คุณเคยคิดไหมว่าความเชื่อหลายๆอย่างหรือสิ่งที่เราอคติเช่นแนวคิดต่อต้านการชอบเพศเดียวกันมาจากกลุ่มนายทุน

มีความเชื่อหลายอย่างมากมายที่มาจากกลอุบายของกลุ่มผู้นำสมัยก่อนเพื่อใช้ควบคุมฝูงชนเช่นอะไรบ้าง

1. ความเชื่อเรื่องเพศเดียวกันชอบกัน ผิดธรรมชาติ แนวคิดนี้มีหลายสาเหตุมาก แต่เรามาเข้าใจก่อนว่าธรรมชาติคืออะไร ธรรมชาติคือสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเอง ที่พบได้ การที่มนุษย์มีหน้าตาที่แตกต่าง ทั้งดูดี ดูไม่ดี ผิวดำ ผิวขาว ก็เป็นธรรมชาติ และเช่นกัน อารมณ์ความรู้สึกต่างๆนั้นมันก็เป็นธรรมชาติเช่นกัน ดังนั้นการรู้สึกชอบเพศเดียวกันก็จึงเป็นธรรมชาติเช่นกัน เพียงแต่ว่าแตกต่างกันแค่กายภาพ ไม่เช่นนั้นกลุ่มคนชอบเพศเดียวกันไม่เยอะและแพร่หลายขนาดนี้ ถ้ามันจะผิดธรรมชาติ ถ้าคนไหนที่บอกว่ากลุ่มผู้ชอบเพศเดียวกันผิดธรรมชาติ ถ้าเช่นนั้นคนพูดที่หน้าตาไม่ดี มีสิว ผิวดำคล้ำ ก็ผิดธรรมชาติด้วยเช่นกัน ดังนั้นการที่เราคิดว่าการชอบเพศเดียวกันนั้นผิดธรรมชาติ แล้วการที่คนเอาพวกเซ็กส์ทอยต่างๆมาเพื่อระบายความไคร่ทั้งที่ทอยต่างๆเป็นแค่พลาสติด้วยซ้ำอย่างเช่นxxกระป๋อง ทำไมคุณไม่คิดว่าสิ่งนี้ผิดธรรมชาติบ้างหละ ธรรมชาตินั้นไม่เคยระบุอะไร มีแต่เราที่กำหนดมันเองทั้งนั้น

จากหัวข้อคือ ส่วนหนึ่งของการสร้างค่านิยมต่อต้านคนชอบเพศเดียวกันอาจจะมาจากกลุ่มที่เป็นเจ้าของกิจการ ชนชั้นปกครองต่างๆที่ต้องการแรงงานจำนวนมาก เพราะถ้ามีความสัมพันธ์แบบเพศเดียวกันนั้นมันจะไม่สามารถมีลูกที่จะเป็นแรงงาน และ เป็นทหาร ต่อไปได้ ดังนั้นจึงต้องปล่อยค่านิยมให้คนรังเกียจและให้มันดูน่าขันเสียสำหรับคนชอบเพศเดียวกันอยู่ เพื่อคนจะได้กลัวและปิดบังและเกิดมีอารมณ์ที่ชอบเพศเดียวกันก็จะต้องฝืนใจตัวเองจนทรมาน และไม่ได้มีความสุขที่แท้จริง

มนุษย์นั้นความรู้สึกชอบและไคร่มันห้ามกันยากมาก บางทีเราชอบเพศเดียวกันเพราะความผูกพันธ์ นิสัย และอะไรหลายๆอย่าง รวมถึงหน้าตา (ยิ่งสมัยนี้คนดูแลตัวเองมากขึ้น ผู้หญิงเองก็บำรุงผิว รักษาหุ่น ศัล ผู้ชายเองก็หน้าตาเดี๋ยวนี้ไม่ไว้หนวดเครา เริ่มดูแลตัวเอง เริ่มใช้ครีม บางทีใส่วิกนี่ดูหน้าอย่างเดียว ดูไม่ออกว่าชายหรือ ญ มันเลยเกิดความน่ารัก ความสวยงามมากขึ้น)  ที่ทำให้เราชอบกัน แต่บางทีคนที่ชอบเพศเดียวกัน ก็อาจจะเปลี่ยนมาชอบเพศตรงข้ามอีกก็เป็นไปได้  สลับไปมา ไม่ต้องแปลกใจ เหตุผลเพราะดันไปเจอสเปกที่เป็นเพศตรงข้าม

ดังนั้นถูกแล้วที่จะกล่าวได้ว่า ความรัก ความชอบ และความไคร่ นั้นมันไม่มีเรื่องเพศ มันก็แค่อารมณ์ชอบกัน ไคร่กัน ก็แค่นั้น ย้ำอีกทีว่าถ้าเรื่องนี้ผิดธรรมชาติ คงไม่มีจำนวนเยอะขนาดนี้แน่ๆ และถ้าเช่นนั้นคนหน้าตาไม่ดี ผิวดำคล้ำ หรือ อื่นๆ ก็ผิดธรรมชาติไปด้วย แต่มันไม่ใช่ไง เพราะ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือธรรมชาติ อย่าปล่อยให้ความงมงาย ความเชื่อที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อควบคุม มาทำให้เราไม่ได้ไปในทางที่ชอบที่สุดได้ ชีวิตเราจะไม่มีความสุข ดังนั้น ชอบใคร ไคร่ใคร ก็มุ่งหน้าต่อไปได้เลย ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน (แต่ต้องไม่ใช่ข่มขืนนะ ต้องสมยอมทั้ง 2 ฝั่ง)

2. ยังมีความเชื่ออีกมากมายที่เอาไว้ควบคุมคน ถ้าคิดให้ดี คิดด้วยเหตุผล ย้อนไปเรื่อยๆคุณจะเข้าใจ ด้วยเหตุผลทางวิทยาศาตร์ความเป็นจริง

สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนเป็นธรรมชาติที่แท้จริง แล้วคุณถึงจะพบความสุขที่แท้จริง

ตอบความเห็นที่ 5

ที่จริงแล้ว เรามองว่า ยารักษาโรคก็เป็นไปตามธรรมชาติ เพราะธรรมชาตินั้นสร้างให้ทุกสรรพสิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลา ไม่ใช่ว่า เมื่อก่อนบริเวณนี้เป็นเมือง เวลาต่อไปอีก ล้านปี บริเวณตรงนี้กลายเป็นทะเล หรืออีกตัวอย่าง เมื่อก่อน มนุษย์อาจจะมีขนเยอะ หรือมีหาง แต่ตอนนี้ไม่มี นั่นเป็นเพราะ ธรรมชาติเองมันก็เปลี่ยนแปลงเราตลอดเวลาเช่นกัน
คนเช่นกัน IQ ของคนเมื่อ ร้อยปีที่แล้วกับปัจจุบันไม่เหมือนกัน คุณลองดูเด็กสมัยนี้มีพัฒนาการที่เหลือเชื่อ ในหลายด้าน และอีกร้อยปีข้างหน้า สิ่งเหล่านี้ก็อาจกลายเป็นเรื่องปรกติ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ดังนั้นทุกสิ่งอย่างล้วนแล้วเป็นไปตามธรรมชาติ ยิ่งมีจำนวน Sample เยอะ แปลว่าเป็นข้อพิสูจน์ว่ามันคือความเป็นธรรมชาติ
ถ้าเราจะบางว่ามนุษย์มีหกนิ้ว อันนี้ไม่ sample น้อยมาก ข้อนี้ยังพอจะเถียงได้ แต่เมื่อไรที่จำนวน Sample นั้นมันเยอะ ถึงขั้นผลัตหนังเฉพาะกล่มนี้ขึ้นมา แปลว่ามี Sample เยอะพอ นั่นแปลว่าสิ่งนั้นไม่ได้ผิดธรรมชาติ แต่คือ สิ่งหนึ่งของธรรมชาติ

ตอบความเห็นที่ 5-1 อวัยะเพศไม่ได้มีจุดประสงเพียงแค่อย่างเดียวคือการสืบพันธ์หนิ อย่าลืมทุกครั้งที่เราช่วยตัวเองร่างกายก็หลั่งสารตัวนึงขึ้นมาให้มีความสุข ดังนั้น มันมี function การทำงานที่หลายอย่างนะ เนื่องจากมันไม่ได้ขับเคลื่อนเพียงแค่อวัยวะส่วนเดียว หากแต่มันไปเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับอารมณ์และสมองด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่