ว่าจะไม่ฟาดงวงฟาดงาแต่ก็อดไม่ได้ สามตอนแรกทำมาดีมากกกกกกก แต่ของอาทิตย์นี้ พังนะ! พังมากด้วย เหมือนว่าตัวเองกำลังดูละครเมื่อ 17 ปีที่แล้วอยู่เลยค่ะ บทวนไปวนมา วนนนนนนอยู่นั่นแหละ ทั้งที่นี่ก็ 6 ตอนแล้ว สกายกับแม่ก็พลัดกันประชั้นชิดแบบไม่สมเหตุสมผล ตามสืบเรื่องนิก้าได้ไม่ครบ อะเข้าใจได้ แต่ตามเรื่องคิรีจนรู้ว่าแม่คิรีขี้เมา ดันไม่รู้หน้าตาแม่คิรีเนี๊ยะ มันบ่ได้เด้อ! ละครนี่เล่นของยุคไหนคะ? 15ปีที่แล้วหรอ? ก็ไม่นิ มือถือก็มี ถ่ายรูปถ่ายคลิปได้ แต่รูปแม่คิรีสักรูปไม่มี ไม่รู้งี้? 🙈
คือถ้าวนแบบมีต้นสายปลายเหตุ สมน้ำสมเนื้อสมเหตุสมผลจะไม่ว่าอะไร นี่คือแบบ "อิหยั๋งวะ" มากกกก เสียดายนักแสดงมากค่ะ บททำให้บางตัวละครดูน่ารำคานมากค่ะ คือเราพยายามดูแบบเป็นกลางไม่ตัดสินแล้วนะ พยายามทำความเข้าใจแล้ว เราจะลองให้โอกาสเหมือนซ่อนเงารักดู (ขออภัยที่ต้องยกมาเปรียบเพราะดราม่ารักสามเศร้าเช่นกัน) เรื่องนั้นได้กระแสดูไปด่าไปไม่เมคเซ้นต์สำหรับหลายๆคน แต่เนื่องจากเราเจอเหตุการณ์และคนรอบข้างที่สถานการณ์ที่คล้ายๆกันกับในละครซ่อนเงารักเราจึงเข้าใจได้ เรื่องนั้นหาต้นสายปลายเหตุที่มาที่ไปของตัวละครได้ชัดเจน แต่เรื่องนี้มันหาจุดที่จะเข้าใจยากจังวะ ปมเยอะเวอร์ แล้วก็ดันเยอะแบบไม่ปะติดปะต่อกัน แถมดำเนินเรื่องและนำเสนอแบบไม่น่าลุ้น มันเลยจืดชืดไม่น่าติดตามมากเลยค่ะ พระนางง้องแง้งกันไปมา เหมือนเด็กกำลังเล่นขายของอยู่🤦♀️🤦♀️🤦♀️
มันเน่าๆสมชื่อละครไทยที่ไม่พัฒนาไปไหนเลยยังไงก็ไม่รู้ในเรื่องความรักของสามคนนี้ เข้าใจว่านิก้าอาจจะยังไม่รู้ใจตัวเอง ไม่ได้คิดอะไรมากในการคบหาทั้งสกายทั้งคิรี แต่ขอบเขตหรือการวางตัวนางก็น่าจะมีมากกว่านี้ไหมคะ? ไปเรียนนอกก็จริงแต่ก็นอกแค่ที่อินเดีย ซึ่งก็ไม่ใช่ประเทศที่เสรีทางเพศอย่างเต็มที่จนจะไปจับมือถือแขนกับคิรีแบบนั้นนินา? ความConservativeของนางก็น่าจะมีมากกว่านี้ แล้วก็เรื่องปล่อยให้พ่อข่มเหงโดยไม่ฉลาดหาหลักฐานนี่ก็พอๆกัน วนนนนนนั่นอยู่แหละ จุดนี้ไม่ต้องขยี้ก็ได้มั้งคะ?
คิรีบวชเรียนมาแทบทั้งชีวิต ความสุขุมที่เรียนรู้จากธรรมะมามันไม่ทำให้เขากลายเป็นคนอ่อนน้อมและเจียมตัวได้เลยหรอ? แล้วบวชจริงจังในสถานที่แบบนั้นมาตั้งนาน คือความรู้ทางธรรมถึงไม่เข้าขั้นนิพพานแต่ก็น่าจะพอทำให้ยับยั้งชั่งใจได้ดีกว่านี้ไหม? คิรีน่าจะรู้"หน้าที่ตน" ว่ากำลังทำอะไรอยู่(แม่สำคัญสุดใช่ไหมตอนนี้?) ใช่ความรักบังตาทำให้สติหลุดบ่อย แต่คิรีควรมองเห็นสภาพความเป็นจริงของตัวเองในฐานะอดีตนักบวชที่ลาสิขาไม่นานมากกว่านี้นิดหนึ่งไหมคะ? รักนิก้าได้ ไม่ผิด แต่เจียมตัวน้อยไป!
จริงๆน่าจะเอาบทอะไรที่กระจุบกระจิบพวกนี้ออกไป แล้วไปขยี้เหตุที่ต้องทำให้นักบุญคนหนึ่งกลายเป็นคนร้ายได้มากกว่านะ (ถ้าคิรีจะร้ายจริงๆ) และยิ่งพอบทที่จะต้องร้ายกับสกายก็ร้ายแบบงงๆ ถ้าจะหยิ่งในศักดิ์ศรีก็น่าจะหยิ่งตั้งแต่แรก นี่อะไรแม่จะตายแหล่ไม่ตายแหล่ยังจะมาห่วงศักดิ์ศรีไม่เป็นเวล่ำเวลา
สกาย... ดูเป็นคนเดียวที่เราพอจะเข้าใจได้ว่าแอบเลว ก็ถูกเลี้ยงมาแบบนั้น คงโดนโอ๋มาจนโต อยากได้อะไรก็ต้องได้ในฐานะลูกเจ้าพ่อ เนื้อเรื่องปูทางให้สกายเป็นคนฉลาด แต่หลายบทก็ไม่ฉลาดเอามากๆเลย ไม่ฉลาดในการตามหาแม่ ไม่ฉลาดในจีบสาว แต่ฉลาดในเรื่องที่ไม่ควรฉลาด
แต่ก็นั่นแหละ บ่นไปก็คงแค่นั้น คงไม่มีผลอะไรต่อการตัดต่อหรอก แต่แค่เสียดายค่ะ และหวังว่าผู้จัดจะทำงานออกมาเนี๊ยบกว่านี้ในเรื่องต่อไป ละครน่าจะมีพัฒนาการที่ดีมากกว่านี้นะคะ เพราะคนดูน่าจะเทละครเรื่องนี้ไปแล้วไม่น้อยจากบทที่มันวนอยู่กับที่นี่แหละเราว่า
นักแสดงเล่นเก่งมากทุกคนนะคะ ขอชื่นชมค่ะ น้องอินเก่งมากๆเลยทีเดียว น้องภณนี่ก็นะ จะแซ่บไปไหนคะพ่อคู๊ณ นี่ถ้ามีหนวดเครานิดๆคงจะเป๊ะกว่านี้🤣😜 น้ำหวานก็เล่นดีนะคะแต่บทนางเอกน่ารำคาญไปนิดนึง เสียดายแทน ตัวละครที่สะดุดตาอีกคนคือ ฝ้าย ที่เล่นเป็น อิสรีย์ นะคะ แสดงเก่งมากอีกคนสำหรับเรา สลัดภาพที่เล่นกลิ่นกาสะลองได้หมดเลย
สำหรับรุ่นพ่อรุ่นแม่คงไม่ต้องกล่าวถึงเนอะ ปรมาจารย์ก็คือปรมาจารณ์ค่ะ
ฟากฟ้าคีรีดาว เข้าใจความดูไปบ่นไปแล้ว
คือถ้าวนแบบมีต้นสายปลายเหตุ สมน้ำสมเนื้อสมเหตุสมผลจะไม่ว่าอะไร นี่คือแบบ "อิหยั๋งวะ" มากกกก เสียดายนักแสดงมากค่ะ บททำให้บางตัวละครดูน่ารำคานมากค่ะ คือเราพยายามดูแบบเป็นกลางไม่ตัดสินแล้วนะ พยายามทำความเข้าใจแล้ว เราจะลองให้โอกาสเหมือนซ่อนเงารักดู (ขออภัยที่ต้องยกมาเปรียบเพราะดราม่ารักสามเศร้าเช่นกัน) เรื่องนั้นได้กระแสดูไปด่าไปไม่เมคเซ้นต์สำหรับหลายๆคน แต่เนื่องจากเราเจอเหตุการณ์และคนรอบข้างที่สถานการณ์ที่คล้ายๆกันกับในละครซ่อนเงารักเราจึงเข้าใจได้ เรื่องนั้นหาต้นสายปลายเหตุที่มาที่ไปของตัวละครได้ชัดเจน แต่เรื่องนี้มันหาจุดที่จะเข้าใจยากจังวะ ปมเยอะเวอร์ แล้วก็ดันเยอะแบบไม่ปะติดปะต่อกัน แถมดำเนินเรื่องและนำเสนอแบบไม่น่าลุ้น มันเลยจืดชืดไม่น่าติดตามมากเลยค่ะ พระนางง้องแง้งกันไปมา เหมือนเด็กกำลังเล่นขายของอยู่🤦♀️🤦♀️🤦♀️
มันเน่าๆสมชื่อละครไทยที่ไม่พัฒนาไปไหนเลยยังไงก็ไม่รู้ในเรื่องความรักของสามคนนี้ เข้าใจว่านิก้าอาจจะยังไม่รู้ใจตัวเอง ไม่ได้คิดอะไรมากในการคบหาทั้งสกายทั้งคิรี แต่ขอบเขตหรือการวางตัวนางก็น่าจะมีมากกว่านี้ไหมคะ? ไปเรียนนอกก็จริงแต่ก็นอกแค่ที่อินเดีย ซึ่งก็ไม่ใช่ประเทศที่เสรีทางเพศอย่างเต็มที่จนจะไปจับมือถือแขนกับคิรีแบบนั้นนินา? ความConservativeของนางก็น่าจะมีมากกว่านี้ แล้วก็เรื่องปล่อยให้พ่อข่มเหงโดยไม่ฉลาดหาหลักฐานนี่ก็พอๆกัน วนนนนนนั่นอยู่แหละ จุดนี้ไม่ต้องขยี้ก็ได้มั้งคะ?
คิรีบวชเรียนมาแทบทั้งชีวิต ความสุขุมที่เรียนรู้จากธรรมะมามันไม่ทำให้เขากลายเป็นคนอ่อนน้อมและเจียมตัวได้เลยหรอ? แล้วบวชจริงจังในสถานที่แบบนั้นมาตั้งนาน คือความรู้ทางธรรมถึงไม่เข้าขั้นนิพพานแต่ก็น่าจะพอทำให้ยับยั้งชั่งใจได้ดีกว่านี้ไหม? คิรีน่าจะรู้"หน้าที่ตน" ว่ากำลังทำอะไรอยู่(แม่สำคัญสุดใช่ไหมตอนนี้?) ใช่ความรักบังตาทำให้สติหลุดบ่อย แต่คิรีควรมองเห็นสภาพความเป็นจริงของตัวเองในฐานะอดีตนักบวชที่ลาสิขาไม่นานมากกว่านี้นิดหนึ่งไหมคะ? รักนิก้าได้ ไม่ผิด แต่เจียมตัวน้อยไป!
จริงๆน่าจะเอาบทอะไรที่กระจุบกระจิบพวกนี้ออกไป แล้วไปขยี้เหตุที่ต้องทำให้นักบุญคนหนึ่งกลายเป็นคนร้ายได้มากกว่านะ (ถ้าคิรีจะร้ายจริงๆ) และยิ่งพอบทที่จะต้องร้ายกับสกายก็ร้ายแบบงงๆ ถ้าจะหยิ่งในศักดิ์ศรีก็น่าจะหยิ่งตั้งแต่แรก นี่อะไรแม่จะตายแหล่ไม่ตายแหล่ยังจะมาห่วงศักดิ์ศรีไม่เป็นเวล่ำเวลา
สกาย... ดูเป็นคนเดียวที่เราพอจะเข้าใจได้ว่าแอบเลว ก็ถูกเลี้ยงมาแบบนั้น คงโดนโอ๋มาจนโต อยากได้อะไรก็ต้องได้ในฐานะลูกเจ้าพ่อ เนื้อเรื่องปูทางให้สกายเป็นคนฉลาด แต่หลายบทก็ไม่ฉลาดเอามากๆเลย ไม่ฉลาดในการตามหาแม่ ไม่ฉลาดในจีบสาว แต่ฉลาดในเรื่องที่ไม่ควรฉลาด
แต่ก็นั่นแหละ บ่นไปก็คงแค่นั้น คงไม่มีผลอะไรต่อการตัดต่อหรอก แต่แค่เสียดายค่ะ และหวังว่าผู้จัดจะทำงานออกมาเนี๊ยบกว่านี้ในเรื่องต่อไป ละครน่าจะมีพัฒนาการที่ดีมากกว่านี้นะคะ เพราะคนดูน่าจะเทละครเรื่องนี้ไปแล้วไม่น้อยจากบทที่มันวนอยู่กับที่นี่แหละเราว่า
นักแสดงเล่นเก่งมากทุกคนนะคะ ขอชื่นชมค่ะ น้องอินเก่งมากๆเลยทีเดียว น้องภณนี่ก็นะ จะแซ่บไปไหนคะพ่อคู๊ณ นี่ถ้ามีหนวดเครานิดๆคงจะเป๊ะกว่านี้🤣😜 น้ำหวานก็เล่นดีนะคะแต่บทนางเอกน่ารำคาญไปนิดนึง เสียดายแทน ตัวละครที่สะดุดตาอีกคนคือ ฝ้าย ที่เล่นเป็น อิสรีย์ นะคะ แสดงเก่งมากอีกคนสำหรับเรา สลัดภาพที่เล่นกลิ่นกาสะลองได้หมดเลย
สำหรับรุ่นพ่อรุ่นแม่คงไม่ต้องกล่าวถึงเนอะ ปรมาจารย์ก็คือปรมาจารณ์ค่ะ