[SR] Sulwhasoo Bloomstay Vitalizing

ในปัจจุบัน ปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm2.5 ฝุ่นควัน   ความเครียด รวมไปถึงมลพิษทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ดึงพลังงานออกจากผิว และทำให้เซลล์ ผิวอ่อนล้าเสื่อมสภาพ ผิวหน้าอ่อนแอ ซึ่งเป็นปัญหาของเพื่อนๆหลายรวมทั้งเราด้วย

วันนี้เราเลยอยากมาแนะนำสกินแคร์ที่เราได้ลองใช้ และประทับใจ ซึ่งเค้าสามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวอ่อนแอได้ตรงจุดเลยทีเดียว นั่นก็คือ  Sulwhosoo Bloomstay vitalizing สำหรับSulwhosoo นั้นแบรนด์สกินแคร์ชื่อดังจากเกาหลี   โดยทาง Sulwhosoo ได้ตระหนักถึงปัญหาผิวของสาวๆในปัจจุบัน จึงได้ทำการ ค้นคว้าวิจัยและพบว่า “สารสกัดจากดอกพลัม”  นี่แหละที่สามารถเป็นพลังในการต้านอนุมูสอิสระ 
 
 “สารสกัดจากดอกพลัม” ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง จึงได้นำ “ดอกพลัมสีเขียว” ที่ถูกเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาก่อนผลิดอกที่มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ ได้เทียบเท่ากับ วิตามิน C ช่วยปลอบประโลมผิวที่เครียดและเหนื่อยล้า ดูแลฟื้นฟูริ้วรอยแห่งวัย ผิวแน่นกระชับ สดใส  พร้อมการต่อต้านอนุมูลอิสระพลัมช่วยดูแลผิวจากสิ่งสกปรก ช่วยปกป้องผิวจากสัญญาณแห่งวัยและสิ่งเร้าภายนอก  ทางSulwhosoo  จึงได้สกัดเจ้าสารจากดอกพลัมนี้ลงในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกลุ่มใหม่อย่าง Bloomstay vitalizing และมี แบรนด์แอมบาสเดอร์ Song Hye Kyo ดาราสาวเกาหลีชื่อดัง มาเป็นพรีเซนเตอร์
สำหรับผลิตภัณฑ์ Sulwhasoo Bloomstay vitalizing ก็จะมีทั้งหมด 3 ไอเท็ม ได้แก่
Sulwhosoo Bloomstay vitalizing Serum
Sulwhosoo Bloomstay Vitalizing Water
Sulwhosoo  Bloomstay Vitalizing Cream


และตัวที่เราได้ลองใช้และจะมารีวิวนั้นวันนี้ก็คือ Sulwhasoo  Bloomstay Vitalizing Serum และ Bloomstay Vitalizing Cream ขนาดทดลองค่ะ


เริ่มมาเริ่มต้นทำความรู้จักกับ Bloomstay Vitalizing Serum กันก่อนเลยค่ะ 

ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ เป็น เซรั่มเนื้อเข้มข้นที่ผสมสารสกัดจากด้วยการผสานคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระในดอกพลัมกับส่วนผสมจากต้นอ่อน  และเมล็ดของผลไม้ 5 ชนิด อาทิ พลัม ถั่วแดง ผลควินซ์ เมล็ดสนเกาหลีและงาดำที่จะช่วยต่อต้านการเกิดปฏิกิริยาไกลเคชั่น (Anti-Glycation) อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยและผิวหมองคล้ำช่วยให้ผิวสวย เปล่งประกาย ดูสุขภาพดี

 
 
เนื้อเซรั่ม มีลักษณะเป็นเนื้อเจลใส เข้มข้น ไม่มีสี  เนื้อสัมผัสคล้ายน้ำผึ้ง  เพราะอุดมไปด้วยสารบำรุง  โดยเซรั่มเป็นสูตร water drop หลังจากทาลงบนผิวเนื้อจะแตกตัวเป็นน้ำ ซึบซาบเข้าผิว มีกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกพลัม จึงมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากไลน์อื่นๆ ของ Sulwhasoo ที่จะออกกลิ่นของโสม สำหรับเซรั่มตัวนี้เป็นกลิ่นที่หอม ใช้แล้วสดชื่น และทำให้ผ่อนคลายด้วย


เซรั่ม มีความบางเบาเบาสบาย ให้สัมผัสที่ลื่น เนียนผิว  ซึมซาบอย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเนอะหนะ และจะช่วยปรับผิวให้เรียบเนียนดูสุขภาพดี เปล่งประกายอย่างมีชีวิตชีวา  อิ่มน้ำ
วิธีใช้ 
ขั้นตอนที่ 1 หลังจากที่ทำความสะอาดผิวหน้า เราก็จะเทเซรั่มลงบนฝ่ามือในปริมาณที่พอเหมาะ จากนั้นแต้มเซรั่มลงบริเวณรอบริมฝีปาก แก้มรอบดวงตา และหน้าผาก โดนใช้นิ้วตบเบาๆ ให้ทั่ว โดยขณะที่ใช้ เราจะรู้สึกว่า เซรั่มมีความหนืด มีความฉ่ำ


ขั้นตอนที่ 2 นวดเบาๆ ให้ที่วผิวหน้า โดยเริ่มจากบนลงล่าง  จากกึ่งกลางใบหน้า ไปยังกรอบหน้า ตัวเนื้อเซรั่มจะค่อยๆ ซึมซาบเข้าสู่ผิว มอบสัมผัสที่ชุ่มชื่น บางเบา และมีกลินหอมอ่อนๆ ขณะที่ใช้ 


ขั้นตอนที่ 3 ใช้นิ้วกดเบาๆ ให้ทั่วผิวหน้า โดยเริ่มจากเหนือคิ้ว จมูก ร่องแก้ม คาง  บริเวณละประมาณ 3 วินาที เพื่อให้สารสกัดจากดอกพลัม ซึมซาบเข้าสู่ผิว 


หลังจากที่ใช้ตัวเซรั่มจะช่วยมอบความชุ่มชื่นให้กับผิว ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ ดูสดชื่นขึ้นทันที ให้ความรู้สึกบางเบา สบายผิว ไม่หนักหน้า 



หลังจากที่ทำการทดสอบความมันที่ตกค้างบนผิว หลังจากทาเซรั่ม ผลการทดสอบ เห็นได้ว่า มีความมัน ออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 
 
 

Sulwhasoo Bloomstay Vitalizing Cream

สำหรับครีมรุ่นนี้จะช่วยให้ผิวแน่นกระชับ เนียนนุ่ม เปล่งประกายมีชีวิตชีวาอย่างเป็นธรรมชาติ ปกป้องผิวจากจากสิ่งเร้าภายนอกและริ้วรอยแรกเริ่ม ด้วยนส่วนจากดอกพลัม ที่มีสารนผสมอนุมูลอิสระจ พร้อมด้วยต้นอ่อนและเมล็ดของผลไม้ 5 ชนิด ผลส้มยูสุ ส้มสามใบ ช่วยเติมความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นสู่ผิวดูแลและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอกและสัญญาณแห่งริ้วรอยแรกเริ่ม




 เนื้อผลิตภัณฑ์ ของ Sulwhosoo  Bloomstay Vitalizing Cream มีเนื้อครีมสีขาวอมชมพูอ่อนๆ มีกลิ่นหอมอ่อนของดอกไม้ เนื้อครีมถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นเหมือนกับคุชชั่น ทำให้กระจายเนื้อครีมแนบสนิทไปกับผิว  และที่สำคัญคือเนื้อเบา เกลี่ยบง่าย ซึมซาบไว ไม่ทิ้งคราบ ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้เลย


 วิธีการใช้ 
ขั้นตอนที่ 1
ตักเนื้อครีมในปริมาณพอเหมาะ แต้มลงบริเวณเหนือริมฝีปาก แก้ม รอบดวงตา และหน้าผาก
 
ขั้นตอนที่ 2
นวดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้า โดยเริ่มจาก บนลงล่าง จากกึ่งกลางใบหน้าไปยังกรอบหน้า เหมือนกับการวาดภาพ ดอกพลัม โดยนวดตามรูป 1,2 และ 3 ตาามลำดับ  เนื้อครีมเป็นเนื้อที่บางเบา เกลี่ยง่ายมาก  ซึ่งขณะที่เรานวดนวด เนื้อครีมจะค่อยซึมซาบเข้าสู่ก็ผิว และ  ได้กลิ่นหอมๆ ของครีม สัมผัสได้ถึงความชุ่มชื่น นุ่มลื่น 


 
ขั้นตอนที่ 3
ใช้ปลายนิ้วกดเบา ๆ บริเวณเหนือคิ้ว, ข้างจมูก, ปีกจมูก และคาง บริเวณละ 3 วินาที จากนั้นใช้ทุกนิ้วค่อย ๆ ลากไปตามไลน์หน้าดั่งภาพเพื่อให้ผิวเปล่งประกาย มีชีวิตชีวา

 หลังจากที่ใช้ทันที สิ่งที่เราสัมผัสได้เลย ก็คือ ผิวหน้ามีความชุ่มชื่นขึ้นทันที  เนื้อครีมใช้แล้วไม่หนักหน้า รู้สึกสบายผิว ผิวหน้าดูอิ่มน้ำ มีชีวิตชีวา ดูสดใสขึ้น


หลังจากที่ทาเซรั่ม และครีมแล้ว เรามาลองวัดค่าความชุ่มชื่น ซึ่งผลลัพท์ที่ออกมา ผิวหน้ามีความชุ่มชื่นมากขึ้น 

หลังจากที่ทาเซรั่ม และ ครีมเสร็จ เราก็เช็คความมันด้วยกระดาษซับมัน ผลลัพท์ที่ออกมาก็คือ มีความมันออกมา แต่ไม่เยอะมาก ซึ่งหลังจากที่เราได้ลองใช้ เรารู้สึกว่าผลิตภัณฑ์ตัวหน้าเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวแห้ง สำหรับคนผิวมันก็ใช้ได้ แต่ใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ 

ผลลัพท์หลังการใช้ 1 สัปดาห์ 
ก่อนอื่นเลย เราของเล่าถึงสภาพผิวของเราก่อน เราเป็นคนผิวผสม คือจะมันบริเวณทีโซน พักผ่อนน้อย ทำให้หน้าโทรม หลังจากที่เราได้ใช้ Sulwhasoo  Bloomstay Vitalizing Serum และ Bloomstay Vitalizing Cream ติดต่อกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ สิ่งที่สัมผัสได้ และเห็นผลถึงความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าเลยก็ คือ ผิวหน้าของเรามีความแข็งแรงขึ้น ผิวหน้ามีความชุ่มชื่น ผิวดูอิ่มน้ำ เวลานอนดึก หรือ พักผ่อนน้อย ตัวผลิตภัณฑ์ การสามารถช่วยบำรุงผิวหน้าของเรา ทำให้หน้าไม่โทรม แต่งหน้าติดง่ายขึ้น ช่วยเติมเต็มผิว ผิวดูอิ่มฟูขึ้น ใช้แล้วไม่แพ้ มีความอ่อนโยนต่อผิว ให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้าได้ยาวนาน และอีกเรื่องที่เราชอบนอกจากการให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้าได้ดีแล้ว ตัวผลิตภัณฑ์ มีความบางเบา ใช้แล้วไม่หนักหน้า ไม่ทำให้หน้าเมือก ไม่เป็นคราบเวลาที่เหงื่อออก เหมาะกับอากาศของบ้านเรา 
 
นอกจากนี้ตัวผลิตภัณฑ์ ยังช่วยลดรอยดำ รอยแผลเป็นให้ดูจางลง ผิวหน้ามีความเรียบเนียน ผิวนุ่มลื่น

 ช่วยกระชับผิวหน้า ช่วยให้รูขุมขนกระชับขั้น ช่วยเติมเต็มผิว ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอให้แข็งแรงขึ้น แต่สำหรับเรื่องการลดเลือนริ้วรอยนั้นยังไม่เห็นชัดเจนมากนัก เพราะ เราใช้แค่เพียง 1 สัปดาห์