[SR] รีวิว Huawei P40 Pro กล้อง 4 ตัวจัดเต็ม จอโค้ง 4 ด้านพร้อม 5G !


 
Huawei นั้นได้ทำการเปิดตัวเรือธงประจำปีในตระกูล P ปีนี้และในครั้งนี้มาถึง 3 รุ่นด้วยกันแต่ในช่วงนี้แน่นอนว่าสถานการณ์ช่วงนี้อาจจะต้องลำบากกันนิดหน่อยครับ แต่ทาง Huawei เองก็เดินหน้าเปิดตัวกันเป็นที่เรียบร้อยสำหรับรุ่นนี้ ในครั้งนี้แน่นอนว่าเน้นเรื่องกล้องขึ้นไปอีกทั้งการพัฒนาเซนเซอร์ใหญ่ขึ้น การรองรับการถ่ายที่ดีขึ้นรวมถึง RYYB ที่พัฒนาไปมากกว่าเดิม และการโฟกัสอะไรก็เช่นกันครับ ในส่วนงานถ่ายวีดีโอก็พัฒนามากขึ้น รวมถึงในงานออกแบบหน้าจอขอบโค้งทั้ง 4 ด้านในด้านหน้าที่โค้งด้านบนและล่าง รวมถึงฝาหลังแบบด้านและการเล่นสีที่สวยงามขึ้น และแน่นอนการรองรับการชาร์จไร้สายที่ไวกว่าเดิมมากถึง 27W ในรุ่นนี้ครับและ มี AI เข้ามาช่วยในงานถ่ายภาพต่างๆมากขึ้น รวมถึงการรองรับ 5G WIFI 6+ ในการเชื่อมต่อแบบไร้สายด้วยเช่นกันถือว่าหลายๆอย่างจัดเต็มขึ้นครับ
 

 
Huawei P40 Pro นั้นมาพร้อมกับ สเปครองรับ 5G ในไทยได้สบายใช้งาน CPU Kirin 990 5G  พร้อมกับ RAM 8 GB STORAGE 256 GB ใช้งาน UFS 3.0 รวมถึงในการเชื่อมต่อรองรับ Wifi6+ ด้วยเช่นกัน ในส่วนของหน้าจอนั้นอัพเกรดมาใช้งานหน้าจอ OLED ขนาด 6.58 นิ้ว (2640×1200พิกเซล) อัตราส่วน 19.8:9, รีเฟรชเรท90Hz เป็นรุ่นแรกที่มีความลื่นไหลสูงสุดของค่ายในตอนนี้ พร้อมกับหน้าจอแบบโค้งลงทั้ง 4 ด้านทำให้การสัมผัสเนียนมากกว่าเดิมแต่พาแนลจอไม่ได้โค้งตามแบบ Mate 30 Pro นะครับรวมถึงปุ่มเพิ่มลดเสียงก็ใช้งานแบบปกติแล้วไม่ได้สัมผัสแบบรุ่นนั้น ส่วนทางด้านแบตให้มาที่ 4,200 mAh ที่รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย 40W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 27W ถือว่าเร็วแรงมากๆ และ ในด้านของกล้องนั้นจะให้มา 4 ตัวกล้องหลัง UltraVision 50MP (f/1.9) ที่มี optical stabilization + เลนส์สำหรับถ่ายวิดิโอและเลนส์กว้าง ultra-wide 40MP + เลนส์เทเล 3x SuperSensing 12MP ในรุ่น P40 Pro Plus หรือ เลนส์เทเล 5x SuperSensing 12MP ในรุ่น P40 Pro + เซนเซอร์ ToF อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Huawei XD Fusion Engine และสามารถซูมแบบดิจิทัลได้ 50x และ กล้องหน้า 32MP (f/2.2) พร้อมระบบสแกนใบหน้าแบบ 3 มิติด้วยไม่ได้ตัดออกไปนะครับ เลยทำให้มีช่วงกล้องสีดำนั้นค่อนข้างยาวและดูใหญ่กว่าตัวอื่นๆ
 

 

 
HUAWEI P40 PRO เปิดราคาในไทยมาที่ 3X,XXX บาทไทยมาพร้อมกับ RAM 8 STORAGE 256 GB
 

 

 
UNBOX
 
    - ตัวเครื่อง HUAWEI P40 PRO
    - หูฟัง USB-C
    - ที่ชาร์จรองรับ 40W
    - สายชาร์จรองรับ 40W USB-C
    - คู่มือที่จิ้มซิม
    - เคสใสแข็ง ตัวขายจริงมีนะครับ
 
ทางด้านหัวชาร์จให้เต็มที่มา 40W แบบ SuperCharge ครับ และ ทางด้านหูฟังแน่นอนว่าเป็นแบบเดียวกับทาง Mate 30 Pro และไม่มีรู 3.5 มม.แล้วนั้นเองครับเลยใช้งานแบบนี้ทั้งหมดแบบในรุ่นก่อนๆรูปทรงแบบเดิมนั้นเอง
 

 
DESIGN
 
งานออกแบบนั้นจะเป็นการเปลี่ยนงานออกแบบอีกครั้งจากรุ่นก่อนหน้าทั้งรูปทรงดีไซน์และวัสดุ ฝาหลังในครั้งนี้ใช้งานฝาหลังกระจกแบบด้านพร้อมกับเล่นแสงสะท้อนได้ดีงามมากครับ เด่นและสวยแบบเรียบๆโทนสีเงินอมฟ้าจางๆนิดหน่อยเล่นแสงสีได้ดี กล้องหลังวางไว้มุมซ้ายบนทรงที่เหลี่ยมใหญ่เอาเรื่องและนูนพอสมควรครับ ส่วนการวางกล้องแบบนี้มันไม่ค่อยเป็นเอกลักษณ์ตัวเองเท่าไรนักยังคงก็ชอบดีไซน์ Mate ที่ยังเด่นและไม่เหมือนใครได้ดีกว่า ส่วนน้ำหนักมีพอประมาณไม่ได้เบามากแต่ก็ใกล้ๆกับ P30 Pro แต่หนักกว่า Mate 30 Pro ครับ ส่วนงานประกอบวัสดุ ความเนียนสมมาตรถือว่าทำได้ดีจับแล้วเนียนเวลาใช้งานหน้าจอโค้งทั้ง 4 ด้านก็เลื่อนปุ่มโฮมอะไรได้เนียนนิ้วมาก
 

 
หน้าจอนั้นเปลี่ยนการออกแบบใหม่หมดขอบโค้ง 4 ด้านพร้อมหน้าจอเจาะรูพร้อมสแกนใบหน้า หน้าจอให้ OLED ขนาด 6.58 นิ้ว (2640×1200พิกเซล) อัตราส่วน 19.8:9, รีเฟรชเรท90Hz 531 nits DCI-P3 and sRGB รองรับ HDR 10+ พร้อมกับสัมผัสที่ค่อนข้างติดนิ้วและลื่นไหลพอสมควรเลย
 

 
หน้าจอในด้านหน้านั้นต้องบอกว่าถ้ามองตรงๆแบบในภาพนั้นจอจะค่อนข้างบางมากขอบบางกว่ารุ่นอื่นชัดเจนแต่ถ้ามองแบบ ISOMETRIC หรือเอียงๆจะหนาเพราะว่าขอบดำหน้าจอมันโค้งลงข้างเครื่องเลยหลอกตาว่ามันดูหนานั้นเองครับ แต่จริงๆถ้ามองตรงๆจะไม่หนามากนักบางกว่าตัวอื่นพอสมควรเลย แต่เพียงเพราะรุ่นอื่นมันขอบเครื่องกินมาข้างบนเลยทำให้มุมเอียงๆมันดูไม่หนานั้นเองครับ
 

 
ขอบด้านล่างนั้นอย่างที่แจ้งถ้าดูแบบมุมนี้จะหนาพอสมควรแต่ถ้าหน้าตรงจะได้ประมาณภาพแรกนั้นเองครับ ขอบโค้งลงมาข้างล่างทำให้การใช้งานมันลื่นไหลและเลื่อนใช้งานเต็มหน้าจอได้สะดวกมากขึ้นแต่เรื่องฟิล์มบอกเลยว่ายาก
 

 
ส่วนขอบบนนั้นจะบางกว่าข้างล่างชัดเจนและมองตรงๆก็บางกว่าครับแน่นอนว่าลำโพงแทรกตรงสีดำเช่นเดิมพร้อมกับกล้องหน้าคู่ที่รองรับการถ่าย 32MP F2.0  และมี IR สแกนใบหน้า 3 มิติด้วยเช่นกันครับในรุ่นนี้เหมือนรุ่น Mate
 

 

 
ขอบด้านล่างยิ่งชัดเจนครับ จะเห็นว่าขอบหน้าจอมันกินลงมาจริงๆแต่ดีที่ขอบมุมเครื่องยังมีเฟรมหุ้มไว้อยู่ครับ ด้านล่างนั้นจะเป็น ถาดซิม Nanosim รองรับ 5G ทั้งคู่ และ รูไมค์ รวมถึง USB-C และ ลำโพงหลักของตัวเครื่องครับ
 

 
ในด้านซ้ายนั้นจะเห็นว่าไม่มีปุ่มอะไรทั้งนั้นและขอบหน้าจอจะโค้งลงมาเยอะพอสมควร แต่จะไม่ได้โค้งชันเท่าตัว Mate 30 Pro นะครับตัวนั้นจะโค้งเยอะกว่ามาก ส่วนขอบเครื่องปัดเงาสวยงามและฝาหลังก็โค้งมารับเช่นกันครับ
 

 
ด้านบนนั้นจะเห็นว่ามี IR ในการควบคุมเครื่องเสียง แอร์พวกนี้เป็นรีโมทในตัวให้อยู่ไม่ตัดไปไหน และมีรูไมค์ตัดเสียงมาให้ด้วย และจะเห็นเช่นกันว่าหน้าจอขอบโค้งลงมาในส่วนนี้ด้วยครับเรียกได้ว่าโค้งทุก 4 ด้านของจริงเลยแหละ แต่จะโค้งลงมาไม่เท่ากับขอบด้านล่างนะครับเลยทำให้ขอบด้านล่างนั้นดูหนากว่าด้านอื่นๆเพราะมันโค้งลงมาเยอะสุดเลย
 

 
ขอบเครื่องด้านขวานั้นจะเป็นปุ่ม Power และปุ่มเพิ่ม ลดเสียงของตัวเครื่องครับ จะไม่ได้ใช้แบบสัมผัสแบบรุ่น Mate 30 Pro แล้วนะ เปลี่ยนมาใช้งานแบบธรรมดาแทนแล้ว อาจจะด้วยซีรีย์ที่แตกต่างกันเลยมีความแตกต่างกันอยู่ครับ
 

 
ฝาหลังอันนี้ดูดีและชอบมากคือมันไม่ใช่แค่กระจกด้านธรรมดาแต่มันมีการเล่นเลเยอร์แสงเข้ามาเยอะทำให้แสงกระทบได้สวยและสะท้อนได้สวยครับ คือมีความสะท้อนแบบพวกโครเมี่ยมแต่เป็นแบบด้านถือว่าออกแบบไล่สีและแสงดีมากส่วนการสแกนนิ้วแน่นอนว่าไปบนหน้าจอแล้วครับและ กล้องนูนพอสมควรเลยนะและทุกอย่างอยู่ในกรอบทั้งหมด
 

 
การออกแบบตรงนี้ก็แน่นอนว่ารวมไว้ให้ทั้งหมดทั้ง เซนเซอร์ ไมค์ แฟลชทั้งหลาย และ กล้อง 4 ตัวที่มี กล้องหลัง UltraVision 50MP (f/1.9) ที่มี optical stabilization + เลนส์สำหรับถ่ายวิดีโอและเลนส์กว้าง ultra-wide 40MP + เลนส์เทเล 3x SuperSensing 12MP ในรุ่น P40 Pro Plus หรือ เลนส์เทเล 5x SuperSensing 12MP ในรุ่น P40 Pro + เซนเซอร์ ToF อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Huawei XD Fusion Engine และสามารถซูมแบบดิจิทัลได้ 50x แต่ความนูนนั้นก็เอาเรื่องเหมือนกันครับเพราะตัว Periscope นั้นมันมีระยะของมันพอสมควรเลย
 
SPEC
 
    - หน้าจอ OLED ขนาด 6.58 นิ้ว (2640×1200พิกเซล) อัตราส่วน 19.8:9, รีเฟรชเรท90Hz
    - ชิปเซต Kirin 990 5G
    - RAM 8GB + ความจำ 128/256GB
    - Android 10 ที่ครอบด้วย EMUI 10.1
    - ซิมคู่ 5G Dual
    - กล้องหลัง UltraVision 50MP (f/1.9) ที่มี optical stabilization + เลนส์สำหรับถ่ายวิดีโอและเลนส์กว้าง ultra-wide 40MP + เลนส์เทเล 3x SuperSensing 12MP ในรุ่น P40 Pro Plus หรือ เลนส์เทเล 5x SuperSensing 12MP ในรุ่น P40 Pro + เซนเซอร์ ToF อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Huawei XD Fusion Engine และสามารถซูมแบบดิจิทัลได้ 50x
    - กล้องหน้า 32 Mp (f/2.2) ที่มีเซนเซอร์อินฟราเรดตรวจจับความลึก
    - ขนาดตัวเครื่อง: 158.2 x 72.6 x 8.95mm, น้ำหนัก203กรัม
    - WiFi 6, NFC,GPS, AGPS. Glonass, Galileo, QZSS, Bluetooth 5.1 – 3G / 4G / 5G
    - แบตเตอรี่ความจุ 4200mAh ที่รองรับชาร์จเร็วแบบมีสาย 40W และชาร์จเร็วแบบไร้สาย 27W
    - มีให้เลือกในสีเงิน, ทอง, ขาว และดำ
 

 
PERFORMANCE
 
ทางด้านประสิทธิภาพนั้นรุ่นนี้ต้องบอกว่าแรงอีกรุ่นที่ใช้งาน CPU Kirin 990 5G Octa Core GPU Mali-G76 MP16 แน่นอนว่าเรื่องความแรงนั้นทำได้ดีอยู่แล้วทำคะแนน Geekbench ไปที่ 749 2915 และ ในด้านหน่วยความจำเป็น UFS 3.0 ทำการอ่านเขียนไปที่ 1792 / 396 ครับ เขียนจะน้อยหน่อย ส่วน Antutu ทำได้ 465644 และในด้านของความปลอดภัยอะไร Divevine ไม่มีการโชว์เลย และ ลงแอพ Netflix อะไรก็เปิดไม่ได้นะครับ
 

 
SYSTEM UI
 
ทางด้านหน้าตา ยังดีว่ายังใช้งาน Android 10 ครับเลยยังพอใช้งานได้ไม่เลวร้ายไปซะทีเดียว แต่ที่ชอบคือ UI หน้าตา EMUI 10.1 ไม่รกแล้วแต่ตัวแอพไอคอนก็ไม่เรียบซะทีเดียว ไม่มีเลขมุมแอพ ไม่มี Appdrawer และ การแจ้งเตือนไม่เด้งเลยครับถ้าใช้งานพวก Facebook หรือ แอพอื่นๆที่ลงเพิ่มคือไม่เห็นแจ้งเตือนเลยไม่เด้งเลย
 

 
หน้าตา Quick setting ลากลงมา อะไรปกติครับมีการเปลี่ยนหน้าตาไอคอนที่เรียบและสวยงามขึ้น รองรับการปรับแต่งมากมาย และสามารถใช้งาน 2 หน้าจอได้ครับสามารถเลือกแอพอะไรได้ปกติเลย แบ่งหน้าจอได้เอาข้อนิ้วลากแบ่งหน้าจอ หรือ เวลากดเคลียร์แอพและกดแบ่งหน้าจอได้ครับ
 

 
คีย์บอร์ดนั้นยังคงใช้ของ SwiftKey ครับรองรับภาษาไทยปกติ เมนูไทยมีในเครื่องปกติครับ หน่วยความจำ 256GB นั้นเหลือใช้งาน 220GB  และ RAM 8GB นั้นเหลือใช้งานประมาณ 3.5GB ครึ่งๆของที่ให้มาครับ
 

 
การสแกนนิ้วบนหน้าจอ สแกนใบหน้านั้นให้มาครบสามารถทำงานได้ดีทั้งคู่ แอปสามารถโคลนอะไรได้ปกติ และ Gesture รองรับเหมือนเดิมทั้งตอนปิด หรือ เปิดหน้าจอ การใช้ข้อนิ้วเคาะก็ยังมีมาให้ครบๆครับเหมือนรุ่นก่อนหน้า
 
ชื่อสินค้า:   HUAWEI P40 Pro
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่