ในยุคเศรษฐกิจ​แบบนี้ นักศึกษา Generation Z ควรทำอย่างไรดีคะ?

จากสถานการณ์​ของไวรัสโควิทในช่วงนี้ ดูเหมือน​เศรษฐกิจ​ทั่วโลกโดยเฉพาะ​ประเทศไทย​จะฟื้นตัวได้ลำบาก ถึงแม้ว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สถานการณ์​โควิทอาจจะดีขึ้นบ้างแล้วก็ตาม แน่นอนว่าผลกระทบย่อมตกที่คนส่วนใหญ่​โดยเฉพาะ​นิสิตนักศึกษาที่กำ​ลังจะเข้าสู่วัยทำงาน เจ้าของกระทู้กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 อีกหนึ่งปีก็จะต้องออกไปทำงานแล้ว โดยที่ไม่รู้ชีวิตเลยว่าจะมีงานทำไหม หรือจะได้ฝึกงานรึเปล่า อยากขอคำแนะนำว่าควรเตรียมตัวอย่างไรดีคะ ต้องเพิ่มทักษะด้านไหน ถ้าจะเป็นผู้ประกอบการ ธุรกิจด้านไหนที่น่าสนใจ หรือแหล่งความรู้​ไหนที่จะเป็นประโยชน์​กับยุคเศรษฐกิจ​แบบนี้คะ

ขอบคุณ​สำหรับทุกความเห็นค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ความเห็นส่วนตัวคือ อยากให้น้องๆ.....

ทำใจให้แข็งแกร่ง.....

รัฐบาลอัดฉีดอีก 2 ล้านๆ สู้โควิด. อันนี้เป็นรายจ่ายภาคบังคับเลย. ตอนนี้ อะไรทำได้ต้องทำ

แต่ผลระยะยาวคือ หนี้สาธารณะจะขึ้นไปแตะเพดาน เกิน 60% นั่นคือ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลนี้ หรือรัฐบาลต่อจากยุคนี้. จะไม่มีทางเลือกให้อัดฉีดอะไรอีกมากนัก เพราะใช้กระสุนไปจนชนเพดาน

แม้ เงินสำรองระหว่างประเทศที่สูง เราไม่ต้องไปกู้จากภายนอกมา แต่จะกู้รูปแบบไหน ภายในหรือภายนอก หนี้คือหนี้ ต้องใช้คืน ปล่อย default ไม่ได้

ปัญหาคือหนี้ครัวเรือนปีนี้ คาดว่าแตะ 80% แน่นอน. การบริโภค สุดฝืด. และการลงทุนจากรัฐยุคหลังจากนี้ จะยิ่งฝืด เพราะเพดานหนี้


เอาว่า ถ้าฝืดแบบนี้ เล่ามาทั้งหมด. คือ น้องๆต้องเข้าใจ ว่าหากมันฝืดมาก มันจะมีธุรกิจที่ไปต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะมีนโยบายใดมาช่วยก็ตาม. เพราะการบริโภคหดตัวสุด.  มหกรรมการ lay off ที่เกิดขึ้น จะส่งผลให้คนว่างงานมีเยอะ เว้นแค่บางสายอาชีพ

ลูกเมียก็ต้องเลี้ยง. บ้านรถ ต้องส่ง. ถึงจุดหนึ่ง จะมีการ dump ค่าตัว เช่น ฝีมือดี ประสบการณ์สูง. แต่ลดค่าตัว ลดเงินเดือนมาสมัครแข่งกับเด็กๆเพื่อให้ได้งานไว้ก่อน อาจต้องจ่ายพวกนี้แพงกว่าเพียงนิดเดียว. แต่เก่งกว่ามาก. บางคนอาจรับเงินเท่าเด็กเลย

และเมื่อนั้น เด็กจบใหม่ทั้งหมด งาน(ไม่)เข้าแน่นอน. คนได้งานตอนจบใหม่ จะยากกว่าเดิมมาก เพราะคู่แข่ง เขี้ยวขึ้น. จำนวนงานลดลง

และถ้าในสองสามปี ไอ้หนี้สาธารณะมันไม่สามารถถูกจัดการให้ลดลงอีกได้ รัฐยังดำเนินนโยบายขาดดุลต่ออีกหลายปี. จะเหลือกระสุนมาจัดการปัญหาได้ยากเต็มทน

สุดท้าย ถ้าจะหวังให้เศรษฐกิจโลกฟื้น แล้วทำเหมือนสิบปีก่อนคือ ค่อยเก็บภาษีจากส่งออกและท่องเที่ยวเป็นรายได้เพื่อสู้กับวิกฤติ. ก็ไม่มีอะไรการันตีเลย ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคจะเหมือนเดิมสมัยก่อนวิกฤติ

จึงพึงระลึกไว้เลยครับน้องๆ  ว่าต่อจากนี้คง ต้องสู้ อย่าท้อ และหมั่นพัฒนาตนเอง


ในข้อร้าย ก็ยังมีข้อดีครับ

แม้จะลำบาก แต่ท้ายที่สุด เด็กรุ่นใหม่จะปรับตัวได้ดีกว่าคนรุ่นก่อน. และก้าวขึ้นมาจากความสามารถในการปรับตัวให้ทันยุคเสมอครับ.   ที่น่าเป็นห่วงกว่าน้องๆ ผมกลับมองคนรุ่นเก่าบางคน จะเจอสถานการณ์แย่เสียกว่า

เป็นกำลังใจให้คนทุกรุ่นนะครับ. ตอนนี้ ต้องติดอาวุธให้ตัวเองให้มากที่สุดครับ. งานสายไหน ต้องใช้อะไรเพิ่ม จัดให้เต็มครับ

ปล ทั้งหมดเป็น คหสต ครับ เล่าสู่กันฟังในยามที่ต้องทำงานที่บ้าน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่