หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] ตะลุยจอร์เจีย...สวยยังไง ไม่ไปไม่รู้..(PART 1)
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ประเทศจอร์เจีย
ช่วงเวลาพักผ่อนอยู่บ้านยาวๆแบบนี้ หลังจากที่ได้รวบรวมสติจนเข้าที่เข้าทางแล้ว เลยมานั่งนึกถึงประเทศที่เพิ่งไปเยือนมาล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาค่ะ จึงอยากเล่าแชร์ประสบการณ์ความประทับใจสำหรับทริปนี้ เป็นประเทศที่สวยงามกุมใจเหนือความคาดหมายจริงๆเลยค่ะ
เริ่มจากหาทริปที่จะเดินทางกับครอบครัวช่วงต้นปี ไปสะดุดกับชื่อประเทศจอร์เจีย ซึ่งเพื่อนแนะนำว่าให้ลองไปดู เพราะเพิ่งเปิดประเทศให้ท่องเที่ยวมาไม่นาน อีกทั้งไปกับบริษัททัวร์ที่ไว้ใจ และใช้บริการเป็นประจำก็เปิดทริปช่วงที่อยากเดินทางพอดีค่ะ วีซ่าไม่ต้อง เดินทางด้วยสายการบิน QR เรื่องราคาไม่ต้องพูดถึงนะคะเอาความพอใจเป็นที่ตั้ง จบค่ะ แพคกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางกันดีกว่าค่ะ แต่ขอเกริ่นเล็กน้อยน่ะค่ะว่ากระทู้นี้อาจไม่ค่อยเป็นวิชากามากนัก ความมีสาระจะหาได้น้อย หรือไม่ค่อยมีมากนัก ตามประสาและสไตล์ของผู้เขียนเองค่ะ
จอร์เจีย (Georgia) หรือสาธารณรัฐจอร์เจีย เป็นประเทศที่อยู่ทางตะวันออกของทะเลดำในคอเคซัสตอนใต้ ในอดีตเป็นสาธารณรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี กรุงทบิลิซี (เมืองหลวง) ซึ่งมีอายุกว่า 1,500 ปี ตั้งอยู่ในหุบเขาที่งดงามซึ่งถูกแบ่งโดยแม่น้ำ Mtkvari เอาแค่นี้ก่อนนะคะ พอให้ทราบที่มีที่ไปแลลพอสังเขป
วันแรกของการท่องเที่ยว
เดินทางถึง กรุงทบิลิซี Tbilisi (เมืองหลวง) ในเวลาท้องถิ่นประมาณ 11.30 น. ค่ะ เดินทางออกจากกรุงเทพฯเวลา 01.40 น. .ในวันเดียวกัน อุณหภูมิต่างกันราวฟ้ากับเหว ใช่ค่ะจากร้อนไปหนาวชัดเจนมาก แต่ก็ไม่หนาวแบบสุดขั้วประมาณ 1-2 องศากำลังดีค่ะ มาถึงสนามบิน ไกด์ท้องถิ่นมารับพร้อมมีซิมมือใช้เน็ตได้แบบไม่อั้นมาแจกด้วยค่ะ ถูกใจทั้งคณะอย่างแรง แต่ต้องยอมรับอย่างนึงค่ะว่าประเทศนี้เค้าเน็ตแรงดีไม่มีตกเลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่ต้องรีบบอกค่ะ เดี๋ยวลืม ฮะ ฮะ ..แน่นอนค่ะ เมื่อมาถึงเวลา 11.30 น. ทานอาหารกลางวันกันก่อนเลยค่ะ มื้อแรกเป็นร้านสไตล์ท้องถิ่นแบบจอร์เจี้ยนแท้ๆค่ะว่ากันหยั่งงั้น เพราะเราก็ไม่เคยมาค่ะ..จริง ๆแล้วไม่อยากรีวิวเรื่องอาหารมากนัก เพราะพื้นฐานเป็นคนทานง่าย ทานอะไรก็อร่อยผู้คนจึงไม่ค่อยเชื่อถือมากนักเวลารีวิวเรื่องอาหาร ฮะ ฮะ เลยจะขอดึงเฉพาะจานที่โดดเด่น และอยู่เหนือเมนูอื่น ๆเท่านั้นนะคะ เมนูที่อยากแนะนำ คือ ขนมปังรูปทรงแปลกๆ แต่กรอบนอกนุ่มในเคี้ยวเพลินค่ะ และ Lobiani หน้าตาถล้ายพิซซ่า เป็นอาหารจอร์เจียดั้งเดิม เป็นขนมปังไส้ถั่ว ซึ่งมีชื่อเรียกมาจากคำว่า Lobio ที่แปลว่า ถั่ว ในภาษาจอร์เจียน และเพราะว่าอาหารจานนี้เป็นเมนูคลาสสิกที่หาทานได้ทั่วไปในจอร์เจีย แต่ลองทานร้านนี้ร้านแรก ถือว่าอร่อยค่ะ
หลังทานอาหารเสร็จแล้ว เราจะทำการเดินชมเมืองต่อนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป..เดินจริงๆค่ะไม่มีตัวช่วยใดๆ นับก้าวได้เป็นหมื่นเลยค่ะวันนี้ 55..
ทบิลิซี เป็นเมืองที่สวยอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ สวยจนต้องแวะถ่ายเกือบทุกมุมค่ะ แต่ที่น่าตกใจคือ เมื่อเดินเข้าไปภายในบริเวณใจกลางเมืองเก่ากลับพบน้ำตกที่ซ่อนอยู่ภายใน เป็นน้ำตกที่ไหลมาแบบธรรมชาติที่ถูกล้อมรอบด้วยอาคารบ้านเรือน แต่เหมือนเป็นขุมทรัพย์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใน อะเมซิ่งมากค่ะ
ที่นี้คือ น้ำตกใจกลางเมือง...โรแมนติคมากค่ะ แนะนำอย่างยิ่งสำหรับคู่รัก ณ จุดนี้...
หลังจากถ่ายภาพกันเต็มอิ่มแล้ว เดินเท้ากันต่อ ผ่านนี่ทะลุนั่นจนมาถึงบริเวณสะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace) เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อข้ามแม่น้ำคูร่า (Kura River) ตกแต่งด้วยแก้วและแสงไฟ LED เป็นพัน ๆ ดวง กลางคืนต้องสวยมากแน่ๆ ความยากของสะพานนี้คือ กว่าจะเดินข้ามฝากไปถึงอีกฝั่งได้ค่อนข้างใช้เวลาค่ะ เพราะหยุดถ่ายภาพแทบจะทุกก้าวเลยทีเดียว ต้องขออภัยไกด์ด้วยนะคะที่ทำให้ลำบากใจ ณ จุดนี้ 55..
เดินกันต่อนะคะ ไปขึ้นกระเช้าชมวิวทิวทัศน์ของเมืองกัน วิวทิวทัศน์ก็สวยงามตามภาพค่ะ
ได้ชมวิวทางอากาศ ทางบก ยังเหลือชมวิวทางน้ำค่ะ โปรแกรมสุดท้ายของวันนี้ วิวระหว่างเดินไปท่าเรือก็สวยงามไม่แพ้กันค่ะ การล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของเมืองไปตามแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางเมืองก็ถือเป็นไฮไลท์อีกมุมหนึ่งที่น่าประทับใจ และเป็นการเดินเที่ยวชมเมืองที่สมบูรณ์แบบจริงๆค่ะ
เช็คอินที่โรงแรม Biltmore......เรื่องโรงแรมเราจะไม่บรรยายมากนะคะ แค่ห้าดาวในเมืองแค่นั้นเองค่ะ
วันที่สองของการท่องเที่ยว
วันนี้เดินทางไปนอกเมืองค่ะ ชื่อว่า เมืองมัลคีต้า (Mtskheta) เป็นเมืองหลวงของจอร์เจียแต่โบราณ ปัจจุบันถูกจัดเป็นมรดกโลกไปเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ไฮไลท์ไม่ได้อยู่ที่เมืองนะคะอยู่ที่ อาราม จวารี เป็นอารามมรดกโลกที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งมีจุดชมวิวแบบพาโนราม่าที่สวยงามมากถึงขนาดแย่งซีนความงดงามภายในอารามไปแบบขาดลอยเลยทีเดียว เพราะภาพที่เห็นเป็นจุดกึ่งกลางบริเวณคุ้งน้ำซึ่งเป็นจุดบรรจบกันของสองแม่น้ำ ถือเป็นจุดถ่ายภาพมหาชนอีกตามเคยค่ะ
แวะอีกหนึ่งโบสถ์ก่อนทานอาหารกลางวันวันนี้ค่ะ โบสถ์พระวิหาร สเวทิสโคเวลี่ (Svetitskhoveli Cathedral) ชื่ออ่านยากมากค่ะ เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ใหญ่โต และสวยงามตามภาพเลยค่ะ
อาหารกลางวันมื้อนี้ บรรยากาศสไตล์วินเทจในแบบที่ชอบ เหมือนได้กลับไปในสมัยวิคทอเรียน หรูหราพาเพลินมากค่ะ แต่ที่เป็นจานแนะนำ และแนะนำว่าถ้ามาเยือนจอร์เจียต้องทาน เค้าเรียกว่า Khinkali คินคาลี่ หรือเสี่ยวหลงเปาจอร์เจียนั่นเองค่า เป็นหนึ่งในอาหารจอร์เจีย ที่มีลักษณะเหมือนเกี๊ยวห่อแล้วนำไปต้ม ไส้ข้างในสามารถเป็นแกะ เนื้อ หรือ หมู ได้หมดค่ะ วิธีการกินของที่นี่คือต้องใช้นิ้วจับตรงก้าน กัดขอบแล้วดูดซู๊ดดดดดด น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมไม่ใส่คนอร์แน่นอนค่ะ 55
อีกอย่างที่อยากแนะนำคือ ไวน์ค่ะ ไวน์ของที่นี่ถือว่างานดีมาก เนื่องจากจอร์เจีย เป็นหนึ่งในประเทศผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และมีกระบวนการผลิตไวน์ที่สืบทอดมากว่า 8,000 ปี!! จึงมีความจำเป็นต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปซักขวดสองขวดค่ะ..
เดินทางต่อไป เมืองกูดาวรี่ Gudauri ผ่านเส้นทางป่าเขา ทะเลสาบ และลำธารที่เริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง เป็นภาพที่สวยงามเกินคาดอีกครั้ง ในการเดินทางมาครั้งนี้ เดินทางถึง อนุสาวรีย์แห่งมิตรภาพกูดาวรี่ (Gudauri Friendship Monument) ชื่อฟังดูเครียดๆ แต่กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดูมีสีสันที่สุด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชอบที่สุดแห่งหนึ่งของทริปนี้เลยก็ว่าได้..เราก็จะได้เจอกับวิวที่เรียกว่า Stunning ณ จุดนี้คือ ตะลึงมาก..ต้องให้ภาพเล่าเรื่องค่ะ ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติเบื้องหน้ายังไม่พอ ยังได้ชมความสวยงามของศิลปะบนกำแพงที่ต้องถ่ายวนไปเป็นวงกลมให้ได้ทุกช๊อต เพราะสวยทุกมุมจิงๆค่ะ...
หลังจากรวบรวมสติกับภาพที่อยู่ตรงหน้าได้แล้ว ก็ถึงเวลากลับค่ะ กลับเมืองหลวง กรุงทบิลิซี พักโรงแรมเดิมค่ะ ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงค่ะ จบโปรแกรมสำหรับวันนี้ค่ะ...
วันที่สามของการท่องเที่ยว
แวะถ่ายภาพกันก่อนที่ “The Chronicle of Georgia” เค้าว่ากันว่าที่นี่คือ “The Stonehenge of Georgia” ว้าวมาก แล้วก็อย่างที่คิดไว้ค่ะ สวยงาม ใหญ่โต อภิมหาอลังการด้วยหินอลังการที่เรียงรายดูมีความขลัง แฝงด้วยประวัติศาสตร์และความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ
จากนั้นไปต่อที่เมืองกอลี่ (Gori) เยือนบ้านเกิดของโจเซฟ สตาลิน ที่พิพิธภัณฑ์แห่งโจเซฟ สตาลิน ค่ะ
อาหารกลางวันเป็นแนวบ้านๆ แต่รสชาติไม่บ้านเลยค่ะ ขอแนะนำ เมนูต้มไก่บ้าน ไม่ใช่ค่ะ ซุปไก่จอร์เจีย ว่ากันอย่างนั้นค่ะ ฮะ ฮะ อร่อยชนะเลิศ จนทุกคนต้องขอเบิ้ลสองค่ะ
ไปกันต่อที่ อาณาจักแห่งหุบเขา “Uplistsikhe” เป็นสถานที่ที่สามารถดึงความเป็นเด็กในตัวคุณออกมาได้..ทุกคนสนุกสนานกับการปีนป่ายเขาแบบเบาๆ มุดถ้ำเล็กถ้ำน้อยกันจนลืมวัยไปเลย สนุกมากค่ะ
หลังจากปีนป่ายกันจนขาสั่นแล้วก็ได้เวลามุ่งต่อไปยังเมืองบอร์จอมี่ (Borjomi) เมืองสไตล์รีสอร์ทที่โด่งดังเรื่องน้ำแร่ พักโรงแรม Crowne Plaza Borjomi เป็นโรงแรมน่ารักสไตล์สปารีสอร์ทที่แนะนำให้ค้องมาซ้ำค่ะ
ยังไม่จบต่อกัน PART 2 น่ะค่ะ
ชื่อสินค้า:
จอร์เจีย
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวจอร์เจีย Roadtrip ขับรถเที่ยวเอง EP.4 Martvili Canyon ล่องเรือ / Batumi ลาสเวกัสทะเลดำ Georgia
สวัสดีค่ะทุกคน ทริปนี้ที่รอคอย เราจะไปจอร์เจียกันค่ะโดยทริปนี้จะเป็นการขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง จากTbilisi - Kazbegi - Gori/Kutaisi - Batumi - Kutaisi - Tbilisiใช้เวลา8วัน7คืน 20-27 กันยายน 2025 นะคะ ตอ
touchandgotravel
[[[Gamarjoba :: ประเทศจอร์เจีย]]] ยินดีที่ได้รู้จัก สวัสดีคอเคซัส ที่สุดขอบเอเชีย
อย่าปล่อยให้คำว่า “ อันตราย ไม่ปลอดภัย ยังไม่สงบ ” มาบดบังความงดงามของประเทศที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเมื่อใดที่ได้ลองเปิดใจ ออกไปสัมผัสกับสถานที่เหล่านั้น ก็จะพบว่า..ความงามจากธรรมชาติ ความงา
YaiiFai
จอร์เจีย...ที่เริ่มจะ...จอแจ...EP5
Day 5 : Mestia - Kutaisi - Kazbegi . วันนี้ป้าๆ เดินทางไกล จาก Mestia ไป Kazbegiระยะทาง 560 ก.ม. ใน Google Map บอกว่า 9 ชั่วโมงกว่าๆเรียกว่าคนละมุมของประเทศจากตะวันตกไปตะวันออกเลยหละจาก Mestia ต้องผ่า
ป้าชอบเที่ยว
จอร์เจีย...ที่เริ่มจะ...จอแจ...EP6
Day 6 : Russia Border - Gergeti Trinity Church - Truso Valley . วันที่ 6 ของการเดินทางตื่นเช้ามาด้วยวิวหน้าบ้านที่อลังการของ Gergeti Trinity Church อยู่บนยอดเขา กลางเมือง Kazbegiวิวบ้านป้าเป็นวิวเดียว
ป้าชอบเที่ยว
Solo Traveler : เที่ยวประเทศ Georgia 10วัน7คืน ตอนที่ 3 (จบ)
เหลือเวลาอีกแค่2วันในจอร์เจียแล้วค่ะ สำหรับโปรแกรมวันนี้เราซื้อ One day tour ของ World Sightseeing Tour ไปเที่ยว Borjomi, Vardzia, Rabati เวลา 8:00-22:00 ควรซื้อทัวร์ล่วงหน้าอย่างน้อย1วัน ออฟฟิศอยู่
AsMean
เที่ยวจอร์เจีย Roadtrip ขับรถเที่ยวเอง EP.5 Prometheus Cave ถ้ำสุดยิ่งใหญ่ และ เที่ยวเมือง Kutaisi
สวัสดีค่ะทุกคน ทริปนี้ที่รอคอย เราจะไปจอร์เจียกันค่ะโดยทริปนี้จะเป็นการขับรถเที่ยวด้วยตัวเอง จากTbilisi - Kazbegi - Gori/Kutaisi - Batumi - Kutaisi - Tbilisiใช้เวลา8วัน7คืน 20-27 กันยายน 2025 นะคะ ตอ
touchandgotravel
[GEORGIA TRIP 26 Oct-2 Nov 2023][2][Tbilisi : วันเดียวเที่ยวทบิลิซี่ เดินเล่นชิลล์ ชิลล์]
ตอนที่ 1 : Tbilisi – Mtskheta – Gori : https://pantip.com/topic/42351639 ..................................................................................................................
MRBIG173
จอร์เจีย...ที่เริ่มจะ...จอแจ EP3
Day 3 : Koruldi Lake - Flying Swing - Svan Tower . เช้าวันที่ 3 ของการเดินทางป้าๆ ตื่นมาเก็บกระเป๋า เพราะวันนี้ย้ายที่นอนคนขับรถเค้าให้เราย้ายที่ไปพักบ้านเพื่อนเค้าก็ทะเลาะกับคนขับรถแต่เช้าอีกนั่นแหละ
ป้าชอบเที่ยว
ประเทศจอร์เจีย...ไม่เสียทีที่ได้มา///Georgia...Day3@Gori&&&Uplistsikhe
ขอนำเที่ยวประเทศจอร์เจียต่อนะครับ วันแรกที่เมืองหลวงทบิลิซี http://pantip.com/topic/31089331 วันที่2 เมืองมิตสเคต้าและเทือกเขาคอเคซัส http://pantip.com/topic/31112737 วันนี้แผนการเดินทางจะไปเมือง
declare01
จอร์เจีย...ที่เริ่มจะ จอแจ... EP1
Day 1 : Bangkok - Tbilisi.ป้าหายไปเกือบปี เพราะงานยุ่งช่วงนี้ปลายปี ป้าพอจะมีเวลาเลยมาเล่าทริปตั้งแต่ กรกฎาคม 2025 (2568) ซะหน่อยทริปนี้ป้าไปจอร์เจีย.ประเทศนี้คนไทยเพิ่งสนใจกันไม่นานเนื่องจากไม่ต้องขอ
ป้าชอบเที่ยว
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
ประเทศจอร์เจีย
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 566
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] ตะลุยจอร์เจีย...สวยยังไง ไม่ไปไม่รู้..(PART 1)
เริ่มจากหาทริปที่จะเดินทางกับครอบครัวช่วงต้นปี ไปสะดุดกับชื่อประเทศจอร์เจีย ซึ่งเพื่อนแนะนำว่าให้ลองไปดู เพราะเพิ่งเปิดประเทศให้ท่องเที่ยวมาไม่นาน อีกทั้งไปกับบริษัททัวร์ที่ไว้ใจ และใช้บริการเป็นประจำก็เปิดทริปช่วงที่อยากเดินทางพอดีค่ะ วีซ่าไม่ต้อง เดินทางด้วยสายการบิน QR เรื่องราคาไม่ต้องพูดถึงนะคะเอาความพอใจเป็นที่ตั้ง จบค่ะ แพคกระเป๋าเตรียมตัวเดินทางกันดีกว่าค่ะ แต่ขอเกริ่นเล็กน้อยน่ะค่ะว่ากระทู้นี้อาจไม่ค่อยเป็นวิชากามากนัก ความมีสาระจะหาได้น้อย หรือไม่ค่อยมีมากนัก ตามประสาและสไตล์ของผู้เขียนเองค่ะ
จอร์เจีย (Georgia) หรือสาธารณรัฐจอร์เจีย เป็นประเทศที่อยู่ทางตะวันออกของทะเลดำในคอเคซัสตอนใต้ ในอดีตเป็นสาธารณรัฐหนึ่งของสหภาพโซเวียต เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 2,500 ปี กรุงทบิลิซี (เมืองหลวง) ซึ่งมีอายุกว่า 1,500 ปี ตั้งอยู่ในหุบเขาที่งดงามซึ่งถูกแบ่งโดยแม่น้ำ Mtkvari เอาแค่นี้ก่อนนะคะ พอให้ทราบที่มีที่ไปแลลพอสังเขป
วันแรกของการท่องเที่ยว
เดินทางถึง กรุงทบิลิซี Tbilisi (เมืองหลวง) ในเวลาท้องถิ่นประมาณ 11.30 น. ค่ะ เดินทางออกจากกรุงเทพฯเวลา 01.40 น. .ในวันเดียวกัน อุณหภูมิต่างกันราวฟ้ากับเหว ใช่ค่ะจากร้อนไปหนาวชัดเจนมาก แต่ก็ไม่หนาวแบบสุดขั้วประมาณ 1-2 องศากำลังดีค่ะ มาถึงสนามบิน ไกด์ท้องถิ่นมารับพร้อมมีซิมมือใช้เน็ตได้แบบไม่อั้นมาแจกด้วยค่ะ ถูกใจทั้งคณะอย่างแรง แต่ต้องยอมรับอย่างนึงค่ะว่าประเทศนี้เค้าเน็ตแรงดีไม่มีตกเลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่ต้องรีบบอกค่ะ เดี๋ยวลืม ฮะ ฮะ ..แน่นอนค่ะ เมื่อมาถึงเวลา 11.30 น. ทานอาหารกลางวันกันก่อนเลยค่ะ มื้อแรกเป็นร้านสไตล์ท้องถิ่นแบบจอร์เจี้ยนแท้ๆค่ะว่ากันหยั่งงั้น เพราะเราก็ไม่เคยมาค่ะ..จริง ๆแล้วไม่อยากรีวิวเรื่องอาหารมากนัก เพราะพื้นฐานเป็นคนทานง่าย ทานอะไรก็อร่อยผู้คนจึงไม่ค่อยเชื่อถือมากนักเวลารีวิวเรื่องอาหาร ฮะ ฮะ เลยจะขอดึงเฉพาะจานที่โดดเด่น และอยู่เหนือเมนูอื่น ๆเท่านั้นนะคะ เมนูที่อยากแนะนำ คือ ขนมปังรูปทรงแปลกๆ แต่กรอบนอกนุ่มในเคี้ยวเพลินค่ะ และ Lobiani หน้าตาถล้ายพิซซ่า เป็นอาหารจอร์เจียดั้งเดิม เป็นขนมปังไส้ถั่ว ซึ่งมีชื่อเรียกมาจากคำว่า Lobio ที่แปลว่า ถั่ว ในภาษาจอร์เจียน และเพราะว่าอาหารจานนี้เป็นเมนูคลาสสิกที่หาทานได้ทั่วไปในจอร์เจีย แต่ลองทานร้านนี้ร้านแรก ถือว่าอร่อยค่ะ
หลังทานอาหารเสร็จแล้ว เราจะทำการเดินชมเมืองต่อนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป..เดินจริงๆค่ะไม่มีตัวช่วยใดๆ นับก้าวได้เป็นหมื่นเลยค่ะวันนี้ 55..
ทบิลิซี เป็นเมืองที่สวยอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ สวยจนต้องแวะถ่ายเกือบทุกมุมค่ะ แต่ที่น่าตกใจคือ เมื่อเดินเข้าไปภายในบริเวณใจกลางเมืองเก่ากลับพบน้ำตกที่ซ่อนอยู่ภายใน เป็นน้ำตกที่ไหลมาแบบธรรมชาติที่ถูกล้อมรอบด้วยอาคารบ้านเรือน แต่เหมือนเป็นขุมทรัพย์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใน อะเมซิ่งมากค่ะ
ที่นี้คือ น้ำตกใจกลางเมือง...โรแมนติคมากค่ะ แนะนำอย่างยิ่งสำหรับคู่รัก ณ จุดนี้...
หลังจากถ่ายภาพกันเต็มอิ่มแล้ว เดินเท้ากันต่อ ผ่านนี่ทะลุนั่นจนมาถึงบริเวณสะพานแห่งสันติภาพ (The Bridge of Peace) เป็นสะพานที่สร้างขึ้นเพื่อข้ามแม่น้ำคูร่า (Kura River) ตกแต่งด้วยแก้วและแสงไฟ LED เป็นพัน ๆ ดวง กลางคืนต้องสวยมากแน่ๆ ความยากของสะพานนี้คือ กว่าจะเดินข้ามฝากไปถึงอีกฝั่งได้ค่อนข้างใช้เวลาค่ะ เพราะหยุดถ่ายภาพแทบจะทุกก้าวเลยทีเดียว ต้องขออภัยไกด์ด้วยนะคะที่ทำให้ลำบากใจ ณ จุดนี้ 55..
เดินกันต่อนะคะ ไปขึ้นกระเช้าชมวิวทิวทัศน์ของเมืองกัน วิวทิวทัศน์ก็สวยงามตามภาพค่ะ
ได้ชมวิวทางอากาศ ทางบก ยังเหลือชมวิวทางน้ำค่ะ โปรแกรมสุดท้ายของวันนี้ วิวระหว่างเดินไปท่าเรือก็สวยงามไม่แพ้กันค่ะ การล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ของเมืองไปตามแม่น้ำที่ไหลผ่านกลางเมืองก็ถือเป็นไฮไลท์อีกมุมหนึ่งที่น่าประทับใจ และเป็นการเดินเที่ยวชมเมืองที่สมบูรณ์แบบจริงๆค่ะ
เช็คอินที่โรงแรม Biltmore......เรื่องโรงแรมเราจะไม่บรรยายมากนะคะ แค่ห้าดาวในเมืองแค่นั้นเองค่ะ
วันที่สองของการท่องเที่ยว
วันนี้เดินทางไปนอกเมืองค่ะ ชื่อว่า เมืองมัลคีต้า (Mtskheta) เป็นเมืองหลวงของจอร์เจียแต่โบราณ ปัจจุบันถูกจัดเป็นมรดกโลกไปเรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ไฮไลท์ไม่ได้อยู่ที่เมืองนะคะอยู่ที่ อาราม จวารี เป็นอารามมรดกโลกที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ซึ่งมีจุดชมวิวแบบพาโนราม่าที่สวยงามมากถึงขนาดแย่งซีนความงดงามภายในอารามไปแบบขาดลอยเลยทีเดียว เพราะภาพที่เห็นเป็นจุดกึ่งกลางบริเวณคุ้งน้ำซึ่งเป็นจุดบรรจบกันของสองแม่น้ำ ถือเป็นจุดถ่ายภาพมหาชนอีกตามเคยค่ะ
แวะอีกหนึ่งโบสถ์ก่อนทานอาหารกลางวันวันนี้ค่ะ โบสถ์พระวิหาร สเวทิสโคเวลี่ (Svetitskhoveli Cathedral) ชื่ออ่านยากมากค่ะ เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ใหญ่โต และสวยงามตามภาพเลยค่ะ
อาหารกลางวันมื้อนี้ บรรยากาศสไตล์วินเทจในแบบที่ชอบ เหมือนได้กลับไปในสมัยวิคทอเรียน หรูหราพาเพลินมากค่ะ แต่ที่เป็นจานแนะนำ และแนะนำว่าถ้ามาเยือนจอร์เจียต้องทาน เค้าเรียกว่า Khinkali คินคาลี่ หรือเสี่ยวหลงเปาจอร์เจียนั่นเองค่า เป็นหนึ่งในอาหารจอร์เจีย ที่มีลักษณะเหมือนเกี๊ยวห่อแล้วนำไปต้ม ไส้ข้างในสามารถเป็นแกะ เนื้อ หรือ หมู ได้หมดค่ะ วิธีการกินของที่นี่คือต้องใช้นิ้วจับตรงก้าน กัดขอบแล้วดูดซู๊ดดดดดด น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมไม่ใส่คนอร์แน่นอนค่ะ 55
อีกอย่างที่อยากแนะนำคือ ไวน์ค่ะ ไวน์ของที่นี่ถือว่างานดีมาก เนื่องจากจอร์เจีย เป็นหนึ่งในประเทศผลิตไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และมีกระบวนการผลิตไวน์ที่สืบทอดมากว่า 8,000 ปี!! จึงมีความจำเป็นต้องซื้อติดไม้ติดมือกลับไปซักขวดสองขวดค่ะ..
เดินทางต่อไป เมืองกูดาวรี่ Gudauri ผ่านเส้นทางป่าเขา ทะเลสาบ และลำธารที่เริ่มกลายเป็นน้ำแข็ง เป็นภาพที่สวยงามเกินคาดอีกครั้ง ในการเดินทางมาครั้งนี้ เดินทางถึง อนุสาวรีย์แห่งมิตรภาพกูดาวรี่ (Gudauri Friendship Monument) ชื่อฟังดูเครียดๆ แต่กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดูมีสีสันที่สุด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ชอบที่สุดแห่งหนึ่งของทริปนี้เลยก็ว่าได้..เราก็จะได้เจอกับวิวที่เรียกว่า Stunning ณ จุดนี้คือ ตะลึงมาก..ต้องให้ภาพเล่าเรื่องค่ะ ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติเบื้องหน้ายังไม่พอ ยังได้ชมความสวยงามของศิลปะบนกำแพงที่ต้องถ่ายวนไปเป็นวงกลมให้ได้ทุกช๊อต เพราะสวยทุกมุมจิงๆค่ะ...
หลังจากรวบรวมสติกับภาพที่อยู่ตรงหน้าได้แล้ว ก็ถึงเวลากลับค่ะ กลับเมืองหลวง กรุงทบิลิซี พักโรงแรมเดิมค่ะ ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงค่ะ จบโปรแกรมสำหรับวันนี้ค่ะ...
วันที่สามของการท่องเที่ยว
แวะถ่ายภาพกันก่อนที่ “The Chronicle of Georgia” เค้าว่ากันว่าที่นี่คือ “The Stonehenge of Georgia” ว้าวมาก แล้วก็อย่างที่คิดไว้ค่ะ สวยงาม ใหญ่โต อภิมหาอลังการด้วยหินอลังการที่เรียงรายดูมีความขลัง แฝงด้วยประวัติศาสตร์และความสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ
จากนั้นไปต่อที่เมืองกอลี่ (Gori) เยือนบ้านเกิดของโจเซฟ สตาลิน ที่พิพิธภัณฑ์แห่งโจเซฟ สตาลิน ค่ะ
อาหารกลางวันเป็นแนวบ้านๆ แต่รสชาติไม่บ้านเลยค่ะ ขอแนะนำ เมนูต้มไก่บ้าน ไม่ใช่ค่ะ ซุปไก่จอร์เจีย ว่ากันอย่างนั้นค่ะ ฮะ ฮะ อร่อยชนะเลิศ จนทุกคนต้องขอเบิ้ลสองค่ะ
ไปกันต่อที่ อาณาจักแห่งหุบเขา “Uplistsikhe” เป็นสถานที่ที่สามารถดึงความเป็นเด็กในตัวคุณออกมาได้..ทุกคนสนุกสนานกับการปีนป่ายเขาแบบเบาๆ มุดถ้ำเล็กถ้ำน้อยกันจนลืมวัยไปเลย สนุกมากค่ะ
หลังจากปีนป่ายกันจนขาสั่นแล้วก็ได้เวลามุ่งต่อไปยังเมืองบอร์จอมี่ (Borjomi) เมืองสไตล์รีสอร์ทที่โด่งดังเรื่องน้ำแร่ พักโรงแรม Crowne Plaza Borjomi เป็นโรงแรมน่ารักสไตล์สปารีสอร์ทที่แนะนำให้ค้องมาซ้ำค่ะ
ยังไม่จบต่อกัน PART 2 น่ะค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้