อยากรู้ว่าเเบบนี้เขาเเอบชอบเราหรือป่าวค่ะ

กระทู้คำถาม
เกริ่นก่อนว่า เขาเป็นหมอในโรงพยาบาลเเห่งหนึ่ง คือเรื่องมีอยู่ตอนนั้นเป็นเช้าวันจันทร์เราตื่นนอนและเราก็ปวดท้องด้านขวาไม่มากเราเลยนึกว่าเดี๋ยวก็คงจะหายปวด เราเลยไปโรงเรียนพอเรียนไปได้สักพัก หน้าเราเริ่มซีดและเริ่มปวดท้องหนักกว่าเดิม แต่เราก็ยังทน พอใกล้เวลากลับบ้านเพื่อนเราก็ทักว่าเฮ้ยเป็นอะไรทำไมหน้าซีดมากๆเลยไหวหรือเปล่า เราก็บอกว่าปวดท้องมาก เพื่อนเรามันก็บอกว่าให้ไปห้องพยาบาลไหม เราก็บอกว่าไม่เป็นไรเพราะว่าใกล้จะเลิกเรียนแล้ว พอเรากลับถึงบ้านเราก็บอกแม่ว่าแม่ปวดท้องมากเลยไม่รู้เป็นอะไร แม่ก็ให้พี่ชายเราและพี่สะใภ้พาเราไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงเขาก็ตรวจหวยตรวจนี่แล้วก็เพราะว่าเราเป็นไส้ติ่งต้องทำการผ่าตัดด่วน ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้จะเที่ยงคืน เมื่อเข้าห้องผ่าตัด ก็พบว่าในนั้นมีพยาบาลอยู่ 2 คนและอาจารย์หมอ 1 คน อาจารย์หมอคนนั้นอายุเท่าไหร่ 50 ปี แล้วพยาบาลก็เอาผ้าสีเขียวๆมากั้นตรงหน้าเราเพื่อจะไม่ให้เรารู้สึกเวลาโดนผ่าตัด หลังจากนั้นอาจารย์หมอก็ขออนุญาตบล็อกหลังเราแทนการฉีดยาสลบ สักพักก็มีหมอคนนึงเดินเข้ามา เราไม่ได้เห็นหน้าของหมอคนนั้นแต่ว่าเราคิดว่าหมอคนนั้นน่าจะอายุประมาณ 30 หรือ 30 กว่า แค่เป็นคนที่แบบอารมณ์ดีมากร้องเพลงสนุกสนานกับพวกพยาบาลก่อนที่จะผ่าตัดเราเราก็เข้าใจว่าสงสัยหมอคงเครียดแล้วก็ถูกเรียกตัวด่วนเพราะเราได้ยินว่ากลับหอพักไปแล้วแล้วก็ต้องมาใหม่อีก แล้วแกก็ทำการผ่าตัดเราคือเราสองคนยังไม่เคยเห็นหน้ากันเราก็เลยไม่รู้ว่าหมอคนนั้นหน้าตายังไงแต่เสียงของแกน่าฟังมากเสียงเข้มเสียงหล่อ เราก็ถูกส่งตัวกลับไปที่ห้องพัก วันรุ่งขึ้นเรารู้สึกตัวแล้วก็พบแม่เรานั่งอยู่เราก็เลยถามแม่ ว่ามาตั้งแต่ตอนไหนแม่เขาบอกว่ามาตั้งแต่ตอนแกไม่ตื่น แล้วจู่ๆก็มีหมอเดินเข้ามาสองคนต้องบอกก่อนว่าห้องที่เราอยู่เป็นห้องพิเศษเตียงคู่ เมื่อหมอเดินเข้ามาเราจะจำคนแรกได้ว่าเป็นอาจารย์หมอ เราก็อีกคนนึงเราไม่รู้จักว่าเป็นใครแต่หล่อมากสูงขาวปากแดงอมชมพูเราเขินมากแต่เราคิดว่า เขาคงแวะหาคนไข้ข้างเตียงเรา แต่เราคิดผิดเพราะว่าเขากำลังเดินมาที่เตียงเราทั้งสองคน เราเขินมาก แล้วหมอคนที่เป็นคนผ่าตัดเราเขาก็ถามแล้วว่าเจ็บไหม ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มและน้ำเสียงที่กวนๆ เราส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าไม่เจ็บค่ะ จริงๆเจ็บมากแต่เราทำฟอร์มว่าไม่เจ็บ555 จู่ๆแกก็ยื่นหน้ามาใกล้เราแล้วแกล้งเราว่าเราเป็นใบ้เหรอ แล้วแม่เราก็พูดขึ้นมาว่าน้องเป็นคนขี้อายนะคะไม่ค่อยพูด แกก็หันไปยิ้มกับแม่แล้ว แล้วแกก็เดินออกไปกับอาจารย์หมอ วันที่ 2 เราไม่คิดว่าแกจะมาเยี่ยมเราอีก แล้วจู่ๆแกก็เดินเข้ามา ซึ่งตอนนั้นเรากำลังนั่งโม้กับแม่เราอยู่ เราตกใจและเงียบอย่างไว เเกก็มาถามว่าเจ็บอยู่อีกไหม เป็นไงบ้าง เราก็บอกว่าไม่เจ็บค่ะ เเกก็จ้องมองหน้าเรา เราก็พยายามหลบสายตา เเล้วจู่เเกก็เรียกเราว่าน้องใบ้ของพี่หมอ เเล้วเเก้ก็เเกล้งเราหาว่าเราเป็นใบ้ เป็ใบ้เหรอครับ เป็นใบ้เหรอ 555 เรานึกในใจ ไม่ได้เป็นใบ้เเต่เข้าใจว่าเขินไหม เเล้วเเกก็ต้องรีบออกไป เพราะมีตรวจคนไขข้อื่นอีก พอเข้าวันที่3 เราหิวมากเราไม่ได้กินอะไรตั้งเเต่วันเเรกเพราะต้อง งดอาหาร เราก็นั่งบ่นกับเเม่ว่าหนูหิว เเล้วหมอก็เปิดประตูเข้ามา เเล้วเดินมายังเรา แล้วแม่เราก็บอกว่าคุณหมอเนี่ยบ่นหิวทุกวันเลย เเล้วหมอก็หันมามองหน้าเราหิวเหรอ ต้องพูดก่อน ถ้าไม่พูดก็อดกิน เราลืมบอกไปว่าทุกครั้งที่เเกมาเยี่ยมเรา อาจารย์หมอจะมาด้วย เราก็ยังไม่พูด จู่ๆเเกก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆเราเเล้วมองเราด้วยสายตาที่เอ็นดู รักใคร่เเปลกจากเดิม(เราไม่ได้มโนน่ะเเต่มันเป็นเเบบนั้นจริงๆ) จากทุกวันที่มาเเบบกวนตีน เเล้วเเกก็พูดกับเราว่า จะพูดไหม ถ้าไม่พูดหมอจะสอนด้วยปาก เราก็ งง มาจนถึงทุกวันนี้ว่าคืออะไร เเล้วจังหวะที่เเกพูด เเม่เราไม่ได้อยู่เเถวนั้น เเต่อาจารย์หมอได้ยิน เเล้วอาจารย์หมอก็ยิ้มกริ่มใส่หมอคนนั้นเเล้วหันมายิ้มให้เรา เรายิ่ง งง เข้าไปใหญ่ เเล้วเเม่เราก็เดินมา หมอก็ไปซุบซิบกับเเม่เราว่า เดี๋ยวผมจะสั่งอาหารมาให้น้องนะคับ เเกคงคิดว่าเราไม่ได้ยิน จึงหันมามองเราเเล้วพูดว่า อดไปเลย อดเลยคับ ไม่ต้องกิน เเล้วก็หันมาสั่งเราว่า ให้เราออกไปเดินบ้างเพื่อให้เเผลไม่เกิดพังผืด เเล้วเเกก็ออกไป สักพักเเม่เราก็พาเราออกไปเดิน เมื่อเราเปิดประตูออกไปก็พบ หมอยืนคุยงานที่เคาเตอร์พยาบาล โดยมีพยาบาลบางคนเหมือนขอบคุณหมอ เเล้วก็จับเเขนคุณหมอไว้คนข้าง เเล้วพูดชื่อคุณหมอ คุณหมอ... คุณหมอ...ขา เราหันไปเห็นเเล้วหมอก็บังเอิญสบตากับเราพอดี เเล้วรีบปัดเเขนพยาบาลออก เเล้วหันมายิ้มกับเราเเล้วเเม่ เราก็ทำเป็นไม่สนใจ เเล้วรีบชวนเเม่ออกไปเดิน เเม่ก็พาเราเดินรอบ รพ. พอเราเดินกลับเข้าห้อง อาหารก็มาส่ง เราก็เเบบเน้อะไม่ได้ทานอาหรหลายวัน ก็หิวมากๆ555 พอวันที่ 4 อาจารย์หมอเป็นคนมาเยี่ยมเเทน เเล้วบอกกับเราว่า นี้หนู หมอ...ฝากมาบอกว่า วันนี้อดมาเยี่ยมเลย มีเคสผ่าตัดเเต่เช้า ไว้ว่างจะมาเยี่ยม เราก็ งง ว่าทำไมถึงต้องมาบอก555 เราเข้าใจว่าหมอเขาก็ไม่ได้ว่างทุกวัน เเล้ววันที่5 เราก็คิดว่าเเกคงติดเคสผ่าตัดคงไม่มา ที่ไหนได้ หมอเปิดประตูเข้ามา เราตกใจมาก เเละเเกก็เดินตรงมาหาเรา เเล้วพูดว่าขอโทษน่ะเมื่อวานไม่ได้มาหาเลย เป็นไงบ้าง น้องใบ้ของหมอ ฝึกเดินไปถึงไหนเเล้ว เราก็พูดว่าดีค่ะ ก็เดินเรื่อยๆ เเกก็ยิ้มเเล้วกวนตีนเรา อย่างเดิม เเกมากระซิบข้างเราว่าหรือจะให้หมอสอนด้วยปากให้ หึ เเล้วเเกก็มีอาการหน้าเเดง หูเเดง เเล้วรีบ เดินออกไปอย่างเร็ว เหมือนเขินอะไรสักอย่าง ทำให้เรากับเเม่ นั่ง งง กัน พอวันที่ 6 เรานั่งหันหน้าออกไปทางระเบียง เเล้วหมอก็เดินเข้ามา พร้อมกับหน้าตาที่ยิ้มเเย้มเเจ่มใส เเล้วมาพูดคุยกับเรา เเล้วจู่ๆเเม่เราก็พูดขึ้นมาว่า หมอค่ะน้องกลับบ้านได้หรือยังค่ะ เเล้วหมอก็เปลี่ยนสีหน้าทันทีจากหน้าตายิ้มเเย้ก็กลายเป็นเศร้า เงียบ เเล้วหันมาหาเรา เเล้วพูดว่าน้องใบ้อยากกลับบ้านเเล้วเหรอ จะกลับเเล้วจริงๆใช่ไหม เรายังไม่ทันจะได้ตอบหรือพยักหน้าเเกก็เดินออกไปเลย หลังจากนั้น หมอก็ทำเรื่องให้ เรากลับบ้านได้


เพื่อนว่าหมอเเอบชอบหรือมีท่าทีว่าจะชอบเราไหม
อีกอย่าง สอนด้วยปากในความหมายของเขาคืออะไร ค่ะ มันสงสัยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่