเทศที่ให้เงินสนับสนุนองค์กรอนามัยโลกในปี 2018-2019 เราจะเห็นได้ว่าไม่มีได้มีแค่ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ให้ทุนนี้เท่านั้นนะคะ แค่อเมริกา ให้เงินทุนมากกว่าประเทศอื่นๆ เท่านั้นเองค่ะ(ตอนแรกเราก็เข้าใจว่า ประเทศสหรัฐเค้าเนี่ย เป็นประเทศเดียวที่ให้เงินสนับสนุนWHO)
ที่มา : https://www.kff.org/global-health-policy/fact-sheet/the-u-s-government-and-the-world-health-organization/
3. ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สนับสนุนที่ใหญ่ที่สุดให้กับองค์การอนามัยโลก
จริงๆแล้วเงินทุนที่องค์กรอนามัยโลกได้มาของแต่ละประเทศ จะมีอยู่สองทาง คือ
แถบสีเขียวอ่อน(Assessed) = เงินจากที่รัฐบาลให้ ของประเทศสมาชิก (จะเรียกง่ายๆว่าเป็นค่าธรรมเนียมราย2ปีค่ะ) ซึ่งคำนวณจากความร่ำรวยและจำนวนประชากรของประเทศสมาชิก
แถบสีเขียวเข้ม (Voluntary) = เงินบริจาคจากองค์กรต่างๆ อย่างเช่น องค์กร, เอกชน เป็นต้น
4. เมื่อเร็ว ๆ นี้ WHO ได้เผชิญกับปัญหา อย่างเช่น การทำภารกิจที่มีเงินทุนจำกัด และความซับซ้อนของระบบราชการ มันได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อแก้ไขปัญหาภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพและการจัดการ ต่อการระบาดของโรคโควิด-19
5.องค์การอนามัยโลกได้ช่วยเหลือประสานงานกับทั่วโลกเกี่ยวกับ COVID-19 ซึ่งในวันที่ 30 มกราคมและการระบาดใหญ่ทั่วโลกเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563ได้ประกาศว่าเป็นเหตุฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของทั่วโลก(PHEIC)
PHEIC ย่อมาจาก Public Health Risk to other States through the International spread of disease.
หมายเหตุ : ภาพด้านบนนี้เป็นภาพ ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อพุ่งเกิน SARS ไปไกลมากแล้ว ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าเอากราฟนี้มาเทียบผู้ติดเชื้อตอนนี้จะห่างกันแบบไหนนะคะ
ที่มา : https://www1.racgp.org.au/newsgp/clinical/how-does-coronavirus-compare-with-previous-global
6. ในเดือนเมษายน(เดือนนี้) ทำเนียบขาวประกาศว่า จะทำการระงับสนับสนุนทางการเงินแก่องค์การอนามัยโลก ซึ่งจริงๆ ตอนนี้ตัวเงินนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบกิจกรรมขององค์กรที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของ COVID-19 โดยประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าสหรัฐฯมีส่วนร่วมในการให้เงินสนับสนุนองค์การอนามัยโลก ในช่วง 10ปีที่ผ่านมาคิดเป็น 107 ถึง 119 ล้านดอลลาร์
นอกจากนั้นสหรัฐอเมริกาได้บริจาคเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมโดยองค์การเอกชนซึ่งมีมากถึง 102 ดอลลาร์ถึง 401 ล้านดอลลาร์ต่อปี(3,000 - 12,000 ล้านบาทต่อปี)
ที่มาของข่าว : https://www.kff.org/global-health-policy/fact-sheet/the-u-s-government-and-the-world-health-organization/
ทรัมป์หยุดส่งเงินกับองค์กรอนามัยโลก
อย่างที่เราพอจะทราบข่าวกันแล้วว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(14 เมษายน 2663) ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศออกมาว่าเขาได้ทำการหยุดการให้เงินสนับสนุนกับองค์กรอนามัยโลก(World Health Organization) ในระยะช่วงเวลา 60 ถึง90 วัน
โดยอ้างว่า คณะกรรมการการบริหารของทรัมป์ได้ทบทวนการทำงานของWHO ในช่วงที่มีโรคระบาดโคโรน่า ชี้ว่าWHO ทำงานผิดพลาดในเรื่องของการจัดการบริหาร และ ได้ข้างข้างจีนโดยการปกปิดการแพร่ระบาดของไวรัส
โดยประธาน WHO ได้ออกมาตอบโต้สั้นๆว่า "อย่าเอาเรื่องการเมืองมาปนกับเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้ เพราะว่าจะทำให้ทุกอย่างพังกันไปหมด"
ที่มา : https://www.npr.org/sections/goatsandsoda/2020/04/15/834666123/trump-and-who-how-much-does-the-u-s-give-whats-the-impact-of-a-halt-in-funding
ความคิดเห็นส่วนตัวผู้เขียนนะคะ
การได้ทุนสนับสนุนของWHOอ่ะค่ะ เค้าจะได้เงินสนับสนุน ทุกๆ 2 ปี อย่างปี2018-2018 ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ได้ให้ทุน สนับสนุนกะWHOไป ทั้งสิ้น 893 ล้านดอลล่าร์ค่ะ แยกออกมาเป็น ของรัฐบาลที่ให้เงินสนับสนุนเป็น 237ล้านดอลลาร์ และเงินให้เปล่าจากองค์กรเอกชนต่างๆเป็น 656ล้านดอลลาร์ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า เงินจากรัฐบาลให้WHOน้อยกว่าที่เอกชนเค้าให้ซะอีกค่ะ
แต่ว่านะคะ ประเทศที่มีความร่ำรวยและจำนวนระชากรที่มากอย่าง อเมริกา เงินที่รัฐบาลอเมริกาให้ไปก็คิด เป็น22% ของค่าธรรมเนียมทั้งหมด ส่วนจีนนั้นก็ให้เงินสนับสนุนไปเป็น 12% ของค่าธรรมเนียมทั้งหมด แล้วประเทศที่มีรายได้ต่ำก็จ่ายไปแค่ 0.1%ของค่าธรรมเนียมทั้งหมด
สรุปง่ายๆเลย ว่า รวมๆแล้วประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นให้เงินสนับสนุนแก่WHOเจ้าใหญ่ แต่ว่า WHO ไม่ได้ขึ้นกับเงินจากรัฐบาลอเมริกานะคะ แต่เป็นเงินจากองค์กรเอกชนชาติอเมกัน ค่ะ