มาตราการเยียวยา covid-19

รัฐต้องตอบคำถามให้ได้ว่าคุณเยี่ยวยาได้ทั่วถึงแล้วหรือไม่    มิฉะนั้น จะซ้ำเติมความเจ็บซ้ำน้ำใจของประชาชนเข้าไปอีก

ผมคนหนึ่งที่ยังทำงานปกติ   ได้รับค่าจ้างตามปกติ   ไม่ได้ยื่นขอเข้าไป   แต่ถามว่ามาทำงานอยู่ร่วมกันโอกาศที่ติดเชื้อก็มี  
เอกชนถ้าเขายังจ่ายค่าจ้างเขาไม่ให้มานั่งเฉยๆ หรอก  งานต้องทำตามปกติ  ต้องเดินทางติดต่องาน  สร้างโอกาสเสี่ยงเข้าไปอีก 
ระบบการทำงานติดขัดได้ไม่เต็มที่   แต่เอกชนก็จะเร่งดำเนินการในช่วงนี้  มันดูไม่ดีสำหรับคนทำงาน   รัฐไม่ตระหนักถึงปัญหา
ประกาศพอไปที    เอกชนบางองค์กรก็ใส่ใจเท่าที่ไม่กระทบสิ่งที่ท่านประกาศมา    เขาเตือนให้เตรียมพร้อมมาตั้งนานแล้ว
เพิ่งมามีมาตรการควบคุม    รวมถึงการเยี่ยวยาในระยะกระชั้นชิดแล้ว   ท่านปล่อยให้ประชาชนสู้ปัญหาตามยถากรรม  
ผมคนหนึ่งที่อยากลาออกด้วยซ้ำไป  เพราะไม่คุ้มค่าที่เสี่ยง   แต่หากทำเช่นนั้น   แม้ว่าผมรอดจากวิฤกตนี้ต่อไปก็วิกฤตเศษฐกิจอีก
หลายคนเป็นอย่างผม คือ เลือกไม่ได้  เราไม่ได้ร่ำรวยเหมือนพวกท่าน       

มาตราการเยี่ยวยาที่ชี้แจงเท่าที่ผมทราบ  บางสิ่งผมไม่เห็นด้วยเลย 

1. ท่านไปเยี่ยวยาจักยายนต์รับจ้าง  แท็กซี่  มัคคุเทศ  คนขายสลากฯ  ท่านบอกมีข้อมูลทางทะเบียน      OK แหละ  ง่ายต่อการตรวจสอบ
    แต่บางอาชีพยังทำงานมีรายได้บางส่วน    ตรงกันข้ามอาชีพอื่นที่ไม่มีรายได้เลย    แต่ท่านให้รอจนถึงบัดนี้

2. จากข้อที่ 1. เท่าที่ทราบ  ตัวอย่างเช่น  ร้านเสริมสวยเล็กๆ  คนขายสินค้าเล็กๆ น้อยๆ  อาชีพรับจ้างทั่วไป  ท่านไปสั่งปิดเขา 
    หรือเขาไม่สามารถมีรายได้เลย    ผมว่าเขาเฝ้ารอด้วยความเจ็บปวด

3. อาชีพรับจ้างบางอย่างคุณไม่เยี่ยวยา  เช่น  กรรมกรก่อสร้าง   คุณรู้ไหมว่าเขารับค่าจ้างตามปกติ  เขายังใช้ชีวิตลำบากเลย
    นี้เขาไม่ได้ทำงาน  ท่านคิดได้อย่างไรว่าไม่เดือดร้อน 

4. ท่านไปตีความให้เป็นเกษตรกรทั้งครอบครัว  ท่านได้ตรวจสอบไหมว่า  คนต่างจังหวัดบางครั้งเขามาทำงาน กทม. หรือจังหวัดอื่น
   ไม่ได้ทำอาชีพเกษตรกร  แต่ยังเช่าบ้าน  ชื่อจึงยังอยู่ในทะเบียนของพ่อแม่ที่มีอาชีพเกษตรกร  อีกอย่างอาชีพเกษตรกรเขาขายสินค้า
   ไม่ได้  ท่านคิดว่าเกษตรกรรวยไม่เดือนร้อนหรอครับ  ปัจจุบันเกษตรกรก็ยังหามาตราการช่วยเหลือไม่ได้เช่นกัน

5. ท่านบอกว่ามาตรการนี้อุทธรณ์ไม่ได้  ผมว่ามันแปลกๆ นะ   กรณีนี้ควรให้เขาอุทธรณ์  และนำคดีขึ้นสู่ศาลตามกระบวนการของกฎหมายได้

6. สุดท้ายแล้วท่านตอบตัวเองละกันว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกต้องแค่ไหน   แต่จากข่าวที่ออกมามันดูไม่ดีเลย
 

    ทั้งนี้  ผมเห็นว่าหากประชาชนเดือนร้อนเพราะคำสั่งที่ท่านไปสั่งปิด  หรือจากคำสั่งที่ไม่จ่ายเงินเยี่ยวยาก็ควรเปิดโอกาศให้เขาทำนำคดีขึ้นสู่กระบวน
การพิจารณาของศาลอย่างยุติธรรม  ไม่เลือกปฏิบัติ

      covid-19  มันไม่ได้กระทบต่อร่างกาย  ชีวิต  ความเป็นอยู่  แต่มันกระทบถึงจิตใจหลายๆ อย่าง  บางคนเขาต้องห่างคนที่รัก  เฝ้ารอการจัดการ
ปัญหาของพวกท่าน   ว่ามันจะจบเมื่อไหร่  ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของพวกท่าน   ประชาชนร่วมมือแล้ว   พวกท่านก็ต้องดำเนินการให้สมกับความร่วมมือดังกล่าวด้วย   ท่านมีเงินมีกิน  ท่านไม่เข้าใจความอดความหิวหรอกครับ  ลองอดข้าวสัก 1 วัน  เดินทางด้วยรถเมล์   ด้วยเรือ   ท่านต้องห่างไกลคนที่รัก   ท่านจะรู้ว่าเขาเดือนร้อนอย่างไรหรือไม่  และแล้วท่านจะเข้าใจประชาชนมากขึ้น  

      ผมมีปัญญาน้อยกว่าพวกท่าน  ผมจึงหวังว่าท่านจะนำพาประชาชนผ่านวิกฤตนี้ไปได้โดยเร็ว  และขอฝากถึงเพื่อนร่วมชะตากรรมว่าเราอย่าท้อ 
มีลมหายใจชีวิตเริ่มใหม่ได้เสมอ   ทำหน้าที่เราให้ดีที่สุดก็พอ   

      ด้วยความเคารพ
ประชาชนธรรมดาคนหนึ่ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่