ย้อนไปตั้งแต่แรกของเรื่องเลยนะคะ
ตอนนั้นเป็นตอนที่เราขึ้นม 4 เราก็ยังไม่ได้คิดอะไรกับคนนั้นหรอก แต่ห้องเรียนมีจัดไปค่ายค่ะทั้งห้องก็ได้ไปด้วยกัน ลืมบอกไปนะคะว่าเราอยู่ห้องเดียวกัน ตอนแรกที่เจอกับเขา กลัวเขามากคนอะไรหน้าเหมือนโจรเลย(เพราะว่าตอนที่เรียนม 3 เคยเห็นเขาแล้วค่ะแต่ตอนนั้นไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันตอนนั้นเขาน่ากลัวมากเคยไถเงินเพื่อนเราด้วย พอขึ้นม 4 มาได้อยู่ห้องเดียวกันก็เลยกลัวเป็นพิเศษ ) เราก็ได้นั่งข้างกันตอนครูให้จัดแถวค่ะค่ายนั้นเป็นค่ายธรรมะค่ะจะมีช่วงหนึ่งที่ประกอบพิธีการแล้วมีนักเรียนของขึ้น คนอย่างเราก็ต้องกลัวสิคะ แต่คนข้างๆเรานี่ดิ ทำให้มันดูเป็นเรื่องตลกทำให้เราขำและหายกลัวเราก็ประทับใจกับเขานะคะเขาชวนเราดูพลุขณะที่คนอื่นเขากำลังกลัวคนผีเข้ากันมันจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราแอบชอบเขาค่ะ
หลังกลับมาจากค่ายก็ต้องมีบ้างที่เราเริ่มจีบเขาแต่เขา

โง่ค่ะจีบเป็นเดือน 2 เดือนไม่รู้ตัว จนคนรอบข้างรู้แต่มันก็ยังไม่รู้ คงเป็นเพราะมันเคยบอกว่าคิดว่าเราเฟรนลี่คุยกับทุกคน ที่สำคัญเราเคยคุยกับเพื่อนมันค่ะเราเลิกคุยกับเพื่อนมันเพราะเราไม่ชอบรุ่นเดียวกันเลยทำให้มันคิดว่าเราคุยกับมันเพราะว่าเราเฟรนลี่จนมาถึงวันนึง มันก็รู้ค่ะ แต่ว่าเราก็ต้องไปฉลองวันเกิดด้วยกันเพราะวันเกิดเรากับวันเกิดมันห่างกันแค่ 2 วัน ก็เลยไปฉลองวันเกิดพร้อมกัน มันมารับเราค่ะแต่ว่าต้องรอเพื่อนก่อนเรานั่งอยู่ด้วยกันสองคนแล้วเราก็เล่นเฟสไม่สนใจมัน ทีนี้มันก็แชร์ว่ากฎของเพื่อนคือห้ามรู้สึกมากกว่าเพื่อนคือมันมีแฟนแล้วนะคะ มันก็เลยเป็นแบบนี้ หลังจากฉลองวันเกิดเราไม่ได้คุยกันสักพักค่ะคือเหมือนจะโกรธกัน เรื่องอะไรสักเรื่อง แล้วทีนี้มันก็เป็นคนเข้ามาคุยก่อนค่ะเราก็ขอโทษถ้าไปทำอะไรให้โกรธเราก็อยู่ในสถานะเพื่อนกันมาตลอดค่ะมีงานก็ช่วยกันทำ เพื่อนๆหลายคนก็เชียร์ค่ะเพราะว่าเพื่อนๆดูออกค่ะว่ามันก็มีใจให้เราแต่มันมีแฟนแล้ว แล้วช่วงนึงแฟนของมันก็มีรหัสเฟสค่ะมันเลยย้ายเราเข้าไปคุยในไลน์แต่ก็คุยแค่เรื่องงานอะไรเหมือนเดิมนะคะเพราะแฟนมันค่อนข้างหึง จนวันหนึ่งมันเลิกกับแฟนค่ะเพราะมันบอกเราว่าแฟนนอกใจมันก็เลยเข้าสู่โหมดคุยกับเราเพื่อรักษาตัวเองค่ะเป็นเพื่อนที่โทรคุยกัน7-8ชั่วโมงข้ามคืนเป็นเพื่อนที่มารับเราไปทำงานของสีทั้งๆที่ไม่ได้ขอเป็นเพื่อนที่นั่งกินข้าวด้วยกันหัวเราะเฮฮากันสองคนเป็นเพื่อนที่ปั่นจักรยานให้เราซ้อนเป็นเพื่อนที่แย่งเรากินชานมไข่มุกจนน้ำลายยืดติดหลอดกลายเป็นเพื่อนที่แคร์ความรู้สึกเรามากที่สุดไม่เคยปล่อยให้เรารอนานเขาโทรคุยกับเราให้เราเล่าเรื่องต่างๆของเราที่เจอในแต่ละวันให้ฟังจนวันนึงที่เราคุยกันมันพูดกับเราว่า"กูคงไม่กลับไปหาคนเก่าแล้วเพราะกูอยู่กับสบายใจกว่าเยอะ"เราก็ดีใจนะคะเพราะเราไม่ชอบเห็นน้ำตาของมันไม่ชอบเห็นมันเสียใจทุกๆครั้งที่มันเสียใจจากแฟนแล้วมาปรึกษาเราก็แบบน่าจะเปลี่ยนจากเราให้เป็นเขาเนอะแกคงจะดีกว่านี้ เราว่าตอนนั้นมันดีมากค่ะมันพาเราไปรอมันตัดผมจนเพื่อคนอื่นแซวว่า"แหมกูเป็นเพื่อนกับมันมาตั้งหลายปียังไม่ได้ทำขนาดนี้เลย"หลายคนก็เชียร์นะคะให้เราคบกันแต่วันนึงมันก็พูดว่าเราสองคนคบกันไม่ได้หรอกอยู่อย่างนี้ดีแล้วโอเคค่ะก็มีหลายครั้งที่เราร้องไห้เพราะมันแต่ไม่เป็นไรแบบนี้ก็ดีแล้วเพื่อนๆคนอื่นชอบบอกว่ามันมีใจให้เรามันก็ชอบเรามันเขินเราตลอดเพื่อนเห็นเพื่อนๆดูออกมันเคยพูดกับเพื่อนคนนึงว่าถ้าเราบอกมันว่าชอบมันเร็วกว่านี้ป่านนี้คงได้คบกันไปแล้วผิดที่เราเองที่ช้าเกินไป 1 เดือนที่มันเลิกกับแฟนเราใช้ชีวิตกันหวานชื่นมากค่ะเราใช้ชีวิตเหมือนแฟนในสถานะเพื่อนจนกระทั่งแฟนมันกลับมาค่ะโอเคค่ะเราก็ต้องกลับไปอยู่ในสถานะเดิมครั้งนี้มันดีกับแฟนแล้วมันรักกันนานมากค่ะถึงจะมีเรื่องเสียใจทะเลาะกันบ่อยครั้งมันก็ยังรักกันดีเราก็เลยไปมีแฟนของเราค่ะเราเริ่มห่างกันไปเรื่อยๆจนถึงช่วงหนึ่ง มันก็ทักมาขอโทษ เรื่องทั้งหมดที่อาจจะทำให้เราคิดไปเองก็เสียใจแหละค่ะถ้าเราคิดไปเองแต่ใครๆก็บอกว่าคิดไปเองแบบนี้ไม่ได้ถ้าคนนั้นไม่ได้ทำให้เป็นแบบนี้และแฟนมันก็เหมือนจะรู้ว่าเราเคยชอบมันเหมือนมันเคยคุยกับเรานางเลยตามมว้าวโพสต์ไลค์โพสต์แชร์โพสต์ด่าทางอ้อมเราบ่อยค่ะ สุดท้ายปิดเทอมใหญ่เราก็เลยไม่ได้คุยกันมาเลยจากนั้นค่ะเราห่างออกกันไปเร็วมากไม่คุยไม่ทักจะมีบางครั้งที่เพื่อนเล่นเกมแล้วเราอาจจะได้เล่นเกมด้วยกันบ้างตามกลุ่มใหญ่หรือบางครั้งที่เราโทรกลุ่มกับเพื่อนๆก็เลยได้คุยกันบ้างในกลุ่มใหญ่นิดๆหน่อยๆและมันชอบโทรคุยกับเพื่อนสนิทเราคนนึงค่ะแล้วเพื่อนก็จะเอามาบอกเราว่ามันถามถึงอีกแล้วไม่ค่อยโทรไปหามันเลยไม่ค่อยคุยกับมันเลยเป็นอะไรหรือเปล่า เราก็ได้แค่รับฟังค่ะไม่ตอบอะไรไป (มีช่วงนึงก่อนปิดเทอมมันทะเลาะกับแฟนและเป็นช่วงที่เราทำงานให้มันแล้วเห็นว่ามันร้องไห้บ่อยเราก็เลยเขียนหลังสมุดไปว่าแบบเป็นกำลังใจให้นะถึงจะได้ไม่รอแล้วเพราะกูมีแฟนแล้วแต่กูก็ยังรออยู่ตรงนี้คอยปรึกษาให้ได้ตลอดนะแต่เราก็แอบลบไปจนเราลงเพลงฉันยังรอเธออยู่ในสตอรี่เรามันก็ตอบกลับมาด้วยข้อความที่เราแอบเขียนไว้ในสมุดของมันมันถ่ายไว้ทันก่อนเราจะแอบลบมันขอบคุณเราตลอดมันเหมือนพยายามทำให้ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นแต่มันก็ได้แค่นี้)ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมใหญ่เราเลิกกับแฟนแล้วมันก็ทักมาบอกว่าสู้ๆเราก็แค่ดูค่ะถ้าตอบกับไปเดี๋ยวแฟนมันคงจะทักมา เราอยากจะหนีออกจากมันค่ะ เพราะทุกครั้งที่เราบอกว่าเราไม่ชอบมันแล้วมันก็จะกลับมาทำให้รู้สึกใหม่แล้วก็ชอบใหม่แล้วเราพอเลิกชอบก็กลับมาทำให้รู้สึกใหม่วนอยู่อย่างนี้ตลอด เราอยากรู้ว่าเราจะต้องทำตัวยังไงในการเปิดเทอมขึ้นม 5 แล้วเราจะต้องอยู่กับมันไปอีก 2 ปีเพื่อนบอกว่าเลิกชอบไม่ได้หรอกเพราะเราอยู่ห้องเดียวกันต่างคนต่ามมีความรู้สึกให้กัน เพื่อนบอกว่าเราอาจจะมีโอกาสก็ได้นะอีก 2 ปีจนถึงม 6 แต่เราไม่อยากกลับไปเจ็บเหมือนเดิมไงแล้วก็ไม่อยากวนลูปอยู่อย่างนี้เราควรทำตัวไงดีตอนเปิดเทอมหน้าคะ...
เราควรเอาไงต่อดี
ตอนนั้นเป็นตอนที่เราขึ้นม 4 เราก็ยังไม่ได้คิดอะไรกับคนนั้นหรอก แต่ห้องเรียนมีจัดไปค่ายค่ะทั้งห้องก็ได้ไปด้วยกัน ลืมบอกไปนะคะว่าเราอยู่ห้องเดียวกัน ตอนแรกที่เจอกับเขา กลัวเขามากคนอะไรหน้าเหมือนโจรเลย(เพราะว่าตอนที่เรียนม 3 เคยเห็นเขาแล้วค่ะแต่ตอนนั้นไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันตอนนั้นเขาน่ากลัวมากเคยไถเงินเพื่อนเราด้วย พอขึ้นม 4 มาได้อยู่ห้องเดียวกันก็เลยกลัวเป็นพิเศษ ) เราก็ได้นั่งข้างกันตอนครูให้จัดแถวค่ะค่ายนั้นเป็นค่ายธรรมะค่ะจะมีช่วงหนึ่งที่ประกอบพิธีการแล้วมีนักเรียนของขึ้น คนอย่างเราก็ต้องกลัวสิคะ แต่คนข้างๆเรานี่ดิ ทำให้มันดูเป็นเรื่องตลกทำให้เราขำและหายกลัวเราก็ประทับใจกับเขานะคะเขาชวนเราดูพลุขณะที่คนอื่นเขากำลังกลัวคนผีเข้ากันมันจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เราแอบชอบเขาค่ะ
หลังกลับมาจากค่ายก็ต้องมีบ้างที่เราเริ่มจีบเขาแต่เขา