ต้องขออภัยที่ทิ้งช่วงไปนานสักหน่อย เพราะวุ่นวายกับการเตรียมใจรับกับวิกฤตการณ์โรคหวัดโคลิด - 19 ทำเอาชึวิตประจำวันแทบหยุดชะงักไปทั่วประเทศ
วิกฤติการณ์นี้กระจายไปทั่วโลก ผู้คนต่างเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ในบ้าน ผมคิดว่า รีบนำเรื่องที่ยังค้างอยู่เสนอให้คนไกลบ้านได้อ่านเพลินๆ นะครับ
วันนี้ สองคนพี่น้อง ออกตระเวนใกล้ๆ ที่พัก เริ่มจากวัดภูเก็ต วนเวียนแถว อ.ปัว ก่อนที่จะขึ้นเหนือ ไปหามื้อเที่ยงทานที่ อ.เชียงกลาง แวะชมช่วงบ่ายที่วัดหนองแดง ซึ่งเป็นวัดโบราณสถานไตลื้อ ที่มีศิลปการก่อสร้างเป็นเอกลักษณ์ของตนอย่างชัดเจน
กลับมายัง อ.ปัว อีกครั้งหนึ่ง ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปชมเทศกาลขึ้นปีใหม่ของพี่น้องชาวม้ง ที่ ต.ป่ากลาง แต่เห็นว่าคงไม่สะดวก เพราะผู้คนต่างไปชุมนุมกันที่นั่น เลยมุ่งหน้าต่อไปยังวัดชัยมงคล (วัดก๋ง) ต.ยม ปลายเขต อ.ท่าวังผา อันเป็นแหล่งสะสมเครื่องมือของใช้ประจำวันของพี่น้องขาวบ้าน จนสามารถตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน เรียกนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศเข้าไปชม และรับประทานมื้อเย็นจากร้านอาหารตามสั่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้วัดนั่นแหละ
พออิ่มท้องแล้วย้อนกลับมายังหมู่บ้านอันเป็นที่ตั้งรีสอร์ท แต่ขอขึ้นดอยไปชมเจดีย์ศิลาแลง ตามด้วยฝายแก้ง สร้างกั้นลำห้วยกูนที่วังศิลาแลง อันเป็นที่มาของชื่อรีสอร์ทก่อนเข้าที่พักในเย็นวันนั้น

ยามเช้า หลังจากอาบน้ำล้างหน้าแล้ว เปิดหน้าต่างกระท่อมออกมา
บรรยากาศที่ค่อนข้างเย็นไหลพรั่งพรูเข้ามาทันใด มองเห็นไร่ข้าวโพดที่ชาวบ้านปลูกไกลออกไปจนจรดฝายแก้ง ลงไปเดินเล่นสูดอากาศยามเช้าดีกว่า

กระท่อมที่พัก เป็นกระท่อมไม้ไผ่ก็จริง แต่โครงข้างล่างเป็นเหล็กกล่อง ตั้งบนเสา คสล.อีกต่างหาก ป้องกันปลวกรบกวน มี ทีวี.ผ่านดาวเทียมบริการให้ทุกหลัง แต่สองคนพี่น้องต้องการความสงบจากธรรมชาติ เลยดูแค่รู้ว่ามีช่องอะไรบ้างแล้วไม่สนใจอีก
ส่วนห้องน้ำก่ออิฐถือปูน ไม่ทาสี มีเครื่องทำน้ำร้อนด้วย

จากลานโล่งหน้ากระท่อม ที่สามารถจัดแคมป์ไฟ ปิ้งไก่ได้เป็นอย่างดีนั้น มีกรงเลี้ยงกระต่ายซึ่งเจ้าของรีสอร์ทตั้งไว้อยู่ใกล้ๆ ตัวเบ้อเริ่มเชียว
มองลูกตาพอคุ้นเคยกันดีแล้ว พอดีน้องลงมาสมทบ เลยชวนกันเดินยืดเส้นสายกันหน่อย
น่าน น้าน นาน (4)
วิกฤติการณ์นี้กระจายไปทั่วโลก ผู้คนต่างเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่ในบ้าน ผมคิดว่า รีบนำเรื่องที่ยังค้างอยู่เสนอให้คนไกลบ้านได้อ่านเพลินๆ นะครับ
วันนี้ สองคนพี่น้อง ออกตระเวนใกล้ๆ ที่พัก เริ่มจากวัดภูเก็ต วนเวียนแถว อ.ปัว ก่อนที่จะขึ้นเหนือ ไปหามื้อเที่ยงทานที่ อ.เชียงกลาง แวะชมช่วงบ่ายที่วัดหนองแดง ซึ่งเป็นวัดโบราณสถานไตลื้อ ที่มีศิลปการก่อสร้างเป็นเอกลักษณ์ของตนอย่างชัดเจน
กลับมายัง อ.ปัว อีกครั้งหนึ่ง ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปชมเทศกาลขึ้นปีใหม่ของพี่น้องชาวม้ง ที่ ต.ป่ากลาง แต่เห็นว่าคงไม่สะดวก เพราะผู้คนต่างไปชุมนุมกันที่นั่น เลยมุ่งหน้าต่อไปยังวัดชัยมงคล (วัดก๋ง) ต.ยม ปลายเขต อ.ท่าวังผา อันเป็นแหล่งสะสมเครื่องมือของใช้ประจำวันของพี่น้องขาวบ้าน จนสามารถตั้งพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน เรียกนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศเข้าไปชม และรับประทานมื้อเย็นจากร้านอาหารตามสั่งซึ่งตั้งอยู่ใกล้วัดนั่นแหละ
พออิ่มท้องแล้วย้อนกลับมายังหมู่บ้านอันเป็นที่ตั้งรีสอร์ท แต่ขอขึ้นดอยไปชมเจดีย์ศิลาแลง ตามด้วยฝายแก้ง สร้างกั้นลำห้วยกูนที่วังศิลาแลง อันเป็นที่มาของชื่อรีสอร์ทก่อนเข้าที่พักในเย็นวันนั้น
ยามเช้า หลังจากอาบน้ำล้างหน้าแล้ว เปิดหน้าต่างกระท่อมออกมา
บรรยากาศที่ค่อนข้างเย็นไหลพรั่งพรูเข้ามาทันใด มองเห็นไร่ข้าวโพดที่ชาวบ้านปลูกไกลออกไปจนจรดฝายแก้ง ลงไปเดินเล่นสูดอากาศยามเช้าดีกว่า
กระท่อมที่พัก เป็นกระท่อมไม้ไผ่ก็จริง แต่โครงข้างล่างเป็นเหล็กกล่อง ตั้งบนเสา คสล.อีกต่างหาก ป้องกันปลวกรบกวน มี ทีวี.ผ่านดาวเทียมบริการให้ทุกหลัง แต่สองคนพี่น้องต้องการความสงบจากธรรมชาติ เลยดูแค่รู้ว่ามีช่องอะไรบ้างแล้วไม่สนใจอีก
ส่วนห้องน้ำก่ออิฐถือปูน ไม่ทาสี มีเครื่องทำน้ำร้อนด้วย
จากลานโล่งหน้ากระท่อม ที่สามารถจัดแคมป์ไฟ ปิ้งไก่ได้เป็นอย่างดีนั้น มีกรงเลี้ยงกระต่ายซึ่งเจ้าของรีสอร์ทตั้งไว้อยู่ใกล้ๆ ตัวเบ้อเริ่มเชียว
มองลูกตาพอคุ้นเคยกันดีแล้ว พอดีน้องลงมาสมทบ เลยชวนกันเดินยืดเส้นสายกันหน่อย