คือเลิกคุยกับคนคุยมาได้สักพักใหญ่ๆแล้วค่ะ สถานะคุยแต่ไม่ได้คบ story ที่มีด้วยกันเหมือนแฟนเลยค่ะ (แต่ก็นั่นแหละค่ะไม่ได้คบ) ทำใจอยู่พักใหญ่ ก็มีคนเข้ามาคุยด้วยบ้างประปราย เข้าเรื่องเลยนะคะ
คือว่า มีคนเข้ามาคุยด้วยแบบเหมือนจะจริงจังเลยนะคะ คุยกันไปได้3-4วันก็นัดไปกินข้าวกัน พอได้เจอจริงๆเรารู้สึกอยากแยกตัวกลับบ้านอยู่ตลอดเวลา (คือฝั่งคนคุยเขาก็ดีนะคะไม่ได้ทำอะไรไม่ดี พยามหาเรื่องคุย เล่านั่นนี่ให้ฟังอยู่เรื่อยๆ แต่เรารู้สึกอึดอัดแบบบอกไม่ถูก เราก็ทำได้แต่ยิ้ม หัวเราะเหมือนฟังทั้งที่จริงๆก็ไม่ได้ตั้งใจฟังที่เขาพูดเท่าไหร่)วันแรกที่เจอก็ได้แค่ซื้อน้ำปั่น1แก้วแล้วแยกย้ายกันกลับค่ะ ก็คุยต่อแล้วนัดเจอกันแต่เราก็บ่ายเบี่ยงตลอด ไม่ว่างบ้าง ติดนั่น ติดนี่ มีธุระบ้างเพราะแค่ไม่อยากไป จนครั้งที่2หลังจากผ่านไปได้ 2-3วัน ก็ยอมไปเพราะเราคิดว่ามันคงจะไม่รู้สึกเหมือนครั้งแรกแต่ไม่เลยค่ะ เหมือนเดิม เราคิดว่ามันอาจจะเร็วไป มันรวบรัดเกินเลยบอกฝั่งนั้นไปตรงๆเขาก็ยอมปรับให้ จนนัดเจอกันครั้งที่3 เขาจะกลับไปอยู่บ้านเพราะที่ทำงานปิดเพราะโควิด-19 เลยจะเลี้ยงส่งเขา พอเจอกันเขาก็ลุกหนักขึ้นเริ่มมีการจับมือเดิน เอาแขนพาดไหล่ ลูบหัว แต่เรารู้สึกไม่ชอบ ตอนเขาขับมือก็รู้สึกอยากสลัดออก อยากเดินห่างๆเหมือนมาเป็นเพื่อนมันยังรู้สึกอึดอัดแต่ต้องปั้นหน้ายิ้มต่อไป แลเวก็แยกกันกลับมาคุยเหมือนเดิม ก็คิดเหมือนเดิมว่ามันอาจจะเพราะเป็นความสัมพันธ์ที่เร่งรัด รวบรัดมากเกินไปรึป่าว แล้วเราก็เลิกคุยไปโดยบอกกับเขาตรงๆ จบด้วยดีนะคะ
ความสัมพันธ์แรกทุกคนคิดว่าก็รู้นิว่าเพราะอะไรจะตั้งกระทู้ทำไม? ที่ตั้งเพราะว่าครั้งที่2มันเกิดจากคนใกล้ตัว ที่รู้จักกันมาได้ปีกว่า เที่ยวด้วยกัน ไปไหนด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน เราก็มีความรู้สึกชอบเขาอยู่แต่มันก็มีความรู้สึกแบบความสัมพันธ์แรกแต่แตกต่างกันตรงที่คนนี้มัน advance มากกว่า คือเขามีการกอด หอมแก้ม จุ้บหน้าผาก แต่เราไม่รู้สึกดี รึชอบเลย มันรู้สึกยังไงบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกรังเกียจที่ไม่ได้แปลว่า รังเกียจเขารึอะไรแบบนั้นอ่ะค่ะ มันเพราะอะไรกันคะ? มีใครพอเป็นบ้างมั้ยคะ? อยากรู้ว่ามันเกิดจากอะไร?! เพราะอะไร? ทำไม ยังไง คำถามเต็มหัวไปหมดเลยค่ะ เราอยากมีความรักมากเลยนะคะ แต่เพราะความรู้สึกแบบนี้ มันทำให้เราทำอะไรไม่ได้เลย มันแย่มากเลยค่ะ..... แชร์ประสบการณ์กันหน่อยนะคะ เผื่อเราจะรู้คำตอบ รึวิธีแก้ ขอบคุณที่เสียเวลาค่ะ
ปรึกษาค่ะ อยากทราบว่ามีใครเป็นเหมือนกันมั้ย?
คือว่า มีคนเข้ามาคุยด้วยแบบเหมือนจะจริงจังเลยนะคะ คุยกันไปได้3-4วันก็นัดไปกินข้าวกัน พอได้เจอจริงๆเรารู้สึกอยากแยกตัวกลับบ้านอยู่ตลอดเวลา (คือฝั่งคนคุยเขาก็ดีนะคะไม่ได้ทำอะไรไม่ดี พยามหาเรื่องคุย เล่านั่นนี่ให้ฟังอยู่เรื่อยๆ แต่เรารู้สึกอึดอัดแบบบอกไม่ถูก เราก็ทำได้แต่ยิ้ม หัวเราะเหมือนฟังทั้งที่จริงๆก็ไม่ได้ตั้งใจฟังที่เขาพูดเท่าไหร่)วันแรกที่เจอก็ได้แค่ซื้อน้ำปั่น1แก้วแล้วแยกย้ายกันกลับค่ะ ก็คุยต่อแล้วนัดเจอกันแต่เราก็บ่ายเบี่ยงตลอด ไม่ว่างบ้าง ติดนั่น ติดนี่ มีธุระบ้างเพราะแค่ไม่อยากไป จนครั้งที่2หลังจากผ่านไปได้ 2-3วัน ก็ยอมไปเพราะเราคิดว่ามันคงจะไม่รู้สึกเหมือนครั้งแรกแต่ไม่เลยค่ะ เหมือนเดิม เราคิดว่ามันอาจจะเร็วไป มันรวบรัดเกินเลยบอกฝั่งนั้นไปตรงๆเขาก็ยอมปรับให้ จนนัดเจอกันครั้งที่3 เขาจะกลับไปอยู่บ้านเพราะที่ทำงานปิดเพราะโควิด-19 เลยจะเลี้ยงส่งเขา พอเจอกันเขาก็ลุกหนักขึ้นเริ่มมีการจับมือเดิน เอาแขนพาดไหล่ ลูบหัว แต่เรารู้สึกไม่ชอบ ตอนเขาขับมือก็รู้สึกอยากสลัดออก อยากเดินห่างๆเหมือนมาเป็นเพื่อนมันยังรู้สึกอึดอัดแต่ต้องปั้นหน้ายิ้มต่อไป แลเวก็แยกกันกลับมาคุยเหมือนเดิม ก็คิดเหมือนเดิมว่ามันอาจจะเพราะเป็นความสัมพันธ์ที่เร่งรัด รวบรัดมากเกินไปรึป่าว แล้วเราก็เลิกคุยไปโดยบอกกับเขาตรงๆ จบด้วยดีนะคะ
ความสัมพันธ์แรกทุกคนคิดว่าก็รู้นิว่าเพราะอะไรจะตั้งกระทู้ทำไม? ที่ตั้งเพราะว่าครั้งที่2มันเกิดจากคนใกล้ตัว ที่รู้จักกันมาได้ปีกว่า เที่ยวด้วยกัน ไปไหนด้วยกัน เป็นเพื่อนกัน เราก็มีความรู้สึกชอบเขาอยู่แต่มันก็มีความรู้สึกแบบความสัมพันธ์แรกแต่แตกต่างกันตรงที่คนนี้มัน advance มากกว่า คือเขามีการกอด หอมแก้ม จุ้บหน้าผาก แต่เราไม่รู้สึกดี รึชอบเลย มันรู้สึกยังไงบอกไม่ถูก มันเป็นความรู้สึกรังเกียจที่ไม่ได้แปลว่า รังเกียจเขารึอะไรแบบนั้นอ่ะค่ะ มันเพราะอะไรกันคะ? มีใครพอเป็นบ้างมั้ยคะ? อยากรู้ว่ามันเกิดจากอะไร?! เพราะอะไร? ทำไม ยังไง คำถามเต็มหัวไปหมดเลยค่ะ เราอยากมีความรักมากเลยนะคะ แต่เพราะความรู้สึกแบบนี้ มันทำให้เราทำอะไรไม่ได้เลย มันแย่มากเลยค่ะ..... แชร์ประสบการณ์กันหน่อยนะคะ เผื่อเราจะรู้คำตอบ รึวิธีแก้ ขอบคุณที่เสียเวลาค่ะ